Podcast ที่คุณจะได้เรียนรู้เรื่องราวของตลาดการเงินและการลงทุนทุกสินทรัพย์ทั่วโลก ไปกับดอกเตอร์โจ๊ก จิติพล พฤกษาเมธานันท์ และกูรูรับเชิญมากมาย
เอกสารฉบับนี้เป็นการวิเคราะห์ภาวะการเติบโตของตลาดเกิดใหม่ (EM) โดย Deutsche Bank ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 โดยหลักแล้ว เอกสารนี้จะ อัปเดตตัวติดตามการเติบโต และประเมินปัจจัยขับเคลื่อนต่างๆ ที่ส่งผลต่อสินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่ แม้ว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ยูโรโซน และจีน จะมีการแก้ไขการคาดการณ์การเติบโตเพิ่มขึ้น แต่การเติบโตของตลาดเกิดใหม่โดยรวมกลับ ผสมผสานกัน และไม่ได้แสดงความสัมพันธ์ที่ชัดเจนกับนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ตรงกันข้าม นโยบายสินเชื่อและการคลังที่เข้มงวดขึ้น ในหลายประเทศตลาดเกิดใหม่น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จำกัดการเติบโต นอกจากนี้ การปรับปรุงส่วนต่างการเติบโตของตลาดเกิดใหม่เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ ก็ดูเหมือนจะ ถูกกำหนดราคาไว้แล้ว ในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ.
เอกสารทั้งสองฉบับจาก Bank of America (BofA) มุ่งเน้นไปที่การ ลงทุนตามธีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (AVs) ฉบับหนึ่งให้ภาพรวมกว้างๆ เกี่ยวกับ การลงทุนตามธีม และวิธีที่ BofA ประเมิน การเปิดเผยต่อธีมของบริษัทต่างๆ ตั้งแต่ระดับต่ำ กลาง ไปจนถึงสูง อีกฉบับหนึ่งเป็น คู่มือเฉพาะสำหรับยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยระบุ โอกาสทางการตลาดขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์ และให้รายละเอียดเกี่ยวกับ หุ้นที่เกี่ยวข้อง 28 ตัว ในภาคส่วนต่างๆ เช่น ผู้ผลิตรถยนต์ ซอฟต์แวร์ และเซมิคอนดักเตอร์ นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลนักวิเคราะห์ คำจำกัดความ และ ความเสี่ยง ที่เกี่ยวข้องกับหุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่กล่าวถึง
เอกสารดังกล่าวคือ รายงานการวิจัยตลาด โดย Goldman Sachs ที่วิเคราะห์แนวโน้มและปัจจัยสำคัญในตลาดค้าปลีกสินค้าลิขสิทธิ์ (IP) ของจีน โดยเน้นเป็นพิเศษที่บริษัท Pop Mart รายงานนี้ครอบคลุมการถกเถียงเกี่ยวกับ วงจรชีวิตของ IP ความยั่งยืนของการเติบโต ขนาดตลาดที่สามารถเข้าถึงได้ (TAM) และ ปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น ของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ IP นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อประเมินศักยภาพการเติบโตระยะยาวของ Pop Mart ทั้งในแง่ของการขยาย IP และการเจาะตลาดใหม่ๆ อย่างอเมริกาเหนือและยุโรป พร้อมทั้งเปรียบเทียบกับบริษัท IP ระดับโลกอื่นๆ เช่น Disney และ Lego
แหล่งที่มาทั้งสองฉบับจาก Goldman Sachs วิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจของอัตราภาษีที่อาจเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลกระทบต่ออัตราภาษีนำเข้าที่มีผล (ETR) อัตราเงินเฟ้อ (Core PCE) และการเติบโตของ GDPรายงาน "US Economics Analyst" เสนอการคาดการณ์พื้นฐาน สำหรับการเพิ่มขึ้นของภาษีและ สำรวจสถานการณ์ทางเลือกที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงระดับภาษีที่ลดลงและเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ รายงาน "US Weekly Kickstart" ตรวจสอบผลกระทบของภาษีและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อผลประกอบการของ S&P 500 โดยชี้ให้เห็นว่า ตลาดหุ้นยังคงมองข้ามความกังวลเรื่องภาษี และ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนั้นเป็นปัจจัยบวกเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทที่มีรายได้จากต่างประเทศสูง
เอกสารจาก Goldman Sachs ฉบับนี้วิเคราะห์ตลาดหุ้นจีน โดยเน้นย้ำถึง การฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง และ แนวโน้มเชิงบวก ที่ขับเคลื่อนโดยหลายปัจจัย เช่น ความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐฯ-จีนที่ลดลง และ การเติบโตของ GDP ที่แข็งแกร่งของจีนรายงานนี้เน้นย้ำถึง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น และ กิจกรรมการลงทุนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฮ่องกงและหุ้นที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้ยังหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในคำแนะนำภาคส่วน โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มบริษัทจีนที่มีแนวโน้มโดดเด่น และ ผลตอบแทนผู้ถือหุ้น แม้จะมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังเตือนถึง ความเปราะบางที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยภายนอก และ ความผิดหวังด้านนโยบายภายในประเทศ ในระยะสั้น
รายงาน "AI Eats the World: Themes for 2025" จาก TD Asset Management สำรวจแนวโน้มเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2025 โดยเน้นที่ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านภาษีของสหรัฐฯ และความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์ (AI)บทความนี้ให้ภาพรวมของมุมมองการจัดสรรสินทรัพย์หลักของคณะกรรมการจัดสรรสินทรัพย์ของ TD Wealth รวมถึงการให้น้ำหนักในตลาดหุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือก รายงานยังวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจระดับโลกและภูมิภาค โดยพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีน สหรัฐอเมริกา และแคนาดา นอกจากนี้ ยังอธิบายถึงการพัฒนาที่สำคัญในด้าน AI โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AI ทางกายภาพ ความสามารถที่เพิ่มขึ้นของจีนในด้าน AI และนโยบายด้านเทคโนโลยีของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ สุดท้าย ให้คำแนะนำแก่นักลงทุนเกี่ยวกับวิธีการวางตำแหน่งพอร์ตโฟลิโอ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
เอกสารชุดนี้จาก Deutsche Bank Research วิเคราะห์เชิงลึก การแข่งขันระดับโลกด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะรักษาความเป็นผู้นำ รายงานฉบับนี้อธิบายถึง แผนปฏิบัติการ AI ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเน้นการลดกฎระเบียบ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยี AI ไปยังคู่แข่ง นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึง ความได้เปรียบของสหรัฐฯ ด้านนวัตกรรม แม้ว่าจีนจะมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในการพัฒนา AI ก็ตาม สุดท้าย เอกสารยังระบุถึง ความจำเป็นในการลงทุนด้านพลังงาน เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของศูนย์ข้อมูล AI และ ความสำคัญของการควบคุมความเสี่ยง ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนี้
เอกสารทั้งสองฉบับจาก Bank of America Global Research เป็นรายงานเชิงวิเคราะห์ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลก รายงาน "The Flow Show" ให้ภาพรวมของ กระแสเงินทุน ในตลาดสินทรัพย์ต่างๆ เช่น พันธบัตร หุ้น และคริปโตเคอร์เรนซี โดยเน้นย้ำถึง กลยุทธ์การลงทุน และ ตัวชี้วัดความเสี่ยง นอกจากนี้ยังวิเคราะห์ นโยบายการเงิน ทั่วโลกและผลกระทบต่อตลาด ในขณะที่รายงาน "Washington Matters" เจาะลึกถึง ประเด็นนโยบายของสหรัฐฯ ที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายภาษีนำเข้า การผ่านกฎหมายเกี่ยวกับ สกุลเงินดิจิทัล และ การตัดลดงบประมาณ ของรัฐบาล ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อ แนวโน้มเศรษฐกิจ และความเสี่ยงของการ ปิดหน่วยงานภาครัฐ ในอนาคต
ผู้เขียน Kenneth Rogoff โดยเนื้อหาของหนังสือมุ่งเน้นไปที่การสำรวจบทบาทของ เงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินหลักของโลก หนังสือเล่มนี้ได้ตรวจสอบ ความท้าทายในอดีต ที่เงินดอลลาร์ต้องเผชิญ รวมถึงสกุลเงินของ สหภาพโซเวียต ญี่ปุ่น และยูโร นอกจากนี้ยังวิเคราะห์ สถานะปัจจุบันของเงินหยวนของจีน ในฐานะคู่แข่งที่อาจเกิดขึ้น และหารือเกี่ยวกับ ประเด็นทางเศรษฐกิจและการเงินต่างๆ ที่ส่งผลต่อ สถานะการครอบงำ ของเงินดอลลาร์ รวมถึง อัตราเงินเฟ้อ หนี้สาธารณะ และผลกระทบของการตรึงอัตราแลกเปลี่ยน สรุปแล้ว หนังสือเล่มนี้พิจารณาว่า เงินดอลลาร์จะยังคงรักษาสถานะความเป็นเจ้าโลกได้หรือไม่ ท่ามกลางภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
เอกสาร “ARK Invest Quarterly Thematic Update July 2025” คือรายงานประจำไตรมาสที่จัดทำโดย ARK Invest Europeโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และ การลงทุนในธีมต่างๆ รายงานนี้เริ่มต้นด้วยการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจโลกจาก Cathie Wood ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง ARK Invest ตามด้วยการวิเคราะห์ กระแสเงินลงทุนใน European Thematic ETFs ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 โดยเน้นธีมที่ได้รับความสนใจสูง เช่น การป้องกันประเทศและ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) นอกจากนี้ ยังให้รายละเอียดเกี่ยวกับ ผลการดำเนินงาน ของกองทุน ETF ที่เน้นนวัตกรรมต่างๆ ของ ARK รวมถึง มุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของพลังงานสะอาด ที่มีแรงผลักดันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ในภาวะตลาดผันผวน
แหล่งที่มาคือรายงานกลยุทธ์การลงทุนฉบับหนึ่งในชื่อ “THE DR PLAYBOOK” ซึ่งนำเสนอโดย Finansia Syrus Securities Public Company Limited รายงานฉบับนี้ให้ ภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกและแนวโน้มการลงทุนสำหรับครึ่งหลังของปี 2025 โดยเน้นไปที่ การวิเคราะห์ตลาดและภาคส่วนต่างๆ รวมถึงให้ คำแนะนำในการลงทุนในผลิตภัณฑ์ DR (Depositary Receipts) ด้วย รายงานระบุถึง ปัจจัยขับเคลื่อนตลาดกระทิงในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างเช่น ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงและสถานการณ์ความขัดแย้งที่คลี่คลายลง แต่ก็เตือนถึง ความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น จากนโยบายภาษีการค้าและระดับมูลค่า (Valuation) ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ DR ที่น่าสนใจ และให้ บทวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของสินทรัพย์หลักและดัชนีหุ้นทั่วโลก รวมถึง ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการลงทุน เช่น ธีมการบริโภคใหม่ๆ และหุ้นที่เน้นเศรษฐกิจภายในประเทศ
World Gold Council ได้เผยแพร่รายงาน "Gold Mid-Year Outlook 2025: Downhill or second wind?" ซึ่งประเมินแนวโน้มราคาทองคำสำหรับครึ่งหลังของปี 2025 รายงานนี้วิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในปัจจุบัน โดยระบุว่าราคาทองคำได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ในครึ่งแรกของปี 2025 และพิจารณาถึงสถานการณ์ที่เป็นไปได้สามประการ: สถานการณ์ปกติที่ราคาทองคำอาจทรงตัวถึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย, สถานการณ์เศรษฐกิจแย่ลงซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ, และ สถานการณ์ที่ความเสี่ยงคลี่คลายซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง นอกจากนี้ รายงานยังได้สรุปถึงบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน.
เอกสารจาก Bank of America Institute ชุดนี้สำรวจ แปดธีมหลัก ที่คาดว่าจะกำหนดทิศทางโลกในช่วงปี 2025-2030 โดยเปลี่ยนจากแนวโน้มระดับมหภาคไปสู่การพัฒนาที่เน้นรายละเอียดยิ่งขึ้น เทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปฏิวัติ AI เป็นหัวใจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งจะนำไปสู่ ยุค Industry 6.0 ที่ลดการพึ่งพามนุษย์ และก่อให้เกิดความต้องการทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล รวมถึงความกังวลเรื่อง ความไม่มั่นคงทางดิจิทัล เช่น อาชญากรรมไซเบอร์และ Deepfake ขณะเดียวกัน ก็คาดการณ์ถึงบทบาทของ แนวคิดประชานิยม ที่ส่งผลต่อโลกาภิวัตน์และนโยบายการเข้าเมือง รวมถึง ภูมิทัศน์ของสงครามและสันติภาพ ที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับ อิทธิพลทางเศรษฐกิจ ของคนรุ่น Gen Z และ Baby Boomers ที่มีต่อรูปแบบการบริโภค และการเปลี่ยนแปลงของ สุขภาพที่กลายเป็นความมั่งคั่งใหม่ ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์อย่าง AI และยา GLP-1.
เอกสารจาก BNP Paribas นี้ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างค่าเงินบาทไทย (THB) กับราคาทองคำ ซึ่งมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษในปีนี้ บทความระบุว่าความสัมพันธ์ในอดีตที่เกิดจากการแปลงรายได้จากการส่งออกทองคำสุทธิเป็นเงินบาท ไม่สามารถอธิบายความเชื่อมโยงที่เห็นได้ชัดเจนในปีนี้ แต่กลับชี้ไปที่ แนวโน้มการลดการพึ่งพิงเงินดอลลาร์ (de-dollarisation)ที่กระตุ้นให้นักลงทุนทองคำเพิ่มอัตราส่วนการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX hedge ratios) และ การทำธุรกรรม FX ที่เกี่ยวข้องกับทองคำอาจมีบทบาทสำคัญมากขึ้น ในตลาดเงินบาท ข้อความยังกล่าวถึงความเสี่ยงที่ความสัมพันธ์นี้จะอ่อนตัวลง เช่น การแทรกแซงของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ การลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น แม้คาดการณ์ว่าค่าเงินบาทจะลดลงเล็กน้อยในระยะกลาง แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงที่อาจเป็นอุปสรรคต่อสกุลเงิน เช่น ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ
เอกสารจาก Goldman Sachs ฉบับนี้ วิเคราะห์การเปิดรับรายได้จากการขายในต่างประเทศของบริษัท S&P 500 ในปี 2024โดยระบุว่า 28% ของรายได้รวมมาจากต่างประเทศ โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและยุโรปเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดในส่วนนี้ รายงานยังชี้ให้เห็นว่า ภาคเทคโนโลยีสารสนเทศมีรายได้จากต่างประเทศเกินครึ่ง ในขณะที่บางภาคส่วนแทบไม่มีเลย นอกจากนี้ยังมีการอธิบายและ rebalancing กลุ่มหุ้นที่เน้นการขายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการเปิดรับตลาดเหล่านี้ รวมถึง การจัดกลุ่มหุ้นตามการเปิดรับภูมิภาคที่เฉพาะเจาะจง เช่น ยุโรปตะวันตกและตลาดเกิดใหม่
แหล่งข้อมูลจาก รายงานการวิจัยของ Deutsche Bank ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2025 โดย Justin Weidner, Matthew Luzzetti, Brett Ryan, และ Amy Yang ให้ภาพรวมแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐฯ โดยเน้นย้ำถึง ผลกระทบที่กำลังจะเกิดขึ้นจากภาษี รายงานนี้วิเคราะห์ ข้อมูล CPI ล่าสุด โดยระบุถึงการอ่อนตัวในบางหมวดหมู่ เช่น ค่าที่พักและการขนส่ง แต่ยังคงเห็นสัญญาณของ ผลกระทบจากภาษีต่อสินค้าคงทน นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบ การคาดการณ์เงินเฟ้อ และ ตัวชี้วัดชั้นนำที่ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงในอนาคตของอัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสินค้าและบริการบางประเภท รายงานยัง คาดการณ์ ว่าอัตราเงินเฟ้อ PCE พื้นฐานจะอยู่ที่ 3.1% ภายในสิ้นปี 2025 โดยมี การส่งผ่านภาษีเพิ่มเติม เป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนราคาให้สูงขึ้น
เอกสารจาก BofA Global Research นี้เป็น รายงานกลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ ซึ่งให้ภาพรวมของแนวโน้มตลาดโลก ณ เดือนกรกฎาคม 2025 รายงานฉบับนี้วิเคราะห์ กระแสเงินลงทุน ในสินทรัพย์ต่างๆ โดยเน้นถึงการไหลออกครั้งใหญ่จากเงินสดและการไหลเข้าสู่พันธบัตร คริปโตเคอร์เรนซี และหุ้น นอกจากนี้ ยังประเมิน ภาวะฟองสบู่ที่อาจเกิดขึ้น โดยเปรียบเทียบสถานการณ์ปัจจุบันกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจในอดีตอย่างยุคนิกสันและเฟดในปี 1971 รายงานยังใช้ ตัวชี้วัดภายในของ BofA เช่น Bull & Bear Indicator และกฎการซื้อขายต่างๆ เพื่อประเมินความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเสนอแนวทางการลงทุนสำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ คาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อรับมือกับหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น
รายงานของ HSBC Qianhai Securities Limited ฉบับนี้วิเคราะห์การปฏิรูปโครงสร้างด้านอุปทานครั้งใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะแตกต่างจากครั้งก่อนในปี 2015 ในด้าน อุตสาหกรรมเป้าหมาย มาตรการ และ สภาวะความต้องการรายงานเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปฏิรูปในอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ เหล็ก แบตเตอรี่ลิเธียม และ ยานยนต์ โดยเสนอแนะ ผู้รับประโยชน์ที่มีศักยภาพ ห้าราย และให้ข้อมูลการประเมินมูลค่าและความเสี่ยงของหุ้นเหล่านั้น. นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นกับการปฏิรูปในอดีต.
เอกสาร "Japan Economic Flash_ Upper House Election Update.pdf" เป็น รายงานจาก Goldman Sachs Global Investment Research ที่ให้ภาพรวมเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาของญี่ปุ่นที่กำลังจะมาถึง โดยจะมีการเลือกตั้ง 125 ที่นั่งจากทั้งหมด 248 ที่นั่ง รายงานวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ในการคงเสียงข้างมากของพรรคร่วมรัฐบาล (LDP และ Komeito) ซึ่งสื่อต่างๆ ประเมินว่าอาจเป็นเรื่องยาก นอกจากนี้ รายงานยังได้สรุปนโยบายเศรษฐกิจหลักของแต่ละพรรคการเมือง โดยเฉพาะมาตรการต่อต้านเงินเฟ้อและแนวคิดเกี่ยวกับการลดภาษีบริโภค พร้อมทั้งแสดงความเห็นว่าผลการเลือกตั้งไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น
แหล่งข้อมูลเหล่านี้คือ ผลสำรวจผู้จัดการกองทุน (Fund Manager Survey - FMS) ประจำเดือนกรกฎาคม 2025 จาก Bank of America (BofA) ซึ่งนำเสนอ มุมมองของนักลงทุนสถาบัน ทั่วโลกเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการลงทุนในภูมิภาคสำคัญต่างๆ ได้แก่ เอเชีย ยุโรป และภาพรวมทั่วโลก รายงานเหล่านี้รวบรวม ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโต ทั้งระดับโลกและภูมิภาค, ความคาดหวังด้านผลกำไรของบริษัท, การจัดสรรสินทรัพย์, และ ตำแหน่งการลงทุนในสกุลเงินและภาคส่วนต่างๆนักลงทุนกำลังแสดง ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในตลาดหุ้นยุโรปและเอเชีย ซึ่งคาดว่าจะมีการฟื้นตัวจากปัจจัยหลายประการ เช่น นโยบายการคลังที่ผ่อนคลาย และ ความคาดหวังในการปรับขึ้นของผลประกอบการ นอกจากนี้ ยังมีการระบุถึง ความเสี่ยงที่สำคัญ เช่น สงครามการค้า รวมถึง การลงทุนที่ได้รับความนิยมสูงสุด ในปัจจุบัน
บทความนี้เป็น บทวิเคราะห์แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025 ของบริษัทในดัชนี S&P 500 โดย BofA Global Research ซึ่งคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นจะชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า แม้ว่าแนวโน้มทางเศรษฐกิจจะดีกว่าที่คาดไว้และคำแนะนำจากบริษัทต่างๆ จะดีขึ้นก็ตาม รายงานยังเน้นย้ำถึง ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตา ได้แก่ การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร การเลิกจ้าง อัตราแลกเปลี่ยน และผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ผลกระทบของภาษี ถูกระบุว่าเป็นปัจจัยผันผวนที่มีนัยสำคัญต่อรายได้จากการดำเนินงาน พร้อมทั้งให้ภาพรวมของ ผลประกอบการรายภาคส่วน และ แนวโน้มสำหรับหุ้นขนาดกลางและเล็ก ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ยังรวมถึง การคัดเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มเหนือกว่าหรือต่ำกว่าตลาด และ ตารางการรายงานผลประกอบการ ในช่วงฤดูประกาศผลประกอบการนี้
เอกสารจาก BofA นี้เป็นภาพรวมเชิงกลยุทธ์การลงทุนทั่วโลก ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 โดยมุ่งเน้นไปที่ แนวโน้มตลาด, การไหลของเงินทุน, และ ตัวชี้วัดภายในของ BofA นักกลยุทธ์ของ BofA ระบุว่า ความผันผวนของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้อยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และผู้ลงทุนมีความพึงพอใจกับสภาวะปัจจุบันจนกว่าผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวจะถึงระดับ "แหกคุก" รายงานยังชี้ให้เห็นถึง ภาวะเงินเฟ้อที่กำลังจะเกิดขึ้นในทศวรรษ 2020 ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ คริปโต ตลาดต่างประเทศ และตลาดเกิดใหม่ในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ นอกจากนี้ รายงานยังได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการไหลเข้าของเงินทุนรายสัปดาห์ในสินทรัพย์ต่างๆ รวมถึงการจัดสรรสินทรัพย์ของลูกค้าส่วนบุคคลของ BofA และสัญญาณ "ขาย" ที่เริ่มกระตุ้นโดยกฎการซื้อขายการไหลของ BofA Global
เอกสารของ HSBC ในเดือนมิถุนายน 2025 ฉบับนี้ ให้ภาพรวมเชิงลึกเกี่ยวกับจุดเปลี่ยนของสกุลเงินดิจิทัลในสหรัฐอเมริกาโดยเน้นย้ำถึง ความพยายามของประธานาธิบดีทรัมป์ ในการผลักดันให้ประเทศเป็น ศูนย์กลางคริปโต ของโลก รายงานสำรวจ ความใกล้เคียงของคริปโตเคอร์เรนซีกับกระแสหลัก รวมถึง "Stablecoins" ซึ่งเชื่อมโยงกับสกุลเงิน fiat และ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในวงกว้าง บทวิเคราะห์นี้ชี้ให้เห็นว่า การสร้างกรอบการกำกับดูแลที่เหมาะสม เป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในหมู่นักลงทุนสถาบันและบริษัทต่างๆ แม้จะมีความท้าทายหลายประการ เช่น การต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างหน่วยงานกำกับดูแล และ ความกังวลเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ก็มี สัญญาณเชิงบวกของการเปลี่ยนแปลงแนวทางการกำกับดูแล รวมถึง การพิจารณาให้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่ออนาคตของการเงินทั่วโลก รายงานยังอธิบายถึง แนวคิดสำคัญ เช่น บล็อกเชน, Bitcoin, Ethereum และ Stablecoins พร้อมทั้ง ประโยชน์และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง สำหรับทั้งนักลงทุนและภาคธุรกิจ
แหล่งข้อมูลนี้นำเสนอภาพรวมของ การฟื้นฟูพลังงานนิวเคลียร์ โดยเน้นย้ำว่าหลายประเทศกำลังหันมาใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รายงานเน้นย้ำถึง ประโยชน์หลากหลายของพลังงานนิวเคลียร์ รวมถึงความปลอดภัยที่เหนือกว่า ประสิทธิภาพสูง และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงฟอสซิล นอกจากนี้ยังกล่าวถึง ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) และยานยนต์ไฟฟ้า (EVs) ซึ่งพลังงานนิวเคลียร์สามารถตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพ แหล่งข้อมูลยังชี้ให้เห็นถึง ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ในเครื่องปฏิกรณ์โมดูลาร์ขนาดเล็ก (SMRs) และเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ยุคใหม่ รวมถึง โอกาสการลงทุน ในภาคส่วนต่างๆ ของอุตสาหกรรมนิวเคลียร์อีกด้วย
รายงานจาก Goldman Sachs นี้เป็นการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับ ภาคส่วนเซมิคอนดักเตอร์ดิจิทัลและซอฟต์แวร์ EDA ในสหรัฐฯ โดยเน้นย้ำถึงโอกาสที่เกิดขึ้นใหม่จาก AI และผลกระทบต่อตลาด ผู้เขียนเชื่อว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AIจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการสร้างรายได้ที่ชัดเจนจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นก็ตาม รายงานยังได้ประเมิน ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับจีน และเสนอแนวทาง "barbell" สำหรับการลงทุนในเซมิคอนดักเตอร์ โดยเน้นที่ประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่ำ นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์ บริษัทที่สำคัญในอุตสาหกรรม เช่น Nvidia และ Broadcom ซึ่งได้รับคะแนน "ซื้อ" โดยพิจารณาจากตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งและแนวโน้ม AI ที่สดใส
เอกสารจาก HSBC Bank plc นี้เป็นรายงานการวิเคราะห์ตลาดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2025 โดยมุ่งเน้นไปที่ "Pain Trades" หรือสถานการณ์ที่อาจสร้างความเจ็บปวดให้กับนักลงทุนในครึ่งหลังของปีนั้น รายงานได้วิเคราะห์ถึง 5 สถานการณ์หลัก ได้แก่ หุ้นสหรัฐฯ ที่อาจมีผลงานดีกว่าส่วนอื่นของโลก การที่ การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และทั่วโลกอาจไม่ชะลอตัวลงมากอย่างที่คาดการณ์ การกลับมาแข็งค่าของ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Curve Flatteners) และ การปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาดเกิดใหม่และการคลี่คลายของ Carry Trade นอกจากนี้ รายงานยังได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของสินทรัพย์ต่างๆ ดัชนีความเชื่อมั่นและตำแหน่งการลงทุน ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ตราสารหนี้ ตลาดหุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์ เพื่อสนับสนุนการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด.
เอกสาร "FSHW MIDYEAR 2025_080725.pdf" นําเสนอ ภาพรวมเศรษฐกิจโลกและตลาดหุ้นครึ่งหลังของปี 2025 โดยวิเคราะห์แนวโน้มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคหลักๆ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย พร้อมทั้งประเมินผลกระทบจาก นโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนและอัตราภาษีที่อาจสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ รวมถึง กลยุทธ์การลงทุนในสินทรัพย์และภาคส่วนที่น่าสนใจ และมีการระบุ หุ้น Top Pick ในตลาดหลักทรัพย์ต่างๆ ด้วย
เอกสารจาก J.P. Morgan Securities plc และ J.P. Morgan India Private Limited เป็นบทสรุปเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ณ เดือนกรกฎาคม 2025 โดยวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และตลาดเกิดใหม่ เอกสารนี้ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมหภาค ทั้งภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และผลกระทบจากอัตราภาษี นอกจากนี้ยังให้มุมมองเกี่ยวกับภาคส่วนอุตสาหกรรมต่าง ๆ และกลยุทธ์การลงทุน รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับหุ้น เช่น การลดการลงทุนในหุ้นกลุ่มเติบโตและหุ้นขนาดใหญ่ และการพิจารณาหุ้นกลุ่มป้องกันในช่วงฤดูร้อน โดยมีข้อมูลสนับสนุนจากกราฟและตารางมากมาย พร้อมด้วยข้อจำกัดความรับผิดชอบและข้อมูลการเปิดเผยที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินที่จัดทำรายงานนี้
เอกสารจาก Citi Research ฉบับนี้เป็นรายงานประจำปีเกี่ยวกับการลงทุนตามธีม ซึ่งเป็นฉบับที่ 13 แล้ว โดยจะทบทวนและอัปเดตธีมการลงทุนสำหรับปี 2025 รวมถึงการแมปหุ้นและระดับการรับความเสี่ยงของหุ้นในแต่ละธีม รายงานได้แนะนำ 3 ธีมใหม่: AI Creators, AI Enablers และ Digital Currency พร้อมทั้งอธิบายวิวัฒนาการของ Global Theme Machine ที่ริเริ่มในปี 2013 ซึ่งรวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากนักวิเคราะห์ทั่วโลกเข้ากับกรอบการวิเคราะห์เชิงปริมาณ รายงานยังให้รายละเอียดเกี่ยวกับ วิธีการจัดทำพอร์ตการลงทุน ประสิทธิภาพของธีมต่างๆ และการจัดอันดับธีมตามปัจจัยการลงทุน เพื่อช่วยให้นักลงทุนประเมินความน่าสนใจของธีมได้
เอกสารจาก Goldman Sachs นี้วิเคราะห์ถึง ผลกระทบของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต่อแหล่งรวมผลกำไรในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยเน้นกรณีศึกษาของการโฆษณา รายงานระบุว่าการลงทุนใน AI มีต้นทุนสูงกว่าการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีครั้งก่อนๆ และปัจจุบันมีเพียง Nvidia ที่ได้รับผลกำไรอย่างมหาศาล ขณะที่บริษัทอื่นกำลังลงทุนอย่างหนัก AI จะเข้ามา พลิกโฉมการโฆษณา โดยจะเร่งการเปลี่ยนแปลงจากการโฆษณาแบบดั้งเดิมไปสู่ดิจิทัล, ทำให้การสร้างสรรค์โฆษณาเป็นไปโดยอัตโนมัติ, และนำไปสู่การควบรวมกิจการของตัวกลางด้านเทคโนโลยีโฆษณา นอกจากนี้ AI ยังอาจ ลดบทบาทของเอเจนซี่โฆษณา พร้อมกับเปิดโอกาสใหม่ๆ เช่น การเพิ่มผลตอบแทนจากการใช้จ่ายโฆษณา และการขยายฐานผู้ลงโฆษณาให้กว้างขึ้น
รายงานจาก Goldman Sachs นี้ วิเคราะห์ภาวะกำลังผลิตส่วนเกินของจีน ใน 7 อุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญ โดยประเมินสถานการณ์ว่า ยังคงมีกำลังผลิตที่สูงเกินความต้องการของตลาดโลก แม้ว่าการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศจะช่วยพยุงสถานการณ์ไว้ได้ชั่วคราวก็ตาม การวิเคราะห์ "กฎสามข้อ" ชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงด้านวัฏจักรที่เป็นลบ ในอนาคตอันใกล้ และคาดการณ์ว่า จุดต่ำสุดของวัฏจักรจะล่าช้าออกไป นอกจากนี้ รายงานยังกล่าวถึง ผลกระทบจากการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานโลก ที่ทำให้ผู้ผลิตจีนขยายโรงงานนอกประเทศ ซึ่งอาจนำไปสู่กำลังผลิตที่ซ้ำซ้อน และยังระบุว่า การรวมกิจการในอุตสาหกรรมยังคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเส้นโค้งต้นทุนที่แบนราบลงในหลายภาคส่วน
เอกสาร "BofA - The Flow Show 5jul25.pdf" เป็นรายงานกลยุทธ์การลงทุนทั่วโลกจาก Bank of America ที่ออกเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 โดยนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ "ฟองสบู่ขนาดใหญ่ที่สวยงาม" ซึ่งเป็นแนวทางในการจัดหาเงินทุนสำหรับ "หนี้สินขนาดใหญ่ที่สวยงาม" ของสหรัฐฯ รายงานนี้วิเคราะห์ การกลับลำนโยบาย ในเยอรมนี สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา และระบุว่าผู้จัดสรรสินทรัพย์กำลัง เพิ่มการลงทุนในตลาดต่างประเทศ สินทรัพย์แข็ง และสินทรัพย์ดิจิทัลพร้อมลดการถือครองดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ยังให้รายละเอียดเกี่ยวกับ กระแสเงินทุนรายสัปดาห์ ในตลาดต่างๆ รวมถึงหุ้น ตราสารหนี้ และโลหะมีค่า รวมถึงผลตอบแทนปีต่อปีของสินทรัพย์ต่างๆ และ ตัวชี้วัดภายในของ BofA เช่น BofA Bull & Bear Indicator.
แหล่งที่มาของข้อมูลเป็น รายงานการวิจัยจาก Deutsche Bank AG ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2025 โดยมุ่งเน้นไปที่ เศรษฐกิจเยอรมนี และมีหัวข้อหลักเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการคลังที่สำคัญ รายงานนี้วิเคราะห์ ผลกระทบจากการที่รัฐบาลเยอรมนีตัดสินใจกู้ยืมเงินจำนวนมาก เกือบ 800 พันล้านยูโร เพื่อเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนโยบายการคลังของเยอรมนี นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 และ 2026 รวมถึงหารือถึงความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการขาดแคลนแรงงานในระยะยาว
แหล่งข้อมูลทั้งสามนี้ให้ภาพรวมของแนวโน้มเศรษฐกิจและการเงินโลกในช่วงกลางปี 2025 โดย BlackRock Investment Institute มุ่งเน้นไปที่ความไม่แน่นอนของตลาดที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงนโยบาย และผลกระทบของ "พลังขนาดใหญ่" เช่น การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และการเพิ่มขึ้นของ AI ในขณะที่ Allianz Research วิเคราะห์ความยืดหยุ่นของตลาดทุน ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเติบโตทั่วโลกที่ชะลอตัว และความท้าทายด้านภาษีและการคลังของสหรัฐฯ ในทางกลับกัน Pictet Asset Management นำเสนอแนวคิด "การบรรจบกันครั้งใหญ่" ซึ่งคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะเท่ากัน โดยสหรัฐฯ ชะลอตัวลงและยุโรปมีการฟื้นตัว ทั้งหมดนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เข้ากับภูมิทัศน์ใหม่นี้
รายงาน "พรรครีพับลิกันผ่านร่าง OBBB" จาก UBS Financial Services Inc. (UBS FS) วิเคราะห์การผ่านร่างกฎหมาย "One Big, Beautiful, Bill (OBBB)" ของพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นนโยบายเศรษฐกิจสำคัญของประธานาธิบดีทรัมป์ เอกสารนี้อธิบายว่ากฎหมายดังกล่าวจะนำไปสู่การลดการใช้จ่ายและการปฏิรูปครั้งใหญ่ ควบคู่ไปกับการลดภาษีบุคคลและนิติบุคคลอย่างมาก โดยส่วนใหญ่เป็นแบบถาวร แม้ว่ามาตรการเหล่านี้จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้น แต่ก็คาดว่าจะทำให้การขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นและอาจกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในระยะยาว นอกจากนี้ รายงานยังกล่าวถึงการที่ตลาดการเงินได้คาดการณ์การเคลื่อนไหวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว.
เอกสารนี้เป็นรายงานเกี่ยวกับการ บทบาทระหว่างประเทศของเงินยูโร ในปี 2023 ซึ่งระบุว่าเงินยูโรยังคงมีเสถียรภาพโดยรวมและยังคงเป็น สกุลเงินที่สำคัญเป็นอันดับสองของโลก แม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อสูงและนโยบายการเงินที่เข้มงวด รายงานยังตรวจสอบ การถือครองเงินสำรองระหว่างประเทศ โดยสังเกตว่ามีการลดลงเล็กน้อยในสัดส่วนเงินยูโรในขณะที่มีการเพิ่มขึ้นของเงินหยวนและการถือครองทองคำ นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึง ความพยายามลดการใช้เงินดอลลาร์และยูโร ในการค้าต่างประเทศโดยเฉพาะจากรัสเซีย และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางต่อรูปแบบการชำระเงินทั่วโลก
เอกสาร "2506_FSS_HOUSE VIEW 2H25.pdf" นําเสนอ ภาพรวมกลยุทธ์การลงทุนกลางปี 2025 โดยวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคทั่วโลก รวมถึงผลกระทบจาก นโยบายการค้าและการเมือง ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี รายงานนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ตลาดการเงิน ทั้งสกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ ตราสารหนี้ และตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงแนวทางการลงทุนในแต่ละภูมิภาค เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย นอกจากนี้ ยังมีการหารือประเด็นสำคัญ เช่น ผลกระทบของมาตรการภาษี และ การมาถึงของ Stablecoin พร้อมประเมินโอกาสและความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนและภาคธุรกิจการเงิน.
เอกสาร "Washington Matters" จาก Bank of America Global Research ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2025 เป็นการ วิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นสำคัญทางการเมืองในสหรัฐอเมริกา โดยมีกำหนดเส้นตายในการผ่านร่างกฎหมายการปรองดองแห่งชาติใกล้เข้ามา ธนาคารแห่งอเมริกา (BofA) ได้รวบรวมมุมมองของผู้เชี่ยวชาญจากทีมเศรษฐศาสตร์ กลยุทธ์การลงทุน และนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมต่างๆ เอกสารนี้กล่าวถึง ความคืบหน้าของกฎหมายการปรองดอง รวมถึงความเป็นไปได้ในการยกเลิกมาตรา 899 ซึ่งเป็นภาษีตอบโต้ต่างชาติ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการ กำกับดูแลสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องกับอัตราส่วนเงินกองทุนที่ได้รับการปรับปรุง (eSLR) และกฎหมาย Stablecoin ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพ พลังงานสะอาด การเงิน และการพักผ่อนหย่อนใจ
เอกสาร "BofA - The Flow Show.pdf" เป็นรายงาน กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ระดับโลก จาก BofA Global Research โดยมี นักกลยุทธ์การลงทุน สี่คนเป็นผู้เขียนหลัก รายงานนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ กระแสการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลกในช่วงสัปดาห์ล่าสุดและครึ่งปีแรก รวมถึง ตัวชี้วัดภายใน ของ BofA เช่น BofA Bull & Bear Indicator และกฎการซื้อขายต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์เกี่ยวกับ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ ประจำปีและข้อมูลเชิงลึกจาก ลูกค้าส่วนตัวของ BofA ซึ่งแสดงถึงสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์และกระแสการลงทุนของพวกเขา รายงานยังนำเสนอ แนวคิดการซื้อขายแบบ contrarian และมุมมองเกี่ยวกับ นโยบายเศรษฐกิจ ที่คาดว่าจะส่งผลต่อตลาดในครึ่งปีหลัง
แหล่งข้อมูลเหล่านี้คือรายงานจาก Deutsche Bank Research Institute ชื่อว่า "Mapping the World's Prices - 2025" ซึ่งสำรวจราคาและคุณภาพชีวิตใน 69 เมืองสำคัญทางการเงินทั่วโลก รายงานนี้ซึ่งเป็นฉบับที่เก้า นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2012 จะเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเช่า, สินค้าอุปโภคบริโภค, ค่าบริการ และรายได้สุทธิ พร้อมวิเคราะห์แนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การกลับมาของภาวะเงินเฟ้อ และอิทธิพลของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บทความนี้ยังพิจารณาแนวคิดเรื่อง "ความเป็นเลิศของสหรัฐฯ" ในด้านราคาและค่าจ้าง โดยคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบผลกระทบของเงินเฟ้อต่อค่าเงินในระยะยาว โดยเน้นย้ำถึงความโดดเด่นของสวิตเซอร์แลนด์ในการรักษาเสถียรภาพค่าเงินและอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ
บทความนี้เป็นการอภิปรายโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันในอิหร่าน โดยมุ่งเน้นไปที่การโจมตีทางทหารของอิสราเอลต่อโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของอิหร่าน ผู้ร่วมอภิปรายจะประเมินผลกระทบของการโจมตีเหล่านี้และโอกาสที่รัฐบาลอิหร่านจะเปลี่ยนแปลง พวกเขาพิจารณาว่าอิสราเอลจะสามารถใช้การเจาะข่าวกรองที่ประสบความสำเร็จเพื่อสนับสนุนการโค่นล้มรัฐบาล และสำรวจว่าประชาชนชาวอิหร่านจะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวหรือไม่ ท้ายที่สุด พวกเขาจะวิเคราะห์ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กว้างขึ้น เช่น ศักยภาพการมีส่วนร่วมของจีนและรัสเซีย รวมถึงความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงผู้นำที่มั่นคงในอิหร่าน
เอกสารจาก Goldman Sachs ทั้งสองฉบับนี้ ให้ภาพรวมเชิงลึกเกี่ยวกับภาวะตลาดหุ้นที่กระจุกตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาและภาคส่วนเทคโนโลยี เอกสารฉบับแรก “The Concentration Conundrum” อธิบายถึงสาเหตุของการกระจุกตัวดังกล่าว และ เสนอแนวทางในการลดความเสี่ยงผ่านการกระจายการลงทุนในภูมิภาคอื่น รวมถึงในกลุ่มบริษัทที่เรียกว่า “Ex Tech Compounders” และ “GRANOLAS” ส่วนเอกสารฉบับที่สอง “Diversify to Amplify; Part 2” เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการกระจายการลงทุน โดยให้เหตุผลว่าการที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีผลงานโดดเด่นอย่างต่อเนื่องนั้น อาจไม่สามารถคงอยู่ได้ตลอดไป และ ชี้ให้เห็นถึงโอกาสในตลาดต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนในบริษัทขนาดเล็กถึงกลางที่เติบโตได้ดีกว่าในตลาดอื่น ๆ
เอกสารจาก BofA Global Research ฉบับนี้สรุป กลยุทธ์ "Best of Breed" (BoB) ซึ่งเป็นวิธีการคัดกรองหุ้นคุณภาพสูงจากบริษัทในกว่า 77 ประเทศทั่วโลก โดย BoB มุ่งเน้นบริษัทที่มี การเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง มี การบริหารจัดการที่ดี งบดุลที่แข็งแกร่ง และ ศักยภาพในการขยายอัตรากำไร เอกสารนี้ชี้ให้เห็นว่า BoB มีผลประกอบการที่ดีกว่าดัชนี MSCI ACWI อย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่เริ่มต้นในปี 2010 และคาดการณ์ว่าจะ ให้ความสำคัญกับหุ้นในสหรัฐฯ และกลุ่มเทคโนโลยี ในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 อย่างไรก็ตาม เอกสารยังเตือนถึง ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของพอร์ตโฟลิโอ ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้มีผลประกอบการต่ำกว่าตลาดในกรณีที่เกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
แหล่งข้อมูลจาก Bloomberg นี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับอุปทานน้ำมันทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากการที่ ช่องแคบฮอร์มุซอาจถูกปิด ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน รายงานนี้อธิบายว่าการปิดช่องแคบดังกล่าวซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับการค้าน้ำมันของโลก อาจส่งผลให้ ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเป็น 130 ดอลลาร์ และเน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่โรงงานพลังงานจะตกเป็นเป้าหมายได้ นอกจากนี้ ยังแนะนำ เครื่องมือและฟังก์ชันของ Bloomberg เพื่อติดตามการขนส่งน้ำมันในช่องแคบฮอร์มุซ การเปลี่ยนแปลงของราคาฟิวเจอร์ส การผลิตน้ำมันของอิหร่าน และตำแหน่งของโรงกลั่นและคลังน้ำมัน.
แหล่งข้อมูลจาก ดอยช์แบงก์ รีเสิร์ช ให้ภาพรวมเชิงลึกเกี่ยวกับการเติบโตและผลกระทบของ Stablecoin โดยเฉพาะอย่างยิ่ง USD-pegged stablecoins ในปี 2025 รายงานนี้ชี้ให้เห็นถึงการก้าวเข้าสู่กระแสหลักของ Stablecoin ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีมูลค่าตลาดที่พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าทึ่งถึง 246 พันล้านดอลลาร์ และปริมาณการโอนเงินที่แซงหน้า Visa และ Mastercard ในปี 2024 นอกจากนี้ เอกสารยังสำรวจกรณีการใช้งานที่หลากหลายของ Stablecoin ตั้งแต่การซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีไปจนถึงการชำระเงินข้ามพรมแดนและการใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อและความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์ นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญในการเสริมสร้างอำนาจของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการขับเคลื่อนกฎระเบียบที่กำลังจะมาถึง เช่น ร่างกฎหมาย GENIUS Act ซึ่งจะช่วยสร้างความชอบธรรมและเร่งการนำ Stablecoin มาใช้ในภาคส่วนองค์กรและสถาบันให้เร็วขึ้น
บทความนี้มาจาก การสำรวจผู้จัดการกองทุนทั่วโลกของ BofA ซึ่งจัดทำขึ้นในเดือนมิถุนายน 2568 โดย Michael Hartnett และทีมงาน บทความนี้จะวิเคราะห์ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในปัจจุบัน โดยเน้นที่การปรับตัวขึ้นสู่ระดับ "กระทิงแบบ Goldilocks" และการลดลงของความกังวลเรื่องสงครามการค้าและภาวะเศรษฐกิจถดถอย รายงานยังระบุถึง การจัดสรรสินทรัพย์ของนักลงทุน ที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การลดน้ำหนักในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มากที่สุดในรอบ 20 ปี และการหมุนเวียนไปสู่ตลาดเกิดใหม่ พลังงาน และหุ้นกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ ยังนำเสนอ ความเสี่ยงหลักและกลยุทธ์การซื้อขายแบบสวนกระแส ที่นักลงทุนพิจารณาอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย.
เอกสาร "2025.06 - Mid-Year Investment Outlook 2025.pdf" เป็นสื่อการตลาดจาก สถาบันการลงทุน Amundi ที่มุ่งเน้นข้อมูลสำหรับ นักลงทุนมืออาชีพ โดยเฉพาะ โดยให้มุมมองเกี่ยวกับ กลยุทธ์การลงทุน สำหรับ ครึ่งหลังของปี 2025 เนื้อหาครอบคลุมถึง แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค เช่น ผลกระทบของภาษีและนโยบายการคลังของสหรัฐฯ ตลอดจน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่นำไปสู่การกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปจากสินทรัพย์ของสหรัฐฯ เอกสารนี้ยังนำเสนอ กลยุทธ์การจัดสรรสินทรัพย์ โดยเน้นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และ คำแนะนำเฉพาะสินทรัพย์ รวมถึง พันธบัตรรัฐบาล สกุลเงินและ หุ้น พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับ โอกาสในยุโรปและตลาดเกิดใหม่ เช่น อินเดีย ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
เอกสาร "HOUSE VIEW" ของ Julius Baer ประจำเดือนมิถุนายน 2025 ให้ภาพรวมเกี่ยวกับ มุมมองสินทรัพย์และการจัดสรรหลัก โดยเริ่มต้นจาก มุมมองของประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน (CIO) ที่ประเมินสถานการณ์ตลาดและเปลี่ยนกลับสู่ภาวะการขยายตัวหลังจากที่เคยส่งสัญญาณหมี นอกจากนี้ ยังมีส่วน "ภาพรวมขนาดใหญ่" ที่กล่าวถึงความเสี่ยงการเติบโตทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และผลกระทบต่อเศรษฐกิจภูมิภาคต่างๆ ส่วน "การจัดสรรสินทรัพย์" จะอธิบายกลยุทธ์การลงทุน เช่น การออกจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และการเพิ่มการลงทุนในหุ้นอินเดีย และสุดท้ายส่วน "สินทรัพย์รายประเภท" จะวิเคราะห์แนวโน้มและคำแนะนำสำหรับหุ้น ตราสารหนี้ สกุลเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ เพื่อช่วยให้นักลงทุนเข้าใจภาพรวมตลาดและตัดสินใจลงทุนอย่างมีข้อมูล.
แหล่งข้อมูลทั้งสองนี้ให้ภาพรวมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการลงทุนที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ โดย YouTube video เน้นการวิเคราะห์ผลกระทบจากการโจมตีของอิสราเอลต่ออิหร่านที่มีต่อตลาดทุน ตลาดหุ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำและน้ำมัน รวมถึงการประเมินการตอบโต้ของอิหร่านและผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์และเงินบาท ในทางกลับกัน รายงานจาก Citi Research นำเสนอการวิเคราะห์มหภาคทั่วโลก โดยประเมินว่าผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นปานกลางอาจไม่ทำให้ภาวะ "Goldilocks" ของตลาดพลิกผัน นอกจากนี้ยังวิเคราะห์สถานการณ์ทางการค้าโลกที่จีนมีอิทธิพล และแนวโน้มของค่าเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ ยูโร เยน และวอนเกาหลี โดยทั้งสองแหล่งให้คำแนะนำด้านการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์เหล่านี้.
เอกสารฉบับนี้เป็นรายงานการวิจัยจาก Standard Chartered Bank ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 โดยมุ่งเน้นไปที่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนและฮ่องกง รายงานนี้วิเคราะห์ แนวโน้มการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะลดลง ในปี 2568 แม้จะมีการ ฟื้นตัวในเมืองใหญ่ และ นโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อสร้างสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน นอกจากนี้ยังกล่าวถึง แนวโน้มระยะยาว รวมถึง การคาดการณ์การปรับตัวของตลาด ไปจนถึงปี 2571 และสถานการณ์ อสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง ซึ่งเผชิญกับอุปทานส่วนเกินจำนวนมาก ท้ายที่สุด รายงานนี้ยังรวมถึง ข้อมูลการเปิดเผย เกี่ยวกับหลักการวิเคราะห์และข้อจำกัดความรับผิดชอบของธนาคาร