ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการขึ้นปีที่ 2 Podcast นี้ ช่วยผมให้ได้อ่านพระคัมภีร์มากขึ้น และหวังว่าจะช่วยคุณให้ได้ฟังพระคำของพระเจ้า ไม่ว่าขณะเดินทางไปทำงาน หรือทำกิจวัตรประจำวันมากขึ้นด้วย หรือจะใช้เป็นเหมือนเพื่อน (ฝ่ายวิญญาณ) ร่วมอ่านพระคำด้วยกันกับคุณก็ได้ อย่างไรก็ตาม พระคำของพระเจ้าบริสุทธิ์และเที่ยงตรง และยังสามารถช่วยเปลี่ยนชีวิตของคุณได้ อีกทั้งยังดีกว่าไปฟังข่าวปลอม ซึ่งมีอย่างมากมายดาษดื่นในวันนี้ “วิญญาณเป็นที่ให้มีชีวิต ส่วนเนื้อหนังไม่มีประโยชน์อันใด ถ้อยคำซึ่งเราได้กล่าวกับท่านทั้งหลายนั้น เป็นวิญญาณและเป็นชีวิต” ยอห์น 6:63
เอ็กโซโด 32 - การทำรูปเคารพวัวทองคำก. การประพฤติของผู้เชื่อ“เขาได้เขวออกจากทางซึ่งเราได้สั่งเขาไว้อย่างรวดเร็ว: คือได้หล่อรูปลูกโคขึ้นรูปหนึ่ง, และได้นมัสการบูชายัญแก่รูปนั้นและกล่าวว่า, ‘นี่แหละ, โอพวกยิศราเอล, เป็นพระของเจ้า, ผู้ซึ่งได้นำเจ้าออกจากประเทศอายฆุบโต.” ' อนึ่งพระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “เราได้เห็นพลไพร่นี้แล้ว: นี่แหละเขาเป็นพลไพร่คอแข็ง.”เอ็กโซโด 32:8-9“ฝ่ายอาโรนตอบว่า, “อย่าให้ความโกรธของท่านเดือดพลุ่งขึ้นเลย: ท่านก็รู้จักพวกพลไพร่นี้แล้วว่า ใจของเขามักเอียงไปทางชั่ว. เขาได้มาร้องขอข้าพเจ้าว่า, ‘ขอจงทำพระให้พวกข้าพเจ้า, ซึ่งจะนำหน้าข้าพเจ้าไป; ด้วยว่าโมเซผู้นั้นที่ได้นำข้าพเจ้าออกจากประเทศอายฆุบโตหายไปไหน ข้าพเจ้าก็หาทราบไม่.'”เอ็กโซโด 32:22-23 TH1940ข. การประพฤติของปุโรหิต“เมื่อโมเซเห็นพลไพร่เตลิดไป, เพราะว่าอาโรนได้ปล่อยเขาให้เตลิดไปจนเขาถูกคำเยาะเย้ยจากพวกศัตรู,”เอ็กโซโด 32:25 TH1940ค. คำวิงวอนของพระคริสต์“โมเซจึงกลับไปเฝ้าพระยะโฮวาทูลว่า, “โอพระเจ้าข้า, พลไพร่นี้ได้ทำผิดใหญ่ยิ่ง: เขาได้ทำพระด้วยทองคำ; แต่บัดนี้ถ้าพระองค์จะได้ทรงโปรดยกโทษความผิดของเขา; ถ้าหาไม่ขอพระองค์ได้ทรงลบชื่อของข้าพเจ้าเสียจากทะเบียนที่พระองค์ได้ทรงจดไว้.””เอ็กโซโด 32:31-32 TH1940อ่านเพิ่มเติม ข้อ 11-14ง. ความยุติธรรมของพระเจ้า“ฝ่ายพระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “หากผู้ใดผิดต่อเราแล้ว, เราก็จะลบชื่อผู้นั้นเสียจากทะเบียนของเรา. จงไปเถอะ นำพลไพร่ไปยังที่ซึ่งเราได้บอกแก่เจ้าแล้ว. นี่แหละ, ทูตของเราจะนำหน้าเจ้า; แต่ว่าในวันนั้น เมื่อเราจะพิพากษาเขา, เราจะปรับโทษเขา.””เอ็กโซโด 32:33-34 TH1940
พระยะโฮวาผู้เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงฤทธานุภาพ ผู้รักในความยุติธรรม ทรงครอบครองอยู่! ให้ชนทั้งหลายกลัวตัวสั่น ยกย่อง และน้อมกายลงนมัสการที่พระบาทของพระองค์ผู้บริสุทธิ์ และนมัสการที่ภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์“โมเซกับอาโรนอยู่ในพวกปุโรหิตของพระองค์, และซามูเอลอยู่ในพวกผู้ที่ออกพระนามของพระองค์; ท่านเหล่านั้นได้ร้องทูลพระยะโฮวา, และพระองค์ได้ทรงตอบ. พระองค์ตรัสแก่เขาทั้งหลายออกมาแต่เสาเมฆ: เขาทั้งหลายได้รักษาคำโอวาทของพระองค์ไว้, กับข้อพระบัญญัติที่พระองค์ได้ทรงประทานแก่เขานั้น. ข้าแต่พระยะโฮวาพระเจ้าของพวกเรา, พระองค์ได้ตรัสตอบเขา: พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ได้ทรงโปรดยกความผิดให้เขา. แต่พระองค์ทรงลงพระอาชญาเพราะการประพฤติของเขานั้น.”บทเพลงสรรเสริญ 99:6-8
เพื่อการก่อสร้าง ไม่ใช่ด้วยกำลังหรืออำนาจของมนุษย์ แต่ด้วยพระวิญญาณของพระเจ้า“พระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “นี่แหละ, เราได้เรียกออกชื่อบะซาเล็ล, บุตรอูรีผู้เป็นบุตรฮูระในตระกูลยะฮูดา: และได้ให้เขาประกอบด้วยพระวิญญาณของพระเจ้าคือให้เขามีสติปัญญา ความเข้าใจและความรู้ในวิชาการทุกอย่าง, นี่แหละ เราได้ตั้งผู้ช่วยอีกคนหนึ่ง, ชื่ออาโฮลีอาบบุตรอะฮีซามาคในตระกูลดาน; ส่วนคนเหล่านั้นที่มีสติปัญญา, เราก็ได้บันดาลให้เขามีสติปัญญาทวีขึ้นอีก, เพื่อเขาจะได้ทำสิ่งสารพัตรซึ่งเราได้สั่งเจ้าไว้นั้น. ฝ่ายพระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “จงสั่งชนชาติยิศราเอลว่า, ‘เจ้าทั้งหลายจงรักษาวันซะบาโตของเราไว้อย่างแน่นอน; เพราะเป็นเครื่องหมายสำคัญอยู่ระหว่างเรากับเจ้าตลอดเชื้อวงศ์ของเจ้า, เพื่อเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยะโฮวาผู้กระทำเจ้าให้บริสุทธิ์. เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงรักษาวันซะบาโตไว้, เพราะเป็นวันบริสุทธิ์สำหรับเจ้า: ผู้ใดดูหมิ่นต่อวันนั้นจะต้องถูกปรับโทษถึงตายเป็นแน่; เหตุฉะนั้นใดจะทำการในวันนั้น, ผู้นั้นต้องถูกกำจัดเสียจากพรรคพวกของตน. จงทำการแต่ในกำหนดหกวัน, แต่ในวันที่เจ็ดนั้นเป็นวันซะบาโต; จงงดการไว้และถือเป็นวันบริสุทธิ์แห่งพระยะโฮวา: ผู้ใดจะทำการในวันนั้นต้องถูกปรับโทษถึงตายเป็นแน่.”เอ็กโซโด 31:1-3, 6, 12-15 TH1940
บทเพลงสรรเสริญ 98: 1-3, 9ร้องเพลงใหม่• เพราะพระองค์ทรงกระทำการอัศจรรย์หลายอย่าง• พระหัตถ์ขวาและพระกรอันบริสุทธิ์ของพระองค์ได้นำชัยชนะมาให้พระองค์• พระเจ้าทรงเปิดเผยความรอดของพระองค์ให้ประจักษ์• พระองค์ทรงเปิดเผยความชอบธรรมของพระองค์ต่อหน้าประชาชาติทั้งหลาย• พระองค์ทรงระลึกถึงความเมตตาของพระองค์และความซื่อสัตย์ของพระองค์ที่มีต่อชาวอิสราเอล• แผ่นดินโลกทั้งมวลได้เห็นความรอดของพระเจ้าของเรา• เพราะพระองค์กำลังจะเสด็จมาพิพากษา พระองค์จะพิพากษาแผ่นดินโลกด้วยความชอบธรรม และจะพิพากษาโลก และชนชาติทั้งหลายด้วยความเที่ยงธรรม
“พระยะโฮวาทรงครอบครองอยู่; ให้แผ่นดินโลกชื่นชม; และให้หมู่เกาะมากหลายมีความยินดี. เมฆและความมืดล้อมพระองค์ไว้รอบ: ความชอบธรรมและความยุตติธรรมเป็นรากแห่งพระที่นั่งของพระองค์. ภูเขาได้ละลายไปดังขี้ผึ้งตรงหน้าพระพักตรพระยะโฮวา, คือต่อพระพักตรแห่งเจ้าของแผ่นดินโลก. ฟ้าสวรรค์ประกาศความชอบธรรมของพระองค์, และชนประเทศทั้งปวงได้เห็นรัศมีของพระองค์. ข้าแต่พระยะโฮวา, เมืองซีโอนได้ยินจึงมีความชื่นใจ, เหล่าบุตรแห่งตระกูลยูดามีใจโสมนัสส์, เพราะเหตุคำพิพากษาของพระองค์. ด้วยพระองค์คือพระยะโฮวา, สถิตอยู่ในที่สูงสุดเหนือแผ่นดินโลก: พระองค์เป็นที่ยกย่องเหนือพระทั้งปวง. ท่านทั้งหลายที่รักพระยะโฮวา, ก็จงเกลียดการชั่ว; พระองค์ทรงบำรุงรักษาจิตแห่งพวกผู้ชอบธรรมของพระองค์; พระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้นจากมือคนชั่ว. แสงสว่างส่องมาสำหรับคนชอบธรรม, และความยินดีสำหรับคนที่มีใจซื่อตรง. ท่านทั้งหลายผู้เป็นคนชอบธรรม, จงยินดีในพระยะโฮวา, จงสรรเสริญให้เป็นที่ระลึกถึงพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์เถิด”บทเพลงสรรเสริญ 97:1-2, 5-6, 8-12
“จงร้องเพลงบทใหม่ถวายแก่พระยะโฮวา: ให้ชนชาวแผ่นดินโลกทั้งสิ้นร้องเพลงถวายสรรเสริญพระยะโฮวา. จงร้องเพลงถวายแก่พระยะโฮวา, จงถวายชัยแก่พระนามของพระองค์; จงประกาศความรอดของพระองค์ทุกๆ วันต่อไป. จงประกาศพระเกียรติของพระองค์ในท่ามกลางชนประเทศทั้งปวง, และประกาศการอัศจรรย์ของพระองค์ในท่ามกลางบรรดามนุษย์โลก. เพราะพระยะโฮวาเป็นใหญ่, สมควรจะได้ความสรรเสริญมากยิ่ง: พระองค์เป็นที่เกรงขามยิ่งกว่าพระทั้งปวง. เพราะบรรดาพระของชนชาวประเทศต่างๆ เป็นรูปเคารพทั้งนั้น; แต่พระยะโฮวาได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์. เกียรติยศและเดชานุภาพอยู่ต่อพระพักตรพระองค์: ฤทธิ์เดชและสง่าราศีย่อมอยู่ในสถานบริสุทธิ์ของพระองค์. ดูกร พงศ์พันธุ์ของชนประเทศต่างๆ, จงถวายแก่พระยะโฮวา, จงถวายรัศมีและเดชานุภาพแก่พระองค์. จงถวายรัศมีแก่พระยะโฮวาให้สมกับพระนามของพระองค์: จงนำเครื่องบูชา, จงเข้ามาในบริเวณของพระองค์. จงนมัสการพระยะโฮวาด้วยสวมเครื่องประดับอันบริสุทธิ์งดงาม: ให้คนทั้งโลกเกรงกลัวตัวสั่นฉะเพาะพระองค์. จงกล่าวในท่ามกลางชนประเทศทั้งปวงว่า, พระยะโฮวาทรงครอบครองอยู่: พิภพโลกนี้ตั้งมั่นคงอยู่จะไม่หวั่นไหวเลย; พระองค์จะทรงพิพากษาชนประเทศทั้งปวงโดยยุตติธรรม. ต่อพระพักตรพระยะโฮวา; ด้วยพระองค์เสด็จมา, พระองค์เสด็จมาจะทรงพิพากษาโลก: พระองค์จะทรงพิพากษาพิภพโลกโดยยุตติธรรม, จะทรงพิพากษาชนประเทศทั้งปวงด้วยความสัตย์ซื่อของพระองค์”บทเพลงสรรเสริญ 96:1-10, 13 TH1940
เลวีติโก 23พระคริสต์เป็นความเที่ยงแท้ของงานเลี้ยงของพระเจ้างานเลี้ยงของพระเจ้า คือการชุมนุมอันบริสุทธิ์ของผู้เชื่อ มี1. งานเลี้ยงประจำสัปดาห์ (ซะบาโต) หยุดจากการงานของตนเอง เพื่ออาศัยอยู่ในพระเยซูคริสต์มาทำการของพระบิดา2. ปัศคา เล็งถึงพระเยซูทรงช่วยเราออกมาจากการเป็นทาสของความผิดความบาป3. ขนมปังไร้เชื้อ เล็งถึงพระคริสต์เป็นการขจัดเชื้อที่อยู่ภายในเรา เพื่อให้เราเป็นบริสุทธิ์ปราศจากเชื้อ4. ผลแรก เล็งถึงการเป็นขึ้นจากตายของพระคริสต์ ได้สำแดงฤทธานุภาพอันใหญ่หลวงของพระเจ้า เพื่อให้เราหลุดพ้นจากความตายทุกวัน5. ขวบอาทิตย์ เล็งถึงพระคริสต์เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ได้นำเราขึ้นด้วย และได้ประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้แก่พวกเรา เพื่อเราจะทำการของพระเจ้าให้สำเร็จได้6. เป่าแตร7. ไถ่ความผิด8. ตั้งทับอาศัย
เลวีติโก 301. แท่นเผาเครื่องหอม (1-10) 1. เล็งถึงพระคริสต์ ผู้เป็นคนกลางระหว่างเรากับพระเจ้า 2. ที่นั่นเราจะพบกับเจ้า (6) 3. เผาเครื่องหอมเล็งถึงการอธิษฐานวิงวอน 4. เผาทุกเวลาเช้า, เมื่อแต่งประทีปก็ให้เผา, เวลาเย็นเมื่อจุดประทีปก็ให้เผาเครื่องหอม (7-8) 5. ไม่ถวายเครื่องหอมอย่างอื่น (9) 6. แท่นเผาเครื่องหอม เกี่ยวข้องกับแท่นบูชาเผาครบ (ไฟที่เอามาเผาเครื่องหอม 16:12), เครื่องบูชาไถ่ความผิดและโลหิต (10) เล็งถึงการมาอธิษฐานต้องผ่านสิ่งเหล่านี้ (แก้ไขปัญหาบาป, การล่วงละเมิด และสิ้นสุดความคิดของตน)2. เงินค่าไถ่ชีวิต (11-16) 1. นับจำนวนประชากร เพื่อคัดชายอายุ 20 ขึ้นไป เข้ากองทัพของพระเจ้าเพื่อต่อสู้กับผู้ครอบครองโลก 2. การอธิษฐาน ทำให้พระเจ้าได้คนๆนั้นเข้าร่วมกองทัพของพระองค์ 3. และยังต้องใช้เงินค่าไถ่มายกถวาย เล็งถึงพระคริสต์ผู้เสด็จสู่สวรรค์เป็นค่าไถ่ของเรา สำหรับใช้ในพลับพลา หลอมทำฐานรับเสา, ตะขอ, ราวยึด (38:27-28) 3. อ่างล้างชำระทองเหลือง (17-21)4. น้ำมันชะโลมบริสุทธิ์ (22-33)5. เครื่องหอมใช้สำหรับเผา (34-38)
“มาเถิด, ให้เราทั้งหลายร้องเพลงถวายความสรรเสริญแก่พระยะโฮวา, ให้พวกเราโห่ร้องถึงศิลาแห่งความรอดของพวกเรา. ให้พวกเราเข้ามาเฝ้าพระองค์ด้วยขอบพระเดชพระคุณ; ให้โห่ร้องด้วยเสียงชื่นบานถวายพระองค์ด้วยเพลงสรรเสริญ. เพราะพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าใหญ่ยิ่ง, เป็นพระบรมมหากษัตริย์เหนือพระทั้งปวง. มาเถิด, ให้เราทั้งหลายอ่อนน้อมกายลงนมัสการ; ให้คุกเข่าลงตรงพระยะโฮวาผู้ทรงสร้างพวกเรา: เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าของเรา, พวกเราเป็นพลไพร่ที่พระองค์ทรงเลี้ยงไว้, และเป็นประดุจฝูงแกะอยู่ในเงื้อมพระหัตถ์ของพระองค์. วันนี้, จะใคร่ให้ท่านทั้งหลายฟังพระสุรเสียงของพระองค์! ขออย่ากระทำให้ใจแข็งกะด้างไปอย่างที่ตำบลมารีบา, และอย่างในวันนั้นที่ในป่าตำบลมาซา;”บทเพลงสรรเสริญ 95:1-3, 6-8
รับประทานไม่ได้ จนกว่าจะสะอาด“พระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, จงกล่าวแก่อาโรนและลูกชายทั้งหลายของอาโรนว่า, ‘ให้เขาทั้งหลายระวังตัว (แยกตัวออกไป) ด้วยของบริสุทธิ์แห่งพวกยิศราเอล; เพื่อมิให้เขาทั้งหลายกระทำให้นามอันบริสุทธิ์ของเราเสื่อมเสีย, ด้วยของที่เขาถวายแก่เรา: เราเป็นยะโฮวา., ผู้ใดถูกต้องของเหล่านี้จะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น, อย่าให้เขากินของบริสุทธิ์นั้น, กว่าเขาจะล้างตัวเสียด้วยน้ำ. ครั้นอาทิตย์ตกแล้ว เขาจะเป็นสะอาดจึงกินของบริสุทธิ์นั้นได้; เพราะเป็นอาหารของเขา. เขาทั้งหลายต้องรักษาบัญญัติของเรา. ถ้าเขาผิดบัญญัติของเรา, เขาต้องรับโทษถึงตายเพราะการผิดนั้น: เรายะโฮวาได้ชำระเขาไว้ เพื่อมิให้เขาทั้งหลายกระทำให้ของบริสุทธิ์, ที่พวกยิศราเอลบูชาถวายแก่พระยะโฮวาเสื่อมเสียไป, และไม่ให้คนทั้งปวงรับโทษแห่งการผิดนั้นเมื่อเขากินของบริสุทธิ์เหล่านั้น; เพราะเรายะโฮวาชำระเขาทั้งหลายไว้ให้บริสุทธิ์.' ””เลวีติโก 22:1-2, 6-7, 9, 15-16เครื่องบูชาที่ถวายเป็นอาหารของพระเจ้า ต้องปราศจากพิการหรือตำหนิ“พระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “จงบอกแก่อาโรนและบุตรชายทั้งหลายของอาโรน, และพวกยิศราเอล ว่าแก่เขาทั้งหลายว่า, ‘ผู้ใดในพวกยิศราเอลหรือแขกเมืองที่อาศัยกับพวกยิศราเอลที่กระทำบูชาถวายจะได้มีความชอบกับพระยะโฮวา. ใหผู้นั้นเอาสัตว์ตัวผู้ปราศจากพิการมาจากฝูงโคหรือฝูงแกะหรือฝูงแพะบูชาถวาย, เพื่อจะได้ความชอบ. แต่สัตว์ที่เป็นพิการอย่ากระทำถวายเลย; เพราะว่าเครื่องบูชานั้นจะไม่เป็นที่ให้ได้ความชอบ. เหตุฉะนี้ท่านทั้งหลายจงรักษาบัญญัติทั้งปวงของเรา และกระทำตาม: เราเป็นยะโฮวา. อย่ากระทำใหนามอันบริสุทธิ์ของเราเสื่อมเสียไป: เราเป็นยะโฮวาผู้ชำระท่านทั้งหลายไว้ให้บริสุทธิ์, เป็นผู้นำท่านทั้งหลายออกจากประเทศอายฆุบโต จะเป็นพระเจ้าของท่านทั้งหลาย: เราเป็นยะโฮวา.””เลวีติโก 22:17-20, 31-33
“เพราะพระยะโฮวาจะไม่ทรงละทิ้งพลไพร่ของพระองค์, เหล่าคนที่เป็นมฤดกของพระองค์นั้น พระองค์จะไม่ทรงละไว้. ด้วยการพิพากษาจะกลับคืนสู่ความชอบธรรม; และบรรดาคนที่มีใจสัตย์ซื่อ จะประพฤติตามความชอบธรรมนั้น. เมื่อข้าพเจ้าพูดว่า, เท้าของข้าพเจ้าพลาดพลั้งไป; โอ้พระยะโฮวา, พระกรุณาคุณของพระองค์ก็ทรงประคองข้าพเจ้าไว้. ครั้นข้าพเจ้ามีความสาละวนในใจเป็นอันมาก ความประเล้าประโลมของพระองค์ก็จะทรงกระทำให้จิตของข้าพเจ้าชื่นบาน. แต่พระยะโฮวาได้ทรงเป็นป้อมอันสูงสำหรับข้าพเจ้า, และพระเจ้าของข้าพเจ้าเป็นศิลาที่ข้าพเจ้าวิ่งเข้าไปลี้ภัย.”บทเพลงสรรเสริญ 94:14-15, 18-19, 22
“พระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “จงกล่าวแก่พวกปุโรหิตบุตรชายทั้งหลายของอาโรน, ว่าแก่เขาทั้งหลายว่า, - อย่าทำตัวให้เป็นมลทินด้วยศพคนตาย - อย่าให้เขาโกนศีรษะ (ไม่ยอมอยู่ภายใต้อำนาจของพระคริสต์) หรือตัดหนวดหรือเชือดเนื้อตัว (ไม่ยอมรับสิ่งที่พระเจ้าประทานให้). พวกปุโรหิตนั้นจะเป็นบริสุทธิ์แก่พระเจ้า, และไม่ทำให้พระนามของพระเจ้า ของเขาเสื่อมเสีย: เพราะเขาต้องถวายเครื่องบูชากระทำด้วยไฟของพระยะโฮวา, และถวายเครื่องเสวยของพระเจ้า; เหตุฉะนี้เขาต้องเป็นบริสุทธิ์. - อย่าให้เขาเอาหญิงคนชั่ว (โสเภณี) เป็นภรรยา, หรือหญิงที่อย่าผัว: เพราะปุโรหิตนั้นเป็นบริสุทธิ์แก่พระเจ้า. เหตุฉะนี้เจ้าจงตั้ง (แบ่งแยกบริสุทธิ์) เขาไว้ให้เป็นคนบริสุทธิ์. เขาเป็นคนสำหรับถวายเครื่องเสวยของพระเจ้า, เขาต้องเป็นบริสุทธิ์; เพราะเรายะโฮวาผู้ตั้งเจ้าไว้ก็เป็นบริสุทธิ์. ถ้าบุตรีของปุโรหิตทำผิดด้วยล่วงประเวณี, เขาก็ทำให้นามชื่อของบิดาเสื่อมเสีย; ต้องเอาคนนั้นคลอกไฟเสีย”เลวีติโก 21:1, 4-9
“พระยะโฮวาทรงครอบครองอยู่; ทรงฉลองพระองค์ด้วยเดชานุภาพ; พระยะโฮวาทรงประกอบด้วยพลานุภาพ; พระองค์ทรงคาดรัดพระองค์ไว้ด้วยพลานุภาพนี้แหละ; พิภพนี้ตั้งมั่นคงอยู่, จะไม่หวั่นไหวไป. พระที่นั่งของพระองค์ตั้งมั่นคงอยู่แต่กาลโบราณ; พระองค์ไม่มีเบื้องต้น ทรงพระชนม์อยู่ตั้งแต่อดีตกาล. ข้าแต่พระยะโฮวา คำปฏิญาณของพระองค์เป็นคำแน่นอนนัก: ความบริสุทธิ์สมควรแก่พระวิหารของพระองค์สืบไปเป็นนิตย์”บทเพลงสรรเสริญ 93:1-2, 5
เลวีติโก 20กล่าวซ้ำอีก แสดงว่าสำคัญมาก!“เจ้าทั้งหลายจงชำระตัวให้เป็นบริสุทธิ์; เพราะเราเป็นยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า. เจ้าทั้งหลายจงรักษาประพฤติตามบัญญัติทั้งหลายของเรา: เราเป็นยะโฮวาผู้ทรงตั้งเจ้าไว้ให้เป็นบริสุทธิ์.” (7-8)““เหตุฉะนี้เจ้าทั้งหลายจงรักษาบัญญัติทั้งปวง, และประพฤติตามข้อปรนนิบัติทั้งปวงของเรา; เพื่อมิให้แผ่นดินเมืองที่เราจะพาเจ้าไปอยู่นั้นสำรอกคายเจ้าออกเสีย. อย่าประพฤติตามขนบธรรมเนียมของชนประเทศที่เรากำลังไล่ไปเสียจากหน้าของเจ้า; ด้วยว่าเขาทั้งหลายได้ประพฤติผิดในสิ่งเหล่านี้, เราจึงเกลียดชังเขา. แต่เราได้ว่าแก่เจ้าว่า เจ้าจะอยู่ในแผ่นดินเมืองนั้น, แผ่นดินเมืองนั้น เราจะให้เจ้าเป็นของมรดก: คือแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งอันบริบูรณ์: เราเป็นยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า, ที่ได้แยกเจ้าทั้งหลายออกจากชนชาติอื่น.” (22-24)“พระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “จงกล่าวแก่พวกยิศราเอลซ้ำอีกว่า, - ผู้ใดจะให้ลูกหลานแก่พระโมเล็ก ต้องฆ่าผู้นั้นเสีย- กระทำให้พระวิหารของพระองค์เป็นมลทิน และพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์เสื่อมเสีย- หันหาคนทรงผีและแม่มด- แช่งด่าพ่อแม่- ล่วงประเวณีชนิดต่างๆ- รู้จักสังเกตสัตว์สะอาดและสัตว์ไม่สะอาด- อย่าให้จิตใจเป็นมลทินด้วยสัตว์ที่ไม่สะอาด (25)- ชายหรือหญิงคนใดที่เป็นคนทรงผีและแม่มด ต้องฆ่าเสีย
เอ็กโซโด 29การถวายตัว แบ่งแยกบริสุทธิ์ เป็นปุโรหิตปรนนิบัติพระเจ้า ต้องมีการล้างชำระ สวมใส่พระคริสต์ มีพระโลหิต พระวิญญาณบริสุทธิ์ มีประสบการณ์พระคริสต์เป็นเครื่องบูชาเผาครบ (นอบน้อม เชื่อฟัง ทำตามน้ำพระทัยพระบิดาในทุกสิ่ง) ประสบการณ์ไม้กางเขนพระคริสต์เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป ประสบการณ์พระคริสต์เป็นเครื่องบูชากระยาหาร ประสบการณ์พระคริสต์เป็นเครื่องบูชายก เครื่องบูชาแกว่ง เครื่องบูชาดื่ม และรับสุขในส่วนของพระคริสต์ที่ประทานให้ที่สำคัญจะต้องมีประสบการณ์ทุกๆวัน คือประสบการณ์พระคริสต์เป็นเครื่องบูชาเผาครบ และเป็นเครื่องบูชากระยาหาร ทุกวันจนกว่าพระคริสต์จะเสด็จกลับมา
“เป็นการดีที่จะขอบพระเดชพระคุณของพระยะโฮวา, และร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์ผู้ใหญ่ยิ่งที่สุด; จงสำแดงพระกรุณาคุณของพระองค์ในเวลาเช้า, และความสัตย์ซื่อของพระองค์ทุกคืน, ข้าแต่พระยะโฮวา, พระองค์ได้ทรงกระทำให้ข้าพเจ้ามีใจยินดีเพราะกิจการของพระองค์: ข้าพเจ้าจะได้ชัยชนะโดยพระหัตถกิจของพระองค์. ข้าแต่พระยะโฮวา, กิจการของพระองค์ก็ใหญ่ยิ่งจริง! และพระดำริของพระองค์ก็ลึกซึ้งมาก. ข้าแต่พระยะโฮวา, พระองค์เป็นผู้ใหญ่ยิ่งตลอดอนาคตกาล. แต่พระองค์ได้ทรงยกสิงค์ (กำลัง) ของข้าพเจ้าขึ้นเหมือนสิงค์ของวัวป่า: ข้าพเจ้าได้ถูกเจิมด้วยน้ำมันใหม่แล้ว. คนชอบธรรมจะเจริญดุจต้นตาล: จะงอกขึ้นเหมือนต้นสนซีดาห์ที่ภูเขาละบาโนน. เขาถูกปลูกไว้ในวิหารของพระยะโฮวา; เขาจะเบิกบานออกในบริเวณแห่งพระเจ้าของพวกเรา. เมื่อผู้นั้นแก่แล้วยังจะเกิดผล; จะประกอบไปด้วยน้ำเลี้ยงและยังเขียวสดอยู่: เพื่อแสดงให้เห็นว่าพระยะโฮวาเป็นผู้สัตย์ซื่อ; พระองค์เป็นศิลาของข้าพเจ้า, และความอสัตย์อธรรมในพระองค์ไม่มีเลย”บทเพลงสรรเสริญ 92:1-2, 4-5, 8, 10, 12
การดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์ของคนบริสุทธิ์ (ลวต. 18-19)“เจ้าทั้งหลายอย่ากระทำตามอย่างชาวเมืองอายฆุบโต (คนเก่า, ชีวิตแบบเก่า), ที่พวกเจ้าได้ อาศัยอยู่แต่ก่อนนั้น: อย่ากระทำตามธรรมเนียมชาวเมืองคะนาอัน (โลกปัจจุบัน) ที่เรากำลังจะพาเจ้าไปอยู่นั้น; อย่าประพฤติตามเขาเลย. เจ้าทั้งหลายต้องกระทำตามข้อบัญญัติ, และดำเนินตามข้อปรนนิบัติทั้งหลายของเรา: เราเป็นพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าของเจ้า. เหตุฉะนี้ผู้ใดได้นับถือรักษาบัญญัติ, และประพฤติตามข้อปรนนิบัติทั้งหลายของเรา, ผู้นั้นจะมีชีวิตจำเริญในคำโอวาทนั้น: เราคือพระยะโฮวา” 18:3-51. อย่าทำผิดประเวณีต่างๆ 18:6-20, 22-232. ไม่บูชาพระอื่นและเข้าร่วมในพิธีกรรมต่างๆ (18:21)3. จงเกรงกลัวและฟังบิดามารดาของตน (19:3)4. ถือรักษาวันซะบาโต คือไม่ใช้ตัวเก่าของเรามาทำตามชอบพระทัยพระเจ้า แต่ให้พระคริสต์ทำผ่านตัวเรา (คนใหม่)5. อย่ากลับไปนับถือรูปเคารพ หรือกลับไปทำรูปหล่อเป็นของเคารพสำหรับตัวเอง (19:4)6. ถวายเครื่องบูชาสันติไมตรีให้เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า คือการมาถึงโต๊ะขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยสังเกตพระกาย ไม่กระทำให้ของบริสุทธิ์แห่งพระยะโฮวาเสื่อมเสียไป (19:5-8)7. ระลึกถึงคนจน ที่ไม่มีอะไรจะกินจริงๆ8. ไม่ขโมย ไม่คดโกง ไม่โกหกแก่กันและกัน9. ไม่สาบานเท็จ แต่ให้ถ้อยคำของท่านเป็นคำตรงเถิด10. อย่าปล้นหรือโกงเอารัดเอาเปรียบเพื่อนบ้าน11. อย่าหน่วงเหนี่ยวค่าแรงรายวันไว้จนถึงรุ่งเช้า12. อย่าแช่งด่าคนหูหนวก และวางของให้คนตาบอดสะดุด แต่จงเกรงกลัวพระเจ้าของเจ้า13. จงพิพากษาด้วยความชอบธรรม อย่าลำเอียงเข้าข้างคนจน หรือเห็นแก่หน้าผู้หลักผู้ใหญ่14. อย่าเป็นคนเที่ยวนินทาใส่ร้ายแก่เพื่อนบ้าน15. อย่าปองร้ายต่อชีวิตของเพื่อนบ้าน16. อย่าเกลียดชังพี่น้องอยู่ในใจ แต่จงว่ากล่าวตักเตือนเขา เพื่อเจ้าจะไม่ต้องรับโทษเพราะเขา (19:17)17. อย่าแก้แค้นหรือผูกพยาบาทต่อญาติพี่น้องของเจ้า แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง18. ไม่ผสมวัวข้ามสายพันธุ์ - จงดำเนินตามพระวิญญาณ และท่านจะไม่ได้ประพฤติตามราคะของเนื้อหนัง19. หว่านพืชปนกันสองชนิด - เราได้กล่าวด้วยถ้อยคำซึ่งไม่ใช่ปัญญาของมนุษย์สอนไว้ แต่ด้วยถ้อยคำซึ่งพระวิญญาณได้ทรงสั่งสอน20. สวมเสื้อผ้าทำจากวัสดุสองชนิดปนกัน - การประพฤติของชาวสวรรค์ผสมกับฝ่ายโลก21. อย่ากินเนื้อสัตว์ที่มีเลือด, 22. อย่าใช้เครื่องรางกันตัว, อย่าถือฤกษ์ยาม อย่าเป็นหมอดู หรือเป็นหมอผีคาถาอาคม23. อย่าเชือดเนื้อ หรือสักตามตัว24. อย่าทำให้ลูกสาวของตนเป็นหญิงโสเภณี25. จงถือรักษาวันซะบาโต และเคารพต่อสถานนมัสการของพระองค์26. อย่าหันไปหาคนทรงผีและพ่อมดแม่มด27. จงให้เกียรติและแสดงความเคารพนับถือผู้อาวุโส28. จงเกรงกลัวพระเจ้า29. อย่าทำไม่ดีต่อแขกเมืองที่มาอาศัยด้วยเจ้านั้น30. อย่าตัดสินอย่างไม่ยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการวัดความยาว น้ำหนัก หรือปริมาตร ต้องมีตาชั่งที่เที่ยงตรง น้ำหนักที่เที่ยงตรง31. เพราะฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงถือรักษาบัญญัติของเราและข้อพิพากษาของเราทั้งสิ้น และปฏิบัติตามบัญญัติเหล่านั้นเราคือพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า ผู้ได้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ (ทาสของความบาป)
“ผู้ใดอาศัยอยู่ในที่อันลับแห่งผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด ผู้นั้นจะได้อาศัยอยู่ในร่มของพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ใหญ่ยิ่ง. ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงพระยะโฮวาว่า, พระองค์เป็นที่พึ่งพำนักและเป็นป้อมของข้าพเจ้า; พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า ๆ วางใจในพระองค์. ด้วยพระองค์จะทรงช่วยท่านให้พ้นจากบ่วงแร้วของนายพราน, และให้พ้นจากโรคร้ายนั้น. พระองค์จะทรงปกคลุมท่านไว้ด้วยปีกของพระองค์, และท่านจะอาศัยอยู่ใต้ปีกของพระองค์: ความสัตย์ธรรมของพระองค์เป็นโล่ห์และเป็นดั้ง. ท่านไม่ต้องมีความกลัวสะดุ้งในกลางคืน, ไม่ต้องกลัวลูกธนูที่ปลิวไปในเวลากลางวัน. ไม่ต้องกลัวโรคห่าที่ระบาดไปในเวลามืด, หรือโรคพิษที่ล้างผลาญในเวลาตะวันเที่ยง. โอ พระยะโฮวา, เพราะพระองค์เป็นที่พึ่งพำนักของข้าพเจ้า! ท่านได้รับพระองค์ผู้ใหญ่ยิ่งที่สุดให้เป็นที่พึ่งพาอาศัยของท่าน; เหตุร้ายสิ่งใดจะไม่บังเกิดแก่ท่าน, และภัยอันใดจะเข้ามาใกล้กะโจมของท่านก็หามิได้. เพราะพระองค์จะให้พวกทูตของพระองค์คุ้มครองท่าน, ให้ระวังรักษาท่านตามมรคาของท่านทั้งสิ้น. เพราะผู้นั้นได้รักเรา, เราจึงจะช่วยเขาให้รอด: เราจะตั้งเขาไว้ในที่สูง เพราะเขารู้จักนามของเรา. เขาจะร้องเรียกเราเมื่อไร, เราจะตอบเขาเมื่อนั้น; เราจะอยู่กับเขาในยามทุกข์ยาก: เราจะช่วยเขาให้รอดและจะให้เกียรติยศแก่เขา, เราจะให้เขาอายุยืนเป็นที่พอใจเขา, และจะสำแดงความรอดของเราให้เขาเห็น”บทเพลงสรรเสริญ 91:1-6, 9-11, 14-16
*คนของพระเยซูคริสต์ ถอดทิ้งมนุษย์เก่า สวมมนุษย์ใหม่*“เจ้าทั้งหลายอย่ากระทำตามอย่างชาวเมืองอายฆุบโต (คนเก่า, ชีวิตแบบเก่า), ที่พวกเจ้าได้ อาศัยอยู่แต่ก่อนนั้น: อย่ากระทำตามธรรมเนียมชาวเมืองคะนาอัน (โลกปัจจุบัน) ที่เรากำลังจะพาเจ้าไปอยู่นั้น; อย่าประพฤติตามเขาเลย. เจ้าทั้งหลายต้องกระทำตามข้อบัญญัติ, และดำเนินตามข้อปรนนิบัติทั้งหลายของเรา: เราเป็นพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าของเจ้า. เหตุฉะนี้ผู้ใดได้นับถือรักษาบัญญัติ, และประพฤติตามข้อปรนนิบัติทั้งหลายของเรา, ผู้นั้นจะมีชีวิตจำเริญในคำโอวาทนั้น: เราคือพระยะโฮวา”เลวีติโก 18:3-5 TH1940
เอ็กโซโด 28เครื่องแต่งกายเล็งถึงการสำแดงการประพฤติออก (ดูการประพฤติของคนเก่า ยซย. 64:6; ของคนใหม่ วว. 19:8) เครื่องแต่งกายของปุโรหิตแสดงถึงการสำแดงพระคริสต์ออกมาของปุโรหิตที่รับใช้ ปุโรหิตยังได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ และแยกออกถวายให้พระเจ้าโดยเครื่องแต่งกายอันบริสุทธิ์ มีสง่าราศีและสวยงามของพวกเขา““จงนำอาโรนพี่ชายของเจ้ากับบุตรชายของเขาออกมาจากท่ามกลางชนชาติยิศราเอล, เพื่อจะได้รับหน้าที่ปุโรหิตปรนนิบัติเรา, คือทั้งอาโรน, กับบุตรที่ชื่อนาดาบ, อะบีฮู, เอละอาซารและอีธามาร. แล้วให้ทำเครื่องยศอันสมศักดิ์ บริสุทธิ์ สำหรับอาโรนพี่ชายของเจ้า ให้งดงามและมีเกียรติ. ให้เขาทำเครื่องยศดังต่อไปนี้: คือทับทรวง, ผ้าเอโฟด, เสื้อคลุม, เสื้อขลิบกรอมส้น, ผ้ามาลา และรัดประคด: และให้เขาทำเครื่องยศสมศักดิ์ บริสุทธิ์ สำหรับอาโรนพี่ชายของเจ้า, และบุตรของเขา, เพื่อจะได้ปรนนิบัติเราในหน้าที่ปุโรหิต. “จงทำเสื้อ, รัดประคด, และมาลาสำหรับบุตรของอาโรนให้งามและมีเกียรติ. ให้แต่งอาโรนพี่ชายของเจ้า ทั้งบุตรของเขาด้วยเครื่องยศนั้น, แล้วชะโลมเฉลิมและสถาปนาเขาไว้, เพื่อประกอบการปรนนิบัติเราตามหน้าที่ปุโรหิต.”เอ็กโซโด 28:1-2, 4, 40-41 TH1940
“ในชั่วอายุของข้าพเจ้ามีสัก 70 ปีเท่านั้น, ถ้าแม้ว่ามีกำลังมากก็จะยืนได้ถึง 80 ปี; กำลังที่ตนอวดนั้น ย่อมประกอบไปด้วยการลำบากและความทุกข์; เพราะไม่ช้าก็จะสูญไป และข้าพเจ้าทั้งหลายจะล่วงลับไป. ใครจะรู้อำนาจแห่งความพิโรธของพระองค์? และความกริ้วของพระองค์ ตามความเกรงกลัวพระองค์. เพราะฉะนั้นขอทรงโปรดสอนให้ข้าพเจ้า นับวันคืนทั้งหลายของพวกข้าพเจ้าเป็น, เพื่อจะได้มีใจประกอบไปด้วยสติปัญญา. ข้าแต่พระยะโฮวา, ขอเสด็จกลับมา, นานอีกสักเท่าไรพระองค์จึงจะเสด็จมา? ขอทรงกลับพระทัยเอ็นดูสงสารพวกทาสของพระองค์. ขอทรงโปรดให้พวกข้าพเจ้าอิ่มใจในเวลาเช้าด้วยพระกรุณาคุณของพระองค์, เพื่อจะได้ชื่นชมยินดีตลอดวันคืนแห่งอายุของพวกข้าพเจ้า. ขอทรงโปรดให้พวกข้าพเจ้ามีใจยินดี เท่าวันคืนทั้งหลายที่พระองค์ทรงบันดาลให้มีความทุกข์ยากแล้ว, และเท่ากับปีเดือนที่พวกข้าพเจ้าได้เห็นการร้ายนั้น. ขอทรงโปรดให้กิจการของพระองค์ ปรากฏแจ้งแก่พวกทาสเขานั้น. ขอให้คุณงามความดีของพระยะโฮวาพระเจ้าของพวกข้าพเจ้า อยู่กับข้าพเจ้า; ขอทรงบำรุงการหัตถกรรมของพวกข้าพเจ้าให้ตั้งมั่นคงอยู่; ขอโปรดทั้งการฝีมือของพวกข้าพเจ้าให้ถาวรด้วยเถิดพระเจ้าค่ะ”บทเพลงสรรเสริญ 90:10-17
ต้องถวายเครื่องบูชาที่ประตูพลับพลาประชุมเท่านั้น“พระยะโฮวาตรัสสั่งแก่ท่านทั้งหลายดังนี้ว่า, ผู้ใดผู้หนึ่งในพวกยิศราเอลฆ่าวัวหรือแกะหรือแพะ ข้างในหรือข้างนอกที่หยุดพัก, และมิได้เอาสัตว์นั้นมาที่ประตูพลับพลาประชุม, เพื่อจะได้บูชาถวายพระยะโฮวาที่พลับพลาของพระยะโฮวา, ผู้นั้นจะมีโทษ เพราะเขาทำให้เลือดไหล: คนนั้นต้องถูกตัดขาดจากพรรคพวกของตน; ทั้งนี้จุดประสงค์ก็เพื่อจะให้พวกยิศราเอลที่เคยเอาเครื่องบูชาของเขาเผาบูชาตามท้องทุ่ง ให้นำมาถวายต่อพระพักตรพระยะโฮวาที่ประตูพลับพลาประชุม ให้แก่ปุโรหิต, และปุโรหิตจะถวายของเหล่านั้นเป็นเครื่องบูชาโมทนาพระคุณ (สันติไมตรี) แก่พระยะโฮวา. และปุโรหิตจะประพรมโลหิตนั้นบนแท่นบูชาของพระยะโฮวา, ที่ประตูพลับพลาประชุม และเผามันสัตว์นั้นเป็นเครื่องโอชารสอันหอมแก่พระยะโฮวา. และจะไม่ให้เขาทั้งหลายบูชาแก่ปีศาจนั้นอีก, อันเป็นการล่วงประเวณีของเขา (ทำตัวดังหญิงแพศยา). บัญญัตินี้เราให้เป็นบัญญัติถาวรชั่วอายุของเขาทั้งหลาย.' ””เลวีติโก 17:2-7
“จงทำยอดแหลมเป็นรูปเขาสัตว์ไว้ทั้งสี่มุม: ให้ติดอยู่กับแท่น: และจงหุ้มแท่นด้วยทองเหลือง (ดู อฤธ. 16:38-40; 1 ปต. 3:18).”เอ็กโซโด 27:2 TH1940““จงสั่งชนชาติยิศราเอลให้นำน้ำมันมะกอกเทศบริสุทธิ์ที่คั้นแล้ว มาสำหรับเติมประทีป, เพื่อจะให้ประทีปนั้นส่องสว่างอยู่เสมอ. ในพลับพลาที่ประชุมข้างนอกม่านซึ่งบังหีบปฏิญาณไว้นั้น, ให้อาโรนและบุตรหลานของอาโรนตาม (จุดให้ไฟติด) ประทีปไว้ต่อพระพักตร์พระยะโฮวา, ตั้งแต่เวลาพลบค่ำจนถึงรุ่งเช้า: ให้ชาติยิศราเอลถือข้อปฏิบัตินี้ตลอดเชื้อวงศ์ของเขาสืบไปเป็นนิตย์.””เอ็กโซโด 27:20-21
“ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระกรุณาคุณของพระยะโฮวาเป็นนิตย์: ปากของข้าพเจ้าจะกล่าวความสัตย์ซื่อของพระองค์แก่ชนทุกๆ ชั่วอายุ. ด้วยข้าพเจ้าได้กล่าวไว้แล้วว่า, ความเมตตาจะต้องเจริญขึ้นเป็นนิตย์; พระองค์จะทรงตั้งความสัตย์ซื่อของพระองค์ไว้ในสวรรค์ชั้นฟ้าทีเดียว เราได้ตั้งคำสัญญาไว้กับผู้เลือกสรรของเรา, เราได้ปฏิญาณแก่ดาวิดผู้ทาสของเราว่า: เราจะตั้งพงศ์พันธุ์ของเจ้าไว้เป็นนิตย์, และจะสร้างบัลลังก์ของเจ้าขึ้นไว้ให้ถาวรทุกชั่วอายุ.”บทเพลงสรรเสริญ 89:1-4
“และอาโรนจะเอาโลหิตลูก วัวนั้น, มาประพรมด้วยนิ้วมือของตนบนพระที่นั่งกรุณาข้างตะวันออก, และประพรมโลหิตนั้นลงที่พื้นตรงหน้าพระที่นั่งกรุณาเจ็ดหน “แล้วอาโรนจะฆ่าแพะที่เป็นเครื่องบูชาไถ่โทษสำหรับคนทั้งปวงนั้น. เอาโลหิตแพะนั้นเข้าไปในม่าน, และกระทำโลหิตแพะนั้นเหมือนได้กระทำโลหิตของลูกวัว: คือประพรมลงที่พระที่นั่งกรุณา. และที่พื้นตรงหน้าพระที่นั่งกรุณาและปุโรหิตจะกระทำไถ่โทษที่บริสุทธิ์นั้นเพราะมลทินแห่งพวกยิศราเอลทั้งหลาย, และเพราะการผิดและการบาปของเขา, และปุโรหิตจะกระทำไถ่โทษพลับพลาประชุมที่อยู่ท่าม กลางการมลทินของเขาเหมือนกัน. และลูกวัวและแพะที่ปุโรหิตฆ่าเอาโลหิตเขามากระทำไถ่โทษในที่บริสุทธิ์, เขาจะยกออกไปข้างนอกและจะเอาหนังกับเนื้อ และอาจมเผาไฟเสีย.”เลวีติโก 16:14-16, 27 TH1940
เอ็กโซโด 26- ผ้าคลุมพลับพลา เล็งถึงตัวของพระเยซูคริสต์มาบังเกิดเป็นรูปกายมนุษย์ แม้รูปกายภายนอกไม่น่าดูชม แต่ภายในบริสุทธิ์ ดีสมบูรณ์แบบ ไม่เพียงเสด็จมาเป็นพระผู้ไถ่ แต่ยังเป็นวิญญาณผู้ประทานชีวิตเข้าสู่ภายในเราผู้เชื่อ- ไม้กระดานและเสา เล็งถึงพระนิสัยมนุษย์ของพระเยซู ที่แข็งแรงไม่ผุกร่อนง่าย หุ้มด้วยทองคำ คือพระนิสัยบริสุทธิ์ของพระเจ้า- ม่านภายในพลับพลา เล็งถึงพระกายของพระคริสต์ ซึ่งต้องถูกฉีกออก เพื่อเปิดทางให้เรามาถึงพระเจ้าพระบิดา ได้คืนดี ใกล้ชิดกับพระองค์- ม่านที่ประตูพลับพลา เล็งถึงพระกายที่ตรึงบนกางเขน หลั่งเลือดและวายพระชนม์ เพื่อความบาปของเราได้รับการอภัย
ข้อพระคัมภีร์อซด.19:4-6, ซคร. 4:2-14, 1 ปต. 2:4-5, 9, วว. 1:5-6, 5:9-10
“ข้าแต่พระยะโฮวา, พระเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอด, ข้าพเจ้าทูลร้องทุกข์ทั้งกลางวันและกลางคืนฉะเพาะพระพักตรพระองค์. ขอพระองค์ทรงโปรดให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้าขึ้นไปตรงพระพักตรของพระองค์; และขอทรงโปรดเงี่ยพระกรรณสดับฟังเสียงร้องของข้าพเจ้า. เพราะจิตของข้าพเจ้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความทุกข์, และชีวิตของข้าพเจ้าก็เลื่อนเข้าไปใกล้เมืองผี, พระองค์จะทรงสำแดงการอัศจรรย์แก่ผู้ที่ตายแล้วหรือ? ผู้ที่ตายแล้วจะลุกขึ้นถวายความสรรเสริญแก่พระองค์หรือ? ในหลุมฝังศพจะมีผู้ใดกล่าวถึงพระกรุณาของพระองค์หรือ? ในที่มืดเขาจะทราบถึงการอัศจรรย์ของพระองค์หรือ? ในสถานที่หลงลืมนั้นเขาจะรู้ถึงความชอบธรรมของพระองค์หรือ?”บทเพลงสรรเสริญ 88:1-3, 10-12
“ฝ่ายพระยะโฮวาได้ตรัสแก่โมเซว่า, “จงสั่งชนชาติยิศราเอลให้นำของมาถวายแก่เรา: ของนั้นให้รับมาจากทุกๆ คนที่เต็มใจถวาย. ของถวายซึ่งเจ้าจะต้องรับจากเขาคือทองคำ, เงิน, ทองเหลือง, ผ้าสีฟ้า, สีม่วง, สีแดงจัด, ผ้าป่านเนื้อดี, และขนแพะ, หนังแกะตัวผู้ย้อมสีแดง, หนังปลาโลมา, และไม้ซิติม, น้ำมันเติมประทีป, เครื่องหอมปรุงน้ำมันสำหรับชะโลม, และเครื่องหอมสำหรับเผา. แก้วเพทาย, และแก้วสำหรับฝังในเคโฟดและในทับทรวง. แล้วให้เขาสร้างที่บริสุทธิ์ถวายแก่เรา, เพื่อเราจะได้อยู่ท่ามกลางเขา. แบบอย่างพลับพลาและเครื่องทั้งปวงของพลับพลานั้น, เจ้าจงทำตามสารพัตรที่เราแจ้งไว้แก่เจ้านี้.””เอ็กโซโด 25:1-9 TH1940
“รากฐาน (เมือง) ของพระองค์ทรงตั้งอยู่ในหมู่ภูเขาบริสุทธิ์. พระยะโฮวาทรงรักประตูแห่งเมืองซีโอนยิ่งกว่าบรรดาที่อาศัยของพวกยาโคบ. โอ้เมืองแห่งพระเจ้า, มีผู้กล่าวถึงสิ่งที่เป็นสง่าราศีของเมืองนี้. เออ, จะมีคนกล่าวถึงซีโอนว่า, ชายผู้นั้นผู้นี้ได้บังเกิดในเมืองซีโอน; และพระองค์ผู้ใหญ่ยิ่ง, พระองค์เองจะทรงตั้งเมืองนั้นไว้ให้มั่นคง. เมื่อทรงจดบัญชีชาติต่างๆ, พระยะโฮวาจะทรงจดไว้ว่า, ผู้นี้ได้บังเกิดในเมืองนั้น.”บทเพลงสรรเสริญ 87:1-3, 5-6
“เขาได้ใช้คนหนุ่มชาติยิศราเอลให้ถวายโคเป็นเครื่องเผาครบบูชา, และบูชาสมานไมตรีแด่พระยะโฮวา. โมเซได้เก็บโลหิตโคครึ่งหนึ่งไว้ในชาม; อีกครึ่งหนึ่งได้ประพรมที่แท่นบูชา. ท่านได้ถือหนังสือสัญญาไมตรีอ่านให้พลไพร่ฟัง: เขาทั้งหลายจึงตอบว่า, “สิ่งสารพัตรที่พระยะโฮวาได้ตรัสไว้นั้น, พวกข้าพเจ้าจะเชื่อฟังและทำตาม.” โมเซได้เอาโลหิตในชามนั้นประพรมพลไพร่ทั้งปวงและว่า, “นี่แหละเป็นโลหิตเล็งถึงคำสัญญาไมตรีที่พระยะโฮวาได้ทำกับพวกเจ้า, ตามคำโอวาทนี้ทุกประการ.””เอ็กโซโด 24:5-8
“ขอทรงโปรดรักษาชีวิตของข้าพเจ้าไว้เพราะข้าพเจ้าเป็นผู้สัตย์ซื่อ: ข้าแต่พระเจ้า, ขอทรงช่วยผู้ทาสที่วางใจในพระองค์. ขอทรงโปรดกระทำจิตต์ใจผู้ทาสของพระองค์ให้ชื่นชมยินดี; ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า, เพราะข้าพเจ้ายกจิตต์ใจถวายแก่พระองค์. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า, พระองค์ทรงประกอบไปด้วยพระคุณพร้อมที่จะทรงยกความผิด, และทรงพระกรุณาคุณเหลือล้นแก่บรรดาผู้ที่ร้องทูลพระองค์. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า, บรรดาชนประเทศที่พระองค์ทรงสร้างแล้วจะมาเฝ้านมัสการต่อพระองค์; และถวายเกียรติยศแก่พระนามของพระองค์. เพราะพระองค์เป็นใหญ่, และทรงกระทำการอัศจรรย์: พระองค์ผู้เดียวเป็นพระเจ้า. ข้าแต่พระยะโฮวา, ขอทรงโปรดสั่งสอนข้าพเจ้าให้รู้ในทางพระองค์, ข้าพเจ้าจะได้ประพฤติตามความสัตย์จริงของพระองค์: ขอทรงยังใจข้าพเจ้าให้เกรงกลัวพระนามของพระองค์. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าจะยกย่องสรรเสริญพระองค์ด้วยสุดใจ; และจะถวายเกียรติยศแก่พระนามของพระองค์เป็นนิตย์. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า, พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ประกอบไปด้วยพระเมตตากรุณา, ทรงพระพิโรธช้าๆ, ความกรุณาคุณและความสัตย์จริงมีเหลือล้น. ขอทรงหันพระพักตรและทรงพระกรุณาแก่ข้าพเจ้า; ขอทรงโปรดประทานกำลังแก่ผู้ทาสของพระองค์, และขอทรงช่วยบุตรชายแห่งทาสีของพระองค์ให้รอด.”บทเพลงสรรเสริญ 86:2, 4-5, 9-12, 15-16
““จงถือเทศกาลเลี้ยงระลึกถึงเราปีละสามครั้ง. จงถือเทศกาลเลี้ยงกินขนมปังไม่มีเชื้อในเดือนอาบิบ, อันเป็นเดือนซึ่งเราได้กำหนดตั้งไว้; เจ้าจงกินขนมปังไม่มีเชื้อให้ครบเจ็ดวัน, ตามที่เราได้สั่งเจ้าแล้ว, เพราะในเดือนนั้นเจ้าได้ออกจากประเทศอายฆุบโต; อย่าให้ผู้ใดมาเฝ้าเรามือเปล่าเลย. แล้วจงถือเทศกาลเลี้ยงในต้นฤดูเก็บเกี่ยว, คือผลแรกที่เกิดจากพืชซึ่งเจ้าได้หว่านในนา, และจงถือเทศกาลเลี้ยงปลายปี, เมื่อเจ้าได้เก็บรวบรวมพืชผลจากทุ่งนาไว้เสร็จแล้ว. ให้ชายทั้งหลายเฝ้าพระยะโฮวาปีละสามครั้ง.” “นี่แหละ, เราจะใช้ทูตของเราไปข้างหน้าพวกเจ้า, เพื่อรักษาพวกเจ้าตามทาง, นำไปถึงที่นั่นซึ่งเราได้เตรียมไว้. จงสนใจนำพาต่อทูตนั้นและจงเชื่อฟังคำของท่าน; อย่าขัดขืน ดื้อรั้น ฝ่าฝืน กบฏ ต่อท่านเลย; เพราะท่านจะไม่ยกความผิดของเจ้าเลย: ด้วยพระนามของเราอยู่กับท่าน. ถ้าแม้ว่าเจ้าทั้งหลายจะฟังคำของท่านจริงๆ, และทำสิ่งสารพัตรซึ่งเราสั่งไว้, เราจะเป็นศัตรูต่อศัตรูของพวกเจ้า; ผู้ใดต่อสู้กับพวกเจ้า, เราจะต่อสู้กับผู้นั้น. ด้วยทูตของเราจะไปข้างหน้าพวกเจ้า, และจะนำพวกเจ้าไปถึงเมืองของชนชาติอะโมรีชาติเฮธ, ชาติพะริซี, ชาติคะนาอัน, ชาติฮีวี, และชาติยะบูศ: แล้วเราจะประหารชาวเมืองเหล่านั้นเสีย. อย่าได้กราบไหว้พระของเขา, หรือปรนนิบัติหรือทำตามแบบอย่างที่พวกเขากระทำอยู่นั้น; แต่จงทำลายรูปเคารพของเขา, และจงทุบหักศิลาเหลี่ยมเคารพของเขาเสียให้แหลกละเอียด. จงปรนนิบัติพระยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า, แล้วพระองค์จะทรงอวยพระพรแก่อาหารและน้ำของพวกเจ้า; เราจะบันดาลให้โรคต่างๆ หายไปจากท่ามกลางพวกเจ้า. จะไม่มีสัตว์ตัวใดแท้งลูกหรือเป็นหมันในประเทศของเจ้า: เวลากำหนดอายุของพวกเจ้าจะให้มีครบเต็มบริบูรณ์. เราจะให้ความตระหนกตกใจเพราะเราล่วงหน้าไปก่อนพวกเจ้า. และชาวเมืองทั้งปวงที่พวกเจ้าจะมาถึงนั้นเราจะประหารเสีย; เราจะให้พวกศัตรูทั้งปวงหันกลับหนีไปจากพวกเจ้า. เราจะใช้ฝูงต่อให้ล่วงหน้าไปก่อนพวกเจ้า, จะได้ไล่ชนชาติฮีวี, ชนชาติคะนาอัน, ชนชาติเฮธ, ไปจากข้างหน้าพวกเจ้า. เราจะไม่ไล่เขาไปล่วงหน้าพวกเจ้าในกำหนดปีเดียว. เกรงว่าแผ่นดินจะรกร้างไป, และสัตว์ป่าจะทวีขึ้นต่อสู้กับพวกเจ้า. แต่เราจะไล่เขาล่วงหน้าพวกเจ้าไปทีละน้อยๆ, จนพวกเจ้าจะทวีมากขึ้น, แล้วจะได้รับแผ่นดินนั้นเป็นมฤดก. พวกเจ้าอย่าทำสัญญาไมตรีกับเขาหรือกับพระของเขาเลย. เขาจะอาศัยในแผ่นดินของเรามิได้เลย, เกรงว่าเขาจะกระทำให้เจ้าผิดต่อเรา; เพราะว่าถ้าพวกเจ้าจะปรนนิบัติพระของเขา, ก็จะเป็นบ่วงแร้วแก่เจ้าเป็นแน่.””เอ็กโซโด 23:14-17, 20-30, 32-33
“จงเร่งนำพืชผลอันอุดมของเจ้าและน้ำผลไม้ต่างๆ ในต้นฤดูมาถวายพระเจ้า; อย่าคอยให้เนิ่นช้าเลย. จงถวายบุตรชายหัวปีของเจ้าให้แก่เรา.”เอ็กโซโด 22:29 TH1940
“แน่นอนทีเดียว ความรอดจากพระองค์อยู่ใกล้คนทั้งหลายที่เกรงกลัวพระองค์, เพื่อสง่าราศีนั้นจะได้ดำรงอยู่ที่แผ่นดินของพวกเรา. ความเมตตากรุณาและความสัตย์จริงได้พบปะกัน; ความชอบธรรมและความสันติสุขจุบกันแล้ว. ความสัตย์จริงงอกขึ้นจากพื้นดิน; และความชอบธรรมทอดตาแลลงมาจากสวรรค์. พระยะโฮวาจะประทานสิ่งซึ่งดีพระเจ้าค่ะ; และแผ่นดินของพวกข้าพเจ้าจะเกิดผล. ความชอบธรรมจะนำหน้าพระองค์, และจะกระทำให้รอยพระบาทของพระองค์เป็นมรคา (ทางเดิน) ของพวกข้าพเจ้า”บทเพลงสรรเสริญ 85:9-13
ถ้าเจ้าจะซื้อชนชาติเฮ็บรายไว้เป็นทาส, เขาจะต้องปรนนิบัติเจ้าในเวลากำหนดหกปี: แต่ปีที่เจ็ดนั้นจงปล่อยเขาไปเป็นไทย เป็นอันหมดค่าตัว. ถ้าทาสนั้นมากล่าวเป็นที่เข้าใจชัดเจนว่า ข้าพเจ้ายังรักนายและลูกเมียของข้าพเจ้าอยู่ ข้าพเจ้าไม่อยากออกไปเป็นไทย: ให้นายพาทาสนั้นไปหาตุลาการ พาเค้าไปถึงประตู หรือถึงเสาแม่ประตู; แล้วให้นายเจาะหูเขาด้วยเหล็กหมาด และเขาก็จะปรนนิบัตินายต่อไปจนชีวิตหาไม่.เอ็กโซโด 21: 2, 5-6
““เราคือยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า, ผู้ได้นำเจ้าออกจากประเทศอายฆุบโต, คือจากฐานะแห่งทาสนั้น.” “อย่าได้มีพระเจ้าอื่นต่อหน้าเราเลย.” “อย่าทำรูปเคารพสำหรับตน, เป็นสันฐานรูปสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งมีอยู่ในฟ้าอากาศเบื้องบน, หรือซึ่งมีอยู่ที่แผ่นดินเบื้องล่าง, หรือซึ่งมีอยู่ในน้ำใต้แผ่นดิน, อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น; ด้วยเราคือยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าเป็นผู้หวงแหน, ให้โทษของบิดาที่ชังเรานั้นติดเนื่องจนถึงลูกหลานกระทั่งสามชั่วสี่ชั่วอายุคน; แต่แสดงความกรุณาแก่ผู้ที่รักเรา, และรักษาบัญญัติของเรา, ถึงหลายพันชั่วอายุ.” “อย่าออกพระนามพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าเปล่าๆ; ด้วยผู้ที่ออกพระนามพระองค์เล่นเปล่าๆ นั้น, พระยะโฮวาจะถือว่าไม่มีโทษหามิได้.” “จงระลึกถึงวันซะบาโต, ถือเป็นวันบริสุทธิ์. จงทำการงานทั้งสิ้นของเจ้าหกวัน; แต่วันที่เจ็ดนั้นเป็นซะบาโตแห่งพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า: ในวันนั้นอย่ากระทำการงานสิ่งใดๆ, คือเจ้าเอง, หรือบุตราบุตรีของเจ้า, หรือทาสาทาสีของเจ้า, หรือสัตว์ใช้ของเจ้า, หรือแขกที่มาอาศัยอยู่ภายในประตูเมืองของเจ้า: เพราะในหกวันพระยะโฮวาได้ทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน, และทะเล, และสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในที่เหล่านั้น, แต่ในวันที่เจ็ดได้ทรงงดการงานไว้: เหตุฉะนั้นพระยะโฮวาได้ทรงอวยพรแก่วันซะบาโต, และทรงตั้งไว้เป็นวันบริสุทธิ์.” “จงนับถือบิดามารดาของเจ้า, เพื่ออายุของเจ้าจะได้ยืนนานบนแผ่นดินซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าประทานให้แก่เจ้า.” “อย่าฆ่าคน.” “อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา.” “อย่าลักทรัพย์.” “อย่าเป็นพะยานเท็จต่อเพื่อนบ้าน.” “อย่าโลภเรือนของเพื่อนบ้าน, อย่าโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน, หรือทาสาทาสีของเขา, หรือโคลาของเขา, หรือสิ่งใดๆ ซึ่งเป็นของๆ เพื่อนบ้าน.” พระยะโฮวาจึงตรัสแก่โมเซว่า, “จงไปบอกชนชาติยิศราเอลดังนี้ว่า, ‘เจ้าทั้งหลายได้เห็นแล้วว่าเราได้ตรัสกับพวกเจ้าจากท้องฟ้า. เจ้าอย่าทำรูปเคารพด้วยเงินหรือทองไว้สำหรับบูชาเทียบเทียมกับเรา; อย่าเคารพนมัสการสิ่งเหล่านั้น. จงใช้ดินก่อแท่นสำหรับเรา, และบนแท่นนั้นจงใช้แกะและโคของเจ้า: ถวายบูชาเผาและบูชาสมานไมตรี: ในทุกตำบลที่เราจารึกนามของเราไว้, เราจะมาหาเจ้าและจะอวยพรแก่เจ้า.”เอ็กโซโด 20:2-17, 22-24 TH1940
“ข้าแต่พระยะโฮวา, พระเจ้าแห่งพลโยธา, สถานที่พระองค์สถิตนั้นเป็นที่งดงามน่ารักจริง! จิตของข้าพเจ้าโหยหาถึงพระนิเวศน์ของพระยะโฮวาจนสลบไสลไป; จิตใจและเนื้อหนังของข้าพเจ้าร้องอาลัยถึงพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่. คนทั้งหลายที่อยู่ในพระวิหารของพระองค์ก็เป็นสุข: เขาถวายความสรรเสริญพระองค์เสมอ. คนที่พึ่งพระองค์เป็นกำลังของตนก็ผาสุก; ผู้ซึ่งใส่ใจชอบในพระมรคาไปซีโอน. เมื่อเดินไปตามหว่างเขาน้ำตก เขากระทำให้กลายเป็นที่น้ำพุพลุ่งขึ้น; พระเจ้าค่ะ, และฝนต้นฤดูก็ตกแต่งที่นั้นด้วยพร. คนเหล่านั้นมีกำลังทวีขึ้น; เขาทุกคนก็ปรากฏตัวฉะเพาะพระเจ้าในเมืองซีโอน. เพราะว่าวันหนึ่งในบริเวณพระวิหารก็ดีกว่าพันวัน. ข้าพเจ้าเป็นคนเฝ้าประตูพระวิหารพระเจ้าของข้าพเจ้า ยังดีกว่าอยู่ในกะโจมแห่งความชั่ว. เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าเป็นดวงอาทิตย์และเป็นโล่ห์: พระยะโฮวาจะทรงประทานพระคุณกับเกียรติยศ; พระองค์จะไม่ทรงกีดกันของดีไว้จากเหล่าคนที่ประพฤติในทางซื่อตรงเลย. ข้าแต่พระยะโฮวาแห่งพลโยธา, คนที่วางใจพระองค์ก็เป็นผาสุก”บทเพลงสรรเสริญ 84:1-2, 4-7, 10-12
“โมเซได้ขึ้นไปเฝ้าพระเจ้า, และพระยะโฮวาได้ตรัสจากภูเขานั้นว่า, “จงกล่าวแก่เผ่าพันธุ์ของยาโคบ, และบอกแก่ชนชาติยิศราเอลดังนี้ว่า: ‘เจ้าทั้งหลายได้เห็นการณ์ซึ่งเราได้กระทำแก่ชนชาติอายฆุบโตแล้ว, คือที่เราได้ยกชูเจ้าทั้งหลายขึ้น, ดุจดังอยู่บนปีกนกอินทรีย์เพื่อนำเจ้ามาถึงเราอย่างไร. เหตุฉะนี้ถ้าเจ้าทั้งหลายจะฟังถ้อยคำของเราจริงๆ, และรักษาคำสัญญาไมตรีของเราไว้, เจ้าจะเป็นทรัพย์ประเสริฐของเรายิ่งกว่าชาติทั้งปวง: เพราะเราเป็นเจ้าของโลกทั้งสิ้น: เจ้าทั้งหลายจะเป็นอาณาจักรแห่งปุโรหิต, และจะเป็นชนชาติอันบริสุทธิ์สำหรับเรา, ถ้อยคำเหล่านี้จงเล่าให้ชนชาติยิศราเอลฟัง.' ””เอ็กโซโด 19:3-6 TH1940
“ข้าแต่พระเจ้า, ขออย่าทรงนิ่งเฉยเสีย; ข้าแต่พระเจ้า, ขออย่าทรงเงียบงดพระดำรัสเลย. เขาปรึกษากันออกอุบายปองร้ายพลไพร่ของพระองค์, เขาคิดอ่านกันจะต่อสู้พวกที่พระองค์ทรงซ่อนไว้. เขากล่าวว่า, มาเถิด, ให้เราผลาญพวกนั้นเสีย อย่าให้ตั้งเป็นประเทศได้; เพื่อชื่อเสียงพวกยิศราเอลจะไม่เป็นที่ระลึกถึงต่อไปอีก. เพราะเขาปรึกษาพร้อมใจกันแล้ว; สัญญากันไว้ว่าจะขัดขืนพระองค์; เขาได้กล่าวว่า, ให้เรายื้อแย่งที่ประทับ (ทุ่งหญ้า) ของพระเจ้าไว้เป็นที่ของเราเถิด. ข้าแต่พระเจ้า, ขอให้เขาเป็นดุจผงคลีดินปลิวเวียนไปตามลมบ้าหมู; เป็นเหมือนซังข้าวที่ลมกล้าพัดไปนั้น. ให้เป็นเหมือนไฟไหม้ป่าดง, เหมือนเพลิงติดลุกโพลงขึ้นที่ภูเขา. และขอทรงขับไล่เขาด้วยลมพายุของพระองค์, และทรงกระทำให้เขาตกใจกลัวด้วยลมพายุของพระองค์. ข้าแต่พระยะโฮวา, ขอทรงบันดาลให้หน้าเขายุ่ง (อับอายขายหน้า), เพื่อเขาจะได้แสวงหาพระนามของพระองค์; เพื่อให้เขารู้ว่าพระองค์ผู้เดียว, ผู้ทรงพระนามว่าพระยะโฮวา. เป็นพระเจ้าใหญ่ยิ่งทรงครอบครองทั่วแผ่นดินโลก”บทเพลงสรรเสริญ 83:1, 3-5, 12-16, 18
“ยิธโร จึง กล่าว ว่า, “สรรเสริญพระ ยะ โฮ วา ผู้ ทรง ช่วย ท่าน ทั้ง หลาย ให้ รอด จาก เงื้อมมือ ชนชาติ อาย ฆุบ โต, และ จาก หัตถ์ ของ กษัตริย์ ฟา โร, คือ ผู้ ได้ ทรง ช่วย พล ไพร่ ให้ พ้น จาก เงื้อมมือ ชนชาติ อาย ฆุบ โต. บัดนี้ เรา ทราบ แล้ว ว่า พระ ยะ โฮ วา เป็น ใหญ่ กว่า พระ อื่น ทั้งปวง, ผู้ ได้ กระทำ ต่อ ชนชาติ ยิศ รา เอล อย่างทะนงตัว.” โม เซ จึง ตอบ พ่อตา ว่า, “เพราะ พล ไพร่ มา หา ข้าพ เจ้า เพื่อ ขอ ให้ ทูลถาม พระเจ้า: เมื่อ เขา มี คดี ต่อ กัน, ก็ มา หา ข้าพ เจ้า; ' ข้าพ เจ้า ก็ ตัดสิน ให้ เขา ทุกคน, สอน ให้ เขา รู้จัก ข้อปฏิบัติ และ ข้อกฎหมาย ของ พระเจ้า.” จง ฟัง คำ ซึ่ง เรา จะ เตือน ท่าน, และ ขอ ให้ พระเจ้า ทรง สถิต อยู่ กับ ท่าน: ท่าน จง เป็น คนกลาง ระหว่าง พล ไพร่ กับ พระเจ้า, คือ จง นำ ความ กราบ ทูล พระเจ้า: ท่าน จง สั่งสอน เขา ให้ รู้ ข้อปฏิบัติ และ ข้อกฎหมาย, และ แสดง ให้ เขา รู้จัก ทาง และ การ ประ พฤติ ที่ เรา ควร กระ ทำ. อีก ประการ หนึ่ง ท่าน จง เลือก คน ที่ สามารถ จาก พล ไพร่ คือ คน ที่ เกรงกลัว พระเจ้า, ที่ เป็น คน ซื่อสัตย์, และ เป็น คน เกลียด สินบน; ตั้ง เขา ไว้ เป็น นาย พัน, นาย ร้อย, นาย ห้า สิบ, นาย สิบ: ให้ เขา เป็น ผู้พิพากษา ความ ของ พล ไพร่ เสมอ: เมื่อ เกิด ความ ใหญ่ ก็ ให้ เขา นำ ความ นั้น ทุกๆ เรื่อง มา แจ้ง ต่อ ท่าน, แต่ ความ เล็กน้อย จง ให้ เขา ตัดสิน เอง: ดังนี้ จะ ได้ ช่วยเหลือ ให้ กิจการ ของ ท่าน เบาบาง ลง.”เอ็ก โซ โด 18:10-11, 15-16, 19-22
“เพราะเหตุนั้นบรรดาพลไพร่จึงได้บ่นติเตียนโมเซว่า, “จงให้น้ำพวกข้าพเจ้ากินเถิด.” โมเซจึงตอบว่า, “พวกเจ้าบ่นต่อว่าเราทำไม? เหตุไฉนพวกเจ้าจึงบังอาจลองดีพระยะโฮวา?” ไพร่พลก็กระหายน้ำที่ตำบลนั้น, จึงบ่นต่อโมเซว่า, “เหตุไรเล่าท่านจึงพาพวกข้าพเจ้า, ทั้งบุตรและฝูงสัตว์, ออกจากประเทศอายฆุบโตเพื่อจะให้อดน้ำตาย?” จงดูเถิด, เราจะยืนอยู่ต่อหน้าเจ้าบนศิลาที่ภูเขาโฮเร็บ; จงตีศิลานั้น, แล้วน้ำจะไหลออกมาสำหรับพลไพร่จะได้ดื่ม.” โมเซก็ได้ทำดังนั้นต่อหน้าผู้เฒ่าของชนชาติยิศราเอล. โมเซได้เรียกชื่อตำบลนั้นว่ามาซาและมะรีบา, ด้วยเหตุชนชาติยิศราเอลได้บ่นติเตียนต่อว่าตน ณ ที่นั้น, และได้ชันสูตร (ลองดี, ยั่ว) พระยะโฮวาว่า, “พระองค์สถิตอยู่ท่ามกลางพวกข้าพเจ้าหรือไม่?” พระยะโฮวาจึงตรัสแก่โมเซว่า, “ข้อความนี้จงเขียนไวัเป็นหนังสือเล่มหนึ่งสำหรับเป็นที่ระลึก, ทั้งเล่าเน้นให้ยะโฮซูอะฟัง: คือว่าเราจะลบล้างชนชาติอะมาเลคไม่ให้ปรากฏชื่ออยู่ในความจำของประชาชนภายใต้ฟ้าเลย. โมเซจึงได้สร้างแท่นบูชาเรียกชื่อว่ายะโฮวานิซี; เพราะเหตุว่าพระยะโฮวาทรงปฏิญาณไว้ว่า, พระองค์จะทรงกระทำสงครามกับชนชาติอะมาเลคต่อเนื่องไปชั่วลูกชั่วหลาน”เอ็กโซโด 17:2-3, 6-7, 14-16 TH1940
“ชนชาติยิศราเอลก็พากันบ่นต่อโมเซและอาโรนในป่านั้นว่า, “พวกข้าพเจ้าใคร่จะได้ตายเสียด้วยพระหัตถ์พระยะโฮวาในประเทศอายฆุบโต, ขณะเมื่ออยู่ใกล้หม้อเนื้ออันได้รับประทานอาหารอิ่มหนำ; แต่นี่ท่านทั้งสองกลับนำพวกข้าพเจ้าออกมาในป่ากันดารนี้, เพื่อจะให้อดอาหารตายเท่านั้น.” ครั้งนั้นพระยะโฮวาได้ตรัสแก่โมเซว่า, “นี่แน่ะ, เราจะบันดาลให้ขนมปังตกลงมาจากท้องฟ้าดุจฝนสำหรับให้เจ้าทั้งหลายกิน; ชนทั้งหลายจะได้ออกไปเก็บพอกินสำหรับฉะเพาะวันหนึ่งๆ, เพื่อเราจะลองใจเขาว่าเขาจะประพฤติตามกฎของเราหรือไม่. เมื่อถึงวันที่หกให้เขาเตรียมเก็บไว้สองเท่าของวันอื่น.” ในเวลาเช้าพวกเจ้าจะได้เห็นสง่าราศีแห่งพระเจ้าเพราะคำบ่นต่อว่าของพวกเจ้าต่อพระยะโฮวาทราบถึงพระองค์แล้ว: เราทั้งสองเป็นผู้ใดเล่า, พวกเจ้าจึงมาบ่นต่อว่าเรา?” โมเซได้กล่าวว่า, “ในเวลาเย็นพระยะโฮวาจะประทานเนื้อให้เจ้ากิน, ในเวลาเช้าพวกเจ้าจะมีขนมปังกินอิ่ม; เพราะพระยะโฮวาได้ทรงทราบคำบ่นซึ่งเจ้าได้บ่นต่อว่าพระองค์: เราทั้งสองนี้เป็นผู้ใด? พวกเจ้ามิได้บ่นต่อว่าเรา, แต่ได้บ่นต่อว่าพระยะโฮวาต่างหาก.” อยู่มาเมื่อวันที่เจ็ดมีบางคนได้ออกไปเก็บ, แต่หาได้พบไม่. พระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “พวกเจ้าจะขัดขืนข้อบัญญัติและกฎหมายของเรานานสักเท่าไร?”เอ็กโซโด 16:2-5, 7-8, 27-28
“พระเจ้าทรงยืนอยู่ในท่ามกลางชุมนุมชนของพระองค์; พระองค์ทรงพิพากษาท่ามกลางพระ (ผู้ตัดสิน). เจ้าทั้งหลายจะพิพากษาโดยอยุตติธรรม, และเห็นแก่หน้าเหล่าคนชั่วนานสักเท่าใด? จงให้ความยุติธรรมแก่ผู้มีกำลังน้อยของลูกกำพร้าพ่อ; คนมีทุกข์ยาก (ถูกกดขี่) และคนขัดสน. จงปลดปล่อยคนที่มีกำลังน้อยและคนขัดสน: ให้รอดพ้นจากมือคนชั่ว. ข้าแต่พระเจ้า, ขอพระองค์ทรงเสด็จมาพิพากษาแผ่นดินโลก; เพราะพระองค์จะได้ชนประเทศทั้งปวงเป็นมฤดก”บทเพลงสรรเสริญ 82:1-4, 8
บทเพลงของโมเซ“ขณะนั้นโมเซกับชนชาติยิศราเอลได้ร้องเพลงบทนี้ถวายพระยะโฮวาว่า, “ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระยะโฮวา, เพราะพระองค์ทรงได้ชัยชะนะอย่างสง่าผ่าเผย; พระองค์ได้ทรงผลักม้าและพลม้าลงในทะเล. พระยะโฮวาเป็นกำลังและเป็นกำเนิดบทเพลงสรรเสริญแห่งข้าพเจ้า, พระองค์เป็นผู้ช่วยให้ข้าพเจ้ารอด: พระองค์นี่แหละเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า, และข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์; และพระองค์เป็นพระเจ้าของบรรพบุรุษ, ข้าพเจ้าจะยกยอสรรเสริญพระองค์. พระยะโฮวาเป็นนักรบ: พระนามของพระองค์คือพระยะโฮวา. พระองค์ได้ทรงทิ้งพลรถและพลโยธาของกษัตริย์ฟาโรลงในทะเล; นายทหารรถรบที่แกล้วกล้าของกษัตริย์ฟาโรก็จมน้ำตายในทะเลแดง. น้ำลึกได้ท่วมเขาเสีย: เขาได้จมลงในน้ำลึกประดุจก้อนหิน. ข้าแต่พระยะโฮวา, พระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ทรงอานุภาพอันสง่าผ่าเผย, พระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ทรงทำลายศัตรูให้ป่นปี้ไป. ผู้ใดที่ลุกขึ้นต่อสู้พระองค์ๆ ทรงทำลายเสียด้วยเดชานุภาพใหญ่ยิ่ง: พระองค์ทรงพระพิโรธเผาผลาญเขาเสียเหมือนไฟเผาตอฟาง. โดยลมระบายจากพระนาสิกของพระองค์น้ำก็รวมเข้าเป็นกลุ่มท่วมสูงขึ้นไป; กองน้ำลึกในท้องทะเลก็ปรากฏเป็นกลุ่มก้อนเหมือนน้ำแข็ง. พวกข้าศึกได้กล่าวว่า, ‘เราจะติดตามจับให้ทัน, จะริบสิ่งของมาแบ่งปันกัน; เราจึงจะอิ่มใจดังประสงค์ที่จะทำกับพวกนั้น; เราจะชักดาบออกประหารเขาเสียด้วยฝีมือของเรา.' พระองค์ทรงบันดาลลมของพระองค์ให้พัดมา, น้ำทะเลก็ท่วมมิดเขา: เขาได้จมลงในน้ำเล็กเหมือนตะกั่ว. ข้าแต่พระยะโฮวา, ในบรรดาพระทั้งปวงองค์ไหนจะเป็นใหญ่เหมือนพระองค์เล่า? ใครจะเสมอกับพระองค์, ผู้ประกอบด้วยความบริสุทธิ์รุ่งเรือง, ทรงกระทำการอัศจรรย์นั้นเป็นที่น่ายำเกรงและน่าสรรเสริญหรือ? ก็พระองค์ทรงเหยียดพระหัตถ์เบื้องขวาออก, แผ่นดินก็ได้สูบกลืนเขาเสีย. พระองค์ได้ทรงพระกรุณานำหน้าพลไพร่ซึ่งพระองค์ได้ทรงไถ่ไว้. พระองค์ได้ทรงพาเขามาถึงที่สถิตอันบริสุทธิ์ของพระองค์โดยเดชานุภาพของพระองค์. ชาวประเทศต่างๆ ได้ยินแล้วก็สะทกสะท้านด้วยความกลัว, เมืองฟะเลเซ็ธก็รู้สึกเสียวสยองยิ่งนัก. ครั้งนั้นพวกเจ้านายในเมืองอะโดมก็หวาดกลัวจนสิ้นสติ; ชายฉกรรจ์ในเมืองโมอาบก็สะทกสะท้านด้วยความกลัว: ชาวคะนาอันทั้งปวงก็แตกฉานซ่านเซ็นไป. ความตระหนกตกใจกลัวอุบัติขึ้นในใจของเขา; เนื่องด้วยฤทธานุภาพแห่งพระกรของพระองค์; เขานิ่งอยู่เหมือนก้อนหิน, จนพลไพร่ของพระองค์เดินผ่านข้ามไป, โอ้พระยะโฮวา, จนพลไพร่ซึ่งพระองค์ทรงไถ่ไว้แล้วเดินผ่านข้ามไป. ข้าแต่พระยะโฮวา, พระองค์จะทรงนำพวกเขาเข้ามา, และจะทรงปลูกพวกเขาไว้บนภูเขาซึ่งเป็นมฤดกของพระองค์, คือสถานที่ของพระองค์ที่ทรงเตรียมไว้เพื่อจะได้สถิตอยู่, คือวิหารซึ่งพระหัตถ์ของพระองค์ได้ทรงตั้งไว้. พระยะโฮวาจะทรงครอบครองอยู่เป็นนิตย์นิรันดร์.””เอ็กโซโด 15:1-18
ข้ามทะเลแดง (บัตติสมา)“เมื่อกษัตริย์ประเทศอายฆุบโตทราบความว่าพลไพร่ยิศราเอลหนีไปแล้ว: พระทัยของฟาโรและใจของข้าราชการก็เปลี่ยนจากความตั้งใจเดิมที่มีต่อพลไพร่นั้นไปว่า, “ทำไมหนอเราจึงได้ทำเช่นนั้น? ไฉนเราจึงได้ปล่อยพวกยิศราเอลไปจากการปรนนิบัติเราเล่า?” ฝ่ายกษัตริย์ฟาโรก็ให้เตรียมราชรถและนำพลโยธาติดตามไป: ท่านได้เกณฑ์ราชรถรบอย่างดีหกร้อยคัน, กับรถรบหลวงทั้งหลายทั่วประเทศอายฆุบโต, มีนายทหารประจำอยู่ทุกคัน. เมื่อกษัตริย์ฟาโรเข้ามาใกล้, ชาติยิศราเอลก็เงยหน้าแลดูเห็นชนชาติอายฆุบโตติดตามมา, ก็มีความกลัวยิ่งนัก: จึงได้ร้องทูลพระยะโฮวา. เขาได้เรียนโมเซว่า, “หลุมฝังศพในประเทศอายฆุบโตไม่มีหรือท่านจึงได้พาเราออกมาให้ตายในป่ากันดาร? ทำไมหนอท่านจึงได้พาเราออกมาจากประเทศอายฆุบโต? พวกเราได้บอกท่านแล้วแต่ในประเทศอายฆุบโตมิใช่หรือว่า, จงปล่อยให้พวกเราปรนนิบัติชนชาติอายฆุบโตเถิดเพราะการที่จะปรนนิบัติชนชาติอายฆุบโตนั้นก็ดีกว่าที่จะมาตายในป่ากันดาร? ' ” โมเซจึงเตือนพลไพร่นั้นว่า, อย่ากลัวเลย, จงยืนอยู่นิ่งๆ จะได้เห็นความรอดมาแต่พระยะโฮวา, ซึ่งพระองค์จะทรงประทานแก่เจ้าทั้งหลายในวันนี้: ด้วยชาวอายฆุบโตซึ่งเจ้าทั้งหลายได้เห็นในวันนี้, ตั้งแต่นี้ต่อไปจะไม่ได้เห็นอีกเลย. พระยะโฮวาจะทรงรบแทนเจ้าทั้งหลาย; เจ้าทั้งหลายจงสงบอยู่เถิด.””เอ็กโซโด 14:5-7, 10-14 TH1940
บุตรหัวปีต้องแยกบริสุทธิ์ออกมาเพื่อถวายแด่พระเจ้า“พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระฉายของพระเจ้า ผู้ซึ่งไม่ประจักษ์แก่ตา ทรงเป็นบุตรหัวปีเหนือสรรพสิ่งทั้งปวง”โคโลสี 1:15 KJV“เจ้าจงทูลกษัตริย์ฟาโรว่า, ‘พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, “ชนชาติยิศราเอลนั้นเป็นบุตรหัวปีของเรา;”เอ็กโซโด 4:22 TH1940“และมาถึงคริสตจักรของบรรดาบุตรหัวปีผู้มีชื่อจารึกไว้ในสวรรค์แล้ว…”ฮีบรู 12:23a THSV11“และโมเซกล่าวแก่พลไพร่ว่า, “จงระลึกถึงวันนี้, ที่เจ้าทั้งหลายได้ออกไปจากอายฆุบโต, จากฐานะแห่งทาส: โดยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ พระยะโฮวาได้ทรงนำเจ้าทั้งหลายออกจากที่นั่น; อย่ากินขนมปังที่มีเชื้อเลย. ครั้นพระยะโฮวาจะทรงนำพวกเจ้ามาถึงประเทศคะนาอัน, ถึงชาติเฮธ, ชาติอะโมรี, ชาติฮีวี, และชาติยะบูศ, ที่พระองค์ทรงปฏิญาณไว้กับรรพบุรุษว่า จะยกแผ่นดินที่บริบูรณ์ไปด้วยน้ำนมและน้ำผึ้งให้พวกเจ้า, ขณะนั้นเจ้าทั้งหลายจงถือเทศกาลนี้ในเดือนนั้น. จงกินขนมปังไม่มีเชื้อให้ครบกำหนดเจ็ดวัน, และวันที่เจ็ด จงถือเป็นพิธีเลี้ยงถวายพระยะโฮวา; จงกินขนมปังไม่มีเชื้อให้ครบกำหนดเจ็ดวัน: อย่าให้เห็นมีขนมปังซึ่งมีเชื้อหรือเชื้อขนมปังในเขตต์ที่อาศัยของพวกเจ้า. ในวันนั้นจงบอกบุตรของเจ้าว่า, ‘ที่ได้ทำดังนี้ ก็เพราะเหตุการณ์ซึ่งพระยะโฮวาได้ทรงกระทำสำหรับข้าพเจ้า ขณะเมื่อข้าพเจ้าออกมาจากประเทศอายฆุบโต.' เทศกาลนี้จะเป็นการณ์สำคัญดุจดังสิ่งที่ผูกอยู่ที่มือของเจ้า, และเป็นเครื่องระลึกจดจำห้อยไว้ระหว่างในตาของเจ้า. เพื่อพระบัญญัติของพระยะโฮวาจะได้อยู่ที่ปากของเจ้า; เพราะด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์: พระองค์ได้ทรงนำพวกเจ้าออกจากประเทศอายฆุบโต.”เอ็กโซโด 13:3, 5-9
“เราได้เปลื้องภาระอันหนักออกจากบ่าของเขา: และมือของเขาให้พ้นจากกะบุง. เจ้าได้ร้องถึงเราขณะเมื่อมีความทุกข์ยาก, และเราได้ช่วยเจ้า; เราได้ตอบเจ้าด้วยฟ้าร้องจากที่กำบัง; เราได้ลองใจพวกเจ้าที่บ่อน้ำมะรีบา. ดูกร พลไพร่ของเรา, จงฟังเถิด, เราจะตักเตือนพวกเจ้า: แน่ะพวกยิศราเอลเอ๋ย, ถ้าเจ้าจะได้ฟังเรา! พระอื่นก็จะไม่ได้มีในท่ามกลางพวกเจ้า; หรือเจ้าก็จะไม่ได้ไหว้พระต่างประเทศเลย. เราคือพระยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า, ผู้ได้นำพวกเจ้าขึ้นมาจากประเทศอายฆุบโต: จงอ้าปากให้กว้าง, และเราจะป้อนให้เต็ม. แต่พลไพร่ของเรามิได้ฟังเสียงของเรา; พวกยิศราเอลไม่มีสักคนเดียวฟังเรา. เราจึงได้ปล่อยเขาไปตามใจดื้อด้านของเขา, เพื่อเขาจะได้ประพฤติตามความคิดเห็นของเขา, โอ ถ้าพลไพร่ของเราจะได้ฟังคำเรา, พวกยิศราเอลก็คงจะประพฤติตามทางของเราแล้ว! เราคงได้กระทำให้พวกศัตรูแห่งเขาอ่อนน้อมเสียในไม่ช้า, มือของเราคงได้กลับต่อสู้ผู้ข่มเหงเขาเสียแล้ว. คนที่เกลียดชังพระยะโฮวาจะแสร้งยอมจำนนตัวต่อพระองค์: แต่โทษของเขาจะได้ตั้งยั่งยืนอยู่เป็นนิจกาล. แต่เจ้า พระองค์จะทรงเลี้ยงเจ้าไว้ด้วยข้าวสาลีอย่างดี; และจะให้เจ้าอิ่มหนำด้วยน้ำผึ้งซึ่งออกมาจากศิลา”บทเพลงสรรเสริญ 81:6-16
“พระยะโฮวาได้ตรัสแก่โมเซและอาโรนว่า, “พิธีเทศกาลปัศกาเป็นดังนี้: คือคนต่างชาติ นอกจากชนชาติยิศราเอลอย่าให้กินเลย; แต่ฝ่ายทาสของผู้ใดซึ่งนายได้ไถ่มาด้วยเงิน, เมื่อให้ทาสนั้นรับพิธีสุนัดแล้ว, จึงให้เขากินได้. ส่วนแขกเมืองหรือลูกจ้าง อย่าให้กินเลย. เมื่อมีแขกเมืองมาอาศัยอยู่กับเจ้า, ใคร่จะถือปัศคาถวายพระยะโฮวา, ก็ให้ชายพวกนั้นรับพิธีสุนัดทุกคน, แล้วจึงให้เขามาใกล้และถือเทศกาลนั้น; เขาจึงจะเป็นเหมือนคนเกิดในแผ่นดินนั้น: แต่ผู้ใดยังมิได้รับพิธีสุนัด อย่าให้ร่วมกินเลี้ยงในเทศกาลปัศคานั้นเลย. บัญญัติสำหรับคนเกิดในเมือง, และแขกเมืองซึ่งอาศัยอยู่ด้วยกันกับเจ้าทั้งหลาย, จะต้องเป็นอันเดียวกัน.””เอ็กโซโด 12:43-45, 48-49
“พระองค์ได้ทรงนำเถาองุ่นออกมาจากประเทศอายฆุบโต: ได้ทรงขับไล่ชนต่างประเทศไปเสีย, แล้วทรงปลูกเถาองุ่นนั้นไว้. พระองค์ได้ทรงปราบที่ตรงหน้าเถาองุ่นนั้น, และเถานั้นก็ลงรากลึกแผ่ไปจนเต็มทั่วแผ่นดิน. ร่มเถาองุ่นนั้นได้ปกคลุมภูเขาไว้, และกิ่งก็เหมือนต้นสนอันสูงงดงาม. ข้าแต่พระเจ้าแห่งพลโยธา, ข้าพเจ้าขอวิงวอนพระองค์, ขอพระองค์ทรงกลับพระทัย: ทอดพระเนตรจากสวรรค์พิจารณาดู, และโปรดเสด็จมาเยี่ยมเยียนเถาองุ่นนี้, ขอป้องกันเถาซึ่งพระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ได้ทรงปลูกไว้, และขอทรงบำรุงเลี้ยงให้มีกำลังมากไว้สำหรับพระองค์. ขอทรงโปรดให้พระหัตถ์ของพระองค์อยู่ฝ่ายบุรุษที่อยู่ข้างพระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์, คืออยู่ฝ่ายบุตรมนุษย์นั้นที่พระองค์ได้ทรงบำรุงให้มีกำลังมากไว้สำหรับพระองค์. เพื่อพวกข้าพเจ้าจะไม่ถอยไปจากพระองค์: ขอทรงโปรดให้พวกข้าพเจ้าตื่นฟื้น(คืนชีพ) ขึ้น, พวกข้าพเจ้าจึงจะได้ร้องทูลออกพระนามของพระองค์. ข้าแต่พระยะโฮวาพระเจ้าแห่งพลโยธา, ขอทรงโปรด (ฟื้นฟู) ให้พวกข้าพเจ้ากลับคืนอีก; ขอให้พระพักตรของพระองค์ส่องแสงออกมา, พวกข้าพเจ้าจึงจะได้รอด”บทเพลงสรรเสริญ 80:8-10, 14-15, 17-19
“ขออย่าทรงถือโทษพวกข้าพเจ้าเมื่อทรงระลึกถึงการอสัตย์อธรรมของบรรพบุรุษนั้น; ขอให้พระกรุณาอันอ่อนละมุนของพระองค์มาประสพพวกข้าพเจ้าโดยเร็วเถิด; เพราะพวกข้าพเจ้าเสื่อมถอยน้อยลงไปมากแล้ว. ข้าแต่พระเจ้าผู้เป็นเหตุแห่งความรอด, ขอทรงโปรดช่วยข้าพเจ้า, เพราะเห็นแก่พระเกียรติยศแห่งพระนามของพระองค์; ทรงโปรดช่วยพวกข้าพเจ้าให้รอด, และลบล้างความผิดเพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์. ฝ่ายพวกข้าพเจ้าผู้เป็นพลไพร่ประดุจสัตว์เลี้ยงของพระองค์จะสนองพระเดชพระคุณเป็นนิตย์: จะกล่าวสรรเสริญพระองค์ทุกชั่วอายุต่อๆ ไป”บทเพลงสรรเสริญ 79:8-9, 13 TH1940