ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการขึ้นปีที่ 2 Podcast นี้ ช่วยผมให้ได้อ่านพระคัมภีร์มากขึ้น และหวังว่าจะช่วยคุณให้ได้ฟังพระคำของพระเจ้า ไม่ว่าขณะเดินทางไปทำงาน หรือทำกิจวัตรประจำวันมากขึ้นด้วย หรือจะใช้เป็นเหมือนเพื่อน (ฝ่ายวิญญาณ) ร่วมอ่านพระคำด้วยกันกับคุณก็ได้ อย่างไรก็ตาม พระคำของพระเจ้าบริสุทธิ์และเที่ยงตรง และยังสามารถช่วยเปลี่ยนชีวิตของคุณได้ อีกทั้งยังดีกว่าไปฟังข่าวปลอม ซึ่งมีอย่างมากมายดาษดื่นในวันนี้ “วิญญาณเป็นที่ให้มีชีวิต ส่วนเนื้อหนังไม่มีประโยชน์อันใด ถ้อยคำซึ่งเราได้กล่าวกับท่านทั้งหลายนั้น เป็นวิญญาณและเป็นชีวิต” ยอห์น 6:63
“ท่านทั้งหลายจงถวายความสรรเสริญแก่พระยะโฮวา, จงขอบพระเดชพระคุณพระยะโฮวา; เพราะพระองค์เป็นผู้ประเสริฐ; เหตุว่าพระกรุณาคุณของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์. ผู้ใดอาจพรรณนาพระราชกิจอันแสดงฤทธิ์ของพระยะโฮวาได้, หรือกล่าวถึงความสรรเสริญของพระองค์จนหมดเรื่องได้? คนทั้งหลายที่รักษาความสัตย์ธรรมก็เป็นสุข, คือผู้ที่ประพฤติตามความชอบธรรมทุกเวลา. ข้าแต่พระยะโฮวา, ขอทรงระลึกถึงข้าพเจ้าตามอย่างที่เคยทรงโปรดแก่พลไพร่ของพระองค์; ขอโปรดเสด็จมาประทานความรอดของพระองค์แก่ข้าพเจ้า, เพื่อข้าพเจ้าจะได้เห็นความเจริญของพวกที่พระองค์ทรงเลือกสรรไว้, และเพื่อข้าพเจ้าจะได้ชื่นชมในความยินดีของชนประเทศแห่งพระองค์, และเพื่อข้าพเจ้าจะได้มีเกียรติยศด้วยกันกับชนที่เป็นมฤดกของพระองค์นั้น. ถึงกระนั้นพระองค์ยังทรงทอดพระเนตรดูความยากลำบากของเขา, เมื่อได้สดับเสียงเขาทูลร้องทุกข์: พระองค์ได้ทรงระลึกถึงคำสัญญาไมตรีของพระองค์, และทรงหวนพระทัยพระเมตตาเขาตามพระกรุณาคุณอันบริบูรณ์ของพระองค์. พระองค์ทรงโปรดให้เขาได้รับความเอ็นดูต่อหน้าคนทั้งปวงที่ได้กวาดเขาไปเป็นชะเลยนั้น ข้าแต่พระยะโฮวาพระเจ้าของพวกข้าพเจ้า, ขอทรงช่วยให้พวกข้าพเจ้ารอด, และทรงรวบรวมพวกข้าพเจ้ามาจากประเทศต่างๆ, เพื่อจะได้สนองพระเดชพระคุณ ออกพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ ทั้งจะได้ชื่นชมยินดีในการสรรเสริญพระองค์ ความบรมสุขจงมีแก่พระยะโฮวา, พระเจ้าของพวกยิศราเอล, ตั้งแต่อดีตกาลตลอดอนาคตกาล, และให้พลไพร่ทั้งปวงกล่าวว่า, อาเมน. จงยกยอสรรเสริญพระยะโฮวาเถิด.”บทเพลงสรรเสริญ 106:1-5, 44-48 TH1940
- นอบน้อมยำเกรงพระเจ้า -“เจ้าทั้งหลายอย่าได้กระทำรูปเคารพสำหรับตัว, …เป็นที่กราบไหว้เคารพ; เพราะเราเป็นยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า. เจ้าทั้งหลายจงถือรักษาซะบาโตทั้งหลายของเรา (หยุดจากงานของตนเอง และรับสุขการงานทั้งสิ้นที่พระเจ้าทรงกระทำสำเร็จในพระเยซูคริสต์), และเคารพต่อที่พำนักของเรา เราเป็นยะโฮวาถ้าเจ้าทั้งหลายดำเนินตามข้อกฎหมาย, และรักษาบทบัญญัติทั้งหลายของเราและทำตาม,”เลวีติโก 26:1-3
เอ็กโซโด 381. แท่นเผาบูชา - ไม้กางเขน, เครื่องบูชาเผาครบ (ฮร. 13:10) * ยอดแหลมที่มุมทั้งสี่ ทำด้วยไม้ท่อนเดียวกับแท่น - กำลังและฤทธิ์เดชการไถ่ (บพส. 92:10ก) * หุ้มด้วยทองเหลือง - การพิพากษาของพระเจ้า (อฤธ. 16:38-40; 1 ปต. 3:18)2. ขันล้างชำระทองเหลืองขัดเงา * ชำระความมลทินในตัวเรา * น้ำในขันเล็งถึง ชีวิตที่พระวิญญาณประทานให้ และน้ำแห่งพระคำ * ทองเหลืองเล็งถึงการพิพากษาอันยุติธรรม ทำมาจากกระจกที่ผู้หญิงสมัยนั้นใช้ เพื่อสะท้อนและเปิดโปงตัวเอง * ล้างมือและเท้าเมื่อจะเข้าไปในพลับพลา เพื่อจะมิได้ตาย * นี่ไม่ใช่เป็นการกีดกันไม่ให้เข้าไป แต่คือการชำระให้สะอาดเพื่อจะเข้าไปสามัคคีธรรมกับพระเจ้าได้3. ผ้าบังที่ลานชั้นนอก - แสดงขอบเขตและอาณาบริเวณที่ประทับของพระเจ้า แบ่งแยกเราออกจาก * โลกที่อยู่ภายใต้อำนาจของความชั่ว * ความหน้าซื่อใจคด * ความน่ากลัวของศาสนา * การเป็นทาสของบาปและความตาย * ความมืดและความตกต่ำ * การเป็นศัตรูกับพระเจ้า * การใช้ชีวิตแบบไม่มีพระเจ้าและไม่มีความหวัง4. ผ้าบังริมประตู (ม่านที่ประตูลานชั้นนอก) เล็งถึงพระลักษณะ 4 อย่างในความเป็นมนุษย์ของพระเยซู คือ * ผ้าป่านเนื้อละเอียด - ความชอบธรรม * สีฟ้า - มนุษย์ผู้มาจากสวรรค์ * สีม่วง - บุตรมนุษย์ผู้เป็นกษัตริย์ * สีแดงเข้ม - พระผู้ช่วยและพระผู้ไถ่
“จงขอบพระเดชพระคุณพระยะโฮวา, และทูลออกพระนามของพระองค์; จงสำแดงพระราชกิจของพระองค์ให้เป็นที่รู้จักในท่ามกลางชนประเทศทั้งปวง. จงเปล่งเสียงร้องทูลพระองค์, จงร้องเพลงสรรเสริญพระองค์; จงรำพึงถึงบรรดาพระราชกิจและการอัศจรรย์ของพระองค์เถิด. จงอวดในพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์: ให้ใจของเหล่าคนที่แสวงหาพระยะโฮวาพึงชื่นชมยินดี. จงแสวงหาพระยะโฮวาและพึ่งฤทธิ์เดชของพระองค์; จงแสวงหาพระพักตรของพระองค์เป็นนิตย์นิรันดร์. จงระลึกถึงพระราชกิจอันมหัศจรรย์ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำนั้น, คือหมายสำคัญ และคำพิพากษาที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์,”“พระองค์ทรงระลึกถึงคำสัญญาไมตรีของพระองค์เป็นนิตย์, คือพระคำที่ได้ตรัสสั่งกับคนหลายพันชั่วอายุ, ซึ่งพระองค์ได้ทรงตั้งไว้แก่อับราฮาม. กับคำปฏิญาณที่ให้ไว้แก่ยิศฮาค, พระคำนั้นแหละพระองค์ได้ทรงยืนยันไว้กับยาโคบให้เป็นกฎบัญญัติ คือทรงตั้งไว้แก่พวกยิศราเอลเป็นคำสัญญาไมตรีไม่รู้สิ้นสุดเลย, พระองค์ตรัสว่า, เราจะมอบแผ่นดินคะนาอันไว้แก่พวกท่าน, ให้เป็นส่วนมรดกของท่าน; ในคราวเมื่อเขายังมีจำนวนคนไม่กี่คน, น้อยคนแท้, พระเจ้าค่ะ, และยังเป็นแขกเมืองในที่แผ่นดินนั้น. เพราะพระองค์ได้ทรงระลึกถึงพระคำอันบริสุทธิ์ของพระองค์, และอับราฮามผู้รับใช้ของพระองค์. ได้ทรงประทานแผ่นดินของชนต่างประเทศให้เขา; และเขาได้เก็บผลซึ่งชาวประเทศเหล่านั้นทำไว้: เพื่อเขาทั้งปวงจะได้รักษาพระบัญญัติ, และประพฤติตามกฎหมายของพระองค์. ท่านทั้งหลายจงสรรเสริญพระยะโฮวาเถิด”บทเพลงสรรเสริญ 105:1-5, 8-12, 42, 44-45
เลวีติโก 25ปีซะบาโต - หว่านพืช ตัดแต่งองุ่น และเก็บผลครบ 6 ปี แต่ปีที่ 7 จงหยุดเสีย“เจ้าทั้งหลายอย่าเก็บเกี่ยวข้าวเรื้อ (ที่งอกขึ้นเอง) และอย่าเก็บผลองุ่นจากต้นที่มิได้บำรุงตกแต่ง; เพราะปีนี้เป็นเวลาหยุดให้ที่ดินว่างเปล่าอยู่. และพืชน์ผลแผ่นดินของปีที่ว่างเปล่าอยู่, จะเป็นอาหารของเจ้าทั้งหลาย: คือเจ้าเองก็ดี, และทาสาทาสีของเจ้าก็ดี, และลูกจ้างของเจ้าก็ดี, และแขกเมืองที่อาศัยอยู่กับเจ้าก็ดี. และจะเป็นอาหารของสัตว์ทั้งปวง ในแผ่นดินของเจ้า” (ข้อ 5-7)ปีที่ 50 ปีแห่งการเฉลิมฉลอง - นับปีซะบาโตครบ 7 รอบ (7 คูณ 7 ปี เท่ากับ 49 ปี)“จึงให้เป่าแตรดังสนั่น, ในเดือนเจ็ดวันที่สิบ, ซึ่งเป็นวันไถ่โทษ: เจ้าจงเป่าแตรดังสนั่นทั่วไปในแผ่นดินของเจ้า. และเจ้าทั้งหลายจงกำหนดปีที่ห้าสิบนั้นตั้งไว้, เป็นเวลาป่าวประกาศแก่คนทั้งปวงทั่วแผ่นดินให้ปล่อยทาสเสีย: เจ้าทั้งหลายจงถือปีนี้เป็นเวลาที่ยินดี: เจ้าทั้งหลายจงกลับคืนไปยังที่อยู่ของตนทุกคน, และกลับคืนยังพวกพ้องของตนทุกคน. และปีที่ห้าสิบนั้นจะเป็นที่เจ้าทั้งหลายจะมีความยินดี: เจ้าทั้งหลายอย่าได้หว่านพืชหรือเกี่ยวเก็บข้าวเรื้อ (ที่งอกขึ้นเอง), และอย่าเก็บผลองุ่นที่มิได้บำรุงตกแต่ง. เพราะเป็นการที่ให้มีความยินดี, และเป็นเวลาอันบริสุทธิ์แก่เจ้าทั้งหลาย: เจ้าทั้งหลายจงเอาข้าวที่เกิดในนากินเป็นอาหาร” (ข้อ 9-12)
ทำหีบสัญญาไมตรีและพระที่นั่งพระกรุณาทำโต๊ะขนมปังหน้าพระพักตร์“เครื่องใช้ สำหรับ โต๊ะ นั้น (โต๊ะขนมปังหน้าพระพักตร์), มี จาน ถ้วย ชาม และ เหยือก สำหรับ รินเครื่องบูชาดื่ม, เขา ได้ ทำ ด้วย ทองคำ อัน บริสุทธิ์”เอ็ก โซ โด 37:163. ทำคันประทีป“เขา ได้ ทำ กะ จุบ เจ็ด อัน สำหรับ ประทีป นั้น, กับ กรรไกรและ ถาด รอง กรรไกรนั้น ทำ ด้วย ทองคำ บริสุทธิ์.”เอ็ก โซ โด 37:23 4. แท่นเผาเครื่องหอม5. น้ำมันชะโลมบริสุทธิ์6. เครื่องหอมสำหรับเผา
“จิตของข้าพเจ้าเอ๋ย, จงสรรเสริญพระยะโฮวา. ข้าแต่พระยะโฮวาพระเจ้าของข้าพเจ้า, พระองค์เป็นใหญ่ยิ่งนัก; ทรงฉลองพระองค์ด้วยยศศักดิ์และเดชานุภาพ: พระองค์ประทานน้ำแต่ที่สถิตของพระองค์มารดภูเขา: แผ่นดินโลกเต็มบริบูรณ์ด้วยผลแห่งราชกิจของพระองค์. ทรงบันดาลให้ต้นหญ้างอกขึ้นสำหรับสัตว์เดียรัจฉาน, กับต้นผักเพื่อประโยชน์ของมนุษย์; เพื่อพระองค์จะให้อาหารเกิดขึ้นจากพื้นแผ่นดิน, และน้ำองุ่นซึ่งทำให้ใจมนุษย์ชื่นบาน, และน้ำมันทำให้หน้าเขาผ่องใส, กันขนมปังชูกำลังใจมนุษย์. ข้าแต่พระยะโฮวา, พระราชกิจของพระองค์มีเป็นเอนกประการจริง! พระองค์ได้ทรงกระทำการนั้นทั้งสิ้นโดยพระสติปัญญา: แผ่นดินโลกเต็มบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์อันมั่งคั่งของพระองค์. ขอให้พระรัศมีของพระยะโฮวาดำรงอยู่เป็นนิตย์; ขอให้พระยะโฮวาทรงยินดีด้วยราชกิจแห่งพระหัตถ์ของพระองค์: ข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่นานเพียงใด จะร้องเพลงถวายพระยะโฮวานานเพียงนั้น: ขณะเมื่อข้าพเจ้ายังเป็นอยู่ ข้าพเจ้าจะร้องสรรเสริญพระเจ้าของข้าพเจ้า. ขอให้การภาวนาของข้าพเจ้าเป็นที่หวานหูพระองค์: ข้าพเจ้าจะยินดีในพระยะโฮวา. ขอให้คนที่กระทำผิดเสื่อมศูนย์ไปจากแผ่นดินโลก. และอย่าให้มีคนชั่วอยู่ต่อไปอีก. จิตของข้าพเจ้าเอ๋ย, จงสรรเสริญพระยะโฮวา. ท่านทั้งหลายจงสรรเสริญพระยะโฮวาเถิด”บทเพลงสรรเสริญ 104:1, 13-15, 24, 31, 33-35
“พระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “จงสั่งพวกยิศราเอลให้เขาเอาน้ำมันมะกอกเทศอันบริสุทธิ์ สกัดดีมาสำหรับตามตะเกียง; เพื่อจะให้ตะเกียงนั้นส่องสว่างขึ้นเสมอ. ในพลับพลาชุมนุมข้างนอกผ้าบังหีบไมตรีนั้น, ให้อาโรนตามตะเกียงตั้งแต่เวลาเย็นจนถึงเวลาเช้า, ฉะเพาะพระยะโฮวาเสมอ ถือเป็นบัญญัติถาวรสืบชั่วอายุทั้งหลาย. ให้อาโรนดูแลตะเกียงนั้นให้เรียบร้อย ไว้บนเชิงตะเกียงอันบริสุทธิ์, ต่อพระพักตรพระยะโฮวาเสมอเป็นนิตย์. “และเจ้าจงเอาแป้งอันละเอียด, ปิ้งขนมเป็นสิบสองอัน ๆ หนึ่งแป้งสองทะนาน. และเจ้าจงตั้งขนมนั้นไว้บนโต๊ะอันบริสุทธิ์, ต้องเป็นสองแถวๆ ละหกอันต่อพระพักตรพระยะโฮวา. เจ้าจงเอากำยานอันบริสุทธิ์มาโรยบนขนมทั้งสองแถว; หรือจะให้เป็นที่ระลึกเป็นเครื่องบูชากระทำด้วยไฟแก่พระยะโฮวา. ให้ปุโรหิตตั้งลำดับขนมนั้นไว้ต่อพระพักตรพระยะโฮวาทุกวันซะบาโตเสมอเป็นนิตย์, เป็นของแห่งพวกยิศราเอลตามคำสัญญาถาวร. ขนมนั้นจะเป็นของอาโรนและบุตรชายทั้งหลายของอาโรน, เขาทั้งหลายจะกินเสียในที่บริสุทธิ์; เพราะเป็นของบริสุทธิ์อันยิ่งแก่เขาแต่บรรดาเครื่องบูชากระทำด้วยไฟถวายแก่พระยะโฮวา.””เลวีติโก 24:1-9
เอ็กโซโด 36“เบซาเลลและโอโฮลีอับกับช่างฝีมือทุกคน ที่พระยาห์เวห์ประทานสติปัญญาและทักษะ ให้รู้จักทำงานทุกอย่างในการสร้างสถานนมัสการ เพื่อพวกเขาจะได้ทำตามทุกอย่างที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาไว้แล้ว”. “โมเสสจึงเรียกเบซาเลลและโอโฮลีอับกับช่างฝีมือทุกคน ซึ่งพระยาห์เวห์ประทานให้เขามีใจประกอบด้วยสติปัญญา คือทุกคนที่สมัครใจรับทำการนั้นๆ.”อพยพ 36:1-2ก. ผ้าดาดหลังคาพลับพลา 4 ชั้น เล็งถึงพระเยซูคริสต์;1. ชั้นที่หนึ่ง ทำด้วยผ้าป่านอย่างดี ใช้ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงจัด ปักรูปคะรูบด้วยฝีมือเยี่ยม เล็งถึงชีวิตมนุษย์ของพระเยซูคริสต์ ที่ทั้งละเอียดอ่อน ดีรอบคอบ และสำแดงสง่าราศีของพระเจ้า2. ชั้นที่สอง ทำด้วยขนแกะ เล็งถึงพระคริสต์ทรงรับความผิดบาปแทนเรา3. ชั้นที่สาม ทำด้วยหนังแกะตัวผู้ย้อมสีแดง เล็งถึงพระเยซูคริสต์ทรงตายและหลั่งเลือดสำเร็จการไถ่ที่เข้มแข็ง4. ชั้นที่สี่ ทำด้วยหนังปลาโลมา เล็งถึงแม้ภายนอกไม่สวยงาม แต่ทนต่อฝนและลม (การทดสอบและมารซาตาน)ข. ไม้กระดาน ทำจากไม้ซิติม ตั้งขึ้นทำฝาพลับพลา เล็งถึงชีวิตมนุษย์ของพระคริสต์ที่ไม่เสื่อมเสีย ไม่ผุกร่อน ด้วยแมลงกินไม้ หรือด้วยกาลเวลา ถูกตั้งขึ้น (ยืนหยัด) และหุ้มด้วยทองคำคือพระวิสัยของพระเจ้าค. กลอนขัดฝากระดาน เล็งถึงความเป็นหนึ่งในวิญญาณง. ผ้าม่านกั้นในวิหาร ทำด้วยผ้าสีฟ้า สีม่วง สีแดงจัด ผ้าป่านเนื้อดี ปักเป็นภาพคะรูบด้วยฝีมืออันปราณีต เล็งถึงพระกายของพระคริสต์จ. ม่านที่ทางเข้าประตูพลับพลา ทำด้วยผ้าสีฟ้า สีม่วง สีแดงจัด และผ้าป่านเนื้อดี เล็งถึง ชีวิตมนุษย์ของพระคริสต์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งแบ่งแยกสิ่งที่อยู่ภายนอกกับที่บริสุทธิ์ สิ่งที่อยู่ภายนอกคือ โลกของความชั่วร้าย, ความหน้าซื่อใจคด, ความน่ากลัวของศาสนา, ความเป็นทาสของบาปและความตาย, ความมืดและความตกต่ำ, การเป็นศัตรูกับพระเจ้า, การมีชีวิตอยู่แบบไม่มีพระเจ้าและไม่มีความหวัง แต่ด้วยชีวิตมนุษย์ของพระคริสต์นี้ ให้เราสามารถเข้าไปในที่บริสุทธิ์เพื่อรับสุขความอุดมสมบูรณ์ของพระคริสต์ที่เตรียมไว้ให้เรา เพื่อช่วยเราจะได้หลุดพ้นจากสิ่งของภายนอกเหล่านั้น
“จิตของข้าพเจ้าเอ๋ย, จงสรรเสริญพระยะโฮวา, และอย่าลืมบรรดาพระคุณของพระองค์: ผู้ทรงโปรดยกความผิดทั้งหมดของเจ้า; ผู้ทรงรักษาบรรดาโรคของเจ้าให้หาย; ผู้ทรงไถ่ชีวิตของเจ้าให้พ้นจากหลุมฝังศพ; ผู้ทรงสวมพระเมตตาและพระกรุณาคุณอันอ่อนละมุนให้เป็นมงกุฎเจ้า; ผู้ทรงประทานให้ปากของเจ้าอิ่มด้วยของดี, วัยหนุ่มของเจ้าจึงกลับคืนมาใหม่ดุจนกอินทรีย์. พระยะโฮวาทรงพระเมตตากรุณา, พระองค์ทรงพระพิโรธช้าๆ, และทรงพระเมตตาบริบูรณ์. พระองค์จะไม่ทรงตำหนิเป็นนิตย์; หรือทรงพระพิโรธตลอดชั่วนิรันดร์. ด้วยฟ้าสวรรค์สูงจากพื้นดินมากเท่าใด, พระองค์ทรงพระกรุณาแก่คนที่ยำเกรงพระองค์มากเท่านั้น. ทิศตะวันออกไกลจากทิศตะวันตกมากเท่าใด, พระองค์ได้ทรงถอดเอาการล่วงละเมิดของพวกข้าพเจ้าออกไปให้ห่างไกลมากเท่านั้น. บิดาสงสารบุตรของตนมากฉันใด, พระยะโฮวาทรงสงสารคนที่ยำเกรงพระองค์มากฉันนั้น. ฝ่ายมนุษย์เล่า, วันคืนทั้งหลายของเขาก็เหมือนต้นหญ้า; วัฒนาดุจดอกไม้เบ่งบานที่ทุ่งนา. พอลมพัดโดนดอกนั้น มันก็สูญเสียไป; และสถานที่ของดอกนั้น จะไม่รู้จักมันต่อไปอีก. แต่ว่าพระกรุณาคุณแห่งพระยะโฮวาแก่คนที่ยำเกรงพระองค์นั้น ก็มั่นคงอยู่ตั้งแต่อดีตกาลตลอดอนาคตกาล, และความชอบธรรมของพระองค์คงถาวรแก่ลูกหลานสืบๆ ไป: คือแก่คนทั้งปวงที่รักษาคำสัญญาไมตรีของพระองค์, และแก่คนที่จดจำข้อพระบัญญัติของพระองค์ไว้และประพฤติตาม. ดูกรพลโยธาทั้งหลายของพระยะโฮวา, ที่รับใช้, และปฏิบัติตามพระทัย. จงสรรเสริญพระองค์เถิด, ให้พระราชกิจทั้งปวงของพระยะโฮวาเป็นที่ยกยอสรรเสริญพระองค์ จนทั่วอาณาเขตต์ของพระองค์ทุกแห่งทุกตำบล: จิตของข้าพเจ้าเอ๋ย, จงสรรเสริญพระยะโฮวาเถิด”บทเพลงสรรเสริญ 103:2-5, 8-9, 11-13, 15-18, 21-22
“ทุกคนที่เต็มใจและได้รับการดลใจในวิญญาณ ก็ได้นำสิ่งของมา ยกถวายพระยะโฮวา สำหรับการนมัสการที่พลับพลาประชุม, และการปรนนิบัติต่างๆ แห่งพลับพลานั้น, และสำหรับเครื่องยศอันสมศักดิ์บริสุทธิ์. และพระเจ้าได้บันดาลให้ผู้นั้นเต็มไปด้วยพระวิญญาณของพระองค์, ให้มีสติปัญญาและความเข้าใจและความรู้ในการกระทำต่างๆ; อนึ่งพระองค์ทรงบันดาลให้ผู้นั้นมีน้ำใจที่จะสอนคนอื่นได้ด้วย,… คนทั้งสองนี้พระองค์ได้ทรงบันดาลให้มีจิตใจประกอบด้วยสติปัญญา, อันจะกระทำการงานได้ทุกอย่าง,”เอ็กโซโด 35:21, 31, 34-35
“ข้าแต่พระยะโฮวา, ฝ่ายพระองค์จะทรงประทับบนพระที่นั่งตลอดอนาคตกาล; และความระลึกถึงพระนามพระองค์คงถาวรตลอดทุกๆ ชั่วอายุ. พระองค์จะเสด็จมาทรงพระเมตตาแก่เมืองซีโอน; เพราะถึงเวลาแล้วที่จะทรงโปรดเมืองนั้น, เวลาทรงกำหนดก็มาถึงแล้วพระเจ้าค่ะ. เพราะพวกทาสของพระองค์รักศิลาทั้งหลาน, และสงสารผงคลีดินของพลเมืองนั้น. ชนประเทศทั้งปวงจึงจะเกรงพระนามของพระยะโฮวา, และกษัตริย์ทั้งหลายทั่วแผ่นดินโลกจะกลัวพระรัศมีของพระองค์. เพราะพระยะโฮวาได้ทรงสร้างเมืองซีโอน; พระองค์จะทรงปรากฏด้วยสง่ารัศมีของพระองค์, พระองค์ได้ทรงสดับฟังคำอธิษฐานของคนอนาถา, และไม่ทรงประมาทคำอธิษฐานของเขาเลย. ข้อความนี้จะต้องเขียนไว้สำหรับชนซึ่งจะเกิดมาในเวลาเบื้องหน้า; และพวกที่จะทรงสร้างขึ้นภายหลังจะสรรเสริญพระยะโฮวา. เพราะพระองค์ได้ทรงทอดพระเนตรจากที่สูงอันบริสุทธิ์ของพระองค์; พระยะโฮวาได้ทรงทอดพระเนตรลงมาจากสวรรค์พิจารณาดูแผ่นดินโลก; เพื่อจะทรงฟังคำครวญครางของคนที่ถูกจำจองอยู่; และจะทรงปล่อยคนที่ถูกกำหนดให้ประหารชีวิต; เพื่อคนทั้งหลายจะได้ประกาศพระนามของพระยะโฮวาในเมืองซีโอน, และสรรเสริญพระองค์ในกรุงยะรูซาเลม; ขณะเมื่อชนชาติต่างๆ ประชุมพร้อมกัน, ทั้งชาวแผ่นดินทั้งหลาย, จะปฏิบัติพระยะโฮวา”บทเพลงสรรเสริญ 102:12-22
เอ็กโซโด 34:10“ฝ่ายพระยะโฮวาตรัสว่า, “นี่แหละเราจะทำคำสัญญาต่อกันไว้: เราจะทำอัศจรรย์ต่อหน้าพลไพร่ของเจ้า, ซึ่งไม่มีผู้ใดได้กระทำในประเทศใดทั่วพิภพ, และพลไพร่ทั้งปวงซึ่งเจ้าอยู่ท่ามกลางเขานั้นจะได้เห็นกิจการของพระยะโฮวา; เพราะการซึ่งเราจะทำต่อหน้าพวกเจ้าจะเป็นที่น่ากลัวยิ่งนัก.”คำสัญญาในบทนี้เกี่ยวกับ;1. พระเจ้าจะขับไล่ชาวพื้นเมืองไปจากหน้าเจ้าและขยายเมืองของพระเจ้า แต่เจ้าอย่าได้ทำไมตรีกับเขา จงทำลายรูปพระและอุปกรณ์ให้แหลกละเอียด อย่าไปนมัสการพระอื่นและกินของที่เขาบูชา และอย่าสร้างรูปพระไว้บูชาเอง2. จงประสบการณ์พระคริสต์เป็นความเที่ยงแท้ของเทศกาลทั้ง 7, ซะบาโต, นำเครื่องบูชาฝ่ายวิญญาณ (ผลที่งามที่สุด) มาถวายต่อพระพักตร์พระยะโฮวา“อยู่มาเมื่อโมเซได้ลงมาจากภูเขาซีนาย, กำลังถือแผ่นศิลาพระบัญญัติสองแผ่น, เวลาที่ลงมาจากภูเขานั้น โมเซก็ไม่ทราบว่าหน้าของตนมีแสงรัศมี เนื่องด้วยพระเจ้าได้ทรงสนทนากับท่าน. แต่เมื่อโมเซเข้าไปเฝ้าทูลพระยะโฮวา, ท่านก็ปลดผ้านั้นเสีย จนกว่าจะกลับออกมา; แล้วท่านได้ออกมาเล่าให้พวกยิศราเอลฟังตามที่ท่านได้รับคำสั่งมาแล้วนั้น.”เอ็กโซโด 34:29, 34 TH1940
บทเพลงสรรเสริญ 101องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงความเมตตาและความยุติธรรมประโยคที่ประทับไว้อยู่ในใจ1. ข้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระเจัา2. ข้าพเจ้าจะประพฤติในทางดีรอบคอบด้วยสติปัญญา3. ข้าพเจ้าจะประพฤติด้วยใจที่ดีรอบคอบภายในบ้านของข้าพเจ้า4. ข้าพเจ้าจะไม่ตั้งสิ่งชั่วร้าย (ไร้ค่า) ไว้ต่อตาข้าพเจ้า5. ข้าพเจ้าจะเกลียดชังกิจการที่ผู้ที่ไม่ซื่อตรง (คดโกง, ไม่ยอมทำตาม, ละทิ้งพระเจ้า, ปลิ้นปล้อน) ทำ 6. ใจที่ดื้อรั้น (ผิดเพี้ยน ปรวนแปร) จะต้องไปจากข้าพเจ้า7. ข้าพเจ้าจะไม่ยอมรู้เห็นเป็นใจกับสิ่งที่ชั่ว8. ข้าพเจ้าจะกำจัดผู้ที่กล่าวใส่ร้ายนินทาเพื่อนบ้านของตนลับหลัง9. ข้าพเจ้าจะไม่อดกลั้นต่อผู้ที่หัวสูงและมีใจหยิ่งจองหอง10. ตาของข้าพเจ้าจะคอยเพ่งดูผู้ที่สัตย์ซื่อ เพื่อให้เขาอาศัยอยู่กับข้าพเจ้า 11. ผู้ที่ประพฤติในทางดีรอบคอบ ผู้นั้นจะปรนนิบัติข้าพเจ้า 12. ผู้ที่ประพฤติฉ้อโกง (หลอกลวง) จะอาศัยอยู่ในบ้านของข้าพเจ้าไม่ได้13. ผู้ที่พูดมุสา จะดำรงอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้าก็หามิได้ 14. ข้าพเจ้าจะทำลายคนชั่วทั้งสิ้นในแผ่นดินเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อว่าข้าพเจ้าจะได้ตัดบรรดาผู้กระทำชั่วออกเสียให้หมดจากเมืองของพระยะโฮวา
เอ็กโซโด 33:7, 11“ฝ่ายโมเซตั้งเต็นท์หลังหนึ่งไว้ข้างนอกค่ายที่พักนั้น, และได้เรียกว่าเต็นท์ชุมนุม. ต่อมาทุกคนซึ่งปรารถนาจะเข้าเฝ้า (แสวงหา) พระยะโฮวาก็ย่อมออกไปยังเต็นท์ชุมนุมซึ่งตั้งอยู่ข้างนอกบริเวณค่าย.”“ฝ่ายพระยะโฮวาตรัสสนทนากับโมเซหน้าต่อหน้า, เหมือนมิตรสหายสนทนากัน. แล้วโมเซก็กลับไปยังค่าย: แต่ยะโฮซูอะคนรับใช้หนุ่มผู้เป็นบุตรของนูน มิได้ออกไปจากเต็นท์นั้น””นอกค่าย“ กับ “ในม่าน” เป็นสองสถานที่ที่โดดเด่นมากในหนังสือเอ็กโซโด การเข้าไปในม่าน หมายถึงการเข้าไปในสถานที่บริสุทธิ์ที่สุด ซึ่งพระเจ้าทรงประทับบนบัลลังก์ในสง่าราศี และการออกไปนอกค่าย หมายถึงการออกจากศาสนา ที่ๆซึ่งพระเจ้าถูกปฏิเสธ นี่หมายความว่า เราต้องอยู่ในวิญญาณที่ๆ ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่บริสุทธิ์ที่สุดในทางปฏิบัติ และต้องอยู่นอกศาสนา ซึ่งในทางปฏิบัติเป็นค่ายที่เราอาศัยอยู่มาตลอดเวลา ยิ่งเราเป็นอยู่ในวิญญาณ และชื่นชอบพระคริสต์มากเท่าไร เราก็จะยิ่งออกมานอกค่ายของศาสนามากขึ้นเท่านั้น และติดตามพระเยซูผู้ทนทุกข์ทรมาน เพื่อทนทุกข์ร่วมกันกับพระองค์ ด้วยการดำเนินชีวิตเช่นนี้ เราจะได้รับกำลังในการดำเนินตามทางแคบของไม้กางเขนและแบกรับความอับอายของพระเยซู“เพราะฉะนั้น ให้เราทั้งหลายพึงออกไปหาพระองค์ภายนอกค่ายที่พักนั้น, สู้ทนความนินทาซึ่งพระองค์ได้ทรงทนมานั้น. เพราะว่าที่นี่เราไม่มีเมืองที่ถาวร, แต่ว่าเราแสวงหาเมืองที่จะมาเบื้องหน้านั้น.”เฮ็บราย 13:13-14 TH1940
“ดูกรบรรดาชาวแผ่นดินโลก, จงชื่นใจโห่ร้องถวายพระยะโฮวา. จงปฏิบัติพระยะโฮวาด้วยใจชื่นชม: จงเข้ามาเฝ้าพระองค์ด้วยร้องเพลง. ท่านทั้งหลายจงรู้ว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้า: พระองค์ได้ทรงสร้างเรา, เราจึงเป็นของพระองค์; เราเป็นไพร่พลของพระองค์, และเป็นฝูงแกะที่พระองค์ทรงบำรุงเลี้ยง. จงพากันเข้าประตูของพระองค์โดยการขอบพระเดชพระคุณ, จงเข้าในลานพลับพลาของพระองค์ด้วยการสรรเสริญ: จงขอบพระเดชพระคุณและสรรเสริญพระนามของพระองค์. เพราะพระยะโฮวาประกอบไปด้วยพระเมตตา; พระกรุณาคุณของพระองค์ยั่งยืนถาวรเป็นนิตย์, และความสัตย์ซื่อของพระองค์ถาวรตลอดทุกๆ ชั่วอายุคน”บทเพลงสรรเสริญ 100:1-5
เอ็กโซโด 32 - การทำรูปเคารพวัวทองคำก. การประพฤติของผู้เชื่อ“เขาได้เขวออกจากทางซึ่งเราได้สั่งเขาไว้อย่างรวดเร็ว: คือได้หล่อรูปลูกโคขึ้นรูปหนึ่ง, และได้นมัสการบูชายัญแก่รูปนั้นและกล่าวว่า, ‘นี่แหละ, โอพวกยิศราเอล, เป็นพระของเจ้า, ผู้ซึ่งได้นำเจ้าออกจากประเทศอายฆุบโต.” ' อนึ่งพระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “เราได้เห็นพลไพร่นี้แล้ว: นี่แหละเขาเป็นพลไพร่คอแข็ง.”เอ็กโซโด 32:8-9“ฝ่ายอาโรนตอบว่า, “อย่าให้ความโกรธของท่านเดือดพลุ่งขึ้นเลย: ท่านก็รู้จักพวกพลไพร่นี้แล้วว่า ใจของเขามักเอียงไปทางชั่ว. เขาได้มาร้องขอข้าพเจ้าว่า, ‘ขอจงทำพระให้พวกข้าพเจ้า, ซึ่งจะนำหน้าข้าพเจ้าไป; ด้วยว่าโมเซผู้นั้นที่ได้นำข้าพเจ้าออกจากประเทศอายฆุบโตหายไปไหน ข้าพเจ้าก็หาทราบไม่.'”เอ็กโซโด 32:22-23 TH1940ข. การประพฤติของปุโรหิต“เมื่อโมเซเห็นพลไพร่เตลิดไป, เพราะว่าอาโรนได้ปล่อยเขาให้เตลิดไปจนเขาถูกคำเยาะเย้ยจากพวกศัตรู,”เอ็กโซโด 32:25 TH1940ค. คำวิงวอนของพระคริสต์“โมเซจึงกลับไปเฝ้าพระยะโฮวาทูลว่า, “โอพระเจ้าข้า, พลไพร่นี้ได้ทำผิดใหญ่ยิ่ง: เขาได้ทำพระด้วยทองคำ; แต่บัดนี้ถ้าพระองค์จะได้ทรงโปรดยกโทษความผิดของเขา; ถ้าหาไม่ขอพระองค์ได้ทรงลบชื่อของข้าพเจ้าเสียจากทะเบียนที่พระองค์ได้ทรงจดไว้.””เอ็กโซโด 32:31-32 TH1940อ่านเพิ่มเติม ข้อ 11-14ง. ความยุติธรรมของพระเจ้า“ฝ่ายพระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “หากผู้ใดผิดต่อเราแล้ว, เราก็จะลบชื่อผู้นั้นเสียจากทะเบียนของเรา. จงไปเถอะ นำพลไพร่ไปยังที่ซึ่งเราได้บอกแก่เจ้าแล้ว. นี่แหละ, ทูตของเราจะนำหน้าเจ้า; แต่ว่าในวันนั้น เมื่อเราจะพิพากษาเขา, เราจะปรับโทษเขา.””เอ็กโซโด 32:33-34 TH1940
พระยะโฮวาผู้เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงฤทธานุภาพ ผู้รักในความยุติธรรม ทรงครอบครองอยู่! ให้ชนทั้งหลายกลัวตัวสั่น ยกย่อง และน้อมกายลงนมัสการที่พระบาทของพระองค์ผู้บริสุทธิ์ และนมัสการที่ภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์“โมเซกับอาโรนอยู่ในพวกปุโรหิตของพระองค์, และซามูเอลอยู่ในพวกผู้ที่ออกพระนามของพระองค์; ท่านเหล่านั้นได้ร้องทูลพระยะโฮวา, และพระองค์ได้ทรงตอบ. พระองค์ตรัสแก่เขาทั้งหลายออกมาแต่เสาเมฆ: เขาทั้งหลายได้รักษาคำโอวาทของพระองค์ไว้, กับข้อพระบัญญัติที่พระองค์ได้ทรงประทานแก่เขานั้น. ข้าแต่พระยะโฮวาพระเจ้าของพวกเรา, พระองค์ได้ตรัสตอบเขา: พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ได้ทรงโปรดยกความผิดให้เขา. แต่พระองค์ทรงลงพระอาชญาเพราะการประพฤติของเขานั้น.”บทเพลงสรรเสริญ 99:6-8
เพื่อการก่อสร้าง ไม่ใช่ด้วยกำลังหรืออำนาจของมนุษย์ แต่ด้วยพระวิญญาณของพระเจ้า“พระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “นี่แหละ, เราได้เรียกออกชื่อบะซาเล็ล, บุตรอูรีผู้เป็นบุตรฮูระในตระกูลยะฮูดา: และได้ให้เขาประกอบด้วยพระวิญญาณของพระเจ้าคือให้เขามีสติปัญญา ความเข้าใจและความรู้ในวิชาการทุกอย่าง, นี่แหละ เราได้ตั้งผู้ช่วยอีกคนหนึ่ง, ชื่ออาโฮลีอาบบุตรอะฮีซามาคในตระกูลดาน; ส่วนคนเหล่านั้นที่มีสติปัญญา, เราก็ได้บันดาลให้เขามีสติปัญญาทวีขึ้นอีก, เพื่อเขาจะได้ทำสิ่งสารพัตรซึ่งเราได้สั่งเจ้าไว้นั้น. ฝ่ายพระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “จงสั่งชนชาติยิศราเอลว่า, ‘เจ้าทั้งหลายจงรักษาวันซะบาโตของเราไว้อย่างแน่นอน; เพราะเป็นเครื่องหมายสำคัญอยู่ระหว่างเรากับเจ้าตลอดเชื้อวงศ์ของเจ้า, เพื่อเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยะโฮวาผู้กระทำเจ้าให้บริสุทธิ์. เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงรักษาวันซะบาโตไว้, เพราะเป็นวันบริสุทธิ์สำหรับเจ้า: ผู้ใดดูหมิ่นต่อวันนั้นจะต้องถูกปรับโทษถึงตายเป็นแน่; เหตุฉะนั้นใดจะทำการในวันนั้น, ผู้นั้นต้องถูกกำจัดเสียจากพรรคพวกของตน. จงทำการแต่ในกำหนดหกวัน, แต่ในวันที่เจ็ดนั้นเป็นวันซะบาโต; จงงดการไว้และถือเป็นวันบริสุทธิ์แห่งพระยะโฮวา: ผู้ใดจะทำการในวันนั้นต้องถูกปรับโทษถึงตายเป็นแน่.”เอ็กโซโด 31:1-3, 6, 12-15 TH1940
บทเพลงสรรเสริญ 98: 1-3, 9ร้องเพลงใหม่• เพราะพระองค์ทรงกระทำการอัศจรรย์หลายอย่าง• พระหัตถ์ขวาและพระกรอันบริสุทธิ์ของพระองค์ได้นำชัยชนะมาให้พระองค์• พระเจ้าทรงเปิดเผยความรอดของพระองค์ให้ประจักษ์• พระองค์ทรงเปิดเผยความชอบธรรมของพระองค์ต่อหน้าประชาชาติทั้งหลาย• พระองค์ทรงระลึกถึงความเมตตาของพระองค์และความซื่อสัตย์ของพระองค์ที่มีต่อชาวอิสราเอล• แผ่นดินโลกทั้งมวลได้เห็นความรอดของพระเจ้าของเรา• เพราะพระองค์กำลังจะเสด็จมาพิพากษา พระองค์จะพิพากษาแผ่นดินโลกด้วยความชอบธรรม และจะพิพากษาโลก และชนชาติทั้งหลายด้วยความเที่ยงธรรม
“พระยะโฮวาทรงครอบครองอยู่; ให้แผ่นดินโลกชื่นชม; และให้หมู่เกาะมากหลายมีความยินดี. เมฆและความมืดล้อมพระองค์ไว้รอบ: ความชอบธรรมและความยุตติธรรมเป็นรากแห่งพระที่นั่งของพระองค์. ภูเขาได้ละลายไปดังขี้ผึ้งตรงหน้าพระพักตรพระยะโฮวา, คือต่อพระพักตรแห่งเจ้าของแผ่นดินโลก. ฟ้าสวรรค์ประกาศความชอบธรรมของพระองค์, และชนประเทศทั้งปวงได้เห็นรัศมีของพระองค์. ข้าแต่พระยะโฮวา, เมืองซีโอนได้ยินจึงมีความชื่นใจ, เหล่าบุตรแห่งตระกูลยูดามีใจโสมนัสส์, เพราะเหตุคำพิพากษาของพระองค์. ด้วยพระองค์คือพระยะโฮวา, สถิตอยู่ในที่สูงสุดเหนือแผ่นดินโลก: พระองค์เป็นที่ยกย่องเหนือพระทั้งปวง. ท่านทั้งหลายที่รักพระยะโฮวา, ก็จงเกลียดการชั่ว; พระองค์ทรงบำรุงรักษาจิตแห่งพวกผู้ชอบธรรมของพระองค์; พระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้นจากมือคนชั่ว. แสงสว่างส่องมาสำหรับคนชอบธรรม, และความยินดีสำหรับคนที่มีใจซื่อตรง. ท่านทั้งหลายผู้เป็นคนชอบธรรม, จงยินดีในพระยะโฮวา, จงสรรเสริญให้เป็นที่ระลึกถึงพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์เถิด”บทเพลงสรรเสริญ 97:1-2, 5-6, 8-12
“จงร้องเพลงบทใหม่ถวายแก่พระยะโฮวา: ให้ชนชาวแผ่นดินโลกทั้งสิ้นร้องเพลงถวายสรรเสริญพระยะโฮวา. จงร้องเพลงถวายแก่พระยะโฮวา, จงถวายชัยแก่พระนามของพระองค์; จงประกาศความรอดของพระองค์ทุกๆ วันต่อไป. จงประกาศพระเกียรติของพระองค์ในท่ามกลางชนประเทศทั้งปวง, และประกาศการอัศจรรย์ของพระองค์ในท่ามกลางบรรดามนุษย์โลก. เพราะพระยะโฮวาเป็นใหญ่, สมควรจะได้ความสรรเสริญมากยิ่ง: พระองค์เป็นที่เกรงขามยิ่งกว่าพระทั้งปวง. เพราะบรรดาพระของชนชาวประเทศต่างๆ เป็นรูปเคารพทั้งนั้น; แต่พระยะโฮวาได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์. เกียรติยศและเดชานุภาพอยู่ต่อพระพักตรพระองค์: ฤทธิ์เดชและสง่าราศีย่อมอยู่ในสถานบริสุทธิ์ของพระองค์. ดูกร พงศ์พันธุ์ของชนประเทศต่างๆ, จงถวายแก่พระยะโฮวา, จงถวายรัศมีและเดชานุภาพแก่พระองค์. จงถวายรัศมีแก่พระยะโฮวาให้สมกับพระนามของพระองค์: จงนำเครื่องบูชา, จงเข้ามาในบริเวณของพระองค์. จงนมัสการพระยะโฮวาด้วยสวมเครื่องประดับอันบริสุทธิ์งดงาม: ให้คนทั้งโลกเกรงกลัวตัวสั่นฉะเพาะพระองค์. จงกล่าวในท่ามกลางชนประเทศทั้งปวงว่า, พระยะโฮวาทรงครอบครองอยู่: พิภพโลกนี้ตั้งมั่นคงอยู่จะไม่หวั่นไหวเลย; พระองค์จะทรงพิพากษาชนประเทศทั้งปวงโดยยุตติธรรม. ต่อพระพักตรพระยะโฮวา; ด้วยพระองค์เสด็จมา, พระองค์เสด็จมาจะทรงพิพากษาโลก: พระองค์จะทรงพิพากษาพิภพโลกโดยยุตติธรรม, จะทรงพิพากษาชนประเทศทั้งปวงด้วยความสัตย์ซื่อของพระองค์”บทเพลงสรรเสริญ 96:1-10, 13 TH1940
เลวีติโก 23พระคริสต์เป็นความเที่ยงแท้ของงานเลี้ยงของพระเจ้างานเลี้ยงของพระเจ้า คือการชุมนุมอันบริสุทธิ์ของผู้เชื่อ มี1. งานเลี้ยงประจำสัปดาห์ (ซะบาโต) หยุดจากการงานของตนเอง เพื่ออาศัยอยู่ในพระเยซูคริสต์มาทำการของพระบิดา2. ปัศคา เล็งถึงพระเยซูทรงช่วยเราออกมาจากการเป็นทาสของความผิดความบาป3. ขนมปังไร้เชื้อ เล็งถึงพระคริสต์เป็นการขจัดเชื้อที่อยู่ภายในเรา เพื่อให้เราเป็นบริสุทธิ์ปราศจากเชื้อ4. ผลแรก เล็งถึงการเป็นขึ้นจากตายของพระคริสต์ ได้สำแดงฤทธานุภาพอันใหญ่หลวงของพระเจ้า เพื่อให้เราหลุดพ้นจากความตายทุกวัน5. ขวบอาทิตย์ เล็งถึงพระคริสต์เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ได้นำเราขึ้นด้วย และได้ประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้แก่พวกเรา เพื่อเราจะทำการของพระเจ้าให้สำเร็จได้6. เป่าแตร7. ไถ่ความผิด8. ตั้งทับอาศัย
เลวีติโก 301. แท่นเผาเครื่องหอม (1-10) 1. เล็งถึงพระคริสต์ ผู้เป็นคนกลางระหว่างเรากับพระเจ้า 2. ที่นั่นเราจะพบกับเจ้า (6) 3. เผาเครื่องหอมเล็งถึงการอธิษฐานวิงวอน 4. เผาทุกเวลาเช้า, เมื่อแต่งประทีปก็ให้เผา, เวลาเย็นเมื่อจุดประทีปก็ให้เผาเครื่องหอม (7-8) 5. ไม่ถวายเครื่องหอมอย่างอื่น (9) 6. แท่นเผาเครื่องหอม เกี่ยวข้องกับแท่นบูชาเผาครบ (ไฟที่เอามาเผาเครื่องหอม 16:12), เครื่องบูชาไถ่ความผิดและโลหิต (10) เล็งถึงการมาอธิษฐานต้องผ่านสิ่งเหล่านี้ (แก้ไขปัญหาบาป, การล่วงละเมิด และสิ้นสุดความคิดของตน)2. เงินค่าไถ่ชีวิต (11-16) 1. นับจำนวนประชากร เพื่อคัดชายอายุ 20 ขึ้นไป เข้ากองทัพของพระเจ้าเพื่อต่อสู้กับผู้ครอบครองโลก 2. การอธิษฐาน ทำให้พระเจ้าได้คนๆนั้นเข้าร่วมกองทัพของพระองค์ 3. และยังต้องใช้เงินค่าไถ่มายกถวาย เล็งถึงพระคริสต์ผู้เสด็จสู่สวรรค์เป็นค่าไถ่ของเรา สำหรับใช้ในพลับพลา หลอมทำฐานรับเสา, ตะขอ, ราวยึด (38:27-28) 3. อ่างล้างชำระทองเหลือง (17-21)4. น้ำมันชะโลมบริสุทธิ์ (22-33)5. เครื่องหอมใช้สำหรับเผา (34-38)
“มาเถิด, ให้เราทั้งหลายร้องเพลงถวายความสรรเสริญแก่พระยะโฮวา, ให้พวกเราโห่ร้องถึงศิลาแห่งความรอดของพวกเรา. ให้พวกเราเข้ามาเฝ้าพระองค์ด้วยขอบพระเดชพระคุณ; ให้โห่ร้องด้วยเสียงชื่นบานถวายพระองค์ด้วยเพลงสรรเสริญ. เพราะพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าใหญ่ยิ่ง, เป็นพระบรมมหากษัตริย์เหนือพระทั้งปวง. มาเถิด, ให้เราทั้งหลายอ่อนน้อมกายลงนมัสการ; ให้คุกเข่าลงตรงพระยะโฮวาผู้ทรงสร้างพวกเรา: เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าของเรา, พวกเราเป็นพลไพร่ที่พระองค์ทรงเลี้ยงไว้, และเป็นประดุจฝูงแกะอยู่ในเงื้อมพระหัตถ์ของพระองค์. วันนี้, จะใคร่ให้ท่านทั้งหลายฟังพระสุรเสียงของพระองค์! ขออย่ากระทำให้ใจแข็งกะด้างไปอย่างที่ตำบลมารีบา, และอย่างในวันนั้นที่ในป่าตำบลมาซา;”บทเพลงสรรเสริญ 95:1-3, 6-8
รับประทานไม่ได้ จนกว่าจะสะอาด“พระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, จงกล่าวแก่อาโรนและลูกชายทั้งหลายของอาโรนว่า, ‘ให้เขาทั้งหลายระวังตัว (แยกตัวออกไป) ด้วยของบริสุทธิ์แห่งพวกยิศราเอล; เพื่อมิให้เขาทั้งหลายกระทำให้นามอันบริสุทธิ์ของเราเสื่อมเสีย, ด้วยของที่เขาถวายแก่เรา: เราเป็นยะโฮวา., ผู้ใดถูกต้องของเหล่านี้จะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น, อย่าให้เขากินของบริสุทธิ์นั้น, กว่าเขาจะล้างตัวเสียด้วยน้ำ. ครั้นอาทิตย์ตกแล้ว เขาจะเป็นสะอาดจึงกินของบริสุทธิ์นั้นได้; เพราะเป็นอาหารของเขา. เขาทั้งหลายต้องรักษาบัญญัติของเรา. ถ้าเขาผิดบัญญัติของเรา, เขาต้องรับโทษถึงตายเพราะการผิดนั้น: เรายะโฮวาได้ชำระเขาไว้ เพื่อมิให้เขาทั้งหลายกระทำให้ของบริสุทธิ์, ที่พวกยิศราเอลบูชาถวายแก่พระยะโฮวาเสื่อมเสียไป, และไม่ให้คนทั้งปวงรับโทษแห่งการผิดนั้นเมื่อเขากินของบริสุทธิ์เหล่านั้น; เพราะเรายะโฮวาชำระเขาทั้งหลายไว้ให้บริสุทธิ์.' ””เลวีติโก 22:1-2, 6-7, 9, 15-16เครื่องบูชาที่ถวายเป็นอาหารของพระเจ้า ต้องปราศจากพิการหรือตำหนิ“พระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “จงบอกแก่อาโรนและบุตรชายทั้งหลายของอาโรน, และพวกยิศราเอล ว่าแก่เขาทั้งหลายว่า, ‘ผู้ใดในพวกยิศราเอลหรือแขกเมืองที่อาศัยกับพวกยิศราเอลที่กระทำบูชาถวายจะได้มีความชอบกับพระยะโฮวา. ใหผู้นั้นเอาสัตว์ตัวผู้ปราศจากพิการมาจากฝูงโคหรือฝูงแกะหรือฝูงแพะบูชาถวาย, เพื่อจะได้ความชอบ. แต่สัตว์ที่เป็นพิการอย่ากระทำถวายเลย; เพราะว่าเครื่องบูชานั้นจะไม่เป็นที่ให้ได้ความชอบ. เหตุฉะนี้ท่านทั้งหลายจงรักษาบัญญัติทั้งปวงของเรา และกระทำตาม: เราเป็นยะโฮวา. อย่ากระทำใหนามอันบริสุทธิ์ของเราเสื่อมเสียไป: เราเป็นยะโฮวาผู้ชำระท่านทั้งหลายไว้ให้บริสุทธิ์, เป็นผู้นำท่านทั้งหลายออกจากประเทศอายฆุบโต จะเป็นพระเจ้าของท่านทั้งหลาย: เราเป็นยะโฮวา.””เลวีติโก 22:17-20, 31-33
“เพราะพระยะโฮวาจะไม่ทรงละทิ้งพลไพร่ของพระองค์, เหล่าคนที่เป็นมฤดกของพระองค์นั้น พระองค์จะไม่ทรงละไว้. ด้วยการพิพากษาจะกลับคืนสู่ความชอบธรรม; และบรรดาคนที่มีใจสัตย์ซื่อ จะประพฤติตามความชอบธรรมนั้น. เมื่อข้าพเจ้าพูดว่า, เท้าของข้าพเจ้าพลาดพลั้งไป; โอ้พระยะโฮวา, พระกรุณาคุณของพระองค์ก็ทรงประคองข้าพเจ้าไว้. ครั้นข้าพเจ้ามีความสาละวนในใจเป็นอันมาก ความประเล้าประโลมของพระองค์ก็จะทรงกระทำให้จิตของข้าพเจ้าชื่นบาน. แต่พระยะโฮวาได้ทรงเป็นป้อมอันสูงสำหรับข้าพเจ้า, และพระเจ้าของข้าพเจ้าเป็นศิลาที่ข้าพเจ้าวิ่งเข้าไปลี้ภัย.”บทเพลงสรรเสริญ 94:14-15, 18-19, 22
“พระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “จงกล่าวแก่พวกปุโรหิตบุตรชายทั้งหลายของอาโรน, ว่าแก่เขาทั้งหลายว่า, - อย่าทำตัวให้เป็นมลทินด้วยศพคนตาย - อย่าให้เขาโกนศีรษะ (ไม่ยอมอยู่ภายใต้อำนาจของพระคริสต์) หรือตัดหนวดหรือเชือดเนื้อตัว (ไม่ยอมรับสิ่งที่พระเจ้าประทานให้). พวกปุโรหิตนั้นจะเป็นบริสุทธิ์แก่พระเจ้า, และไม่ทำให้พระนามของพระเจ้า ของเขาเสื่อมเสีย: เพราะเขาต้องถวายเครื่องบูชากระทำด้วยไฟของพระยะโฮวา, และถวายเครื่องเสวยของพระเจ้า; เหตุฉะนี้เขาต้องเป็นบริสุทธิ์. - อย่าให้เขาเอาหญิงคนชั่ว (โสเภณี) เป็นภรรยา, หรือหญิงที่อย่าผัว: เพราะปุโรหิตนั้นเป็นบริสุทธิ์แก่พระเจ้า. เหตุฉะนี้เจ้าจงตั้ง (แบ่งแยกบริสุทธิ์) เขาไว้ให้เป็นคนบริสุทธิ์. เขาเป็นคนสำหรับถวายเครื่องเสวยของพระเจ้า, เขาต้องเป็นบริสุทธิ์; เพราะเรายะโฮวาผู้ตั้งเจ้าไว้ก็เป็นบริสุทธิ์. ถ้าบุตรีของปุโรหิตทำผิดด้วยล่วงประเวณี, เขาก็ทำให้นามชื่อของบิดาเสื่อมเสีย; ต้องเอาคนนั้นคลอกไฟเสีย”เลวีติโก 21:1, 4-9
“พระยะโฮวาทรงครอบครองอยู่; ทรงฉลองพระองค์ด้วยเดชานุภาพ; พระยะโฮวาทรงประกอบด้วยพลานุภาพ; พระองค์ทรงคาดรัดพระองค์ไว้ด้วยพลานุภาพนี้แหละ; พิภพนี้ตั้งมั่นคงอยู่, จะไม่หวั่นไหวไป. พระที่นั่งของพระองค์ตั้งมั่นคงอยู่แต่กาลโบราณ; พระองค์ไม่มีเบื้องต้น ทรงพระชนม์อยู่ตั้งแต่อดีตกาล. ข้าแต่พระยะโฮวา คำปฏิญาณของพระองค์เป็นคำแน่นอนนัก: ความบริสุทธิ์สมควรแก่พระวิหารของพระองค์สืบไปเป็นนิตย์”บทเพลงสรรเสริญ 93:1-2, 5
เลวีติโก 20กล่าวซ้ำอีก แสดงว่าสำคัญมาก!“เจ้าทั้งหลายจงชำระตัวให้เป็นบริสุทธิ์; เพราะเราเป็นยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า. เจ้าทั้งหลายจงรักษาประพฤติตามบัญญัติทั้งหลายของเรา: เราเป็นยะโฮวาผู้ทรงตั้งเจ้าไว้ให้เป็นบริสุทธิ์.” (7-8)““เหตุฉะนี้เจ้าทั้งหลายจงรักษาบัญญัติทั้งปวง, และประพฤติตามข้อปรนนิบัติทั้งปวงของเรา; เพื่อมิให้แผ่นดินเมืองที่เราจะพาเจ้าไปอยู่นั้นสำรอกคายเจ้าออกเสีย. อย่าประพฤติตามขนบธรรมเนียมของชนประเทศที่เรากำลังไล่ไปเสียจากหน้าของเจ้า; ด้วยว่าเขาทั้งหลายได้ประพฤติผิดในสิ่งเหล่านี้, เราจึงเกลียดชังเขา. แต่เราได้ว่าแก่เจ้าว่า เจ้าจะอยู่ในแผ่นดินเมืองนั้น, แผ่นดินเมืองนั้น เราจะให้เจ้าเป็นของมรดก: คือแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งอันบริบูรณ์: เราเป็นยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า, ที่ได้แยกเจ้าทั้งหลายออกจากชนชาติอื่น.” (22-24)“พระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “จงกล่าวแก่พวกยิศราเอลซ้ำอีกว่า, - ผู้ใดจะให้ลูกหลานแก่พระโมเล็ก ต้องฆ่าผู้นั้นเสีย- กระทำให้พระวิหารของพระองค์เป็นมลทิน และพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์เสื่อมเสีย- หันหาคนทรงผีและแม่มด- แช่งด่าพ่อแม่- ล่วงประเวณีชนิดต่างๆ- รู้จักสังเกตสัตว์สะอาดและสัตว์ไม่สะอาด- อย่าให้จิตใจเป็นมลทินด้วยสัตว์ที่ไม่สะอาด (25)- ชายหรือหญิงคนใดที่เป็นคนทรงผีและแม่มด ต้องฆ่าเสีย
เอ็กโซโด 29การถวายตัว แบ่งแยกบริสุทธิ์ เป็นปุโรหิตปรนนิบัติพระเจ้า ต้องมีการล้างชำระ สวมใส่พระคริสต์ มีพระโลหิต พระวิญญาณบริสุทธิ์ มีประสบการณ์พระคริสต์เป็นเครื่องบูชาเผาครบ (นอบน้อม เชื่อฟัง ทำตามน้ำพระทัยพระบิดาในทุกสิ่ง) ประสบการณ์ไม้กางเขนพระคริสต์เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป ประสบการณ์พระคริสต์เป็นเครื่องบูชากระยาหาร ประสบการณ์พระคริสต์เป็นเครื่องบูชายก เครื่องบูชาแกว่ง เครื่องบูชาดื่ม และรับสุขในส่วนของพระคริสต์ที่ประทานให้ที่สำคัญจะต้องมีประสบการณ์ทุกๆวัน คือประสบการณ์พระคริสต์เป็นเครื่องบูชาเผาครบ และเป็นเครื่องบูชากระยาหาร ทุกวันจนกว่าพระคริสต์จะเสด็จกลับมา
“เป็นการดีที่จะขอบพระเดชพระคุณของพระยะโฮวา, และร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์ผู้ใหญ่ยิ่งที่สุด; จงสำแดงพระกรุณาคุณของพระองค์ในเวลาเช้า, และความสัตย์ซื่อของพระองค์ทุกคืน, ข้าแต่พระยะโฮวา, พระองค์ได้ทรงกระทำให้ข้าพเจ้ามีใจยินดีเพราะกิจการของพระองค์: ข้าพเจ้าจะได้ชัยชนะโดยพระหัตถกิจของพระองค์. ข้าแต่พระยะโฮวา, กิจการของพระองค์ก็ใหญ่ยิ่งจริง! และพระดำริของพระองค์ก็ลึกซึ้งมาก. ข้าแต่พระยะโฮวา, พระองค์เป็นผู้ใหญ่ยิ่งตลอดอนาคตกาล. แต่พระองค์ได้ทรงยกสิงค์ (กำลัง) ของข้าพเจ้าขึ้นเหมือนสิงค์ของวัวป่า: ข้าพเจ้าได้ถูกเจิมด้วยน้ำมันใหม่แล้ว. คนชอบธรรมจะเจริญดุจต้นตาล: จะงอกขึ้นเหมือนต้นสนซีดาห์ที่ภูเขาละบาโนน. เขาถูกปลูกไว้ในวิหารของพระยะโฮวา; เขาจะเบิกบานออกในบริเวณแห่งพระเจ้าของพวกเรา. เมื่อผู้นั้นแก่แล้วยังจะเกิดผล; จะประกอบไปด้วยน้ำเลี้ยงและยังเขียวสดอยู่: เพื่อแสดงให้เห็นว่าพระยะโฮวาเป็นผู้สัตย์ซื่อ; พระองค์เป็นศิลาของข้าพเจ้า, และความอสัตย์อธรรมในพระองค์ไม่มีเลย”บทเพลงสรรเสริญ 92:1-2, 4-5, 8, 10, 12
การดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์ของคนบริสุทธิ์ (ลวต. 18-19)“เจ้าทั้งหลายอย่ากระทำตามอย่างชาวเมืองอายฆุบโต (คนเก่า, ชีวิตแบบเก่า), ที่พวกเจ้าได้ อาศัยอยู่แต่ก่อนนั้น: อย่ากระทำตามธรรมเนียมชาวเมืองคะนาอัน (โลกปัจจุบัน) ที่เรากำลังจะพาเจ้าไปอยู่นั้น; อย่าประพฤติตามเขาเลย. เจ้าทั้งหลายต้องกระทำตามข้อบัญญัติ, และดำเนินตามข้อปรนนิบัติทั้งหลายของเรา: เราเป็นพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าของเจ้า. เหตุฉะนี้ผู้ใดได้นับถือรักษาบัญญัติ, และประพฤติตามข้อปรนนิบัติทั้งหลายของเรา, ผู้นั้นจะมีชีวิตจำเริญในคำโอวาทนั้น: เราคือพระยะโฮวา” 18:3-51. อย่าทำผิดประเวณีต่างๆ 18:6-20, 22-232. ไม่บูชาพระอื่นและเข้าร่วมในพิธีกรรมต่างๆ (18:21)3. จงเกรงกลัวและฟังบิดามารดาของตน (19:3)4. ถือรักษาวันซะบาโต คือไม่ใช้ตัวเก่าของเรามาทำตามชอบพระทัยพระเจ้า แต่ให้พระคริสต์ทำผ่านตัวเรา (คนใหม่)5. อย่ากลับไปนับถือรูปเคารพ หรือกลับไปทำรูปหล่อเป็นของเคารพสำหรับตัวเอง (19:4)6. ถวายเครื่องบูชาสันติไมตรีให้เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า คือการมาถึงโต๊ะขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยสังเกตพระกาย ไม่กระทำให้ของบริสุทธิ์แห่งพระยะโฮวาเสื่อมเสียไป (19:5-8)7. ระลึกถึงคนจน ที่ไม่มีอะไรจะกินจริงๆ8. ไม่ขโมย ไม่คดโกง ไม่โกหกแก่กันและกัน9. ไม่สาบานเท็จ แต่ให้ถ้อยคำของท่านเป็นคำตรงเถิด10. อย่าปล้นหรือโกงเอารัดเอาเปรียบเพื่อนบ้าน11. อย่าหน่วงเหนี่ยวค่าแรงรายวันไว้จนถึงรุ่งเช้า12. อย่าแช่งด่าคนหูหนวก และวางของให้คนตาบอดสะดุด แต่จงเกรงกลัวพระเจ้าของเจ้า13. จงพิพากษาด้วยความชอบธรรม อย่าลำเอียงเข้าข้างคนจน หรือเห็นแก่หน้าผู้หลักผู้ใหญ่14. อย่าเป็นคนเที่ยวนินทาใส่ร้ายแก่เพื่อนบ้าน15. อย่าปองร้ายต่อชีวิตของเพื่อนบ้าน16. อย่าเกลียดชังพี่น้องอยู่ในใจ แต่จงว่ากล่าวตักเตือนเขา เพื่อเจ้าจะไม่ต้องรับโทษเพราะเขา (19:17)17. อย่าแก้แค้นหรือผูกพยาบาทต่อญาติพี่น้องของเจ้า แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง18. ไม่ผสมวัวข้ามสายพันธุ์ - จงดำเนินตามพระวิญญาณ และท่านจะไม่ได้ประพฤติตามราคะของเนื้อหนัง19. หว่านพืชปนกันสองชนิด - เราได้กล่าวด้วยถ้อยคำซึ่งไม่ใช่ปัญญาของมนุษย์สอนไว้ แต่ด้วยถ้อยคำซึ่งพระวิญญาณได้ทรงสั่งสอน20. สวมเสื้อผ้าทำจากวัสดุสองชนิดปนกัน - การประพฤติของชาวสวรรค์ผสมกับฝ่ายโลก21. อย่ากินเนื้อสัตว์ที่มีเลือด, 22. อย่าใช้เครื่องรางกันตัว, อย่าถือฤกษ์ยาม อย่าเป็นหมอดู หรือเป็นหมอผีคาถาอาคม23. อย่าเชือดเนื้อ หรือสักตามตัว24. อย่าทำให้ลูกสาวของตนเป็นหญิงโสเภณี25. จงถือรักษาวันซะบาโต และเคารพต่อสถานนมัสการของพระองค์26. อย่าหันไปหาคนทรงผีและพ่อมดแม่มด27. จงให้เกียรติและแสดงความเคารพนับถือผู้อาวุโส28. จงเกรงกลัวพระเจ้า29. อย่าทำไม่ดีต่อแขกเมืองที่มาอาศัยด้วยเจ้านั้น30. อย่าตัดสินอย่างไม่ยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการวัดความยาว น้ำหนัก หรือปริมาตร ต้องมีตาชั่งที่เที่ยงตรง น้ำหนักที่เที่ยงตรง31. เพราะฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงถือรักษาบัญญัติของเราและข้อพิพากษาของเราทั้งสิ้น และปฏิบัติตามบัญญัติเหล่านั้นเราคือพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า ผู้ได้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ (ทาสของความบาป)
“ผู้ใดอาศัยอยู่ในที่อันลับแห่งผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด ผู้นั้นจะได้อาศัยอยู่ในร่มของพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ใหญ่ยิ่ง. ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงพระยะโฮวาว่า, พระองค์เป็นที่พึ่งพำนักและเป็นป้อมของข้าพเจ้า; พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า ๆ วางใจในพระองค์. ด้วยพระองค์จะทรงช่วยท่านให้พ้นจากบ่วงแร้วของนายพราน, และให้พ้นจากโรคร้ายนั้น. พระองค์จะทรงปกคลุมท่านไว้ด้วยปีกของพระองค์, และท่านจะอาศัยอยู่ใต้ปีกของพระองค์: ความสัตย์ธรรมของพระองค์เป็นโล่ห์และเป็นดั้ง. ท่านไม่ต้องมีความกลัวสะดุ้งในกลางคืน, ไม่ต้องกลัวลูกธนูที่ปลิวไปในเวลากลางวัน. ไม่ต้องกลัวโรคห่าที่ระบาดไปในเวลามืด, หรือโรคพิษที่ล้างผลาญในเวลาตะวันเที่ยง. โอ พระยะโฮวา, เพราะพระองค์เป็นที่พึ่งพำนักของข้าพเจ้า! ท่านได้รับพระองค์ผู้ใหญ่ยิ่งที่สุดให้เป็นที่พึ่งพาอาศัยของท่าน; เหตุร้ายสิ่งใดจะไม่บังเกิดแก่ท่าน, และภัยอันใดจะเข้ามาใกล้กะโจมของท่านก็หามิได้. เพราะพระองค์จะให้พวกทูตของพระองค์คุ้มครองท่าน, ให้ระวังรักษาท่านตามมรคาของท่านทั้งสิ้น. เพราะผู้นั้นได้รักเรา, เราจึงจะช่วยเขาให้รอด: เราจะตั้งเขาไว้ในที่สูง เพราะเขารู้จักนามของเรา. เขาจะร้องเรียกเราเมื่อไร, เราจะตอบเขาเมื่อนั้น; เราจะอยู่กับเขาในยามทุกข์ยาก: เราจะช่วยเขาให้รอดและจะให้เกียรติยศแก่เขา, เราจะให้เขาอายุยืนเป็นที่พอใจเขา, และจะสำแดงความรอดของเราให้เขาเห็น”บทเพลงสรรเสริญ 91:1-6, 9-11, 14-16
*คนของพระเยซูคริสต์ ถอดทิ้งมนุษย์เก่า สวมมนุษย์ใหม่*“เจ้าทั้งหลายอย่ากระทำตามอย่างชาวเมืองอายฆุบโต (คนเก่า, ชีวิตแบบเก่า), ที่พวกเจ้าได้ อาศัยอยู่แต่ก่อนนั้น: อย่ากระทำตามธรรมเนียมชาวเมืองคะนาอัน (โลกปัจจุบัน) ที่เรากำลังจะพาเจ้าไปอยู่นั้น; อย่าประพฤติตามเขาเลย. เจ้าทั้งหลายต้องกระทำตามข้อบัญญัติ, และดำเนินตามข้อปรนนิบัติทั้งหลายของเรา: เราเป็นพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าของเจ้า. เหตุฉะนี้ผู้ใดได้นับถือรักษาบัญญัติ, และประพฤติตามข้อปรนนิบัติทั้งหลายของเรา, ผู้นั้นจะมีชีวิตจำเริญในคำโอวาทนั้น: เราคือพระยะโฮวา”เลวีติโก 18:3-5 TH1940
เอ็กโซโด 28เครื่องแต่งกายเล็งถึงการสำแดงการประพฤติออก (ดูการประพฤติของคนเก่า ยซย. 64:6; ของคนใหม่ วว. 19:8) เครื่องแต่งกายของปุโรหิตแสดงถึงการสำแดงพระคริสต์ออกมาของปุโรหิตที่รับใช้ ปุโรหิตยังได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ และแยกออกถวายให้พระเจ้าโดยเครื่องแต่งกายอันบริสุทธิ์ มีสง่าราศีและสวยงามของพวกเขา““จงนำอาโรนพี่ชายของเจ้ากับบุตรชายของเขาออกมาจากท่ามกลางชนชาติยิศราเอล, เพื่อจะได้รับหน้าที่ปุโรหิตปรนนิบัติเรา, คือทั้งอาโรน, กับบุตรที่ชื่อนาดาบ, อะบีฮู, เอละอาซารและอีธามาร. แล้วให้ทำเครื่องยศอันสมศักดิ์ บริสุทธิ์ สำหรับอาโรนพี่ชายของเจ้า ให้งดงามและมีเกียรติ. ให้เขาทำเครื่องยศดังต่อไปนี้: คือทับทรวง, ผ้าเอโฟด, เสื้อคลุม, เสื้อขลิบกรอมส้น, ผ้ามาลา และรัดประคด: และให้เขาทำเครื่องยศสมศักดิ์ บริสุทธิ์ สำหรับอาโรนพี่ชายของเจ้า, และบุตรของเขา, เพื่อจะได้ปรนนิบัติเราในหน้าที่ปุโรหิต. “จงทำเสื้อ, รัดประคด, และมาลาสำหรับบุตรของอาโรนให้งามและมีเกียรติ. ให้แต่งอาโรนพี่ชายของเจ้า ทั้งบุตรของเขาด้วยเครื่องยศนั้น, แล้วชะโลมเฉลิมและสถาปนาเขาไว้, เพื่อประกอบการปรนนิบัติเราตามหน้าที่ปุโรหิต.”เอ็กโซโด 28:1-2, 4, 40-41 TH1940
“ในชั่วอายุของข้าพเจ้ามีสัก 70 ปีเท่านั้น, ถ้าแม้ว่ามีกำลังมากก็จะยืนได้ถึง 80 ปี; กำลังที่ตนอวดนั้น ย่อมประกอบไปด้วยการลำบากและความทุกข์; เพราะไม่ช้าก็จะสูญไป และข้าพเจ้าทั้งหลายจะล่วงลับไป. ใครจะรู้อำนาจแห่งความพิโรธของพระองค์? และความกริ้วของพระองค์ ตามความเกรงกลัวพระองค์. เพราะฉะนั้นขอทรงโปรดสอนให้ข้าพเจ้า นับวันคืนทั้งหลายของพวกข้าพเจ้าเป็น, เพื่อจะได้มีใจประกอบไปด้วยสติปัญญา. ข้าแต่พระยะโฮวา, ขอเสด็จกลับมา, นานอีกสักเท่าไรพระองค์จึงจะเสด็จมา? ขอทรงกลับพระทัยเอ็นดูสงสารพวกทาสของพระองค์. ขอทรงโปรดให้พวกข้าพเจ้าอิ่มใจในเวลาเช้าด้วยพระกรุณาคุณของพระองค์, เพื่อจะได้ชื่นชมยินดีตลอดวันคืนแห่งอายุของพวกข้าพเจ้า. ขอทรงโปรดให้พวกข้าพเจ้ามีใจยินดี เท่าวันคืนทั้งหลายที่พระองค์ทรงบันดาลให้มีความทุกข์ยากแล้ว, และเท่ากับปีเดือนที่พวกข้าพเจ้าได้เห็นการร้ายนั้น. ขอทรงโปรดให้กิจการของพระองค์ ปรากฏแจ้งแก่พวกทาสเขานั้น. ขอให้คุณงามความดีของพระยะโฮวาพระเจ้าของพวกข้าพเจ้า อยู่กับข้าพเจ้า; ขอทรงบำรุงการหัตถกรรมของพวกข้าพเจ้าให้ตั้งมั่นคงอยู่; ขอโปรดทั้งการฝีมือของพวกข้าพเจ้าให้ถาวรด้วยเถิดพระเจ้าค่ะ”บทเพลงสรรเสริญ 90:10-17
ต้องถวายเครื่องบูชาที่ประตูพลับพลาประชุมเท่านั้น“พระยะโฮวาตรัสสั่งแก่ท่านทั้งหลายดังนี้ว่า, ผู้ใดผู้หนึ่งในพวกยิศราเอลฆ่าวัวหรือแกะหรือแพะ ข้างในหรือข้างนอกที่หยุดพัก, และมิได้เอาสัตว์นั้นมาที่ประตูพลับพลาประชุม, เพื่อจะได้บูชาถวายพระยะโฮวาที่พลับพลาของพระยะโฮวา, ผู้นั้นจะมีโทษ เพราะเขาทำให้เลือดไหล: คนนั้นต้องถูกตัดขาดจากพรรคพวกของตน; ทั้งนี้จุดประสงค์ก็เพื่อจะให้พวกยิศราเอลที่เคยเอาเครื่องบูชาของเขาเผาบูชาตามท้องทุ่ง ให้นำมาถวายต่อพระพักตรพระยะโฮวาที่ประตูพลับพลาประชุม ให้แก่ปุโรหิต, และปุโรหิตจะถวายของเหล่านั้นเป็นเครื่องบูชาโมทนาพระคุณ (สันติไมตรี) แก่พระยะโฮวา. และปุโรหิตจะประพรมโลหิตนั้นบนแท่นบูชาของพระยะโฮวา, ที่ประตูพลับพลาประชุม และเผามันสัตว์นั้นเป็นเครื่องโอชารสอันหอมแก่พระยะโฮวา. และจะไม่ให้เขาทั้งหลายบูชาแก่ปีศาจนั้นอีก, อันเป็นการล่วงประเวณีของเขา (ทำตัวดังหญิงแพศยา). บัญญัตินี้เราให้เป็นบัญญัติถาวรชั่วอายุของเขาทั้งหลาย.' ””เลวีติโก 17:2-7
“จงทำยอดแหลมเป็นรูปเขาสัตว์ไว้ทั้งสี่มุม: ให้ติดอยู่กับแท่น: และจงหุ้มแท่นด้วยทองเหลือง (ดู อฤธ. 16:38-40; 1 ปต. 3:18).”เอ็กโซโด 27:2 TH1940““จงสั่งชนชาติยิศราเอลให้นำน้ำมันมะกอกเทศบริสุทธิ์ที่คั้นแล้ว มาสำหรับเติมประทีป, เพื่อจะให้ประทีปนั้นส่องสว่างอยู่เสมอ. ในพลับพลาที่ประชุมข้างนอกม่านซึ่งบังหีบปฏิญาณไว้นั้น, ให้อาโรนและบุตรหลานของอาโรนตาม (จุดให้ไฟติด) ประทีปไว้ต่อพระพักตร์พระยะโฮวา, ตั้งแต่เวลาพลบค่ำจนถึงรุ่งเช้า: ให้ชาติยิศราเอลถือข้อปฏิบัตินี้ตลอดเชื้อวงศ์ของเขาสืบไปเป็นนิตย์.””เอ็กโซโด 27:20-21
“ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระกรุณาคุณของพระยะโฮวาเป็นนิตย์: ปากของข้าพเจ้าจะกล่าวความสัตย์ซื่อของพระองค์แก่ชนทุกๆ ชั่วอายุ. ด้วยข้าพเจ้าได้กล่าวไว้แล้วว่า, ความเมตตาจะต้องเจริญขึ้นเป็นนิตย์; พระองค์จะทรงตั้งความสัตย์ซื่อของพระองค์ไว้ในสวรรค์ชั้นฟ้าทีเดียว เราได้ตั้งคำสัญญาไว้กับผู้เลือกสรรของเรา, เราได้ปฏิญาณแก่ดาวิดผู้ทาสของเราว่า: เราจะตั้งพงศ์พันธุ์ของเจ้าไว้เป็นนิตย์, และจะสร้างบัลลังก์ของเจ้าขึ้นไว้ให้ถาวรทุกชั่วอายุ.”บทเพลงสรรเสริญ 89:1-4
“และอาโรนจะเอาโลหิตลูก วัวนั้น, มาประพรมด้วยนิ้วมือของตนบนพระที่นั่งกรุณาข้างตะวันออก, และประพรมโลหิตนั้นลงที่พื้นตรงหน้าพระที่นั่งกรุณาเจ็ดหน “แล้วอาโรนจะฆ่าแพะที่เป็นเครื่องบูชาไถ่โทษสำหรับคนทั้งปวงนั้น. เอาโลหิตแพะนั้นเข้าไปในม่าน, และกระทำโลหิตแพะนั้นเหมือนได้กระทำโลหิตของลูกวัว: คือประพรมลงที่พระที่นั่งกรุณา. และที่พื้นตรงหน้าพระที่นั่งกรุณาและปุโรหิตจะกระทำไถ่โทษที่บริสุทธิ์นั้นเพราะมลทินแห่งพวกยิศราเอลทั้งหลาย, และเพราะการผิดและการบาปของเขา, และปุโรหิตจะกระทำไถ่โทษพลับพลาประชุมที่อยู่ท่าม กลางการมลทินของเขาเหมือนกัน. และลูกวัวและแพะที่ปุโรหิตฆ่าเอาโลหิตเขามากระทำไถ่โทษในที่บริสุทธิ์, เขาจะยกออกไปข้างนอกและจะเอาหนังกับเนื้อ และอาจมเผาไฟเสีย.”เลวีติโก 16:14-16, 27 TH1940
เอ็กโซโด 26- ผ้าคลุมพลับพลา เล็งถึงตัวของพระเยซูคริสต์มาบังเกิดเป็นรูปกายมนุษย์ แม้รูปกายภายนอกไม่น่าดูชม แต่ภายในบริสุทธิ์ ดีสมบูรณ์แบบ ไม่เพียงเสด็จมาเป็นพระผู้ไถ่ แต่ยังเป็นวิญญาณผู้ประทานชีวิตเข้าสู่ภายในเราผู้เชื่อ- ไม้กระดานและเสา เล็งถึงพระนิสัยมนุษย์ของพระเยซู ที่แข็งแรงไม่ผุกร่อนง่าย หุ้มด้วยทองคำ คือพระนิสัยบริสุทธิ์ของพระเจ้า- ม่านภายในพลับพลา เล็งถึงพระกายของพระคริสต์ ซึ่งต้องถูกฉีกออก เพื่อเปิดทางให้เรามาถึงพระเจ้าพระบิดา ได้คืนดี ใกล้ชิดกับพระองค์- ม่านที่ประตูพลับพลา เล็งถึงพระกายที่ตรึงบนกางเขน หลั่งเลือดและวายพระชนม์ เพื่อความบาปของเราได้รับการอภัย
ข้อพระคัมภีร์อซด.19:4-6, ซคร. 4:2-14, 1 ปต. 2:4-5, 9, วว. 1:5-6, 5:9-10
“ข้าแต่พระยะโฮวา, พระเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอด, ข้าพเจ้าทูลร้องทุกข์ทั้งกลางวันและกลางคืนฉะเพาะพระพักตรพระองค์. ขอพระองค์ทรงโปรดให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้าขึ้นไปตรงพระพักตรของพระองค์; และขอทรงโปรดเงี่ยพระกรรณสดับฟังเสียงร้องของข้าพเจ้า. เพราะจิตของข้าพเจ้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความทุกข์, และชีวิตของข้าพเจ้าก็เลื่อนเข้าไปใกล้เมืองผี, พระองค์จะทรงสำแดงการอัศจรรย์แก่ผู้ที่ตายแล้วหรือ? ผู้ที่ตายแล้วจะลุกขึ้นถวายความสรรเสริญแก่พระองค์หรือ? ในหลุมฝังศพจะมีผู้ใดกล่าวถึงพระกรุณาของพระองค์หรือ? ในที่มืดเขาจะทราบถึงการอัศจรรย์ของพระองค์หรือ? ในสถานที่หลงลืมนั้นเขาจะรู้ถึงความชอบธรรมของพระองค์หรือ?”บทเพลงสรรเสริญ 88:1-3, 10-12
“ฝ่ายพระยะโฮวาได้ตรัสแก่โมเซว่า, “จงสั่งชนชาติยิศราเอลให้นำของมาถวายแก่เรา: ของนั้นให้รับมาจากทุกๆ คนที่เต็มใจถวาย. ของถวายซึ่งเจ้าจะต้องรับจากเขาคือทองคำ, เงิน, ทองเหลือง, ผ้าสีฟ้า, สีม่วง, สีแดงจัด, ผ้าป่านเนื้อดี, และขนแพะ, หนังแกะตัวผู้ย้อมสีแดง, หนังปลาโลมา, และไม้ซิติม, น้ำมันเติมประทีป, เครื่องหอมปรุงน้ำมันสำหรับชะโลม, และเครื่องหอมสำหรับเผา. แก้วเพทาย, และแก้วสำหรับฝังในเคโฟดและในทับทรวง. แล้วให้เขาสร้างที่บริสุทธิ์ถวายแก่เรา, เพื่อเราจะได้อยู่ท่ามกลางเขา. แบบอย่างพลับพลาและเครื่องทั้งปวงของพลับพลานั้น, เจ้าจงทำตามสารพัตรที่เราแจ้งไว้แก่เจ้านี้.””เอ็กโซโด 25:1-9 TH1940
“รากฐาน (เมือง) ของพระองค์ทรงตั้งอยู่ในหมู่ภูเขาบริสุทธิ์. พระยะโฮวาทรงรักประตูแห่งเมืองซีโอนยิ่งกว่าบรรดาที่อาศัยของพวกยาโคบ. โอ้เมืองแห่งพระเจ้า, มีผู้กล่าวถึงสิ่งที่เป็นสง่าราศีของเมืองนี้. เออ, จะมีคนกล่าวถึงซีโอนว่า, ชายผู้นั้นผู้นี้ได้บังเกิดในเมืองซีโอน; และพระองค์ผู้ใหญ่ยิ่ง, พระองค์เองจะทรงตั้งเมืองนั้นไว้ให้มั่นคง. เมื่อทรงจดบัญชีชาติต่างๆ, พระยะโฮวาจะทรงจดไว้ว่า, ผู้นี้ได้บังเกิดในเมืองนั้น.”บทเพลงสรรเสริญ 87:1-3, 5-6
“เขาได้ใช้คนหนุ่มชาติยิศราเอลให้ถวายโคเป็นเครื่องเผาครบบูชา, และบูชาสมานไมตรีแด่พระยะโฮวา. โมเซได้เก็บโลหิตโคครึ่งหนึ่งไว้ในชาม; อีกครึ่งหนึ่งได้ประพรมที่แท่นบูชา. ท่านได้ถือหนังสือสัญญาไมตรีอ่านให้พลไพร่ฟัง: เขาทั้งหลายจึงตอบว่า, “สิ่งสารพัตรที่พระยะโฮวาได้ตรัสไว้นั้น, พวกข้าพเจ้าจะเชื่อฟังและทำตาม.” โมเซได้เอาโลหิตในชามนั้นประพรมพลไพร่ทั้งปวงและว่า, “นี่แหละเป็นโลหิตเล็งถึงคำสัญญาไมตรีที่พระยะโฮวาได้ทำกับพวกเจ้า, ตามคำโอวาทนี้ทุกประการ.””เอ็กโซโด 24:5-8
“ขอทรงโปรดรักษาชีวิตของข้าพเจ้าไว้เพราะข้าพเจ้าเป็นผู้สัตย์ซื่อ: ข้าแต่พระเจ้า, ขอทรงช่วยผู้ทาสที่วางใจในพระองค์. ขอทรงโปรดกระทำจิตต์ใจผู้ทาสของพระองค์ให้ชื่นชมยินดี; ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า, เพราะข้าพเจ้ายกจิตต์ใจถวายแก่พระองค์. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า, พระองค์ทรงประกอบไปด้วยพระคุณพร้อมที่จะทรงยกความผิด, และทรงพระกรุณาคุณเหลือล้นแก่บรรดาผู้ที่ร้องทูลพระองค์. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า, บรรดาชนประเทศที่พระองค์ทรงสร้างแล้วจะมาเฝ้านมัสการต่อพระองค์; และถวายเกียรติยศแก่พระนามของพระองค์. เพราะพระองค์เป็นใหญ่, และทรงกระทำการอัศจรรย์: พระองค์ผู้เดียวเป็นพระเจ้า. ข้าแต่พระยะโฮวา, ขอทรงโปรดสั่งสอนข้าพเจ้าให้รู้ในทางพระองค์, ข้าพเจ้าจะได้ประพฤติตามความสัตย์จริงของพระองค์: ขอทรงยังใจข้าพเจ้าให้เกรงกลัวพระนามของพระองค์. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าจะยกย่องสรรเสริญพระองค์ด้วยสุดใจ; และจะถวายเกียรติยศแก่พระนามของพระองค์เป็นนิตย์. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า, พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ประกอบไปด้วยพระเมตตากรุณา, ทรงพระพิโรธช้าๆ, ความกรุณาคุณและความสัตย์จริงมีเหลือล้น. ขอทรงหันพระพักตรและทรงพระกรุณาแก่ข้าพเจ้า; ขอทรงโปรดประทานกำลังแก่ผู้ทาสของพระองค์, และขอทรงช่วยบุตรชายแห่งทาสีของพระองค์ให้รอด.”บทเพลงสรรเสริญ 86:2, 4-5, 9-12, 15-16
““จงถือเทศกาลเลี้ยงระลึกถึงเราปีละสามครั้ง. จงถือเทศกาลเลี้ยงกินขนมปังไม่มีเชื้อในเดือนอาบิบ, อันเป็นเดือนซึ่งเราได้กำหนดตั้งไว้; เจ้าจงกินขนมปังไม่มีเชื้อให้ครบเจ็ดวัน, ตามที่เราได้สั่งเจ้าแล้ว, เพราะในเดือนนั้นเจ้าได้ออกจากประเทศอายฆุบโต; อย่าให้ผู้ใดมาเฝ้าเรามือเปล่าเลย. แล้วจงถือเทศกาลเลี้ยงในต้นฤดูเก็บเกี่ยว, คือผลแรกที่เกิดจากพืชซึ่งเจ้าได้หว่านในนา, และจงถือเทศกาลเลี้ยงปลายปี, เมื่อเจ้าได้เก็บรวบรวมพืชผลจากทุ่งนาไว้เสร็จแล้ว. ให้ชายทั้งหลายเฝ้าพระยะโฮวาปีละสามครั้ง.” “นี่แหละ, เราจะใช้ทูตของเราไปข้างหน้าพวกเจ้า, เพื่อรักษาพวกเจ้าตามทาง, นำไปถึงที่นั่นซึ่งเราได้เตรียมไว้. จงสนใจนำพาต่อทูตนั้นและจงเชื่อฟังคำของท่าน; อย่าขัดขืน ดื้อรั้น ฝ่าฝืน กบฏ ต่อท่านเลย; เพราะท่านจะไม่ยกความผิดของเจ้าเลย: ด้วยพระนามของเราอยู่กับท่าน. ถ้าแม้ว่าเจ้าทั้งหลายจะฟังคำของท่านจริงๆ, และทำสิ่งสารพัตรซึ่งเราสั่งไว้, เราจะเป็นศัตรูต่อศัตรูของพวกเจ้า; ผู้ใดต่อสู้กับพวกเจ้า, เราจะต่อสู้กับผู้นั้น. ด้วยทูตของเราจะไปข้างหน้าพวกเจ้า, และจะนำพวกเจ้าไปถึงเมืองของชนชาติอะโมรีชาติเฮธ, ชาติพะริซี, ชาติคะนาอัน, ชาติฮีวี, และชาติยะบูศ: แล้วเราจะประหารชาวเมืองเหล่านั้นเสีย. อย่าได้กราบไหว้พระของเขา, หรือปรนนิบัติหรือทำตามแบบอย่างที่พวกเขากระทำอยู่นั้น; แต่จงทำลายรูปเคารพของเขา, และจงทุบหักศิลาเหลี่ยมเคารพของเขาเสียให้แหลกละเอียด. จงปรนนิบัติพระยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้า, แล้วพระองค์จะทรงอวยพระพรแก่อาหารและน้ำของพวกเจ้า; เราจะบันดาลให้โรคต่างๆ หายไปจากท่ามกลางพวกเจ้า. จะไม่มีสัตว์ตัวใดแท้งลูกหรือเป็นหมันในประเทศของเจ้า: เวลากำหนดอายุของพวกเจ้าจะให้มีครบเต็มบริบูรณ์. เราจะให้ความตระหนกตกใจเพราะเราล่วงหน้าไปก่อนพวกเจ้า. และชาวเมืองทั้งปวงที่พวกเจ้าจะมาถึงนั้นเราจะประหารเสีย; เราจะให้พวกศัตรูทั้งปวงหันกลับหนีไปจากพวกเจ้า. เราจะใช้ฝูงต่อให้ล่วงหน้าไปก่อนพวกเจ้า, จะได้ไล่ชนชาติฮีวี, ชนชาติคะนาอัน, ชนชาติเฮธ, ไปจากข้างหน้าพวกเจ้า. เราจะไม่ไล่เขาไปล่วงหน้าพวกเจ้าในกำหนดปีเดียว. เกรงว่าแผ่นดินจะรกร้างไป, และสัตว์ป่าจะทวีขึ้นต่อสู้กับพวกเจ้า. แต่เราจะไล่เขาล่วงหน้าพวกเจ้าไปทีละน้อยๆ, จนพวกเจ้าจะทวีมากขึ้น, แล้วจะได้รับแผ่นดินนั้นเป็นมฤดก. พวกเจ้าอย่าทำสัญญาไมตรีกับเขาหรือกับพระของเขาเลย. เขาจะอาศัยในแผ่นดินของเรามิได้เลย, เกรงว่าเขาจะกระทำให้เจ้าผิดต่อเรา; เพราะว่าถ้าพวกเจ้าจะปรนนิบัติพระของเขา, ก็จะเป็นบ่วงแร้วแก่เจ้าเป็นแน่.””เอ็กโซโด 23:14-17, 20-30, 32-33
“จงเร่งนำพืชผลอันอุดมของเจ้าและน้ำผลไม้ต่างๆ ในต้นฤดูมาถวายพระเจ้า; อย่าคอยให้เนิ่นช้าเลย. จงถวายบุตรชายหัวปีของเจ้าให้แก่เรา.”เอ็กโซโด 22:29 TH1940
“แน่นอนทีเดียว ความรอดจากพระองค์อยู่ใกล้คนทั้งหลายที่เกรงกลัวพระองค์, เพื่อสง่าราศีนั้นจะได้ดำรงอยู่ที่แผ่นดินของพวกเรา. ความเมตตากรุณาและความสัตย์จริงได้พบปะกัน; ความชอบธรรมและความสันติสุขจุบกันแล้ว. ความสัตย์จริงงอกขึ้นจากพื้นดิน; และความชอบธรรมทอดตาแลลงมาจากสวรรค์. พระยะโฮวาจะประทานสิ่งซึ่งดีพระเจ้าค่ะ; และแผ่นดินของพวกข้าพเจ้าจะเกิดผล. ความชอบธรรมจะนำหน้าพระองค์, และจะกระทำให้รอยพระบาทของพระองค์เป็นมรคา (ทางเดิน) ของพวกข้าพเจ้า”บทเพลงสรรเสริญ 85:9-13