สวัสดีทุกคน ELEPHANT TALK เป็น podcast รีวิว / วิเคราะห์ชวนคุยหนัง-ซีรีส์เรื่องต่างๆที่ช้างได้รับชมมา ทั้งนี้อาจจะมีสปอยล์บ้างเป็นบางเทป ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่านฮะ
15 ค่ำ เดือน 11 (จิระ มะลิกุล, 2545, ไทย) เรื่องราวของ ‘คาน'เด็กหนุ่มคนหนองคายที่มีหน้าที่ต้องนำลูกพลุลงไปวางไว้ใต้แม่น้ำโขงเพื่อรอให้ไฟขึ้นจากน้ำในวัน 15 ค่ำ เดือน 11 คานเริ่มตั้งคำถามกับตนเองว่าการกระทำของตนเองที่เป็นการหลอกคนอื่นในวัน 15 ค่ำ เดือน 11 นั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ แม้จะอ้างว่าเป็นการรักษาพุทธศาสนาไว้ก็ตาม ขณะเดียวกัน ความเชื่อเรื่องบั้งไฟพญานาคก็ถูกสั่นคลอนจากทฤษฎีต่างๆทางวิทยาศาสตร์ สุดท้ายแล้วระหว่างวิทยาศาสตร์หรือความเชื่อ แนวคิดใดจะได้กุมหัวใจของประชาชน เป็นหนังไทยที่มีประเด็นให้พูดถึงกันอย่างหลากหลาย ตั้งแต่เรื่องวิทยาศาสตร์ ความเชื่อ จนถึงการเมือง หนังเป็นภาพสะท้อนของสังคมว่า ณ ที่แห่งนี้เราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร จัดเป็นผลงานที่ (เกือบ) มาก่อนกาล โปรดระวังสปอยล์หนัง / ไฟล์จากการ Facebook Live ผ่าน Streamyard
A Beautiful Day in the Neighborhood (Marielle Heller, 2019, US / China) เรื่องราวจากเหตุการณ์จริงของนักเขียนหนุ่ม ลอยด์ โวเกิล (Matthew Rhys) ที่ได้รับมอบหมายจากสำนักพิมพ์ให้มาเขียนอวยชีวประวัติคนดังแห่งปีอย่าง เฟรด โรเจอร์ส (Tom Hanks) พิธีกรรายการเด็กชื่อดังที่คนอเมริกันทุกคนต้องรู้จักเขา ซึ่งแนวเขียนอวยคนอื่นก็เป็นแนวที่ลอยด์ไม่ถนัดซะด้วย เพราะปกติเขาเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้าย และจะเขียนด่าคนดังอย่างเดียว การพบเจอกันคราวนี้ระหว่างลอยด์กับเฟรด ทำให้ลอยด์ได้พบกับแง่คิดสอนใจที่ทำให้เขากลับมามองโลกในแง่ดีกับเข้าใจในความเป็นไปต่างๆของชีวิต ทั้งยังนำไปใช้กับครอบครัวของเขา โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกันระหว่างพ่อของเขาเอง เมื่อหนังโลกสวยก็จะมีวิธีการแบบหนังโลกสวย การแลกเปลี่ยนจึงต้องเกิดขึ้น ในหนังเรื่องดังกล่าวมีซีนที่น่าจดจำมากมาย แต่ซีนนั้นจะสะอาดหมดจดขนาดไหน กระทั่ง เฟรด โรเจอร์สเอง หากมองตามกรอบของหนังแล้วเขาถือว่าเป็นคนที่สมบูรณ์แบบจริงหรือไม่ โปรดระวังสปอยล์หนัง / ไฟล์จากการ Facebook Live ผ่าน Streamyard
Funny Games (Michael Haneke, 1997, Austria) ว่าด้วยครอบครัวแสนสุขอันประกอบไปด้วย แม่ – อันนา (Susanne Lothar) พ่อ – จอร์จ (Ulrich Mühe) และลูกชาย – คอร์ชี่ Schorschi (Stefan Clapczynski) ไปพักร้อนสุดสัปดาห์ที่เมืองชนบทห่างไกล ณ ที่นั้นเองที่ทำให้พวกเขาต้องพบกับชายแปลกหน้า 2 คน ที่เข้ามาในบ้านโดยไม่มีสาเหตุ พร้อมเหตุการณ์สุดสะพรึงที่จะทำให้ลืมไม่ลง โดยเฉพาะคนดู!? Funny Games แบ่งเป็น 2 เวอร์ชั่น โดยมีเวอร์ชั่นแรกคือ Funny Games ในปี 1997 ซึ่งเป็นภาพยนตร์พูดภาษาเยอรมัน เวอร์ชั่นที่ 2 คือFunny Games ในปี 2007 ซึ่งเป็นภาพยนตร์พูดภาษาอังกฤษอเมริกัน 2007 เป็นการก๊อปปี้วางจากเวอร์ชั่น 1997 แบบทุกรายละเอียด โดยที่ฮาเนเก้บอกว่าเขาตั้งใจนำภาพยนตร์ Funny Games ไปสู่ศูนย์กลางของภาพยนตร์โลกให้ได้ ก็คือประเทศสหรัฐอเมริกา กลายเป็น Funny Games 2007 นั่นเอง แต่บทความนี้จะพูดถึงภาพยนตร์ Funny Games เวอร์ชั่นปี 1997 ซึ่งฮาเนเก้ก็ได้พูดถึง Funny Games (ทุกเวอร์ชั่น) ไว้ว่านี่เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้สนับสนุนความรุนแรง แต่ตั้งคำถามถึงความรุนแรงของสื่อภาพยนตร์ต่างหาก
In the Mood for Love (Wong Kar-Wai, 2000, Hong Kong / China) ภาพยนตร์รางวัลปาล์มทองคำ จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ในปี 2000 เรื่องราวของชายหนุ่มกับหญิงสาวที่มีห้องพักติดกัน ระหว่าง “คุณนายเฉิน”(จางม่านอวี้) กับ “โจวหมู่หวัน”(เหลียงเฉาเหว่ย) ทั้งสองพบว่าคู่รักของตนเองต่างลักลอบเป็นชู้กัน ความสัมพันธ์อันแปลกประหลาดระหว่างคุณนายเฉินกับโจวหมู่หวันจึงเกิดขึ้น เป็นห้วงปรารถนาแสนสั้นของฮ่องกงท่ามกลางความแออัด ชุดกี่เพ้า และแว่วเสียงดนตรี แก้ไขข้อมูล : เนื่องจากใน Podcast พูดว่าคุณนายเฉินอยู่บ้านเฉยๆ แต่แท้จริงแล้วคุณนายเฉินไม่ได้อยู่บ้านเฉยๆ เธอประกอบอาชีพเป็นเลขานุการ จึงเรียนมาเพื่อทราบในการผิดพลาดทางข้อมูลดังนี้ครับ
Vertigo (Alfred Hitchcock, 1958, US) เรื่องราวของ จอห์น “สก๊อตตี้” เฟอร์กูสัน ตำรวจสืบสวนผู้เพิ่งเกษียณอายุจากราชการ ได้รับการร้องขอจากเพื่อนให้ติดตามภรรยาของตนเอง “มาเดลีน เอลสเตอร์” เธอมีอาการคล้ายกับการถูกผีเข้า และสติมักจะไม่อยู่กับตัว การสืบสวนของสก๊อตค่อยๆรับรู้ถึงความแปลกประหลาดนี้ พร้อมทั้งตัวเขาเองที่ดันเผลอหลงรักมาเดลีนอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เรื่องราวกลับตาลปัตรจากหน้ามือเป็นหลังมือ พร้อมทั้งโรคกลัวความสูงก็ตามหลอกหลอนเขาอีกครั้ง สุดท้ายแล้วความวุ่นวายนี้จะมีบทสรุปอย่างไร มาเดลีนโดนผีเข้าสิงหรือแท้จริงแล้วเธอซะเองที่เป็น…ผี
Come and See (Elem Klimov, 1985, Soviet Union) Come and See เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่ม ‘ฟลีโอรา' ที่ต้องจากบ้านในเขต ‘เบียโลรัสเซีย' (Bellarussia) ไปเข้าร่วมกองทัพโซเวียตเพื่อต่อต้านการรุกรานของเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในเหตุการณ์นี้ก็ทำให้เขาได้รับรู้ถึงความรุนแรงโหดร้ายของกองทัพนาซีเยอรมัน ทั้งการรีดไถ ข่มขืน และสังหารหมู่ชาวบ้านตาดำๆ ประสบการณ์นี้ของฟรีโอร่าจึงเปรียบเสมือนบันทึกความแค้นของชาวรัสเซียที่มีต่อกองทัพนาซีเยอรมัน ### ในหัวข้อเรื่อง ขออนุญาตใช้คำว่า 'ชาวรัสเซีย' แทนคำว่า 'ชาวโซเวียต' เพื่อง่ายต่อการเข้าใจนะครับ ###
Gangster (Kongkiat Komsiri, 2012, Thailand) เรื่องราวของแก๊งสเตอร์ซุป'ตาร์ชื่อดังอย่าง แดง ไบเลย์, จ๊อด ฮาวดี้, ปุ๊ ระเบิดขวด และนักเลงร่วมรุ่นอีกมากมาย ที่เราจะได้เห็นชีวิตของพวกเขาในแง่มุมต่างๆที่มากกว่าการตีรันฟันแทงอย่างเดียว หนังจับภาพมาที่ตัวจ๊อด ฮาวดี้ เป็นหลัก และบทสรุปส่งท้ายสำหรับ 'อันธพาล' อย่างพวกเขา เป็นงานที่มีวิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ เพราะใช้รูปแบบของ Mocumentary หรือ สารคดีแบบหลอกๆ ช่วยในการเล่าเรื่องอย่างน่าชื่นชม ทั้งหนังยังแสดงมุมมองของเด็กรุ่นใหม่ที่มองไปยังเหล่าอันธพาลชื่อดังทั้งหลายได้น่าสนใจ การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์ / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
#Alive (Il Cho, 2020, South Korea) เมื่อไวรัสร้ายแพร่ระบาดไปทั่วเมือง ทุกคนกลายเป็นซอมบี้ ชายคนหนึ่งติดอยู่ในอพาร์ตเมนต์และถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เขาจะต้องหาทางเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้เหล่านี้ให้ได้ #Alive เป็นหนังซอมบี้ที่ไม่ได้ใหม่แต่อย่างใด เป็นหนังซอมบี้ที่พยายามจะยำหนังซอมบี้ในแบบต่างๆที่เคยสร้างกันมา และใช้ตัวละครพระเอกนางเอกพยุงเรื่องไว้ให้เราเอาใจช่วยตั้งแต่ต้นจนจบ หากใครหาหนังที่มีหลากหลายโทนในเรื่องเดียวกัน และชอบพระนางที่น่ารัก #Alive จะเป็นคำตอบของคุณแน่นอน การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์บ้าง / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
i'am thinking of ending things (Charlie Kaufman, 2020, US) ตอนแรกอยากจะดูหนังแบบสบายๆ แต่ที่ไหนได้ โดนพี่ชาร์ลีเล่นเข้าให้แล้ว ดู Tenet ถึงจะงงแต่ก็เป็นแค่บางช่วง แต่แอมทิ้งกิ้งนี่ต้องบอกเลยว่าหนังเรียกร้องจากการดูหลายรอบแน่นอน พาลให้นึกไปถีงหนังที่สอดแทรกรายทาง และต้องดูหลายรอบอย่าง Mulholland Dr. ของ David Lynch แถมหนังยังมีกลิ่นของความเหนือจริงเหมือนกันอีกด้วย หนังเริ่มต้นด้วยเรื่องราวของหญิงสาวที่กำลังจะบอกเลิกชายหนุ่ม แต่ยังติดกับทริปล่าสุดที่ต้องไปเยี่ยมพ่อแม่ของชายหนุ่มที่ต่างจังหวัด ความไม่เข้าใจระหว่างกันก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดความลับบางอย่างก็ถูกเปิดเผย ไม่ว่าจะเรื่องของคนอื่น หรือว่าเรื่องของตัวเอง การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์บ้าง / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
Joker (Todd Phillips, 2019, US / Canada) โจ๊กเกอร์เป็นหนังที่มีประเด็นในเรื่องของคนธรรมดาที่ถูกกลั่นแกล้ง (กลั่นแกล้งในที่นี้รวมไปถึงการบุลลี่ การไม่ให้เกียรติผู้อื่น การเห็นคนที่อ่อนแอกว่าเป็นของเล่น) และมีประเด็นรองว่าด้วยเรื่องของคนจน-คนรวยที่ไม่มีวันต่อกันติด ทั้ง Joker ยังเป็นหนังที่มีบทสรุปคือโลกได้เข้าสู่กลียุค เข้าสู่ความวุ่นวาย ทั้งหมดทั้งมวลเป็นสาเหตุที่ก็อตแธมต้องมอดไหม้ในท้ายที่สุด การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์บ้าง / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
Billy Elliot (Stephen Daldry, 2000, UK / France) ชื่อหนังภาษาไทยคือ 'ฝ่ากำแพงฝันให้ลั่นโลก' เรื่องราวของเด็กชายวัย 11 ขวบ บิลลี่ (Jamie Bell) ผู้ได้เงินวันละ 50 เซ็นต์เพื่อไปเรียนต่อยมวยตามผู้เป็นพ่อ (Gary Lewis) ได้ฝากฝัง ซึ่งตัวเองกลับไม่ชอบกีฬาที่ว่านี้ แต่ไปชอบการเต้นบัลเล่ต์แทน การต่อสู้เพื่อความฝันที่จะได้เข้าสถาบันสอนบัลเล่ต์จึงได้เริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยจากพ่อของบิลลี่เอง
Nemesis (Kanpawit Phuwadonwisit, 2020, Thailand) มานพหนุ่มออฟฟิศอนาคตไกลที่มีชีวิตธรรมดาสามัญทั่วไป ทันใดนั้นเองชีวิตเขาก็ต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อภรรยาของเขาถูกข่มขืนและจัดฉากป้ายผิดให้กับมานพโดย สิทธิชนพิธีการรายการชื่อดัง มานพโดนขังคุกอยู่หลายปีด้วยเส้นสายอิทธิพลของสิทธิชนที่ใช้จัดการกับเขา เมื่อมานพพ้นโทษ เขาได้เข้ารับการบำบัดจากจิตแพทย์หญิง กานดา ในขณะเดียวกันนั้นเอง ที่กานดาได้พบกับอีกหนึ่งตัวตนของมานพ ตัวตนที่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับชีวิตของเขาเอง // วิเคราะห์หนังคืนยุติธรรม ตัวละครถูกสร้างอย่างรวดเร็วเกินไป ความสมเหตุสมผลของตัวละครกับบางสถานการณ์ไม่สามารถทำให้เชื่อได้ การแสดงที่โดดเด่นของก๊อต จิรายุ การตัดต่อที่มีหลายเส้นเรื่อง การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์บ้าง / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
Memories of Murder (Bong Joon Ho, 2003, South Korea) ฮวาซอง เขตต่างจังหวัดของเกาหลีใต้ได้เกิดคดีฆ่าข่มขืนขึ้น ทำให้ตำรวจกับนักสืบในพื้นที่ต้องทำงานอย่างหนัก สมทบกับนักสืบคนใหม่ที่ถูกส่งมากจากกรุงโซลเพื่อสืบสวนคดี แต่ยิ่งได้เบาะแสเรื่องราวก็ยิ่งไปกันใหญ่ เมื่อการสืบเข้มข้นขึ้น เหยื่อที่เสียชีวิตก็ยิ่งเยอะขึ้นและมีความพิสดารมากยิ่งขึ้นด้วย นำมาสู่การกลายเป็นคดีที่สำคัญที่สุดคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ เมื่อเวลาผ่านไปถึงกว่า 30 ปีที่ปิดคดีนี้ไม่ลง / หนังมีประเด็นที่น่าสนใจทั้งในเรื่องความมักง่ายของการสืบสวน บรรยากาศความเป็นเอเชียที่ทำให้เราขนลุก รวมทั้งเกร็ดจากคดีฮวาซองของจริงที่ตอนนี้คดีหมดอายุความไปแล้ว แต่ก็ยังหาคนร้ายที่แน่นอนไม่ได้ // 15 นาทีแรก พูดคุยเรื่องการชุมนุมในวันที่ 16 สิงหาคม 2563 + ดราม่าเพลง 'ดม' ของ P9D การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์ / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
A Hidden Life (Terrence Malick, 2019, US / UK / Germany) เรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อฟรานซ์ เยเกอร์แสตทเทอร์ (Franz Jägerstätter) ชาวไร่ในหุบเขาห่างไกลของออสเตรียถูกพลพรรคนาซีจับกุมตัวในข้อหาปฏิเสธการทำความเคารพท่านผู้นำ (ปฏิเสธการ ‘ไฮล์ ฮิตเลอร์') ระหว่างนั้นจึงเป็นการเรียนรู้ของฟรานซ์ว่าจะรักษาเจตจำนงเสรีของตนให้คงอยู่ได้หรือไม่ เมื่อต้องเผชิญกับห้วงทรมานและความตาย
Lord Bunlue (Petthai Wongkhamlao, 2018, Thailand) เรื่องราวในสมัยราชการที่ 5 เมื่อขุนบันลือได้รับภารกิจไปว่าราชการที่เชียงราย นำมาซึ่งปัญหาระหองระแหงกับเมียเก็บของเขาเอง 'อีมด' ทาสรับใช้ที่ต้องอยู่อย่างหลบซ่อนเพื่อไม่ให้ใครรู้ถึงความสัมพันธ์ข้ามชนชั้น เรื่องราวชักจะเตลิดเปิดเปิงไปกันใหญ่ เมื่อในที่สุดคู่รักข้ามชนชั้นนี้ไม่ได้มีแค่คู่ของเขาเพียงคู่เดียว!? กลายเป็นหนังสุดเซอร์ไพรซ์แห่งปี เพราะรูปลักษณ์ของหนังดูเป็นหนังตลกธรรมดาที่เล่นมุกโต้ตอบกันไปมา แต่ที่ไหนได้ ขุนบันลือกลับเป็นบันทึกประวัติศาสตร์เรื่องความเสมอภาคทางชนชั้นอย่างแนบเนียน รวมทั้งการที่หนัง 'เลือก' ที่จะให้เราได้เห็นด้านมืดของตัวละครชนชั้นสูง (แม้จะมาในรูปแบบหนังตลกไร้สาระ) ก็เป็นเรืองที่น่าสนใจมากและอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญก็เป็นได้ การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์ / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
The Old Guard (Gina Prince-Bythewood, 2020, US) เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่มาแรงสุดในเน็ตฟลิกซ์ขณะนี้ กับเรื่องราวของทีมอมตะทั้ง 4 คน ที่มีภารกิจให้ไปจัดการกับองค์กรเหล่าร้าย ในขณะเดียวกันก็ต้องฝึก 'สมาชิกคนที่ 5' ให้เข้าใจในหน้าที่ของตนเองอีกด้วย หนังมีประเด็นในเรื่องของการถกเถียงชีวิตอมตะว่าดีจริงหรือไม่ ประเด็น LGBTQ ในหนังซุปเปอร์ฮีโร่ รวมถึงหนังเรื่องนี้ตกลงจะไปทาง Action หรือ Drama กันแน่ การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์ / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
God of Gamblers (Jing Wong, 1989, Hong Kong) ว่าด้วย ‘เกาจิ้ง' โครตเซียนพนันมืออันดับโลก ที่เกิดอุบัติเหตุจนทำให้ความจำเสื่อม ทำให้เขาได้ไปอาศัยอยู่กับพวกกุ๊ยในบ้านโทรมๆอย่าง ‘ชาน' ที่ชีวิตเขาอยากจะร่ำรวยด้วยการพนัน ชานไม่รู้ว่าเกาจิ้งเป็นเซียนพนันมาก่อน แต่เวลาไปเล่นไพ่โป๊กเกอร์ก็จะนำเกาจิ้งติดไปด้วย จนทำให้เขาได้เห็นพรสวรรค์ของเกาจิ้ง และเกาจิ้งก็ทำให้เขาร่ำรวย แต่เรื่องราวในอดีตของเกาจิ้งก็ตามมาหลอกหลอนจนได้เมื่อเขาถูกมือปืนตามล่า อุปสรรคเหล่านี้ได้ทดสอบว่าในที่สุดมิตรภาพระหว่างชานกับเกาจิ้งจะยังเหมือนเดิมหรือไม่ การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์ / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
La La Land (Damien Chazelle, 2016, US / Hong Kong) เรื่องราวของสองหนุ่มสาวในลอสแองเจลลิส นครแห่งความฝัน เมื่อมีอา (Emma stone) หญิงสาวที่อยากเป็นดาราดังได้มาพบกับเซบาสเตียน (Ryan Gosling) ชายหนุ่มผู้อยากเล่นดนตรีแจ๊สในวิถีของตนเอง ทั้งสองมาพบกันแล้วเป็นแฟนกัน ต่างคนต่างแลกเปลี่ยนความฝันและประคับประคองซึ่งกันและกันด้วยความรักเพื่อไปสู่จุดหมายของตนเอง แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ต้องเลือกระหว่างความรักกับความฝัน ทั้งสองคนจะเลือกสิ่งใดแก่ชีวิตของตนเอง La La Land เป็นงานที่มีความรำลึกนึกถึง (Nostalgia) โดยการรำลึกนั้นต่างเต็มไปด้วย Reference ของหนังเรื่องอื่นทั้งเรื่อง อันเราจะเห็นส่วนประกอบที่ว่านี้ ทั้งการตัดต่อ การถ่ายภาพ องค์ประกอบศิลป์ รวมทั้งอีกหนึ่งประเด็นหลักของเราว่าความฝันนั้นเป็นอย่างไร การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์ / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
The Maid (Lee Thongkham, 2020, Thailand) เรื่องราวของ ‘จอย' (พลอย ศรนรินทร์) สาวรับใช้คนใหม่ในคฤหาสน์ที่ดันไปพบกับความลับในคฤหาสน์ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของผู้อยู่อาศัยอย่าง อุมา (สาวิกา ไชยเดช) และนิรัช (ธีรภัทร สัจจกุล) การเกี่ยวข้องในครั้งนี้ทำให้เธอต้องเจอผีปริศนาในคฤหาสน์ ความลับอันมืดมนของเจ้าของบ้านผู้ปกครอง และการปลุกสัญชาตญาณโหดในตัวของเธอเอง นับว่าเป็นหนังสุดร้อนแรงอีกเรื่องหนึ่ง ณ ขณะนี้สำหรับ Streaming Netflix เพราะเป็นครั้งแรกที่ elephant talk กระโดดลงตามกระแสชาวบ้านทัน ด้วยความที่เป็นหนังลุ้นระทึก มีผี มีหักมุม มีการฆ่ากัน เรียกว่าครบสูตรจะทำหนังแนวไหนให้น่าสนใจกันเลยทีเดียว รวมทั้งประเด็นว่าหนังแฝงสารการเมืองมาด้วยหรือเปล่า จะเป็นอย่างไรเชิญรับฟัง การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์ / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
The Dark Knight (Christopher Nolan, 2008, US / UK) แบทแมนกับภาคที่เรียกได้ว่าดีที่สุดของแฟรนไชส์ตัวเอง ทั้งยังเป็นหนังดีที่ติดอันดับต้นๆของใครหลายคน เรื่องราวในเมืองก็อตแธมเมื่อแบทแมนถูกทดสอบโดยอาชญากรอัจฉริยะ 'โจ๊กเกอร์' ผู้มีเป้าหมายในการก่อการร้ายเพื่อสนองอรรถรสตัวเองเท่านั้น นำมาสู่บทสรุปสำหรับศีลธรรมในโลกอันมืดมิดว่าแท้จริงแล้วในโลกนี้มีคนดีอยู่จริงหรือเปล่า หนังมีประเด็นในเรื่องของ 'ทางเลือก' ที่ถูกบีบคั้นให้เราก้าวไปสู่ความดำดิ่ง หรือแม้แต่ 'ฮีโร่ในระบบ' ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่หรือไม่ การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์ / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
Da 5 Bloods (Spike Lee, 2020, US) เรื่องของ 'บลัด' ชาวแก๊งค์คนดำ 5 คนที่ไปรบในเวียดนาม ในสมรภูมิหนึ่งชาวแก๊งค์ทั้งห้าก็ตัดสินใจฝังทองคำที่ต้องนำไปให้รัฐบาลสหรัฐเพื่อเก็บเอาไว้เอง ซึ่งต่อมา 'นอร์ม' ผู้นำของกลุ่มก็ถูกยิงตายในสนาบรบ สร้างความสะเทือนใจให้ชาวแก๊งค์เป็นอย่างมาก นำมาสู่การหวนกลับมาเวียดนามเพื่อมาหาทองคำและศพของเพื่อนเพื่อนำกลับบ้านในอีก 50 ปีถัดมา เรื่องเดือดๆจึงได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง หนังมีประเด็นที่น่าสนใจอย่าง 'บาดแผล' ของผู้ที่ไปรบในสงคราม (โรค PTSD) บาดแผลความแค้นของชาวเวียดนามที่สูญเสีย รวมทั้งบาดแผลของคนดำที่รบเพื่อสหรัฐแต่ผลที่ได้กลับมาคือการที่คนดำไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นแต่อย่างใด แต่เป็นที่น่าเสียดาย การเล่าเรื่องของหนังดันไม่ขับประเด็นที่ดีพวกนี้ให้คมคายยิ่งขึ้นได้ การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์ / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
Glass (M. Night Shyamalan, 2019, US / China) ผลงานลำดับที่ 3 ในไตรภาค ‘รถไฟสายตะวันออกขบวน 177' (Eastrail 177 Trilogy) โดยมีภาคก่อนหน้านั้นคือ Unbreakable (2000) กับเรื่องราวการค้นพบว่าตนเองมีพลังวิเศษของเดวิด ดันน์ และ เอไลจาห์ ไพรซ์, Split (2016) เรื่องราวของสัตว์ประหลาด 24 บุคลิกของเควิน เวนเดล ครัมป์ มาจนถึงเรื่องนี้ Glass (2019) เรื่องของเอไลจาห์ ไพรซ์ กับความเชื่อมั่นในความพิเศษของซุปเปอร์ฮีโร่ หนังมีประเด็นที่น่าสนใจอย่างการนำเสนอข้อมูลที่น่าเชื่อถือผ่านการถกเถียงความจริง - ความลวง ในเรื่องของฮีโร่ การก้าวข้ามบาดแผลของผู้ที่ถูกกระทำชำเรา และการมาถึงของโซเชียลมีเดียที่ทำให้ทุกคนรับรู้ถึงการมีอยู่ซุปเปอร์ฮีโร่หรือแม้แต่เป็นซุปเปอร์ฮีโร่เสียเองก็ได้เช่นกัน การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์ / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
Split (2016, M. Night Shyamalan, US / Japan) Split เป็นหนังลำดับที่สองของไตรภาค 'รถไฟตะวันออกสาย 177' (Eastrail 177 Trilogy) ที่ประกอบไปด้วย Unbreakable (2000) และ Glass (2019) สำหรับ Split เป็นหนังที่ว่ากันด้วยเรื่องของผู้ชาย 24 บุคลิก ที่บุคลิกสุดท้ายของเขาคือ 'ปีศาจ' ซึ่งเขาก็ต้องนำเด็กสาวมาบูชายัญให้กับบุคลิกนั้นของตนเองด้วยเหมือนกัน นำมาสู่เรื่องราวสุดสะพรึงกลัว ช้างก็สังเกตอีกว่างานนี้ของเอ็มไนท์ก็มีสิ่งที่น่าพูดถึง ทั้งการดัดแปลงหนังสยองขวัญดั้งเดิมเข้าสู่ประเด็นที่ร่วมสมัย เรื่องของความรุนแรงในครอบครัว รวมทั้งสิ่งที่ยืนอยู่บนเส้นบางๆอย่างความก้ำกึ่งระหว่างวิทยาศาสตร์กับไสยศาสตร์ จริงๆแล้วบุคลิกที่ 24 ของชายลึกลับคนนี้เป็นเพียงแค่การผลักดันของจิตใจและสมอง หรือมันคือปีศาจจากขุมนรกของแท้ การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์ / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
Unbreakable (2000, M. Night Shayamalan, US) Unbreakable นับเป็นจุดเริ่มต้นของไตรภาค 'รถไฟตะวันออกสาย 177' (Eastrail 177 Trilogy) ที่ประกอบไปด้วยอีกสองเรื่องคือ Split (2016) และ Glass (2019) ซึ่งในหนังเรื่องแรกของไตรภาคนี้ก็นับว่าเป็นหนัง(ที่เกี่ยวกับ)ซุปเปอร์ฮีโร่ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองนั้นเป็นฮีโร่ จนได้เจอกับผู้ค้นหาจุดยืนของตัวเช่นเดียวกันที่มาแนะนำให้ ช้างเห็นประเด็นในหนังซึ่งน่าสนใจมาก ทั้งการเล่าเรื่องของซุปเปอร์ฮีโร่ที่มินิมอล ไดเรคชันแบบหนังผีในงาน รวมถึงการค้นหาตัวเองของคนที่เป็นส่วนเกินของสังคม เชิญติดตามรับฟังกันฮะ การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์ / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
ดึก ดำ ดึ๋ย (2003, Thep Phongam, Thailand) ช้างหยิบหนังในตำนานของหลายๆท่านมารับชม นั่นก็คือเรื่อง 'ดึก ดำ ดึ๋ย' ซึ่งในตอนนี้ถูกจัดให้เป็นคัลท์ฟิล์มไปเรียบร้อยแล้ว จากการที่หนังไม่มีความสมเหตุสมผลใดๆ ตัวละครไม่มีที่มาสาเหตุ บทสรุปที่ไม่คลี่คลาย เรียกได้ว่าทุกจุดด่างพร้อยต่างพร้อมกันมาอยู่ในหนังเรื่องนี้ แต่เราก็เห็นถึงสัจธรรมอะไรบางอย่าง และหนังเรื่องนี้ก็ได้นำเราสู่ประสบการณ์แบบเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีวันลืมเลือน ชวนมาฟังวิเคราะห์กัน ทั้งหมดที่ทำไปนี่ด้วยความรักและความเคารพในผลงานนะฮะ (การวิเคราะห์นี้มีสปอยล์) / เป็นไฟล์เสียงจากการ Facebook Live ผ่านช่องทาง Streamyard
School of Rock (Richard Linklater, 2003, US / Germany) เรื่องราวของมือกีตาร์วงร็อค ‘ฟินน์' ผู้มีชีวิตตกอับในวงการดนตรี ทั้งยังต้องไปอาศัยบ้านเพื่อนเป็นที่นอนไปๆวันๆ แต่วันหนึ่งก็มีโทรศัพท์จากโรงเรียนเอกชนอันดับต้นๆของรัฐได้โทรเข้ามาหาเพื่อนของเขา จะให้เพื่อนของเขาไปเป็นครูผู้สอน ฟินน์ในสภาพถังแตกจึงเห็นโอกาสในการหาเงิน เลยคว้าโอกาสแล้วใช้ชื่อเพื่อนของเขาแทน กลายเป็นชื่อที่เด็กๆเรียกว่า ‘ครูชนีบบลีย์' ครูชนิบบลีย์ไม่มีความรู้อะไรไปสอนเด็ก ทั้งยังให้เด็กเล่นดนตรีร็อคแบบที่เขาต้องการ ทำให้ทั้งหมดได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ค้นพบสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตนเองมากกว่าการเรียน สอบ ออกเกรด ***เทปนี้มีสปอยล์***
Fight Club (David Fincher, 1999, US / Germany) เรื่องราวของพนักงานออฟฟิศบริษัทประกันภัยบริษัทหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตวันต่อวันอย่างซ้ำซากจำเจ แถมเป็นลัทธิ บริโภคนิยม อยู่ดีๆเขาเกิดอาการนอนไม่หลับในเวลากลางคืน ทำให้เขาต้องไปบำบัด ส่งผลให้ต่อมาเขาได้มี โอกาสได้รู้จักกับพ่อค้าขายสบู่ ‘ไทเลอร์ เดอร์เด้น' พอทั้งสองได้รู้จักกัน ก็ตัดสินใจเปิดลานชกมวยที่ชื่อว่า ‘ไฟต์คลับ' ขึ้นมา อันเป็นจุดเริ่มต้นของพฤติกรรมอันบ้าระห่ำและนำไปสู่การเปิดเผยความลับของพนักงานออฟฟิศคนนั้น
The Shawshank Redemption (Frank Darabont, 1994, US) ไม่ว่าความฟีลกู๊ดของคุณจะมาจากเหตุผลใด จะเป็นการกำกับหนังที่ไม่หวือหวาแต่พอดีของ Frank Darabont หรือดนตรีประกอบหนังที่งดงามของ Thomas Newman วันนี้ช้างจะมาชวนคุยในประเด็นของร่องรอยความเป็นมนุษย์ที่ปรากฎอยู่ในหนัง อันว่าด้วยการแบ่งปันและการมีความหวังในชีวิต จนทำให้หนังเรื่องนี้เข้าไปโอบกอดหัวใจผู้ชมหลายคน
7 ประจัญบาน (เฉลิม วงศ์พิมพ์, 2002, ไทย) ตอนแรกไม่คิดว่าจะมีอะไรให้พูดเกิน 10 นาที ไปๆมาๆ 40 นาทีเหมือนเดิม เคยตัว ยิ่งคุยกันมันก็ยิ่งเห็นในแง่มุมหลายๆอย่างของหนังที่มีมากกว่าความตลกอย่างที่เราคุ้นเคย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่มันยังคงทำงานในยุคสมัยนี้อยู่ เทปนี้ช้างเลยอยากให้เพื่อนๆลองมาฟังกันว่าเราเห็นอะไรที่มากกว่าบ้าง หรือจะให้ดีก็เชิญชวนให้กลับไปดูกันอีกรอบ แล้วก็กลับมาฟัง เชื่อว่าเราจะมีอะไรให้คุยกันอย่างแน่นอน
Pulp Fiction (Quentin Tarantino, 1994, US) จัดเป็นหนัง 'คัลท์' อีกเรื่องนึง ซึ่งช้างได้เห็นว่าความไม่มีสาระอะไรเลยของมันกลับแฝงไปด้วยฝีมืออันจัดจ้านของการกำกับ การเล่าเรื่องที่ไม่สนใจจะสื่อสารสาระ(ที่ช่วยผดุงสังคมอะไร) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ดันคลุกเคล้ารวมเข้าด้วยกันแล้วสามารถที่จะบันทึกอารมณ์ของยุคสมัย (1994 or 90's) ออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ดังนั้นช้างก็เลยวิเคราะห์ชวนคุยกันว่าความเพี้ยนของหนังเรื่องนี้นี่ไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ลองติดตามรับฟัง เป็นวีดีโอจากการ Facebook Live ผ่านทาง Streamyard
Podcast ชิ้นนี้บันทึกจากการ Facebook Live โดย Streamyard นับว่าเป็นเทปที่คุยกันซีเรียสที่สุด เพราะในภาคนี้เราจะหยิบ The Last Jedi (2017) มาเปรียบเทียบอยู่เรื่อยๆ ทั้งยังโดนเปรียบเทียบข้ามเฟรนไชส์ไปอีกกับ Avengers: Endgame (รวมถึงการเป็นเฟรนไชส์) อันไม่รู้ว่าเทปนี้จะเป็นการอวยความกลับคืนสู่กลิ่นแบบหนังผจญภัยอวกาศดั้งเดิมหรือนำมาปู้ยี้ปู้ยำกันแน่ ยังไงก็ลองไปรับฟังกันฮะ
ยอมรับก่อนเลยว่าช้างไม่ใช่แฟนของมาร์เวล หมายความว่า(พยายาม)จะไม่อวยไส้แตกแหกไส้ฉีกแน่นอน ซึ่งมันก็มีคำถามในตัวมันเองว่าโดยแท้จริงแล้วหนังมันดังหรือมันดีนี่เป็นแค่เพราะกระแสคนอวยแค่นั้นหรือเปล่า คำถามยังไปถึงว่าหากวัดกันในฐานะของหนังเรื่องหนึ่ง(ตัดความเฟรนไชส์ทั้งหลายออกไป)มันยังคงยืนอยู่ได้ด้วยตัวเองหรือเปล่า - ไอที่เขียนนี่เหมือนจะเป็นปรัชญา แต่ตอนพูดจริงไม่เป็นแบบนี้นะฮะ จะเป็นอย่างไร ลองไปฟังกัน
The Vietnam War (2017) เป็นทีวีซีรีส์ขนาด 10 ตอนจบ เล่าตั้งแต่ตอนเวียดนามโดนฝรั่งเศสปกครอง แบ่งเป็นเหนือ - ใต้ รบกับอเมริกา จนพูดถึงผลพวงความสูญเสียในปัจจุบัน ช้างเห็นว่าเมื่อได้ดูแล้วก็ไม่ควรจะปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปเฉยๆเพราะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ได้ดูมากๆ เลยหยิบไมค์ขึ้นมาทำรีวิว เป็น podcast movie(or series) review ให้ทุกคนได้รับฟังกัน ผลงานเรื่องนี้มีฉายอยู่ใน Netflix