4 คลังพระสูตร

Follow 4 คลังพระสูตร
Share on
Copy link to clipboard

ดื่มด่ำ ซึมซาม ด้วยการฟังบทพยัญชนะที่มีความงดงามในเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด เป็นข้อมูลโดยตรงจากพระสูตรในพระไตรปิฏก เพื่อให้มีการตกผลึกความคิด เกิดเป็นความคลองปากขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยความเห็นได้. New Episode ทุกวันพฤหัส เวลา 05:00, Podcast นี้เป็นส่วนหนึ่งของรายการธรรมะรับอรุณ ออกอากาศทุกวันทางสถ…

วัดป่า ดอนหายโศก ฟังธรรมะ donhaisok


    • Jan 4, 2023 LATEST EPISODE
    • weekly NEW EPISODES
    • 58m AVG DURATION
    • 235 EPISODES


    Search for episodes from 4 คลังพระสูตร with a specific topic:

    Latest episodes from 4 คลังพระสูตร

    ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน-ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร และอนัตตลักขณสูตร [6601-4s]

    Play Episode Listen Later Jan 4, 2023 56:04


    สูตร#1 ตอน ทรงบำเพ็ญทุกรกิริยาสูตร#2 ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ว่าด้วยการประกาศพระธรรมจักร ทรงแสดงแก่ภิกษุปัญจวัคคีย์ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ตรัสว่า ที่สุด 2 ประการ ที่บรรพชิตไม่ควรเสพ คือ กามสุขัลลิกานุโยคและอัตตกิลมถานุโยค แล้วทรงแสดงมัชฌิมาปฏิทา คือ มรรคมีองค์ 8 ว่าควรเสพ ทรงแสดงอริยสัจ 4 ประการ และญาณทัสสนะมีวน 3 รอบ มี 12 อาการ ตรัสว่า ญาณทัสสนะของพระองค์ในเรื่องอริยสัจ 4 ประการนี้ หมดจดดีแล้วจึงทรงประกาศยืนยันการตรัสรู้ของพระองค์ เมื่อทรงแสดงจบลง ท่านพระโกณฑัญญะได้ธรรมจักษุ (ดวงตาเห็นธรรม) เป็นพระอริยบุคคลองค์แรกของโลกสูตร#3 อนัตตลักขณสูตร ว่าด้วยลักษณะแห่งอนัตตา ทรงแสดงแก่ภิกษุปัญจวัคคีย์ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ตรัสว่า ขันธ์ 5 เป็นอนัตตา เป็นไปเพื่ออาพาธ บังคับให้เป็นไปตามใจไม่ได้ และทรงสอนให้พิจารณาขันธ์ 5 ด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริง พระปัญจวัคคีย์ก็มีจิตหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น ครั้งนั้น มีพระอรหันต์เกิดขึ้นในโลก 6 องค์ Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

    การบันลือสีหนาท-จูฬสีหนาทสูตร และเวรัญชกสูตร [6552-4s]

    Play Episode Listen Later Dec 28, 2022 54:49


    สูตร#1 จูฬสีหนาทสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงปรารภเหตุการณ์ในขณะนั้นว่า พระองค์ และภิกษุสงฆ์มีลาภสักการะเกิดขึ้นเป็นอันมาก แต่พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกกลับเสื่อมลาภสักการะ พากันร้องไห้คร่ำครวญไปตามท้องถนน พระองค์จึงตรัสสอนให้ภิกษุบันลือสีหนาทโดยชอบว่า สมณะที่ 1 ถึงที่ 4 (โสดาบันถึงอรหันต์) มีในพระศาสนานี้เท่านั้น จากนั้นทรงอธิบายว่า ถ้านักบวชลัทธิอื่นถามถึงเหตุผลที่กล่าวอย่างนี้ พึงอ้างธรรม 4 ประการ คือ ความเลื่อมใสในศาสดา ในพระธรรม บำเพ็ญศีลได้บริบูรณ์ และผู้ร่วมประพฤติธรรมทั้งคฤหัสถ์ และบรรพชิตเป็นที่รักที่พอใจของเรา จากนั้นทรงแสดงเรื่องทิฏฐิ 2 ประการ ที่สมณะหรือพราหมณ์ยึดติด คือ ภวทิฏฐิ (หมายถึง สัสสตทิฏฐิ ความเห็นว่าเที่ยง) วิภวทิฏฐิ (หมายถึงอุจเฉททิฏฐิ ความเห็นว่าขาดสูญ) และทรงแสดงอุปาทาน (ความยึดมั่นถือมั่น) 4 อย่าง คือ กามุปาทาน (ความยึดมั่นในกาม) ทิฏฐุปาทาน (ทิฏฐิ) สีลัพพตุปาทาน (ศีล และวัตร) และอัตตวาทุปาทาน (วาทะว่าอัตตา) ที่สมณพราหมณ์ทั้งหลายมักอ้างว่า รอบรู้อุปาทานทุกอย่าง แต่ก็ไม่บัญญัติการกำหนดรู้อุปาทานทั้งปวงจริง บัญญัติไว้เพียงประการใดประการหนึ่งเท่านั้น ในตอนท้าย ทรงอธิบายหลักปฏิจจสมุปบาทเริ่มต้นด้วยอุปาทานว่า อุปาทาน 4 ประการดังกล่าวเกิดจากตัณหา ฯลฯ สังขารเกิดจากอวิชชา เมื่อละอวิชชาได้ วิชชาเกิดขึ้น อุปาทานทั้ง 4 ประการ ก็ไม่เกิดขึ้น เมื่อไม่ยึดมั่นก็ปรินิพพานเฉพาะตน สูตร#2 เวรัญชกสูตร ทรงแสดงแก่พวกพราหมณ์ และคหบดีชาวเมืองเวรัญชาที่มาทำธุรกิจบางอย่างในกรุงสาวัตถี ขณะประทับ ณ เชตวัน ที่มาเข้าเฝ้า และได้ทูลถามปัญหาเรื่องเหตุที่ทำให้สัตว์ไปเกิดในทุคติ และสุคติ ตรัสตอบว่า พวกที่เข้าถึงอบาย ฯลฯ เพราะประพฤติอธรรม คือ อกุศลกรรมบท 10 และประพฤติไม่สม่ำเสมอ ส่วนพวกที่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะประพฤติธรรม คือ กุศลกรรมบท 10 และประพฤติสม่ำเสมอ แล้วทรงแสดงในรายละเอียด เมื่อทรงแสดงจบ ชาวเมืองเวรัญชาขอถึงพระรัตนตรัยไปจนตลอดชีวิต (ทรงแสดงหมวดธรรมนี้ไว้ในสาเลยกสูตร) Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

    เสขธรรม และอเสขธรรม-สมณมุณฑิกสูตร โจทนาสูตร และวุฏฐิสูตร [6551-4s]

    Play Episode Listen Later Dec 21, 2022 61:07


    สูตร#1 สมณมุณฑิกสูตร ทรงแสดงแก่ช่างไม้ชื่อปัญจกังคะ ณ พระเชตวัน ทรงปรารภข้อบัญญัติเรื่องคุณสมบัติของผู้เป็นสมณะของอุคคาหมานปริพาชก ซึ่งช่างไม้ปัญจกังคะนำเข้าไปกราบทูลให้ทรงทราบ อุคคาหมานะกล่าวถึงข้อบัญญัติของตนว่า บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการเป็นผู้มีกุศลเพียบพร้อม มีกุศลยอดเยี่ยม เป็นสมณะผู้บรรลุธรรมขั้นสูงที่ควรบรรลุ ไม่มีใครสู้วาทะได้ ธรรม 4 ประการ คือ ไม่ทำกรรมชั่วทางกาย ทางวาจา ไม่ดำริความดำริชั่ว และไม่ประกอบอาชีพชั่ว ทรงตรัสว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เด็กอ่อนที่ไม่รู้จักกรรมชั่ว ไม่เคยทำกรรมชั่วก็จะกลายเป็นผู้มีกุศลเพียบพร้อม ทรงไม่ยอมรับการบัญญัติเช่นนั้น แล้วทรงแสดงเสขธรรม (ธรรมสำหรับผู้เป็นพระเสขะ) คือ ความรู้เรื่องศีล และความดำริ ทั้งฝ่ายกุศลและอกุศล พร้อมทั้งสมุฏฐานความดับและข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งศีลและดำริ และอเสขธรรม (ธรรมของพระอเสขะ) คือ อเสขธรรม 10 ประการสูตร#2 โจทนาสูตร ท่านพระสารีบุตรแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ว่าด้วยคุณสมบัติของผู้เป็นโจทก์ แสดงว่า ภิกษุผู้เป็นโจทก์ควรมีธรรม 5 ประการ เพื่อไม่ให้มีวิปปฏิสาร (ความเดือดร้อนใจ) แก่ทั้งผู้โจทก์ และผู้ถูกโจทก์ ธรรม 5 ประการได้แก่ กล่าวในกาลอันควร กล่าวถ้อยคำจริง กล่าวถ้อยคำอ่อนหวาน กล่าวถ้อยคำมีประโยชน์ และกล่าวด้วยเมตตาจิตสูตร#3 วุฏฐิสูตร ว่าด้วยการบันลือสีหนาทของท่านพระสารีบุตร พระพุทธเจ้าขณะประทับอยู่ ณ พระเชตวัน ภิกษุรูปหนึ่งกราบทูลว่าท่านพระสารีบุตรกระทบตนแล้วไม่ขอโทษก่อนจาริกไป จึงรับสั่งให้ตามท่านพระสารีบุตรมา ระหว่างนั้น พระมหาโมคคัลลานะและพระอานนท์ได้ป่าวประกาศเชิญชวนให้คนไปฟังท่านพระสารีบุตรบันลือสีหนาท ณ เบื้องพระพักตร์ พระสารีบุตรบันลือสีหนาทว่า ภิกษุที่ไม่ตั้งกายคตาสติไว้ในกายเท่านั้นที่กระทบเพื่อนพรหมจารีแล้วไม่ขอโทษก่อนจากไป แต่ท่านไม่มีความประพฤติเช่นนั้น และได้ยกอุปมาอุปมัยเปรียบเทียบการวางจิตของท่าน เมื่อแสดงธรรมจบ ภิกษุรูปนั้นรู้ว่าตนผิดจึงกราบขอโทษท่านพระสารีบุตร Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

    วิธีและอานิสงส์แห่งการเจริญกายคตาสติ-กายคตาสติสูตร และอานาปานสังยุต [6550-4s]

    Play Episode Listen Later Dec 14, 2022 56:57


    กายคตาสติสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงปรารภคำกราบทูลของภิกษุ ผู้กำลังนั่งสนทนาเรื่องกายคตาสติที่ทรงตรัสไว้ว่า เมื่อภิกษุเจริญให้มากแล้ว จะมีผลมาก มีอานิสงส์มาก จึงทรงอธิบายวิธีเจริญกายคตาสติให้ฟังโดยละเอียด ซึ่งมีทั้งหมด 18 วิธี และทรงแสดงอานิสงส์ของการเจริญไว้ 10 ประการ Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

    การตรวจสอบการพยากรณ์อรหัตตผล-สุนักขัตตสูตร และฉวิโสธนสูตร [6549-4s]

    Play Episode Listen Later Dec 7, 2022 64:22


    สูตร#1 สุนักขัตตสูตร ทรงแสดงแก่เจ้าสุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร ขณะประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน เขตกรุงเวสาลี ทรงปรารภคำถามเจ้าสุนักขัตตะ เรื่องการพยากรณ์อรหัตตผลของภิกษุจำนวนมากที่มาเฝ้าพระพุทธเจ้าว่า ภิกษุเหล่านั้นพยากรณ์อรหัตตผลถูกต้องตามความเป็นจริง หรือตามที่ตนเข้าใจเอาเองว่าได้บรรลุ ตรัสตอบว่ามีทั้งสองประเภท แต่ประเภทที่สำคัญผิดว่าได้บรรลุ ก็ทรงคิดว่าจักแสดงธรรมแก่ภิกษุเหล่านั้น ส่วนผู้ที่แต่งปัญหาเข้ามาถาม แม้ทรงคิดว่าจะแสดงธรรมแก่เขา ความคิดนั้นก็เป็นอย่างอื่น เมื่อสุนักขัตตะกราบทูลขอให้ทรงแสดงธรรมเพื่อภิกษุทั้งหลายจะได้ทรงจำไว้ จึงทรงแสดงเรื่องกามคุณ 5 และทรงแสดงฐานะที่เป็นไปได้ 7 ประการ โดยละเอียด และอุปมาอุปไมยประกอบ เมื่อทรงแสดงจบ เจ้าสุนักขัตตะเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าสูตร#2 ฉวิโสธนสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ เชตวัน เพื่อให้ภิกษุรู้จักหลักการตรวจสอบการพยากรณ์อรหัตตผล ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ ตรัสว่า ถ้ามีเพื่อนภิกษุพยากรณ์อรหัตตผล ก็อย่าเพิ่งยินดี อย่าเพิ่งคัดค้าน แต่ควรตรวจสอบก่อน หลักการตรวจสอบมี 6 ข้อ คือ ให้สอบถามว่า รู้เห็นอย่างไรในโวหาร 4 รู้เห็นอย่างไรในขันธ์ 5 ที่ยึดถือ รู้เห็นอย่างไรในธาตุ 6 รู้เห็นอย่างไรในอายตนะ 12 ประการ รู้เห็นอย่างไรในกายที่มีวิญญาณครอง รู้เห็นอย่างไรในนิมิตทั้งปวงภายนอก จิตจึงหลุดพ้นจากอาสวะ ถอนอหังการ มมังการ และมานานุสัยเสียได้ จนได้อาสวักขยญาณ คือ ญาณอันทำอาสวะให้สิ้นเป็นที่สุด และรู้ชัดอริยสัจ 4 แล้วจึงชื่นชมยินดีกับภิกษุนั้นว่า เป็นผู้อยู่จบพรหมจรรย์ Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

    วิธีและผลานิสงส์แห่งการเจริญอานาปานสติ-อานาปานสติสูตร และอานาปานสังยุต [6548-4s]

    Play Episode Listen Later Nov 30, 2022 65:10


    สูตร#1 อานาปานสติสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ซึ่งประกอบด้วยภิกษุผู้บวชใหม่ และพระเถระผู้มีชื่อเสียงหลายรูป นั่งแวดล้อมพระองค์ ณ ที่กลางแจ้งใกล้ปราสาทของนางวิสาขามิคารมาตา ในบุพพาราม กรุงสาวัตถี ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ อันเป็นวันครบ 4 เดือนแห่งฤดูฝน เป็นเดือนที่มีดอกโกมุท ทรงตรวจดูภิกษุสงฆ์ ซึ่งนิ่งเงียบอยู่ และตรัสว่า ในหมู่ภิกษุนี้ มีภิกษุที่เป็นพระอริยเจ้า และภิกษุผู้ทำความเพียรในการเจริญหลักธรรมต่างๆ อยู่ จึงได้ทรงแสดงหลักการเจริญ หลักธรรม 3 หมวดที่ทำให้ได้ผลมาก และมีอานิสงส์มาก คือ อานาปานสติ 16 ขั้น สติปัฏฐาน 4 และโพชฌงค์ 7 โดยลำดับแห่งเหตุและผล ที่ทำให้บรรลุผลคือวิชชา และวิมุตติได้สมบูรณ์สูตร#2 อานาปานสังยุต และผลานิสงส์ 7 ประการ แห่งการเจริญอานาปานสติ Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

    หนทางสู่พรหมโลก - มหาโควินทสูตร(ตอนที่ 2)[6547-4s]

    Play Episode Listen Later Nov 23, 2022 58:47


    มหาโควินทสูตร#2 พระเจ้าทิสัมบดีได้แต่งตั้งโชติปาลมานพให้ดำรงตำแหน่งแทนบิดาไว้ในตำแหน่งโควินทพราหมณ์ ได้ถวายคำปรึกษาอรรถคดี และจัดแจงการงานต่างๆได้เรียบร้อย จึงมีสมญาว่า โควินทะ ต่อมาเมื่อพระเจ้าทิสัมบดีสวรรคต เรณุราชกุมารผู้เป็นพระราชโอรส และเป็นพระสหายของโควินทะขึ้นเสวยราชย์ ก็ตรัสสั่งโควินทะให้แบ่งราชสมบัติออกเป็น 7 ส่วน ส่วนหนึ่งเพื่อพระองค์ อีก 6 ส่วนเพื่อกษัตริย์ราชกุมารอื่น ๆ ที่เป็นพระสหายรัก โควินทะได้เป็นที่ปรึกษาแด่พระมหากษัตริย์ทั้งเจ็ดแคว้นนั้น ต่อมา มหาโควินทะมีกิตติศัพท์อันงามขจรไปว่า มหาโควินทะสามารถมองเห็นพระพรหม สามารถสนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมได้ แต่ในความจริงท่านไม่เคยเห็นพระพรหมและไม่เคยสนทนาปราศรัยกับพระพรหม จึงคิดว่า จะไปหลีกเร้น เพ่งกรุณาฌานตลอด 4 เดือนในฤดูฝน ตามคำของพราหมณ์ผู้เป็นอาจารย์ว่า จะสามารถเห็นและสนทนาปราศรัยกับพระพรหมได้ จึงไปหลีกเร้นอยู่ตลอด 4 เดือน ก็ยังไม่เห็นพระพรหม จึงเกิดความระอาท้อแท้ สนังกุมารพรหมทราบความคิด จึงมาปรากฏตัว ได้สนทนากันและออกบวชประพฤติพรหมจรรย์เพื่อไปเกิดในพรหมโลกตามคำแนะนำของสนังกุมารพรหม ได้สั่งสอนธรรมแก่คนทั้งหลาย หลังจากถึงแก่มรณภาพไปเกิดในพรหมโลกเมื่อปัญจสิขะกราบทูลจบ ได้กราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า ทรงระลึกเรื่องนั้นได้หรือไม่ ทรงตรัสว่า ทรงระลึกได้ พระองค์เองได้เสวยพระชาติเป็นมหาโควินทพราหมณ์ในครั้งนั้น แต่ในครั้งนั้น ทรงชี้ทางแก่สาวกเพียงแค่ที่จะไปอยู่ร่วมกับพรหมได้ แต่ในชาตินี้ทรงแสดงมรรค 8 อันเป็นไปเพื่อพระนิพพาน Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

    พระคุณ 8 ประการ - มหาโควินทสูตร(ตอนที่ 1)[6546-4s]

    Play Episode Listen Later Nov 16, 2022 55:49


    มหาโควินทสูตร ตอนที่ 1 ทรงแสดงแก่ปัญจสิขะ คนธรรพบุตร ขณะประทับอยู่ภูเขาคิชกูฏ กรุงราชคฤห์ ทรงปรารภคำกราบทูลของปัญจสิขะ เรื่องการประชุมของพวกเทพชั้นดาวดึงส์ ณ เทวสภาชื่อสุธัมมา ในวันอุโบสถขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งมีท้าวสักกะจอมเทพเป็นประธาน ได้ตรัสสรรเสริญพระพุทธเจ้าว่า ทรงทำให้หมู่เทพเจริญเต็มที่ หมู่อสูรเสื่อมถอยลง และท้าวสักกะได้กล่าวสรรเสริญพระคุณของพระพุทธเจ้า 8 ประการให้พวกเทพฟัง ต่อมาสนังกุมารพรหมได้มาปรากฏต่อเทพชั้นดาวดึงส์ ได้ตรัสเล่าเรื่องอดีตชาติของพระพุทธเจ้าที่เกิดมาเป็นพราหมณ์ ชื่อ มหาโควินทะ ซึ่งเป็นปุโรหิตของพระเจ้าเรณุ ทำหน้าที่ถวายคำปรึกษาอรรถคดีและสามารถจัดแจงการงานต่างๆ ได้เรียบร้อย จนคนทั้งหลายขนานนามว่า มหาโควินทพราหมณ์ ซึ่งต่อมาได้มีชื่อเสียงขจรไปว่า สามารถมองเห็นพระพรหมและสนทนาปราศรัยปรึกษาพระพรหมได้ แต่จริงๆทำไม่ได้ จึงมีความคิดว่าจะไปหลีกเร้น เพื่อที่จะให้เห็นพระพรหมได้ คุยได้ ซึ่งต้องใช้การเจริญกรุณาภาวนาตลอดฤดูฝน 4 เดือน ตามคำของพราหมณ์ผู้แก่ ผู้เฒ่า ผู้เป็นอาจารย์ และผู้เป็นปาจารย์ Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

    ผลแห่งความประพฤติสม่ำเสมอ-อัฏฐกนาครสูตร และสาเลยยกสูตร [6545-4s]

    Play Episode Listen Later Nov 9, 2022 52:06


    สูตร#1 อัฏฐกนาครสูตร ท่านพระอานนท์แสดงแก่ทสมคหบดีชาวอัฏฐกนคร ณ เวฬุวคาม เขตกรุงเวสาลี ปรารภคำถามที่ทสมะเรียนถามพระอานนท์ว่า ธรรมอันเป็นเอกซึ่งเป็นที่หลุดพ้นแห่งจิตที่ยังไม่หลุดพ้น เป็นที่ถึงความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายที่ยังไม่สิ้นไป ฯลฯ ที่พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ตรัสไว้ชอบแล้ว มีอยู่หรือไม่ ท่านพระอานนท์ตอบว่ามีอยู่ และอธิบายว่าได้แก่ธรรมต่อไปนี้ คือ รูปฌาน 4 อัปปมัญญา 4 อรูปฌาน 3 และให้พิจารณาเห็นความไม่เที่ยงและดับไปของธรรมนั้น เมื่อแสดงจบ ทสมคฤหบดีชื่นชมภาษิตของพระอานนท์ว่า ตนแสวงหาประตูอมตธรรมประตูเดียว แต่ได้พบถึง 11 ประตู เปรียบเหมือนคนแสวงหาแหล่งขุมทรัพย์แห่งเดียว แต่ได้พบแหล่งขุมทรัพย์ถึง 11 ขุม ทสมะได้นิมนต์ภิกษุสงฆ์ และถวายอาหาร ถวายผ้าไตรพระอานนท์ และได้ให้สร้างวิหาร 500 หลังถวายพระอานนท์สูตร#2 สาเลยยกสูตร ทรงแสดงแก่พราหมณ์และคหบดีทั้งหลาย ณ หมู่บ้านพราหมณ์ชื่อสาลา เพื่อตอบปัญหาของพราหมณ์และคหบดี ซึ่งได้ยินกิตติศัพท์ของพระพุทธเจ้าได้พากันไปเฝ้ากราบทูลถามเหตุปัจจัย ที่ทำให้สัตว์บางพวกตายแล้วเข้าถึงอบาย ทุคคติ วินิบาต นรก และสัตว์บางพวกตายแล้ว เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ตรัสตอบว่า พวกที่เข้าถึงอบาย ฯลฯ เพราะประพฤติอธรรม คือ อกุศลกรรมบท 10 และประพฤติไม่สม่ำเสมอ ส่วนพวกที่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะประพฤติธรรม คือ กุศลกรรมบท 10 และประพฤติสม่ำเสมอ แล้วทรงแสดงในรายละเอียด เมื่อทรงตรัสจบ ชาวบ้านสาลาได้ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

    ทำมารให้ตาบอด-นิวาปสูตร เทวาสุรสังคามสูตร และมาคัณฑิยสูตร [6544-4s]

    Play Episode Listen Later Nov 2, 2022 60:23


    สูตร#1 นิวาปสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงตรัสว่า พรานเนื้อที่ปลูกหญ้าไว้ในทุ่งหญ้ามิได้หวังให้ฝูงเนื้อมากินเพื่อจะได้อายุยืน ผิวพรรณดี มีชีวิตอยู่นานแต่ปลูกไว้เพื่อล่อจับเนื้อ ทรงอธิบายว่า มีเนื้ออยู่ 4 ฝูง ฝูงเนื้อที่ 1-3 เป็นเนื้อที่ถูกพรานเนื้อและบริวารจับได้ ส่วนฝูงเนื้อที 4 พรานเนื้อและบริวารจับไม่ได้ อุปมาอุปไมยเปรียบเทียบนักบวช 4 ประเภทกับเนื้อ 4 ฝูง ซึ่งนักบวชประเภทที่ 1-3 นั้น ถูกมารทำอะไรๆ ได้ตามใจชอบ ส่วนนักบวชประเภทที่ 4 งดเว้นจากการบริโภคกามได้เด็ดขาดและไม่ยึดติดอยู่กับทิฏฐิใดๆ จึงเป็นผู้ข้ามพ้นโลกามิสได้ จึงพ้นจากเงื้อมมือมาร และทรงตรัสแสดงข้อปฏิบัติ คือ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 และสัญญาเวทยิตนิโรธ ที่มาร และบริษัทของมารมองไม่เห็น ข้ามพ้นตัณหาได้สูตร#2 เทวาสุรสังคามสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ว่าด้วยสงครามระหว่างเทวดากับอสูร ที่รบกันถึง 3 ครั้ง และพวกอสูรชนะทุกครั้ง พวกเทวดาที่พ่ายแพ้จึงหนีไปยังเทพบุรี พวกอสูรทำอะไรพวกเทวดาไม่ได้ ต่อมาเทวดากับอสูรรบกันอีก พวกอสูรพ่ายแพ้หนีไปยังอสูรบุรี พวกเทวดาทำอะไรพวกอสูรไม่ได้ ทำให้ต่างได้เครื่องป้องกันภัย ทรงเปรียบเทียบกับภิกษุได้บรรลุธรรมแต่ละอย่าง คือ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 และสัญญาเวทยิตนิโรธ 1 ทำให้ตนได้เครื่องป้องกันภัย มารทำอะไรภิกษุไม่ได้ ทำให้มารสิ้นสุดปิดตามารจนมองไม่เห็น ข้ามพ้นตัณหาได้สูตร#3 มาคัณฑิยสูตร (บางส่วน) ทรงแสดงแก่มาคัณฑิยปริพาชก ทรงเปล่งอุทานว่า “ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง บรรดาทางทั้งหลายอันให้ถึงอมตธรรม ทางมีองค์ 8 เป็นทางอันเกษม" Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

    ที่นอนอันเป็นทิพย์-เวนาคปุรสูตร และเวขณสสูตร [6543-4s]

    Play Episode Listen Later Oct 26, 2022 58:47


    สูตร#1 เวนาคปุรสูตร ทรงแสดงแก่พราหมณ์ และคหบดีชาวเวนาคปุระ แคว้นโกศล ทรงปรารภคำกราบทูลของพราหมณ์วัจฉโคตร ที่กล่าวสรรเสริญถึงอินทรีย์ที่ผ่องใส พระฉวีวรรณที่บริสุทธิ์ผุดผ่องของพระองค์เช่นนั้น การจะได้ที่นอนสูงใหญ่ คือ เตียงมีเท้าเกินประมาณ ฯลฯ เครื่องลาดมีหมอนข้าง ตามความปรารถนาได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบากแน่นอน ตรัสว่า ที่นอนสูงใหญ่ฯลฯบรรพชิตหาได้ยาก และถ้าได้มาก็ไม่สมควร แต่มีที่นอนสูง ที่นอนใหญ่ 3 อย่าง ที่ทรงได้โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบาก คือ ที่นอนฯลฯที่เป็นทิพย์ จากการได้ฌาณทั้ง 4 ที่นอน ฯลฯ ที่เป็นของพรหม จากการเจริญพรหมวิหาร ที่นอน ฯลฯ ที่เป็นของพระอริยะ จากการที่ละกิเลสได้เด็ดขาด เมื่อจบธรรมเทศนา พราหมณ์วัจฉโคตรทูลสรรเสริญและแสดงตนเป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิตสูตร#2 เวขณสสูตร ทรงแสดงแก่ปริพาชกชื่อเวขณสะ ขณะประทับอยู่เชตวนาราม ได้เข้าไปเฝ้า ทูลเรื่อง “ วรรณะอันยอดเยี่ยม ” แต่ชี้ชัดลงไปไม่ได้ว่าวรรณะไหน เปรียบเหมือนชายคนหนึ่งปรารภถึงหญิงสาวอย่างนี้ว่า ‘เราปรารถนารักใคร่หญิงงามแห่งชนบทนี้' แต่เมื่อถูกถามในรายละเอียดของหญิงนั้น กลับตอบว่า ไม่รู้จัก และได้ทรงเปรียบเทียบวรรณะเป็นคู่ให้เห็นว่ามีสิ่งที่เลิศกว่ากันเป็นชั้นๆ และตรัสอธิบายเรื่องของกาม ในสุขที่ลึกซึ้งขึ้นไป คือ สมาธิ และความงดงามลึกซึ้งถึงขั้นไม่มีอวิชชา เมื่อจบธรรมเทศนา เวขณสปริพพาชกทูลสรรเสริญ แสดงตนเป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิตสูตร #3 เอสุการีสูตร ว่าด้วยเรื่องของวรรณะ Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

    ความประพฤติที่ผู้รู้ติเตียน-พาหิติกสูตร กรรณกัตถลสูตร ฐานสูตร และปิยชาติกสูตร [6542-4s]

    Play Episode Listen Later Oct 19, 2022 57:49


    สูตร#1 พาหิติกสูตร ว่าด้วยการถวายผ้าพาหิติกา (ผ้าที่ทอจากต่างแคว้น) ท่านพระอานนท์แสดงแก่พระเจ้าปเสนทิโกศล กษัตริย์ผู้ครองแคว้นโกศล ที่ได้ตรัสถามท่านพระอานนท์ว่า พระพุทธเจ้าทรงประพฤติ ทางกาย วาจา ใจ ที่ผู้รู้ติเตียนหรือไม่ พระอานนท์ตอบว่าไม่ทรงประพฤติ และตรัสถามว่า ความประพฤติที่ผู้รู้ติเตียนและผู้รู้ไม่ติเตียนเป็นอย่างไร ท่านพระอานนท์ได้ตอบว่า ความประพฤติที่ผู้รู้ติเตียน คือ ความประพฤติที่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเอง ผู้อื่น หรือทั้ง 2  ฝ่าย ซึ่งทำให้อกุศลธรรมเจริญ กุศลธรรมเสื่อม ทรงละอกุศลธรรมทุกอย่าง ทรงประกอบด้วยกุศลธรรมส่วนความประพฤติที่ผู้รู้ไม่ติเตียนมีนัยตรงข้ามกัน เมื่อท่านพระอานนท์แสดงจบ พระเจ้าปเสนทิโกศลเกิดความเลื่อมใสทรงถวายผ้าพาหิติกาเพื่อบูชาธรรมแก่พระอานนท์ ซึ่งท่านได้นำไปถวายพระพุทธเจ้าสูตร #2 กรรณกัตถลสูตร ทรงแสดงแก่พระเจ้าปเสนทิโกศล ขณะประทับอยู่ ณ กัณณกัตถละ อุทัญญานคร แคว้นโกศล เพื่อทรงสนทนาธรรม เรื่องสัพพัญญู เรื่องวรรณะ 4 เรื่องเทวดาและพรหม โดยได้ทรงพยากรณ์ความเป็นสัพพัญญู ทรงตรัสถึงวรรณะ 4 จำพวกในสัมปรายภพไม่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับมีหรือไม่มีธรรม 5 ประการ และความเพียร เปรียบเหมือนสัตว์ที่ฝึกกับสัตว์ที่ไม่ได้ฝึก ตรัสตอบเรื่องเทวดาและพรหมที่มีความเบียดเบียน มีทุกข์จึงจะมาเกิดในมนุษยโลกสูตร#3 ฐานสูตร (เพิ่มเติม) พระพุทธเจ้าตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ว่าด้วยฐานะที่ใครๆ ไม่พึงได้ มี 5 ประการ คือ อย่าแก่ อย่าเจ็บไข้ อย่าตาย อย่าสิ้นไป และอย่าฉิบหายสูตร#4 ปิยชาติกสูตร (เพิ่มเติม) ตอน ลูกชายคนเดียวของคหบดีตาย Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

    คนฝึกยาก สัตว์ฝึกง่าย-กันทรกสูตร และชีวกสูตร [6541-4s]

    Play Episode Listen Later Oct 12, 2022 61:24


    สูตร#1 กันทรกสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะประทับอยู่ใกล้สระโบกขรณีชื่อคัคครา ทรงสนทนากับกันทรกปริพาชก และนายเปสสะ ปริพพาชกชื่อกันทรกะ กราบสรรเสริญว่า พระพุทธเจ้าทรงสามารถแนะนำภิกษุให้ปฏิบัติชอบได้ ทรงตรัสว่าเหตุที่ทำให้ภิกษุสงบ คือ พวกหนึ่งสงบเพราะเป็นอรหันตขีณาสพ พวกหนึ่งยังเป็นเสขบุคคลแต่สงบได้ เพราะเจริญสติปัฏฐาน 4 ประการ ซึ่งนายเปสสะก็เจริญสติปัฏฐานเช่นกัน ทรงตรัสถึงบุคคล 4 ประเภท ตรัสถามว่าชอบประเภทไหน นายเปสสะกราบทูลว่าชอบใจบุคคลประเภทที่ 4ให้เหตุผลแล้วทูลลากลับ จากนั้นได้ตรัสเรียกภิกษุมาแล้วทรงอธิบายบุคคล 4 ประเภทโดยละเอียด สูตร#2 ชีวกสูตร ทรงแสดงแก่หมอชีวกโกมารภัจ ขณะประทับอยู่สวนมะม่วง กรุงราชคฤห์ หมอชีวกเข้าไปเฝ้ากราบทูลถามว่า ตนได้ฟังมาว่า พระสมณโคดมทรงทราบอยู่ ก็เสวยเนื้อสัตว์ที่เขาฆ่าเจาะจงถวายนั้นเป็นความจริงหรือไม่ ตรัสตอบว่า ไม่ตรงกับความจริง ทรงแสดงหลักการพิจารณาเนื้อที่ควรฉันและไม่ควรฉัน ทรงตรัสว่า ผู้ฆ่าสัตว์อุทิศพระตถาคตหรือสาวกของพระตถาคต ย่อมประสบสิ่งมิใช่บุญเป็นอันมากโดยฐานะ 5 ประการ เมื่อจบพระธรรมเทศนา หมอชีวกแสดงตนเป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต

    สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง-มหาสุทัสสนสูตร ตอนที่ 2 [6540-4s]

    Play Episode Listen Later Oct 5, 2022 58:38


    มหาสุทัสสนสูตร #2 ทรงแสดงว่า พระเจ้ามหาสุทัสสนะทรงเห็นว่า ผลดีต่างๆ เหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะผลแห่งกรรมดี คือ ทาน การให้ การฝึกจิต และการสำรวมจิต จึงทรงบำเพ็ญฌาน ได้บรรลุฌานที่ 1 ถึงฌานที่ 4 ทรงเจริญพรหมวิหาร 4 และทรงสั่งลดการเข้าเฝ้าให้น้อยลง เพื่อทรงมีเวลาอบรมทางจิตใจได้มากขึ้น เวลาล่วงไปหลายพันปี พระนางสุภัททา พระราชเทวีเป็นนางแก้ว ได้เสด็จมาเฝ้า ทรงเห็นว่าพระสวามีจะทรงสวรรคต จึงทรงขอร้องให้อยู่ต่อเพื่อเห็นแก่สมบัติ เห็นแก่ชีวิต แต่กลับตรัสตอบขอให้พระราชเทวีทรงขอร้องใหม่ในทางตรงกันข้าม เพราะการพลัดพรากจากของรักของชอบใจเป็นของธรรมดา การตายของผู้มีความกังวล ห่วงใย เป็นทุกข์ และถูกติเตียน พระราชเทวีก็ทรงกรรเเสง แต่ทรงฝืนพระหฤทัย ขอร้องใหม่ ตามที่พระเจ้ามหาสุทัสสนะทรงแนะนำนั้น และต่อมาไม่นาน พระเจ้ามหาสุทัสสนะก็สวรรคต และเข้าถึงพรหมโลก พระพุทธเจ้าทรงสรุปว่าพระเจ้ามหาสุทัสสนะสมัยนั้น คือ พระองค์เอง และทรงชี้ให้เห็นสัจธรรมว่า แม้ทรงพรั่งพร้อมสมบูรณ์ด้วยสมบัตินานาประการ แต่ก็ทรงใช้สอยเพียงบางส่วนเท่านั้น และทรงตรัสว่า สังขารเหล่านั้นทั้งปวงล่วงลับดับไป ผันแปรไปแล้ว สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายไม่ยั่งยืน สังขารทั้งหลาย ไม่น่ายินดี ข้อนี้จึงควรเบื่อหน่าย ควรคลายกำหนัด ควรจะหลุดพ้นไปจากสังขารทั้งปวงโดยแท้

    พระเจ้าจักรพรรดิ-มหาสุทัสสนสูตร (ตอนที่ 1) [6539-4s]

    Play Episode Listen Later Sep 28, 2022 58:58


    ทรงแสดงแก่ท่านพระอานนท์ ขณะประทับใต้ควงไม้สาละคู่ในวันปรินิพพาน เพื่อทรงอธิบายให้เข้าใจ เหตุที่พระองค์เสด็จมาปรินิพพานที่กรุงกุสินารา ทรงปรารภคำกราบทูลพระอานนท์ว่า อย่าได้ปรินิพพานที่กุสินารา ซึ่งเป็นเมืองเล็กนี้ ขอเสด็จไปในเมืองใหญ่ ทรงตรัสห้ามไม่ให้พูดอย่างนั้น แล้วทรงเล่าเรื่องในอดีตของกรุงกุสินารา เคยเป็นราชธานีของพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่า มหาสุทัสสนะ ผู้ครอบครองมหาอาณาจักรอันกว้างใหญ่ไพศาล และมีกรุงกุสาวดี คือกรุงกุสินาราในบัดนี้เป็นเมืองหลวง มีประชากรหนาแน่น เจริญรุ่งเรืองมาก พระเจ้ามหาสุทัสสนะ ทรงมีรัตนะหรือแก้ว 7 ประการ และทรงสมบูรณ์ด้วยพระฤทธิ์ (ความสำเร็จ 4 ประการ) นอกจากนี้ยังมีปราสาท ราชมนเทียร สระโบกขรณี และราชทรัพย์อื่นๆ อีกมาก ทรงเพียบพร้อมบริบูรณ์ด้วยคุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติเหล่านี้ เพราะกรรมดีของพระองค์ คือ ทาน การข่มใจ และการสำรวม ทรงเจริญฌานสมาบัติ และพรหมวิหาร

    การปฏิบัติธรรม-มหาธัมมสมาทานสูตร และจูฬธัมมสมาทานสูตร [6538-4s]

    Play Episode Listen Later Sep 21, 2022 57:47


    สูตร#1 จูฬธัมมสมาทานสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน เพื่อให้ภิกษุทราบว่าการสมาทานธรรมมี 4 แบบ ซึ่งการสมาทานธรรม หมายถึง การนำธรรมมาปฏิบัติ โดยทรงอธิบายแต่ละแบบโดยละเอียด และยกอุปมาโวหารประกอบ ทรงถือเอาความทุกข์และความสุขในขณะปฏิบัติ กับความทุกข์และความสุขที่เป็นผลแห่งการปฏิบัติเป็นเกณฑ์ เกณฑ์สูงสุด คือ ความสุขในสุคติโลกสวรรค์ สูตร#2 มหาธัมมสมาทานสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงยกการสมาทานธรรม 4 แบบ ดังที่แสดงไว้ในจูฬธัมมสมาทานสูตร แต่ทรงแยกอธิบาย คือ บุคคลผู้ไม่รู้จักการสมาทานธรรมทั้ง 4 แบบตามความเป็นจริง ชื่อว่าตกอยู่ในอวิชชา ทำให้ไม่รู้ว่าสิ่งไหนควรเสพ สิ่งไหนไม่ควรเสพ ธรรมที่ไม่น่าปรารถนา เป็นต้น เจริญขึ้น ธรรมที่น่าปรารถนา เป็นต้น เสื่อมไป แต่ถ้ารู้การสมาทานธรรมทั้ง 4 แบบตามเป็นจริง ชื่อว่ามีวิชชา ก็จะเป็นเหตุให้รู้ว่าสิ่งไหนควรเสพ สิ่งไหนไม่ควรเสพ ทำให้ธรรมที่ไม่น่าปรารถนา เป็นต้น เสื่อมไป ธรรมที่น่าปรารถนา เป็นต้น เจริญขึ้น และทรงอธิบายการสมาทานธรรมทั้ง 4 แบบโดยการปฏิบัติธรรมที่เป็นอกุศลกรรมบท 10 และกุศลกรรมบท 10 หลังจากตายจะได้รับผลเป็นทุคติและสุคติ และทรงยกอุปมาของการสมาทานธรรม 4 ประการ

    เนื้อนาบุญ-มหาโคปาลสูตร จูฬโคปาลสูตร และนาคสูตร [6537-4s]

    Play Episode Listen Later Sep 14, 2022 58:53


    สูตร#1 มหาโคปาลสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ เชตวัน ทรงปรารภความเจริญงอกงามไพบูลย์ในพระศาสนาของภิกษุทั้งหลาย ทรงเปรียบเทียบ คนเลี้ยงโคผู้ไม่ฉลาดเปรียบกับภิกษุผู้ไม่ฉลาดเพราะขาดองค์คุณ 11 ประการ จะไม่เจริญงอกงามไพบูลย์ในพระศาสนานี้ และคนเลี้ยงโคผู้ฉลาดเปรียบกับภิกษุผู้ฉลาดเพราะมีองค์คุณ 11 ประการ จะเจริญงอกงามไพบูลย์ในพระศาสนานี้ สูตร#2 จูฬโคปาลสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ริมฝั่งแม่น้ำคงคา เขตเมืองอุกกเจลา แคว้นวัชชี ปรารภเหตุการณ์ในอดีตเรื่องของคนเลี้ยงโคที่พาฝูงโคลงน้ำว่ายตัดกระแสน้ำ ตรัสเล่าเปรียบเทียบให้ฟัง 2 กรณี 1.คนเลี้ยงโคไม่ฉลาด  ไม่พิจารณาฝั่งนี้ฝั่งโน้นให้ดีก่อน ตรงที่ต้อนฝูงโคลงแม่น้ำนั้นไม่ใช่ท่าข้าม ว่ายเข้าไปในวังวนของกระแสน้ำกลางแม่น้ำ ถึงแก่ความตายหมดทั้งฝูง 2. คนเลี้ยงโคผู้ฉลาด ต้อนฝูงโคไปสู่ที่หมาย ว่ายตัดกระแสน้ำถึงฝั่งโน้นโดยสวัสดิภาพ เพราะตรงที่ข้ามเป็นท่าน้ำ ซึ่งพิจารณาโดยรอบคอบแล้ว จึงปล่อยโคข้ามไปตามลำดับ เปรียบเหมือนสมณะหรือพราหมณ์ผู้ฉลาดเรื่องโลกนี้และโลกหน้า รู้ทั่วถึงธรรมทั้งปวง สามารถชักนำผู้อื่นให้ได้รับความสุขพ้นทุกข์ทั้งปวงได้ สูตร#3 นาคสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ว่าด้วยองค์ของช้างต้น ซึ่งเป็นช้างควรแก่พระราชา จะต้องประกอบด้วยองค์ 4 ประการ จึงนับว่าเป็นพระราชพาหนะโดยแท้ เปรียบเทียบกับภิกษุในธรรมวินัยนี้ ผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการ ย่อมเป็นผู้ควรแก่ของที่เขานำมาถวาย ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ทักษิณา ควรแก่การทำอัญชลี เป็นนาบุญอันยอดเยี่ยมของโลก ธรรม 4 ประการ คือ เป็นผู้เชื่อฟัง เป็นผู้ฆ่าได้ เป็นผู้อดทน และ เป็นผู้ไปได้ สูตร#4 ภัททาลิสูตร (บางส่วน) ทรงอุปมาอุปไมยสอนท่านพระภัททาลิเรื่องม้าอาชาไนยที่มีคุณสมบัติ 10 ประการ เปรียบกับภิกษุผู้เป็นเนื้อนาบุญจะประกอบด้วยธรรม 10 ประการ

    ภัย คือ ความแก่ ความเจ็บ และความตาย-ปัพพโตปมสูตร ภยสูตร ฐานสูตร และจุนทสูตร [6536-4s]

    Play Episode Listen Later Sep 7, 2022 67:07


    สูตร#1 ปัพพโตปมสูตร พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ตรัสถามถึงกิจที่พระราชาพึงขวนขวาย พระผู้มีพระภาคตรัสถามพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า เมื่อมหาภัยอันร้ายกาจที่ทำให้มนุษย์พินาศบังเกิดขึ้น อะไรที่พระองค์จะพึงทรงกระทำในภาวะแห่งมนุษย์ที่ได้แสนยาก พระเจ้าปเสนทิโกศลตอบว่า สิ่งที่ควรทำคือการประพฤติธรรม การประพฤติสม่ำเสมอ การสร้างกุศล การทำบุญ สูตร#2 ภยสูตร ว่าด้วยเรื่องภัยใหญ่ คือ ภัยที่ปุถุชนเรียกว่า อมาตาปุตติกภัย ได้แก่ ภัยจากไฟไหม้ใหญ่ ภัยจากน้ำท่วมใหญ่ และภัยจากโจรปล้นใหญ่ ซึ่งเป็นเหตุให้บุตรพลัดพรากจากมารดา แต่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภัยใหญ่ดังกล่าวยังเป็น สมาตาปุตติกภัย คือ ภัยที่ยังพอมีโอกาสให้บุตรพบกับมารดาได้บ้าง แต่ภัยใหญ่ต่อไปนี้ มารดา และบุตรไม่สามารถจะห้ามมิให้เกิดขึ้นแก่กันและกันได้เลย คือ ความแก่ ความเจ็บ และความตาย จึงตรัสเรียกว่า อมาตาปุตติกภัย หนทางที่จะให้ล่วงพ้นภัย 2 อย่างนี้ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 สูตร#3 ฐานสูตร พระพุทธเจ้าตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ว่าด้วยฐานะที่ใครๆ ไม่พึงได้ มี 5 ประการ คือ อย่าแก่ อย่าเจ็บไข้ อย่าตาย อย่าสิ้นไป และอย่าฉิบหาย ทรงแสดงว่า ฐานะแต่ละอย่างเกิดขึ้นทั้งแก่ปุถุชนและอริยสาวก แต่ปุถุชนไม่มีปัญญาพิจารณาเห็นสิ่งเหล่านี้ตามความเป็นจริงตรงกันข้ามกลับถูกสิ่งเหล่านี้ครอบงำจนเกิดทุกข์กาย และทุกข์ใจ ส่วนอริยสาวกมีนัยตรงกันข้ามกับปุถุชน สูตร#4 จุนทสูตร ท่านจุนทะ สมณุทเทสผู้เป็นน้องชายคนเล็กของท่านพระสารีบุตร เข้าไปบอกข่าวการปรินิพพานของท่านพระสารีบุตรแก่ท่านพระอานนท์ ท่านจึงนำเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้ากราบทูลข่าวการปรินิพพานนั้นพร้อมกับแสดงความรู้สึกของตน พระองค์จึงตรัสสอนให้มีตนเป็นที่พึ่งมีธรรมเป็นที่พึ่ง ด้วยการเจริญสติปัฏฐาน 4 ประการ

    กายภาวนาและจิตภาวนา-มหาสัจจกสูตร [6535-4s]

    Play Episode Listen Later Aug 31, 2022 64:46


    มหาสัจจกสูตร พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแก่สัจจกะ นิครนถบุตร เป็นการสนทนาแบบถาม-ตอบ ในเรื่องของกายภาวนา และจิตตภาวนา ซึ่งนิครนถ์มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า กายภาวนานั้น หมายถึง การทำทุกรกิริยา และไม่เข้าใจเรื่องจิตตภาวนา จึงทรงอธิบายการเจริญภาวนาทั้ง 2 อย่าง ที่ถ้าเราทำได้แล้ว จะอยู่เหนือสุขและทุกข์ได้ แต่สัจจกนิครนถ์ ที่มีความสงสัยไม่ลงใจ พยายามที่จะคิดโต้แย้ง และกล่าวกระทบกระเทียบพระองค์ จึงทรงเล่าพุทธประวัติตอนบำเพ็ญสมาบัติ ในสำนักอาฬารดาบส และอุทกดาบส แม้ได้สุขของสมาธิขั้นลึกซึ้ง แต่ก็ไม่เผลอเพลินไปตามสุขเวทนานั้น และเมื่อทำทุกรกิริยา ได้รับทุกขเวทนาอันหนักหน่วง ทุกขเวทนานั้นก็ไม่อาจครอบงำจิตของพระองค์ได้ ทำให้สัจจกนิครนถ์มีความศรัทธา กล่าวสรรเสริญพระองค์ ชื่นชมยินดีพระภาษิตของพระผู้พระภาค

    สุขที่ยิ่งกว่าสุขเวทนา-อนุปุพพวิหารสูตร, อนุปุพพวิหารสมาปัตติสูตร, นิพพานสูตร และอนุปทสูต

    Play Episode Listen Later Aug 24, 2022 54:27


    สูตร#1 อนุปุพพวิหารสูตร ว่าด้วยอนุปุพพวิหารธรรม คำว่า "อนุปุพพวิหารธรรม"แปลว่า ธรรมเครื่องอยู่ที่ต้องเข้าสมาบัติตามลำดับ มี 9 ประการ คือ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 และสัญญาเวทยิตนิโรธ 1 สูตร#2 อนุปุพพวิหารสมาปัตติสูตร ว่าด้วยอนุปุพพวิหารสมาบัติ มี 9 ประการ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 และสัญญาเวทยิตนิโรธ 1 คือ ทรงแสดงธรรมที่ดับไปในอนุปุพพวิหารสมาบัติแต่ละอย่าง และยกย่องบุคคลผู้ดับธรรมแต่ละอย่างได้ด้วยฌานนั้นๆ ว่า "เป็นผู้ควรนมัสการ ควรไหว้ และควรเข้าไปนั่งใกลั" สูตร#3 นิพพานสุขสูตร ว่าด้วยนิพพานเป็นสุข ซึ่งเป็นคำที่ท่านพระสารีบุตรกล่าว แต่ท่านพระอุทายีแย้งว่า "นิพพานไม่มีเวทนา จะเป็นสุขได้อย่างไร" ท่านพระสารีบุตรย้ำว่าเป็นได้ แล้วแสดงกามคุณ 5 และสุขโสมนัสที่อาศัยกามคุณ 5 เกิดขึ้นเรียกว่า กามสุข และแสดงว่า ในฌานสมาบัติ 8 คือ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 แต่ละอย่างยังมีสิ่งกดดัน (อาพาธ) หมายถึง ความบีบคั้น เช่น ในปฐมฌานมีสัญญามนสิการที่ประกอบด้วยกามเป็นสิ่งกดดัน แต่ในองค์ธรรมประการที่ 9 คือ สัญญาเวทยิตนิโรธ ไม่มีสิ่งกดดันเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่า นิพพานเป็นสุขได้อย่างไร สูตร#4 อนุปทสูตร ว่าด้วยธรรมตามลำดับบท ทรงแสดงแก่ภิกษุ ทรงตรัสสรรเสริญท่านพระสารีบุตรให้ภิกษุทั้งหลายฟังว่า ท่านพระสารีบุตรมีความฉลาดล้ำ มีปัญญาเลิศ มากกว่าภิกษุอื่น สามารถเห็นแจ้งธรรมตามลำดับบทได้เพียงกึ่งเดือน เห็นแจ้งตามลำดับบท คือ บรรลุรูปฌาณ 4, อรูปฌาณ 4, สัญญาเวทยิตนิโรธ และความสิ้นอาสวะ

    ฌานขั้นสูง-คาวีอุปมาสูตร และตปุสสสูตร [6533-4s]

    Play Episode Listen Later Aug 17, 2022


    สูตร#1 คาวีอุปมาสูตร อุปมาด้วยแม่โค ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ทรงเปรียบเทียบภิกษุผู้โง่เขลากับแม่โคที่โง่เขลาและภิกษุผู้ฉลาดกับแม่โคที่ฉลาดว่า ภิกษุผู้โง่เขลาที่ไม่สามารถบรรลุปฐมฌานได้ ก็จะบรรลุทุติยฌานไม่ได้ เหมือนแม่โคโง่เขลาที่ไม่สามารถหากินบนภูเขาขรุขระในถิ่นตนได้ ก็จะไปหากินในที่ต่างถิ่นไม่ได้ ส่วนภิกษุผู้ฉลาดที่สามารถบรรลุปฐมฌานได้ ก็สามารถบรรลุณานขั้นสูงขึ้นไปจนถึงสัญญาเวทยิตนิโรธได้ เหมือนแม่โคฉลาดที่สามารถหากินบนภูเขาขรุขระในถิ่นตนได้ ก็สามารถไปหากินในที่ต่างถิ่นได้ องค์ธรรมในสูตรนี้ คือ อนุปุพพวิหาร 9 ประการ นอกจากนี้ยังทรงแสดงธรรมอื่น คือ อิทธิวิธญาณ ทิพพโสตะ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ จุตูปปาตญาณ เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ ไว้โดยละเอียด สูตร#2 ตปุสสสูตร ว่าด้วยตปุสสคหบดี ท่านพระอานนท์พาตปุสสคหบดีไปเฝ้าพระพุทธเจ้ากราบทูลเรื่องที่คหบดีนั้นเล่าให้ฟังว่า พวกเขาเป็นคฤหัสถ์มีความยินดีรื่นรมย์บันเทิงในกาม เนกขัมมะ (การออกบวช) ปรากฎแก่พวกเขาเหมือนเหวใหญ่ จิตของภิกษุหนุ่มๆ ยินดีในเนกขัมมะ เมื่อพิจารณาเห็นว่าเนกขัมมะเป็นธรรมสงบ ภิกษุมีธรรมที่ต่างกับคฤหัสถ์ คือ เนกขัมมะ พระองค์ตรัสว่าข้อนั้นเป็นความจริง แม้พระองค์เองก่อนตรัสรู้ก็มีความดำริว่า เนกขัมมะเป็นความดี ความสุขเป็นความดี แต่จิตของพระองค์ก็ไม่น้อมไปในเนกขัมมะ เมื่อพิจารณาเห็นว่าเนกขัมมะเป็นธรรมสงบ จึงดำริว่า อะไรเป็นเหตุให้เป็นเช่นนั้น รู้ว่า เพราะยังไม่เห็นโทษในกาม และยังไม่ได้รับอานิสงส์ในเนกขัมมะ ถ้าได้เห็นโทษในกาม และได้รับอานิสงส์ในเนกขัมมะ จิตก็จะน้อมไปในเนกขัมมะ แล้วทรงแสดงว่า พระองค์ทรงบรรลุอนุปุพพวิหาร 4 ทรงสรุปว่า เมื่อใด พระองค์เข้าหรือออกจากอนุปุพพวิหารสมาบัติ 4 ประการนี้ได้ตามปรารถนา ทั้งโดยอนุโลม และปฏิโลม เมื่อนั้นพระองค์จึงกล้ายืนยันว่าได้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณอันยอดเยี่ยมในโลกทั้งปวง

    มารผู้ใจบาป-พรหมนิมันตนิกสูตร และมารตัชชนียสูตร [6532-4s]

    Play Episode Listen Later Aug 10, 2022 58:21


    สูตร#1 พรหมนิมันตนิกสูตร ทรงตรัสเล่าให้ภิกษุทั้งหลายฟัง ณ พระเชตวัน ทรงปรารภทิฏฐิชั่วของท้าวพกพรหม ทรงทราบด้วยพระทัยว่า ท้าวพกพรหมมีทิฏฐิชั่ว กล่าวสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง สิ่งที่ไม่ยั่งยืนว่ายั่งยืน เป็นต้น จึงทรงเสด็จขึ้นไปยังพรหมโลก และได้โต้วาทะกัน ขณะนั้น มารใจบาปได้เข้าสิงในพรหมปาริสัชชะองค์หนึ่งให้กล่าวห้ามมิให้พระองค์ว่ากล่าวท้าวพกพรหม พร้อมทั้งขู่สำทับ แต่ทรงรู้ทันว่าเป็นมาร พรหมและพรหมบริษัททั้งปวงตกอยู่ในอำนาจของมารแต่พระองค์มิได้อยู่ในอำนาจนั้น ได้ทรงสำแดงพุทธานุภาพไม่ให้พกพรหมหายตัวได้ แต่ทรงแสดงหายตัวให้ดู และมารได้เข้าสิงพรหมอีกองค์หนึ่งเพื่อห้ามไม่ให้พระองค์ทรงสอนธรรมแก่สาวก และขู่สำทับแต่ทรงตรัสว่า ทรงรู้จักมารดี พระองค์จะสอนหรือไม่สอนก็ไม่ทำให้พระองค์ดีขึ้นหรือเลวลงเพราะทรงตัดอาสวะได้ขาดแล้ว ตัดรากถอนโคนเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้วเหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มี เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้ สูตร#2 มารตัชชนียสูตร พระมหาโมคคัลลานะแสดงแก่มารที่เข้าสิงในท้องท่าน ขณะเดินจงกรม ณ เภสกฬาวัน สมัยนั้นพระมหาโมคคัลลานะจงกรมอยู่ ถูกมารเข้าไปในท้องในไส้ รู้สึกเหมือนมีของหนักอยู่ในท้อง จึงหยุดจงกรม กลับไปยังวิหาร นั่งพิจารณาแล้ว ทราบว่า มารใจบาปเข้าไปสิงอยู่ จึงเรียกให้มารออกมา เมื่อมารนั้นออกมาท่านจึงเทศน์สอน ได้ลำดับญาติระหว่างท่านกับมารตนนี้ให้ฟังว่า มารนี้เป็นลูกของน้องสาวและเล่าอดีตของท่านที่เคยเกิดเป็นทูสีมารได้เคยทำร้ายพระอริยสาวกต้องไปตกนรกถูกหลาวแทงหลายพันปี หลายหมื่นปี ท่านขอให้มารนั้นอย่าทำร้ายพระอริยสาวกเพราะจะส่งผลให้ไปตกนรกเหมือนที่ท่านได้รับมาแล้ว มารนั้นรู้สึกเสียใจ แล้วหายตัวไป

    พุทธปฏิภาณ-พหุเวทนิยสูตร วีมังสกสูตร และอภัยราชกุมารสูตร [6531-4s]

    Play Episode Listen Later Aug 3, 2022 58:37


    สูตร#1 พหุเวทนิยสูตร ว่าด้วยเวทนาหลายประการ ทรงแสดงแก่ท่านพระอานนท์ ณ พระเชตวัน ทรงปรารภการสนทนาธรรมเรื่องเวทนา ระหว่างท่านพระอุทายี และช่างไม้ปัญจกังคะ ซึ่งตกลงกันไม่ได้ว่า เวทนามีเท่าไร ท่านพระอานนท์ได้ยินจึงไปทูลถาม ทรงตรัสว่า ทรงแสดงเวทนาไว้หลายประการ ขึ้นอยู่กับเหตุ ทรงยกสุขเวทนาขึ้นอธิบาย เริ่มด้วย กามสุขที่อาศัยกามคุณ 5 และสุขในรูปฌาน และอรูปฌาน สูตร#2 วีมังสกสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน เพื่อให้ภิกษุผู้ไม่ได้เจโตปริยญาณ ทดลองตรวจสอบข้อปฏิบัติของพระองค์ เพื่อให้รู้ว่าพระองค์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงหรือไม่ ต่อไปก็สามารถตรวจสอบตนเอง และผู้อื่นได้ ทรงอธิบายขยายความ และทรงเปิดโอกาสให้ภิกษุผู้ตรวจสอบทูลถามพระองค์ตามแนวทางการพิจารณาตรวจสอบนั้น ด้วยวิธีการดังกล่าวผู้นั้นก็จะมีศรัทธามั่นคงไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า สูตร#3 อภัยราชกุมารสูตร ทรงแสดงแก่อภัยราชกุมาร ซึ่งรับอาสานิครนถ์มาโต้วาทะกับพระองค์ ณ เวฬุวัน ปรารภคำถามว่า มีบ้างไหมที่พระองค์ตรัสวาจาอันไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของคนอื่น ทรงตรัสว่าจะตอบส่วนเดียวไม่ได้ ทรงแสดงหลักเกณฑ์การตรัสวาจาของพระองค์ 6 ข้อ เมื่อทรงแสดงจบ อภัยราชกุมารแสดงตนเป็นอุบาสกตลอดชีวิต

    เครื่องป้องกันนคร-นคโรปมสูตร และสัจจวิภังคสูตร [6530-4s]

    Play Episode Listen Later Jul 27, 2022 44:07


    สูตร#1 นคโรปมสูตร ทรงแสดงคุณสมบัติของพระอริยสาวก 7 ประการ ที่ทำให้ละอกุศล เจริญกุศลได้ เปรียบเทียบกับเครื่องป้องกันนคร 7 อย่าง ที่ทำให้นครที่ตั้งอยู่ชายแดนปราศจากภัยอันตรายได้ และทรงแสดงฌาน 4 ประการ ที่เป็นคุณสมบัติภายในของอริยสาวกซึ่งทำให้บรรลุคุณพิเศษชั้นสูงได้ เปรียบเทียบกับคุณสมบัติภายในของนครชายแดน 4 ประการ ที่ทำให้ชาวเมืองอยู่ผาสุกสูตร #2 สัจจวิภังคสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะประทับ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ทรงปรารภพระธรรมจักรที่ทรงแสดง ให้แก่ภิกษุเหล่านั้นฟังโดยย่อ ทรงแนะนำให้ภิกษุทั้งหลายคบหาท่านพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ และทรงสรรเสริญท่านทั้งสองไว้ด้วย เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสดังนี้แล้ว ก็เสด็จเข้าสู่ที่ประทับ ท่านพระสารีบุตรจึงอธิบายขยายความให้ภิกษุทั้งหลายฟังต่อไป โดยอธิบายเรื่องอริยสัจ 4 โดยพิสดาร

    มุนีผู้สงบ - ธาตุวิภังคสูตร และชาณุสโสณิพราหมณสูตร [6529-4s]

    Play Episode Listen Later Jul 20, 2022 57:24


    สูตร#1 ธาตุวิภังคสูตร ว่าด้วยการจำแนกธาตุ ทรงแสดงแก่ท่านปุกกุสาติผู้บวชอุทิศต่อพระองค์แต่ไม่เคยรู้จักและไม่เคยเห็นพระองค์ เพื่อโปรดท่านให้เข้าถึงธรรม ขณะท่านพักอยู่ที่ศาลาของช่างหม้อชื่อ ภัคควะ เขตกรุงราชคฤห์ ทรงแสดงว่า บุรุษผู้มีธาตุ 6 มีผัสสายตนะ 6 มีมโนปวิจาร 18 มีอธิษฐานธรรม 4 บัณฑิตเรียกว่า มุนีผู้สงบ และทรงแสดงในรายละเอียด ผลจากการแสดงธรรมครั้งนี้ทำให้ท่านปุกกุสาติ ได้ทราบว่า ผู้ที่แสดงธรรมนั้น คือพระพุทธเจ้าจึงกราบลงแทบพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคแล้วกราบทูลขออภัยโทษที่เรียกพระองค์ด้วยวาทะว่า "ผู้มีอายุ" เมื่อพระองค์ทรงยกโทษให้ จึงขออุปสมบทในพระพุทธศาสนา แต่ไม่มีบาตรและจีวรพระผู้มีพระภาคไม่ทรงอุปสมบทให้ ท่านจึงไปเที่ยวแสวงหาบาตรและจีวร แต่ถูกแม่โคขวิดตายเสียก่อน เมื่อภิกษุทั้งหลายเข้าไปทูลถามถึงคติภพของท่าน พระองค์ตรัสว่าท่านปุกกุสาติเป็นพระอนาคามี ไปเกิดในพรหมโลกและจะนิพพานในโลกนั้น สูตร#2 ชาณุสโสณิพราหมณสูตร (สังยุตตนิกาย #19) ท่านพระอานนท์เห็นชาณุสโสณิพราหมณ์ขึ้นรถเทียมม้าขาวและตกแต่งส่วนต่างๆของรถด้วยสีขาว ออกจากกรุงสาวัตถีและมีคนชมว่ายานประเสริฐ จึงเข้าไปทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ในธรรมวินัยนี้สามารถบัญญัติยานอันประเสริฐได้หรือไม่ พระองค์ตรัสตอบว่า ได้ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 ซึ่งเรียกว่า พรหมยานบ้าง ธรรมยานบ้าง รถพิชัยสงครามบ้าง

    รอยพระตถาคต-จูฬหัตถิปโทปมสูตร และชาณุสโสณิสูตร [6528-4s]

    Play Episode Listen Later Jul 13, 2022 62:12


    สูตร #1 จูฬหัตถิปโทปมสูตร ทรงแสดงแก่ชาณุสโสณิพราหมณ์ ณ เชตวัน เรื่องรอยของพระตถาคต 4 รอย ที่ปิโลติกปริพาชกใช้เป็นเครื่องพิสูจน์เหตุที่ตนเลื่อมใสอย่างยิ่งในพระพุทธเจ้า ทรงตรัสแก่ชาณุสโสณิพราหมณ์ว่า อุปมาด้วยรอยเท้าช้างของปิโลติกปริพาชกยังไม่สมบูรณ์ จึงทรงยกอุปมาขึ้นเพื่อไม่ให้ด่วนตัดสินว่า ช้างตัวนี้ใหญ่เพียงเพราะเห็นรอยเท้า แต่ทรงเน้นให้เห็นตัวจริง รอยของพระพุทธเจ้าก็ฉันนั้น แม้ภิกษุจะได้เห็นรอยทั้ง 4 รอยนี้ ก็ไม่ด่วนตัดสินว่า “พระผู้มีพระภาคเป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ดีแล้ว พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติดี จนกว่าจะได้บรรลุอาสวักขยญาณด้วยตนเอง ฯลฯ จึงตัดสินใจดังกล่าว ตรัสจบ ชาณุสโสณิประกาศตนเป็นอุบาสก  สูตร#2 ชาณุสโสณิสูตร (อังคุตตรนิกาย #24) พราหมณ์ทูลถามเรื่องทานว่า พวกตนได้ให้ทานอุทิศส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว พวกเขาจะได้รับหรือไม่ พระองค์จึงตรัสเรื่องฐานะและอัฏฐานะของผู้จะได้รับส่วนกุศล คือผู้ไปเกิดในภูมิที่เป็นฐานะเท่านั้นจึงควรได้รับส่วนกุศล ซึ่งได้แก่ ปรทัตตูปชีวีเปรต (เปรตผู้ต้องอาศัยส่วนกุศลของผู้อื่นเป็นอยู่) ส่วนภูมิอื่นมีมนุสสภูมิ เป็นต้น เป็นภูมิที่ไม่ได้ส่วนกุศล เพราะต่างก็มีอาหารของตน ชื่อว่า อัฏฐานะ และทรงตรัสว่า อกุศลกรรมบถ 10 ประการ และกุศลกรรมบถ 10 ประการ เป็นเหตุจำแนกสัตว์ให้ไปเกิดในภูมิต่าง ๆ และทรงย้ำว่า การให้ทาน ย่อมไม่เสียผล เป็นความดีความเจริญของทายกผู้ให้แน่นอน 

    เหตุไม่สะดุ้งกลัว-ภยเภรวสูตร และชาณุสโสณิสูตร [6527-4s]

    Play Episode Listen Later Jul 6, 2022 57:13


    สูตร#1 ภยเภรวสูตร ทรงแสดงแก่ชาณุสโสณิพราหมณ์ ณ พระเชตวัน ทรงปรารภคำถามของพราหมณ์ว่า การอยู่เสนาสนะอยู่ลำบาก ทำให้สงบได้ยาก การอยู่โดดเดี่ยวก็หาความรื่นรมย์ได้ยาก ป่าทั้งหลายมักจะชักนำจิตของภิกษุผู้ไม่ได้สมาธิให้เกิดความหวาดหวั่นได้ ทรงอธิบายเหตุสะดุ้งกลัวการอยู่ในเสนาสนะป่า 16 ประการของสมณพราหมณ์พวกอื่น เปรียบเทียบกับเหตุไม่สะดุ้งกลัวการอยู่ในเสนาสนะป่าของพระองค์ และพระอริยะทั้งหลายซึ่งมีนัยตรงข้ามกัน และทรงอธิบายว่าขณะที่ยังไม่ได้ตรัสรู้ ทรงเลือกการอยู่เสนาสนะป่า และเมื่อความขลาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่ทรงอยู่ในอิริยาบถใดก็ทรงพิจารณาความขลาดกลัวให้หมดไปในอิริยาบถนั้น จะไม่ทรงเปลี่ยนอิริยาบถจนกว่าจะทรงกำจัดได้ แล้วทรงบำเพ็ญเพียรต่อไปจนได้ฌาณ 4 และวิชชา 3 แม้หลังจากตรัสรู้แล้ว ก็ยังทรงอยู่เสนาสนะป่าเป็นประจำ เพราะทรงเห็นอำนาจประโยชน์ 2 ประการ 1) เพื่อการอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน 2) เพื่อการอนุเคราะห์คนรุ่นหลังให้ถือปฏิบัติตาม เมื่อทรงอธิบายจบลง ซาณุสโสณิพราหมณ์เกิดความเลื่อมใส ประกาศตนเป็นอุบาสก  สูตร#2 ชาณุสโสณิสูตร (อังคุตรนิกาย#20) พราหมณ์เข้าเฝ้า และได้สนทนากันเรื่อง วิชชา 3 ของพวกพราหมณ์ ทรงตรัสว่า ผู้ได้วิชชา 3 ของพวกพราหมณ์เป็นอย่างหนึ่ง ผู้ได้วิชชา 3 ในอริยวินัยเป็นอย่างหนึ่ง แล้วทรงแสดงในรายละเอียด  สูตร #3 ชาณุสโสณิสูตร (สังยุตตนิกาย #16) พราหมณ์เข้าไปเฝ้าแล้วทูลถามว่า สิ่งทั้งปวงมี หรือว่าสิ่งทั้งปวงไม่มี ทรงตรัสตอบว่า ความเห็นอย่างนั้นเป็นความเห็นสุดโต่ง แล้วทรงแสดงปฏิจจสมุปบาทอันเป็นทางสายกลางแก่พราหมณ์

    ภิกษุผู้เลิศกว่าบรรดาผู้บวชด้วยศรัทธา-รัฏฐปาลสูตร [6526-4s]

    Play Episode Listen Later Jun 29, 2022 65:46


    สมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมแก่ชาวถุลลโกฏฐิตนิคม แคว้นกุรุ ซึ่งรัฏฐปาลกุลบุตร เป็นบุตรของตระกูลชั้นสูงในนิคมนั้น ได้นั่งฟังอยู่ด้วย เกิดความศรัทธาขอบวช แต่ไม่ทรงอนุญาต จะต้องไปขออนุญาตบิดามารดาก่อน เมื่อไปขอถึง 3 ครั้ง บิดามารดาไม่อนุญาต แม้ท่านจะอดอาหารประท้วง และยอมสละชีวิตก็ยังไม่อนุญาต เพื่อนได้มาช่วยอ้อนวอนขออนุญาตให้บวช บิดามารดาจึงอนุญาตให้บวชได้ เมื่อบวชแล้วไม่นานได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ต่อมาได้กลับไปเยี่ยมบิดามารดา แต่บิดาของท่านจำท่านไม่ได้จึงไม่ได้รับภัตตาหารที่บ้าน ขณะนั้นทาสหญิงกำลังจะทิ้งขนมบูด ท่านได้ขอบิณฑบาตขนมนั้น และฉันขนมบูดนั้น ทาสหญิงนั้นจำท่านได้ จึงไปบอกมารดาของท่าน บิดาจึงมานิมนต์ท่านฉันภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น จัดเตรียมอาหารอย่างปราณีต และกองเงินกองทองเอาไว้เพื่อถวายพระรัฐปาละ พร้อมให้ภรรยาเก่าของท่านแต่งตัวให้สวยงาม แต่ท่านปฏิเสธที่จะรับและให้นำไปทิ้ง ให้บิดาถวายอาหารและท่านได้แสดงธรรม จากนั้น ได้นั่งพักกลางวันที่พระราชอุทยานมิคจีระของพระเจ้าโกรัพยะ เมื่อทรงทราบว่าท่านพระรัฎฐปาละอยู่ที่นี้จึงเสด็จมาเพื่อทรงเยี่ยม และสนทนาธรรม ได้ตรัสถามถึงเรื่องความเสื่อม 4 ประการ ที่คนบางพวกประสบแล้ว จะออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ซึ่งพระรัฎฐปาละนั้นไม่มีความเสื่อมเหล่านั้นเลย อะไรจึงเป็นเหตุให้ท่านออกบวช ท่านได้ตอบว่า เพราะท่านได้ฟังธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องธัมมุทเทส 4 ประการ เกิดศรัทธาแล้วจึงออกบวช และได้แสดงธัมมุทเทส 4 แก่พระเจ้าโกรัพยะ

    ลัทธิที่ไม่ใช่การประพฤติพรหมจรรย์-สันทกสูตร [6525-4s]

    Play Episode Listen Later Jun 22, 2022 54:00


    สันทกสูตร พระอานนท์แสดงแก่สันทกปริพาชกพร้อมกับปริพาชกประมาณ 500 คน ณ ถ้ำปิลักขะ เขตกรุงโกสัมพี เกี่ยวกับการประพฤติพรหมจรรย์ ท่านพระอานนท์ได้อ้างพระดำรัสที่ทรงแสดงลัทธิที่ไม่ใช่การประพฤติพรหมจรรย์ 4 ลัทธิ และพรหมจรรย์ที่ไม่น่าไว้วางใจ 4 ประการ ซึ่งท่านผู้รู้ไม่ควรอยู่ประพฤติ เพราะจะไม่ได้รับกุศลธรรมที่ถูกต้อง และได้กล่าวถึงพรหมจรรย์ที่ควรประพฤติและมีผล คือ ฌาณ 4 วิชชา 3 และได้ตอบคำถามต่างๆของสันทกปริพาชก เมื่อแสดงธรรมจบสันทกะได้กล่าวสรรเสริญในธรรมวินัยนี้ ไม่มีการยกย่องธรรมของตน ไม่มีการติเตียนธรรมของผู้อื่น แสดงธรรมมีเหตุผล แต่มีผู้กำจัดกิเลสและกองทุกข์ได้มาก ส่วนพวกอาชีวกยกย่องแต่ตนและติเตียนคนอื่นกลับบัญญัติว่ามีผู้กำจัดกิเลสและกองทุกข์ได้เพียง 3 คน จากนั้นได้อนุญาตให้บริษัทของตนประพฤติพรหมจรรย์ตามพระผู้มีพระภาค 

    การทำจิตให้ว่าง-มหาสุญญตสูตร และจูฬสุญญตสูตร [6524-4s]

    Play Episode Listen Later Jun 15, 2022 58:43


    สูตร#1 จูฬสุญญตสูตร ทรงแสดงแก่ท่านพระอานนท์ ณ บุพพาราม ทรงปรารภคำทูลถามของท่านพระอานนท์ เรื่องที่พระองค์ทรงอยู่ด้วยสุญญตาวิหารธรรมโดยมาก และได้ทรงอธิบายวิธีปฏิบัติสุญญตาวิหารธรรมไว้ถึง 7 ขั้น จากต่ำไปสูง และทรงสรุปว่า ในอดีต อนาคต และปัจจุบัน สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเข้าสุญญตาผลสมาบัติก็จะเข้าสุญญตาอันบริสุทธิ์ยอดเยี่ยมนี้เท่านั้น สูตร#2 มหาสุญญตสูตร ทรงแสดงแก่ท่านพระอานนท์และภิกษุทั้งหลาย ณ นิโครธาราม ทรงปรารภการอยู่คลุกคลีกันด้วยหมู่คณะของภิกษุหลายรูปในที่นั้น ซึ่งเป็นช่วงจีวรกาล ที่ภิกษุมาร่วมกันทำจีวร ทรงทอดพระเนตรเห็นเสนาสนะจำนวนมาก ทรงตำหนิว่าการที่ภิกษุพอใจในการคลุกคลีด้วยหมู่คณะไม่ดีเลย ภิกษุผู้หลีกออกจากหมู่คณะไปอยู่ผู้เดียวเท่านั้น จึงจะได้รับความสุขจากความสงัด จากความสงบ จากการตรัสรู้ และจะบรรลุเจโตวิมุตติได้ และพระองค์ก็อยู่ด้วยสุญญตาวิหารธรรมนั้น ได้ทรงอธิบายเหตุผลโดยละเอียด วิธีฝึก และวิธีอยู่ด้วยสุญญตาวิหารธรรม ซึ่งในการมีสัมปชัญญะ และน้อมจิตไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เป็นขั้นตอนแรกในการทำจิตให้ถึงความว่างได้ และทรงเน้นเรื่องการปฏิบัติกับพระองค์เหมือนกับมิตร อย่าปฏิบัติกับพระองค์เหมือนศัตรู

    ฐานะที่ใครๆ ไม่พึงได้-ธรรมเจติยสูตรและฐานสูตร [6523-4s]

    Play Episode Listen Later Jun 8, 2022 57:54


    สูตร#1 ธรรมเจติยสูตร ว่าด้วยธรรมเจดีย์ (พระวาจาเคารพธรรม) เป็นเรื่องราวของพระเจ้าปเสนทิโกศลที่ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และกล่าวสรรเสริญพระธรรมวินัยนี้ เพราะทรงเห็นอำนาจประโยชน์ที่ประกอบขึ้นเพื่อเป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ จึงได้กระทำการเคารพนอบน้อมเป็นอย่างยิ่งต่อสรีระของพระพุทธเจ้า และแสดงอาการฉันทมิตร สูตร#2 ฐานสูตร ว่าด้วยฐานะ 5 ประการที่ใครๆ ไม่พึงได้ ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ปรารภเรื่องราวของพระเจ้าปเสนทิโกศลที่ได้สูญเสียพระนางมัลลิกา ผู้เป็นที่รักยิ่งไป อันเป็นเหตุให้นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก พระพุทธเจ้าได้ตรัสเตือนสติ และสอนวิธีในการวางจิตใจเมื่อต้องสูญเสียสิ่งที่เป็นที่รักไป

    อุบายกำจัดอาสวะ-สัพพาสวสังวรสูตร และ ธรรมทายาทสูตร [6522-4s]

    Play Episode Listen Later Jun 1, 2022 57:07


    สูตร#1 สัพพาสวสังวรสูตร พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ถึงความสิ้นอาสวะทั้งปวงจะมีได้ เฉพาะผู้รู้ ผู้เห็นเท่านั้น ด้วยการพิจารณาโดยแยบคาย ทรงจำแนกอาสวะออกเป็น 7 ชนิด ตามเหตุเกิดและอุบายวิธีที่จะละให้หมดสิ้นไปได้ คือ อาสวะที่ต้องละด้วย 1. ทัสสนะ (ความเห็น) 2. การสังวร 3. การใช้สอย 4. การอดกลั้น 5. การเว้น 6. การบรรเทา 7. การเจริญ อาสวะเหล่านั้นเมื่อภิกษุละได้แล้วด้วยอุบายนั้นๆ อาสวะนั้นละได้เด็ดขาด สูตร#2 ธรรมทายาทสูตร พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงปรารภลาภสักการะเป็นอันมากที่เกิดขึ้นแก่พระองค์ และภิกษุสงฆ์ในขณะนั้น จะเป็นเหตุให้ภิกษุบางพวกยึดติดในลาภสักการะเหล่านั้น จึงทรงสอนให้ภิกษุเป็นธรรมทายาทของพระองค์ ไม่ให้เป็นอามิสทายาท เพราะถ้าเป็นธรรมทายาท วิญญูชนจะยกย่องสรรเสริญ จากนั้นท่านพระสารีบุตรได้แสดงธรรมต่อถึงหนทางในการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เกิดความสงัดขึ้นแก่ตน และอริยมรรคมีองค์ 8 สูตร#3 มฆเทวสูตร พระพุทธเจ้าทรงเล่าเรื่องของพระองค์เองที่เกิดมาในชาติก่อน เป็นสมัยที่พระองค์เกิดเป็นพระเจ้ามฆเทวะ ที่มีข้อปฏิบัติอันดี ที่ได้มอบเป็นมรดกไว้ให้รุ่นลูกหลานได้นำไปปฏิบัติ ที่เรียกว่าเป็นกัลยาณวัตร และได้เปรียบเทียบถึงวัตรอันงามที่ท่านทิ้งไว้เป็นมรดกในครั้งนี้คือ อริยมรรคมีองค์ 8

    ธรรมที่ควรเสพและไม่ควรเสพ-เสวิตัพพาเสวิตัพพสูตร และนาถกรณสูตร [6521-4s]

    Play Episode Listen Later May 25, 2022 65:36


    สูตร#1 เสวิตัพพาเสวิตัพพสูตร พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ปรารภธรรมที่ควรเสพและที่ไม่ควรเสพ โดยพระพุทธเจ้าทรงยกหัวข้อขึ้น และท่านพระสารีบุตรเป็นอรรถกถาจารย์อธิบายแจกแจงในหัวข้อนั้น ตอนที่ 1 ทรงยกหลักธรรม 7 ประการที่ควรเสพและไม่ควรเสพ ที่ควรเสพหมายถึงเสพแล้วทำให้กุศลธรรมเจริญขึ้น อกุศลธรรมเสื่อมไป ที่ไม่ควรเสพ มีนัยตรงข้ามกัน ตอนที่ 2 ทรงยกหัวข้ออายตนะ 12 ประการ ที่ควรเสพและไม่ควรเสพ ตอนที่ 3 ทรงยกหัวข้อ จีวร บิณฑบาตร เสนาสนะ หมู่บ้าน นิคม นคร ชนบท และบุคคล รวม 8 ประการ ที่ควรเสพและไม่ควรเสพ ซึ่งธรรมบรรยายที่ทรงแสดงมานี้ ถ้ากษัตริย์ พราหมณ์ แพทย์ ศูทร ตลอดจนเทวดา มาร พรหม และมนุษย์ทั้งหลายรู้ทั่วถึงอรรถแห่งธรรมบรรยายนี้ก็จะเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขตลอดกาลนาน สูตร#2 นาถกรณสูตรที่ 1 (ปฐมนาถสูตร) และสูตรที่ 2 (ทุติยนาถสูตร) ต่างก็ว่าด้วยนาถกรณธรรม คือ ธรรมอันกระทำที่พึ่ง คุณธรรมที่ทำให้ตนเป็นที่พึ่งของตนได้ 10 ประการ ทั้ง 2 พระสูตรต่างกันที่ทรงแสดงขยายรายละเอียดของแต่ละหัวข้อธรรมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

    มีธรรมเป็นที่พึ่ง-โคปกโมคคัลลานสูตร และคณกโมคคัลลานสูตร [6520-4s}

    Play Episode Listen Later May 18, 2022 56:29


    สูตร#1 โคปกโมคคัลลานสูตร ท่านพระอานนท์แสดงแก่โคปกโมคคัลลานพราหมณ์ที่ทำหน้าที่ดูแลงานเกี่ยวกับปศุสัตว์ของพระเจ้าพิมพิสาร ในกรุงราชคฤห์ หลังพุทธปรินิพพานไม่นาน เพื่อตอบปัญหาเรื่องภิกษุเพื่อเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า เป็นการถามด้วยความห่วงใย ซึ่งต่อมามีวัสสการพราหมณ์ มหาอำมาตย์แห่งแคว้นมคธมาสมทบและได้ถามถึงเรื่องฌาณ ซึ่งท่านพระอานนท์ได้ตอบให้เข้าใจชัดเจนตามลำดับว่า พระผู้มีพระภาคทรงสอนให้ภิกษุนับถือธรรมเท่านั้นเป็นที่พึ่ง และถ้าบุคคลใดมีธรรม 10 ประการนี้ สงฆ์ก็สักการะ เคารพ นับถือ บูชาบุคคลนั้น เรื่องฌาณกล่าวตอบว่า ฌาณที่ไม่ทรงสรรเสริญ ได้แก่ ฌาณที่ประกอบด้วยนิวรณ์ 5 ส่วนฌาณที่ทรงสรรเสริญ ได้แก่ ฌาณที่สงัดจากกามและอกุศลธรรมทั้งหลาย พราหมณ์ทั้งสองต่างชื่นชมยินดีคำตอบของท่านพระอานนท์ สูตร#2 คณกโมคคัลลานสูตร พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่คณกโมคคัลลานพราหมณ์ ณ เชตวัน โดยตั้งประเด็นการสนทนาถึงการฝึก การปฏิบัติ ที่เป็นไปตามลำดับขั้น ซึ่งในศาสนาของพระองค์ก็มีการฝึกปฏิบัติไปตามลำดับขั้น เมื่อคณกโมคคัลลานพราหมณ์ฟังจบ ได้ประกาศตนเป็นอุบาสก ผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะไปตลอดชีวิต

    ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน [6519-4s]

    Play Episode Listen Later May 11, 2022 68:42


    พระสูตรว่าด้วยการประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ที่ได้ทรงตรัสเล่าด้วยพระองค์เอง “ภิกษุทั้งหลาย ถ้าธรรมชาติ 3 อย่างนี้ ไม่พึงมีอยู่ในโลกแล้วไซร้ ตถาคตก็ไม่ต้องเกิดขึ้นในโลก เป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธะ และธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว ก็ไม่ต้องรุ่งเรืองไปในโลก ธรรมชาติ 3 อย่าง นั้นคือ ความเกิด ความแก่ และความตาย”

    คนจะดีหรือชั่วมิใช่เพราะตระกูล-เอสุการีสูตร และมธุรสูตร [6518-4s]

    Play Episode Listen Later May 4, 2022 58:05


    สุตร#1 เอสุการีสูตร ทรงแสดงแก่เอสุการีพราหมณ์ ณ เชตวัน เอสุการีทูลถามข้อบัญญัติเกี่ยวกับการบำเรอ 4 ประการของพวกพราหมณ์ และเกี่ยวกับทรัพย์ 4 ประการของพวกพราหมณ์ ทรงตรัสว่าเป็นการบัญญัติเอาเองโดยที่ชาวโลกไม่ยอมรับ เหมือนการบังคับคนยากจนให้กินเนื้ออาบยาพิษแล้วบังคับให้จ่ายค่าเนื้อ ทรงอธิบายต่อว่า บุคคลจะเป็นผู้ประเสริฐหรือเลวทรามไม่ใช่เพราะเกิดในตระกูลสูง ผิวพรรณดี มีโภคะมาก แต่อยู่ที่ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา ในเรื่องของทรัพย์ทรงบัญญัติว่า ทรัพย์ของบุคคลคือ โลกุตตรธรรมอันเป็นอริยะ เพราะไม่ว่าบุคคลจะเกิดในตระกูลกษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร ก็สามารถออกบวช เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ เป็นต้น ได้เหมือนกัน เจริญเมตตาจิต อาบน้ำลอยละอองธุลีได้เหมือนกัน เมื่อเอาไม้มาสีให้เกิดเป็นไฟก็เป็นไฟเหมือนกัน เมื่อทรงแสดงจบเอสุการีพราหมณ์ได้แสดงตนเป็นอุบาสกตลอดชีวิตสูตร#2 มธุรสูตร ท่านพระมหากัจจานะแสดงแก่พระเจ้ามธุระ อวันตีบุตร ณ ป่าคุนธาวัน ปรารภคำถามพระเจ้ามธุระ ที่ได้ตรัสถามเกี่ยวกับเรื่องการถือชั้นวรรณะของพวกพราหมณ์ ที่เชื่อว่าพวกพราหมณ์เท่านั้นที่เกิดจากโอษฐ์ เป็นบุตรและเป็นทายาทของพระพรหม จึงประเสริฐกว่าคนวรรณะอื่นๆ ซึ่งท่านพระมหากัจจานะตอบว่า เป็นเรื่องที่พวกพราหมณ์แต่งขึ้นเพื่อโฆษณาตัวเองว่าประเสริฐกว่าบริสุทธิ์กว่าวรรณอื่น และอธิบายให้เหตุผลตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนาว่า คนจะดีหรือเลวมิใช่เพราะชาติวรรณะแต่เพราะการกระทำของตนเอง เมื่อแสดงธรรมจบ พระเจ้ามธุระแสดงตนเป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต

    ความต่างกันแห่งสมณพราหมณ์ - สังคารวสูตร [6517-4s]

    Play Episode Listen Later Apr 27, 2022 57:03


    สังคารวสูตร ทรงแสดงแก่สังคารวมานพขณะประทับอยู่ในสวนมะม่วงของพราหมณ์ชาวบ้านโตเทยยะ ปรารภนางพราหมณีชื่อธนัญชานีเป็นผู้เลื่อมใสอย่างยิ่งในพระรัตนตรัย หากนางทำอะไรพลาดพลั้งก็จะเปล่ง นะโม ฯ 3 ครั้ง ครั้งหนึ่งสังคารวมาณพซึ่งเป็นผู้รู้จบไตรเพทได้ยินเข้า จึงว่ากล่าวนางพราหมณีว่า ไม่เป็นมงคลที่ไปกล่าวสรรเสริญสมณะหัวโล้น นางจึงกล่าวว่าถ้าสังคารวมาณพได้รู้จักศีลและพระปัญญาของพระองค์ก็จะไม่กล่าวเช่นนี้ ต่อมาสังคารวมาณพทราบว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาจึงได้เข้าไปสนทนาธรรม ได้ทูลถามว่า พระองค์จัดอยู่ในสมณพราหมณ์จำพวกไหน ทรงตรัสถึงความแตกต่างของสมณะและตอบว่าทรงอยู่ในพวกที่ 3 คือพวกปฏิญญาเพราะรู้ธรรมด้วยปัญญาในธรรมที่ไม่เคยฟังมาก่อน และทรงเล่าประวัติของพระองค์ จนถึงทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ และสังคารวมานพได้ทูลถามเรื่องเทวดาว่า มีจริงหรือไม่ ไม่เข้าใจว่าที่ตรัสถึงเทวดานั้นเพราะทรงทราบหรือเพราะคล่องปาก ตรัสตอบว่า ข้อที่ว่าเทวดามีนั้น รู้ได้โดยฐานะ ผู้รู้เท่านั้นที่จะรู้ได้ เพราะเรื่องเทวดาเป็นคำที่ชาวโลกสมมติกันด้วยศัพท์ชั้นสูงเมื่อตรัสจบ มาณพได้กราบทูลชมเชย และได้แสดงตนเป็นอุบสกจนตลอดชีวิต

    การตามรู้ซึ่งความจริง - จังกีสูตร [6516-4s]

    Play Episode Listen Later Apr 20, 2022 57:33


    ❝จังกีสูตร❞ เป็นการสนทนาธรรมระหว่างพระพุทธเจ้ากับกาปทิกมานพ มาพร้อมกับจังกีพราหมณ์พร้อมด้วยคณะ ณ ป่าไม้สาละชื่อเทววัน เป็นเด็กหนุ่มที่จังกีพราหมณ์ยกย่องว่า เป็นผู้มีความรู้คัมภีร์ต่างๆอย่างแตกฉาน เป็นพหูสูตรสามารถจะเจรจาโต้ตอบกับพระพุทธเจ้าได้ มานพได้ทูลถามว่าทรงคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับบทมนตร์โบราณของพวกพราหมณ์ ปฏิบัติอย่างไรจึงจะเป็นการรักษา เป็นการรู้ เป็นการบรรลุสัจจะ และธรรมที่ช่วยให้บรรลุสัจจะเป็นอย่างไร ทรงตรัสตอบแต่ละข้อตามลำดับ กาปทิกมานพเกิดความเลื่อมใสแสดงตนเป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต

    ธรรมของสัตบุรุษ (คนดี) - จูฬปุณณมสูตร สัปปุริสสูตร และ ธัมมัญญสูตร [6515-4s]

    Play Episode Listen Later Apr 13, 2022 57:39


    สูตร#1 จูฬปุณณมสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ บุพพารา ขณะประทับนั่งกลางแจ้งในวันอุโบสถขึ้น 15 ค่ำ ทรงเห็นภิกษุนิ่งเงียบ จึงทรงตรัสถามปัญหา เพื่อทรงแสดงธรรมให้ฟัง ทรงแสดงธรรมเปรียบเทียบระหว่างสัตบุรุษและอสัตบุรุษ  สูตร#2 สัปปุริสสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงแสดงธรรม 26 ประการของอสัตบุรุษและสัตบุรุษ ซึ่งเป็นธรรมข้อเดียวกันแต่แตกต่างกันที่การพิจารณา สูตร#3 วาจาของสัตบุรุษ, อสัตบุรุษ และวาจาของสะใภ้ใหม่ เพื่อให้ภิกษุมีความละอาย มีความเกรงกลัวในพุทธบริษัททั้ง 4 เหมือนหญิงสะใภ้เมื่อแรกเข้าตะกูลสามี  สูตร#4 ธัมมัญญสูตร ว่าด้วยผู้รู้ธรรม ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้ที่ประกอบด้วยธรรม 7 ประการนี้ เป็นผู้ควรแก่ของที่เขานำมาถวาย ฯลฯ และเป็นนาบุญอันยอดเยี่ยมของโลก

    การออกบวชที่ชอบธรรม - โฆฏมุขสูตร และ ฆฏิการสูตร [6514-4s]

    Play Episode Listen Later Apr 6, 2022 60:39


    สูตร#1 โฆฏมุขสูตร เป็นเหตุการณ์ที่เกิดหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน ท่านพระอุเทนะแสดงแก่โฆฏมุขะพราหมณ์ ซึ่งเข้าไปสนทนาธรรม ณ เขมิยอัมพวัน ปรารภเหตุที่โฆฏมุขะพราหมณ์ได้แสดงความเห็นของตนว่า การบวชอันชอบธรรมย่อมไม่มี ท่านพระอุเทนะได้แสดงบุคคล 4 จำพวกและบริษัท 2 จำพวกให้โฆฏมุขะพราหมณ์ฟัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการบวชมีผลเพราะผู้ไม่ทำตนและผู้อื่นให้เดือดร้อนมีมากในนักบวช โฆฏมุขะพราหมณ์ได้ท่านพระอุเทนะเป็นกัลยาณมิตรให้เกิดความเลื่อมใส ถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์เป็นสรณะ และได้สร้างโรงฉันถวายแก่สงฆ์เมืองปาตลีบุตร สูตร#2 ฆฏิการสูตร เป็นสมัยที่พระพุทธเจ้าเกิดเป็นมานพชื่อ โชติปาละซึ่งเป็นสมัยของพระกัสสปพุทธเจ้า มีกัลยาณมิตรเป็นช่างปั้นหม้อชื่อ ฆฏิการะที่ได้ชักชวนไปฟังธรรม ซึ่งตอนแรกนั้นโชติปาละไม่ยอมไป ต้องชวนถึง 3 ครั้ง และเมื่อฟังธรรมแล้วโชติปาละมานพได้ออกบวช ส่วนช่างหม้อจำเป็นต้องเลี้ยงมารดาผู้เสียจักษุและเป็นคนชราจึงมิได้ออกบวช.

    อุปาทานขันธ์ 5 - มหาปุณณมสูตร และมหาหัตถิปโทปมสูตร [6513-4s]

    Play Episode Listen Later Mar 30, 2022 66:54


    สูตร#1 มหาปุณณมสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ บุพพาราม ในวันอุโบสถ ขึ้น 15 ค่ำ ทรงประทานโอกาสให้ภิกษุถามปัญหาข้อธรรม ภิกษุได้ถามเกี่ยวกับอุปาทานขันธ์ 5 แล้วทรงตรัสตอบอย่างย่อๆ ทำให้ภิกษุที่ถามพอใจในคำตอบ แต่มีภิกษุรูปหนึ่งยังสงสัยในเรื่องขันธ์ 5 เป็นอนัตตา เพราะเหตุนั้นกรรมที่ถูกอนัตตากระทำ จะถูกต้องอัตตาได้อย่างไร แต่ไม่กล้าถาม พระพุทธเจ้าทรงทราบความคิดของภิกษุนั้นด้วยใจ ทรงตรัสว่าเป็นโมฆะบุรุษ จึงทรงสอบถามความเข้าใจในธรรมนั้นกับภิกษุทั้งหลายอีกครั้งหนึ่ง เมื่อตรัสจบมีภิกษุบรรลุเป็นพระอรหันต์จำนวน 60 รูป สูตร#2 มหาหัตถิปโทปมสูตร อุปมาว่าด้วยรอยเท้าช้างสูตรใหญ่ ท่านพระสารีบุตรแสดงแก่ภิกษุ ขณะพักอยู่เชตวัน ท่านได้อธิบายอริยสัจ 4 โดยเอานัยยะของธาตุทั้ง 4 มาเป็นตัวแปร แต่อธิบายรายละเอียดเฉพาะทุกขอริยสัจเท่านั้น และในตอนท้ายพระสูตรมีเรื่องของปฏิจจสมุปบาท อธิบายเพื่อให้ข้อธรรมทั้งหมดรวมลงในอริยสัจ 4 เหมือนรอยเท้าของสัตว์ทั้งหลาย รวมลงในรอยเท้าช้าง

    อาบสะอาดในภายใน - อุปักกิเลสสูตร และวัตถูปมสูตร [6512-4s]

    Play Episode Listen Later Mar 23, 2022 58:48


    สูตร#1 อุปักกิเลสสูตร เกิดขึ้นสืบเนื่องจากพวกภิกษุโกสัมพีเกิดความบาดหมางทะเลาะวิวาท ทรงห้ามแต่ไม่เชื่อฟัง ได้ทรงตรัสพระคาถาเหตุการณ์นั้น แล้วทรงเสด็จไปยังบ้านพาลกโลณการคาม ท่านพระภคุได้รับเสด็จ แล้วเสด็จต่อไปยังป่าปาจีนวังสทายวัน ซึ่งท่านพระอนุรุทธะ ท่านพระนันทิยะ และท่านพระกิมพิละพักอยู่ที่นั่น ซึ่งอยู่กันด้วยความสามัคคี ได้ทรงสนทนาและตรัสถามถึงญาณทัสสนะของพระเถระทั้ง 3 รูป ที่ได้ทูลว่า สามารถจำแสงสว่างและเห็นรูปได้แต่ไม่นาน จึงตรัสเล่าการปฏิบัติของพระองค์ ซึ่งทรงพบอุปสรรคเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ทรงพิจารณาจนเห็นอุปกิเลส 11 ประการ ที่เป็นเหตุให้เป็นเช่นนั้น และเมื่อทรงละอุปกิเลสได้ จึงทรงเจริญสมาธิ 3 ประการได้ ญาณทัสสนะจึงเกิดขึ้นแก่พระองค์ สูตร#2 วัตถูปมสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ เชตวัน ซึ่งมี สุนทริกภารทวาชปริพาชก นั่งฟังอยู่ด้วย และทรงทราบว่าปริพาชกนี้เชื่อถือลัทธินหานสุทธิ คือ เชื่อว่าความบริสุทธิ์มีได้เพราะการอาบน้ำลอยบาป จึงทรงแสดงธรรมให้เป็นไปตามอัธยาศัยของปริพาชกนี้ ซึ่งทรงตรัสสอนปริพาชกนี้ว่า คนที่ทำกรรมชั่วไว้แล้ว ถึงจะไปอาบน้ำที่ไหนก็หาทำให้เกิดความสะอาดบริสุทธิ์ขึ้นมาได้ไม่ แล้วตรัสสอนให้อาบน้ำในศาสนาของพระองค์ เมื่อตรัสจบ สุนทริกภารทวาชปริพาชกประกาศตนเป็นพุทธมามกะ ทูลขอบรรพชาอุปสมบทและได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในกาลต่อมา

    ธรรมเพื่อความสามัคคี - โกสัมพิยสูตร และสามคามสูตร [6511-4s]

    Play Episode Listen Later Mar 16, 2022 57:07


    สูตร#1 โกสัมพิยสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ โฆสิตาราม เขตกรุงโกสัมพี ปรารภภิกษุชาวเมืองโกสัมพีผู้แตกสามัคคีกัน รับสั่งให้มาเฝ้าแล้วทรงซักถาม และทรงแนะนำให้ทำ พูด คิดต่อกันด้วยเมตตาจิต ทรงอธิบายสารณียธรรม 6 ประการ ที่ทำให้ระลึกถึงกัน เป็นที่รักเป็นที่เคารพ เป็นไปเพื่อสงเคราะห์ ไม่วิวาทกันพื่อความสามัคคี เพื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และข้อที่เป็นยอด คือ ทิฏฐิความเห็นอันประเส เริฐ ได้ทรงอธิบายในรายละเอียดของอริยสาวกผู้ประกอบด้วยองค์ 7 อย่าง ย่อมประกอบด้วยโสดาปัตติผล สูตร#2 สามคามสูตร ทรงแสดงแก่ท่านพระอานนท์ และท่านสมณุทเทสจุนทะ ณ หมู่บ้านสามคามของชาวศากยะ แคว้นสักกะ ทรงปรารภคำกราบทูลของท่านพระอานนท์ ตามที่ท่านพระจุนทะเล่าให้ฟัง เรื่องการแตกสามัคคีถึงขั้นวิวาทกันของพวกนิครนถ์ หลังจากนิครนถ์นาฏบุตรดับขันธ์ไปไม่นาน เพราะพระธรรมวินัยที่นิครนถ์นาฏบุตรกล่าวไว้ไม่ดี ไม่เป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ได้ ทำให้ท่านพระอานนท์ห่วงใยว่า หลังพุทธปรินิพพานอาจมีบุคคลอาศัยพระผู้มีพระภาคก่อการวิวาทขึ้นในสงฆ์ จึงทรงตรัสอธิบายถึงมูลเหตุแห่งการวิวาท 6 ประการ อธิกรณ์ 4 ประการ วิธีระงับอธิกรณ์ 7 ประการ และธรรมสำหรับป้องกันมิให้เกิดอธิกรณ์ (สารณียธรรม 6 ประการ) โดยละเอียด

    บุคคลชื่อ “ปุณณะ”-ปุณโณวาทสูตร กุกกุรวติสูตร และรถวีนีตสูตร [6510-4s]

    Play Episode Listen Later Mar 9, 2022 62:57


    สูตร#1 ปุณโณวาทสูตร ณ พระเชตวัน ท่านพระปุณณะต้องการหลีกออกไปอยู่ผู้เดียว จึงทูลขอให้แสดงโอวาทโดยย่อ ทรงแสดงว่า ผู้เพลิดเพลินในอายตนะภายนอก 6 ที่พึงรู้แจ้งทางอายตนะภายใน 6 ย่อมเกิดทุกข์ ผู้ไม่เพลิดเพลินจึงจะไม่เกิดทุกข์ ท่านพระปุณณะจะไปอยู่ที่สุนาปรันตชนบท จึงทรงตรัสว่า ชาวสุนาปรันตชนบทดุร้าย หยาบคาย ถ้าถูกด่าบริภาษหรือถูกทำร้ายจะทำอย่างไร ซึ่งคำตอบของท่านพระปุณณะนั้น พระพุทธเจ้าตรัสชื่นชมว่า พระปุณณะมีความข่มใจและความสงบใจ สามารถที่จะอยู่ได้ ซึ่งในระหว่างพรรษาที่ท่านพระปุณณะอยู่ที่สุนาปรันตชนบท ชาวบ้านได้มาแสดงตนเป็นอุบาสกอุบาสิกาจำนวนมาก และท่านได้บรรลุวิชชา 3 และต่อมาได้ปรินิพพาน สูตร #2 กุกกุรวติกสูตร ทรงแสดงแก่นายปุณณะ บุตรชาวโกลิยะที่ประพฤติเลียนแบบโค และชีเปลือยชื่อ เสนิยะ ผู้ประพฤติเลียนแบบสุนัข เพราะเข้าใจว่าการประพฤติเช่นนี้จะทำพ้นจากการที่จะไปเกิดเป็นโคหรือเป็นสุนัข ทั้งสองได้เข้าไปถามพระพุทธเจ้าว่า คติภพของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ทรงตรัสว่า การประพฤติวัตรเลียนแบบโคและสุนัข เป็นมิจฉาทิฏฐิ เมื่อตายไปจะมีผล 2 อย่างคือ เกิดในนรก และเกิดในสัตว์เดรัจฉาน จึงชทูลขอให้ทรงแสดงธรรมที่จะทำให้ละการประพฤติเลียนแบบนั้นได้ ทรงแสดงกรรม 4 ประการให้ฟังโดยละเอียดจนจบ นายปุณณะได้แสดงตนเป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยตลอดชีวิต ส่วนชีเปลือยเสนิยะ ได้ออกบวชและเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง สูตร#3 รถวีนีตสูตร ท่านพระปุณณมันตานีบุตรแสดงแก่ท่านพระสารีบุตร โดยปรารภคำถามของท่านพระสารีบุตร ว่า ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อวิสุทธิข้อใด ท่านกล่าวว่าท่านประพฤติเพื่ออนุปาทาปรินิพพาน(นิพพาน) แล้วยกอุปมาเปรียบเทียบพระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จจากพระราชวังในกรุงสาวัตถีไปเมืองสาเกตด้วยราชรถเจ็ดผลัดแต่ละผลัดมีเป้าหมาย ข้อนี้ฉันใด การจะบรรลุอนุปาทาปรินิพพานก็ใช้วิสุทธิทั้ง 7 ประการเป็นเป้าหมาย ฉันนั้น เมื่อแสดงจบพระเถระทั้ง 2 รูป กล่าวสรรเสริญคุณของกันและกัน   Compose

    กิเลสเพียงดังเนิน-อนังคณสูตร และอากังเขยยสูตร [6509-4s]

    Play Episode Listen Later Mar 2, 2022 53:48


    สูตร#1 อนังคณสูตร เป็นการสนทนาธรรมระหว่างท่านพระสารีบุตรกับท่านพระมหาโมคคัลลานะ โดยท่านพระมหาโมคคัลลานะตั้งคำถาม อะไรเป็นปัจจัยให้บุคคลผู้มีกิเลสเพียงดังเนินเหมือนกัน แต่แตกต่างกัน และให้บุคคลผู้ไม่มีกิเลสเพียงดังเนินเหมือนกัน แต่แตกต่างกัน ท่านพระสารีบุตรได้อธิบายขยายความ โดยยกบุคคล 4 ประเภทที่ปรากฏในโลกนี้ และอธิบายคำว่า กิเลสเพียงดังเนินนั้น เป็นชื่อของอิจฉาวจรที่เป็นบาปอกุศล โดยยกอุปมาอุปไมยเกี่ยวกับภาชนะสำริดที่ขัดสีเงางาม แต่ถ้าภายในนั้นบรรจุด้วยซากศพสิ่งของเน่าเปื่อยก็จะไม่งดงาม เปรียบเทียบให้เห็นส่วนต่างกับกิเลสในภายในที่เป็นดังเนิน ถ้ายังมีอยู่ในบุคคลใดแล้ว จะทำให้การประพฤติปฏิบัตินั้นไม่เจริญงอกงามขึ้นมา สูตร#2 อากังเขยยสูตร พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ทรงยกความหวัง 17 ประการ ซึ่งเป็นเรื่องที่คนทั่วไปหวังจะได้ มาตั้งเป็นจุดเริ่มแห่งการพัฒนาทางจิตของผู้หวัง ซึ่งความสมหวังไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ แต่ผู้หวังต้องลงมือปฏิบัติ โดยเริ่มจากการรักษา กาย วาจา ใจ อยู่หลีกเร้น มีศีลสมบูรณ์ หมั่นปฏิบัติธรรมที่ทำให้จิตสงบ หมั่นเจริญฌาณ และวิปัสสนากัมมัฏฐาน ซึ่งเป็นการพัฒนาทางจิต ทำปัญญาให้เกิดขึ้นได้

    ปัญญาเพียงดั่งศาสตรา - กกจูปมสูตร และวัมมิกสูตร [6508-4s]

    Play Episode Listen Later Feb 23, 2022 59:40


    สูตร#1 กกจูปมสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ เชตวัน ทรงปรารภความประพฤติของพระโมลิยผัคคุนะที่มักโกรธ และก่ออธิกรณ์ขึ้น เมื่อมีภิกษุบางรูปตำหนิภิกษุณี หรือตำหนิท่าน จึงทรงรับสั่งให้มาเฝ้า และทรงตรัสสอน ให้ละความโกรธให้เป็นผู้มีเมตตาจิต ไม่มีโทสะ และให้เป็นคนว่าง่าย ทรงยกกรณีนี้ตรัสสอนภิกษุทั้งหลาย และยกอุปมาขึ้นหลายประการ คือ ทรงตรัสเรื่องประโยชน์ของการฉันอาหารมื้อเดียว ตรัสเล่าเรื่องนางเวเทหิกา ที่บันดาลโทสะ ทรงสรุปว่า จะรู้ว่าภิกษุใดสงบเสงี่ยมหรือไม่ ก็ต่อเมื่อมีถ้อยคำที่ไม่น่าพอใจมากระทบ ทรงแนะนำอุบายระงับความโกรธ และโอวาทอุปมาด้วยเลื่อย ที่เมื่อโจรใช้เลื่อยตัดอวัยวะน้อยใหญ่แล้ว ให้อดกลั้น ไม่โกรธ แต่กลับมีเมตตาจิตต่อผู้นั้นได้ สูตร#2 วัมมิกสูตร ว่าด้วย ปริศนาจอมปลวก ทรงแสดงแก่พระกุมารกัสสปะ ณ เชตวัน ปรารภปัญหา 15 ข้อของเทวดา เนื่องด้วยเทวดาองค์หนึ่งเข้าไปหาท่านพระกุมารกัสสปะที่ป่าอันธวันเพื่อถามปริศนาธรรม 15 ข้อ และขอให้ท่านพระกุมารกัสสปะทูลถามปัญหา 15 ข้อนี้กับพระผู้มีพระภาค ซึ่งทรงตอบว่า จอมปลวก ได้แก่ กายของมนุษย์ พราหมณ์ที่สั่งให้ขุด คือ พระพุทธเจ้า สุเมธะ คือ ชื่อของพระเสขะ ศาสตราที่ขุด คือ ปัญญา เป็นต้น

    เรื่องที่ทรงพยากรณ์ - นฬกปานสูตร และปุตตมังสสูตร [6507-4s]

    Play Episode Listen Later Feb 16, 2022 56:47


    สูตร#1 นฬกปานสูตร พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ หมู่บ้านนฬกปานะ ทรงปรารภกุลบุตรผู้มีชื่อเสียงจำนวนมากที่บวชด้วยศรัทธา ทรงตรัสถามกุลบุตรถึงความยินดีในพรหมจรรย์ และการออกบวชเพื่อกระทำที่สุดแห่งทุกข์ และตรัสถึงหน้าที่ที่ผู้บวชใหม่จะต้องประพฤติปฏิบัติ และได้ทรงพยากรณ์ถึงการบรรลุธรรมของเหล่าภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา จุดประสงค์เพื่อให้คนที่ได้ยินได้ฟังถึงบุคคลที่เขารู้จัก เคยร่วมพูดคุย คบหาสมาคม จะสามารถรู้ถึงศรัทธา ศีล สุตตะ จาคะ และปัญญาของบุคคลต่างๆ เหล่านั้น ทำให้น้อมจิตไปเพื่อศรัทธา เป็นต้น ทำให้มีความอยู่อย่างผาสุกได้ สูตร#2 ปุตตมังสสูตร พระพุทธเจ้าทรงแสดงอาหาร 4 อย่าง เพื่อความดำรงอยู่ของสัตว์โลกที่เกิดมาแล้ว (ภูตสัตว์) หรือเพื่ออนุเคราะห์แก่เหล่าสัตว์ ผู้แสวงหาที่เกิด (สัมภเวสีสัตว์) และทรงยกอุปมาโดยลักษณะอาหาร 4 เพื่อให้อริยสาวกกำหนดรู้ได้ ราคะซึ่งเกิดจากกามคุณ 5 เวทนา 3 ประการ ตัณหา 3 ประการ และ นามรูป จะกำหนดรู้ได้ด้วย เมื่อกำหนดรู้ได้แล้วจึงเป็นเหตุให้ไม่กลับมาสู่โลกนี้อีก

    ปัญหาที่ไม่ทรงพยากรณ์ - มาลุงกยสูตร (สูตรเล็ก และสูตรใหญ่) [6506-4s]

    Play Episode Listen Later Feb 9, 2022 58:20


    สูตร#1 จูฬมาลุงกยสูตร พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระมาลุงกยบุตร ณ พระเชตวัน ทรงปรารภเรื่อง ทิฏฐิ 10 ประการ พระมาลุงกยบุตรรู้สึกไม่พอใจ ที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงตอบอัพยากตปัญหา 10 ประการ จึงเข้าไปถามอีกครั้งหนึ่ง แต่พระผู้มีพระภาคไม่ทรงตอบปัญหาเหล่านี้ เพราะไม่มีประโยชน์ ไม่ได้ช่วยให้พ้นทุกข์ได้ แต่ปัญหาที่จะทรงตอบ คือ ปัญหาเรื่องอริยสัจ 4 เพราะมีประโยชน์ และจะช่วยให้พ้นทุกข์ได้ สูตร#2 มหามาลุงกยสูตร ทรงแสดงแก่พระมาลุงกยบุตรพร้อมกับภิกษุหลายรูป ทรงปรารภเรื่อง โอรัมภาคิยสังโยชน์ 5 ประการ (เครื่องร้อยรัดที่ยึดจิตให้อยู่ในภพ) ทรงตรัสถามภิกษุเรื่อง สังโยชน์ 5 ประการ ท่านพระมาลุงกยบุตรมีคำตอบที่ถูกต้อง แต่บทพยัญชนะนั้นไม่แยบคาย จะทำให้อัญเดียรถีย์ปริพาชก นำเรื่องเด็กอ่อนที่นอนหงายมาโต้กลับได้ และ เพื่อปรับทิฏฐิของท่านมาลุงกยบุตรให้ละเอียดยิ่งขึ้นไป จึงทรงอธิบายขยายความถึงอุบายในการนำออก และข้อปฏิบัติเพื่อละสังโยชน์ และทรงแสดงว่า รูปฌาณ 4 และอรูปฌาณ 4 เป็นมรรค และปฏิปทาที่ทำให้ละสังโยชน์ทั้ง 5 ประการได้

    คุณสมบัติของผู้เป็นพราหมณ์ - โสณทัณฑสูตร [6505-4s]

    Play Episode Listen Later Feb 2, 2022 57:58


    พระพุทธเจ้าตรัสแก่โสณทัณฑพราหมณ์ ขณะประทับอยู่ที่ริมสระคัคครา เขตกรุงจัมปา ทรงปรารภเรื่อง คุณสมบัติของพราหมณ์ ทรงตรัสถามคุณสมบัติของพราหมณ์ 5 อย่าง ถ้าหากเว้นเสีย 1 อย่างแล้ว ผู้นั้นจะยังเป็นพราหมณ์อยู่ได้โดยชอบหรือไม่ โสณทัณฑะตอบว่าได้ ทรงถามโดยการตัดคุณสมบัติออกทีละอย่าง พวกพราหมณ์ที่มาด้วยกันพากันคัดค้าน การพูดตามเช่นนี้ทำให้เสียเปรียบ พราหมณ์โสณทัณฑะได้ยกตัวอย่างหลานของตน มีคุณสมบัติ 3 ข้อแรก แต่ยังทำผิดศีล พระผู้มีพระภาคตรัสถามต่อว่า คุณสมบัติ 2 อย่างนี้ คือ ศีลและปัญญา ถ้าตัดออกอีกสักอย่างหนึ่ง ควรตัดอย่างไหนได้ พราหมณ์โสณทัณฑะ ตอบว่า ตัดออกไม่ได้เลย คุณสมบัติ 2 อย่างนี้ต้องมีอยู่คู่กัน เพราะศีลช่วยชำระปัญญาให้บริสุทธิ์ ปัญญาก็ช่วยชำระศีลให้บริสุทธิ์ ปัญญามีแก่ผู้มีศีล ศีลมีแก่ผู้มีปัญญา และทรงอธิบายเรื่องศีลและปัญญา การประมวลพรหมจรรย์ตลอดสาย เมื่อทรงอธิบายจบ โสณทัณฑพราหมณ์ก็ประกาศตนเป็นอุบาสกขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

    เทวดาทูลถามปัญหา - สักกปัญหสูตร [6504-4s]

    Play Episode Listen Later Jan 26, 2022 65:26


    พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ท้าวสักกะ ขณะประทับอยู่ในถ้ำอินทสาละ ที่ภูเขาเวทิยกะ กรุงราชคฤห์ ท้าวสักกะได้ชวนเหล่าเทวดาชั้นดาวดึงส์ลงมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เหตุที่มาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพราะทรงเห็นบุพนิมิตที่แสดงว่าถึงคราวจะต้องจุติ คือหมดอายุ โดยให้ปัญจสิจะคนธรรพ์เทพบุตรนำเสด็จ พร้อมเหล่าเทพเข้าเฝ้า ทรงกราบทูลเรื่องการปฏิบัติธรรม และผลของการปฏิบัติธรรมของโคปกเทพบุตร จึงเสด็จมาเพื่อจะฟังธรรมเช่นนั้นบ้าง และได้ทูลถามปัญหารวม 12 ข้อ เกี่ยวกับเรื่องความเป็นมาเป็นไปของการเบียดเบียนการทะเลาะกัน ไล่ไปจนถึงเรื่องของตัณหา พระพุทธเจ้าทรงตอบปัญหา เมื่อตรัสจบ ธรรมจักษุได้เกิดขึ้นแก่ท้าวสักกะ และเหล่าเทวดา ทำให้กลับเป็นท้าวสักกะหนุ่มอีกครั้ง

    ธรรมเป็นที่ตั้งแห่งสติ - สติปัฏฐานสูตร [6503-4s]

    Play Episode Listen Later Jan 19, 2022 61:12


    พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะประทับอยู่นิคมชาวกุรุ ชื่อ กัมมาสธรรม ทรงปรารภพุทธบริษัทชาวกัมมาสธรรมนิคม แม้พวกทาสกรรมกร มีความสนใจในการเจริญสติปัฏฐานกันอย่างมาก จึงทรงยกหัวข้อขึ้นอธิบายในรายละเอียดของการเจริญสติ ความหมาย และการพิจารณากาย เวทนา จิต และธรรม และทรงแสดงอานิสงส์ของการเจริญสติปัฏฐานว่า บุคคลผู้เจริญสติปัฏฐาน 4 ประการนี้ แม้เพียง 7 วัน เป็นอย่างน้อย ก็หวังได้ว่า จะมีผลในปัจจุบันอย่างใดอย่างหนึ่ง ในจำนวนผล 2 อย่าง คือ จะได้บรรลุอรหัตตผล หรือถ้ายังมีอุปาทิเหลืออยู่ จะบรรลุอนาคามิผล และทรงสรุปว่า สติปัฏฐาน 4 ประการนี้ เป็นทางสายเดียว เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์ เพื่อล่วงโสกะปริเทวะ เพื่อดับทุกข์ และโทมนัส เพื่อบรรลุญายธรรม (อริยมรรค) และเพื่อทำนิพพานให้แจ้ง

    Claim 4 คลังพระสูตร

    In order to claim this podcast we'll send an email to with a verification link. Simply click the link and you will be able to edit tags, request a refresh, and other features to take control of your podcast page!

    Claim Cancel