Mr.Habit Diary

Follow Mr.Habit Diary
Share on
Copy link to clipboard

ไดอารี่ของคนที่อยากสร้างนิสัยตั้งแต่การออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ทำกาแฟ การทำงาน

Pavin Vatanavoraluk


    • Aug 26, 2023 LATEST EPISODE
    • infrequent NEW EPISODES
    • 9m AVG DURATION
    • 141 EPISODES


    Search for episodes from Mr.Habit Diary with a specific topic:

    Latest episodes from Mr.Habit Diary

    3 เทคนิคจัดการพลังตัวเองฉบับ EXPERT | Mr.Habit x YoungJourney

    Play Episode Listen Later Aug 26, 2023 10:02


    ขอขอบคุณพี่ฝนจากช่อง Young Journey ติดตาม Young Journey ได้ผ่าน: Youtube: https://youtube.com/@YoungJourney?si=FSRB5Zw3TwsrfaQc FB: facebook.com/youngjourney.me IG: instagram.com/youngjourney.me

    อ่านยังไงให้ไม่ลืม | Mr.Habit Diary

    Play Episode Listen Later Jul 30, 2023 18:35


    หนังสือ: เทคนิคอ่านให้ไม่ลืมที่จิตแพทย์อยากบอกคุณ ผู้เขียน: คะบะซะวะ ชิอง สำนักพิมพ์: We Learn Photo by Yuri Efremov on Unsplash

    นอนน้อยทั้งอาทิตย์ กู้คืนได้ไหม

    Play Episode Listen Later Jul 3, 2023 8:58


    เราควรได้รับการนอน 7-9 ชม. ต่อวัน เพราะการพยายามกู้คืนเวลานอนที่เสียไปนั้นอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด . ในวันทำงานเรามักจะนอนน้อย พอเสาร์อาทิตย์เราเลยพยายามนอนเยอะๆเพื่อที่จะกู้คืนเวลานอนที่เสียไป . เราสามารถกู้คืนมาได้แค่ 25% เท่านั้น แปลว่าเรายังติดลบอยู่ 75% ตลอด ซึ่งถ้าไม่แก้ตั้งแต่ต้นเหตุ มันจะทบต้นไปเรื่อยๆ . คุณภาพการนอนของเราก็เสียไปนั้นคือช่วงการหลับลึกหรือ Deep Sleep ซึ่งมักจะอยู่ในช่วง Recovery Sleep ของเรา . เวลาตื่น-นอนของเราก็ผิดเพี้ยนไปเพราะ Melatonin ไม่หายไปในช่วงเช้า โดยเฉพาะวันจันทร์ ไม่น่าทำไมเราถึงเกลียดวันจันทร์กัน เพราะ Melatonin ยังอยู่ทำให้เราไม่อยากตื่น . นอนน้อยทำให้เรากินขนมเยอะขึ้น ไม่แปลกที่น้ำหนักก็ตามมา . Key Message: ไม่ได้แปลว่าถ้านอนน้อยแล้วพยายามกู้เวลานอนช่วงวันหยุดผิด แต่มันคือการที่เราควรรักษาสิทธิพื้นฐานในการนอนของเราไม่ว่าจะเป็นวันไหนก็ตาม . Source: The Matt Walker Podcast - Catchup Sleep

    ข้อคิดจากหนังเรื่อง CHANG CAN DUNK

    Play Episode Listen Later Jun 9, 2023 18:25


    Source: CHANG CAN DUNK Disney+ Hotstar   ดูหนังเรื่อง Change Can Dunk ผ่านช่องทาง Disney+ Hotstar https://www.hotstar.com/th/onboarding?ref=%2Fth   #mrhabit #รีวิวหนัง #ข้อคิดดีๆ #พัฒนาตัวเอง #impostersyndrome #changcandunk #ดิสนีย์

    Mr.Habit Diary 2023 EP 27 เอาชนะการผัดวันประกันพรุ่งนี้

    Play Episode Listen Later Jun 2, 2023 17:04


    Source: #เทคนิคเปลี่ยคุณให้เป็นคนไม่ผัดวันประกันพรุ่งและลงมือทำทันที #MrHabit #MrHabitDiary #รีวิวหนังสือ #welearn #ข้อคิดจากหนังสือ

    Mr.Habit Diary 2023 EP.26 ข้อคิดจากหนังสือจิตวทิยาสายดาร์ก PT2

    Play Episode Listen Later May 31, 2023 28:47


    Source: จิตวิทยาสายดาร์ก Dr.Hiro

    Mr.Habit Diary 2023 EP.25 ข้อคิดจากหนังสือจิตวทิยาสายดาร์ก PT1

    Play Episode Listen Later May 26, 2023 13:22


    Source: จิตวิทยาสายดาร์ก Dr.Hiro

    Mr.Habit Diary 2023 EP.24 วิธีเลิกนิสัยแย่ๆ

    Play Episode Listen Later May 25, 2023 12:42


    วิธีเลิกนิสัยแย่ๆ . นิสัยแย่ๆของเราเกิดจากแรงกระตุ้นข้างใน มันเป็นความไม่สบายใจที่เราอยากจะหนีแต่หลายทีเราไม่ได้สังเกตุแรงกระตุ้นนั้น... เราไม่ได้ทำความเข้าใจมัน . **เทคนิคที่เราสามารถเริ่มทำได้เลย** . ทุกครั้งที่เราเริ่มรู้สึกความไม่สบายใจนั้นให้เราลองจดโน๊ตไว้ดู เรารู้สึกอย่างไร และหลังจากนั้นแทนที่เราจะไปทำพฤติกรรมแย่ๆที่เรามักจะทำ เราจะบอกกับตัวเองว่า เดี๋ยวเราค่อยทำในอีก 10 นาทีข้างหน้า . **เทคนิค 10 นาที vs การห้ามตัวเองแบบเด็ดขาด** . การที่เราอนุญาติให้ตัวเองทำได้ แต่ทำได้ในอีก 10 นาทีแตกต่างจากการห้ามตัวเองแบบเด็ดขาดตรงที่เราไม่สร้างแรงกดดันให้ตัวเอง ถ้าเราห้ามตัวเองไม่ให้ทำพฤติกรรมที่ไม่ดีอย่างเด็ดขาดมันจะสะสมแรงกดดันไปเรื่อยๆ จนถึงจุดนึงมันต้องคลาย ซึ่งสุดท้ายอาจไปจบที่พฤติกรรมแย่อันเดิมที่เราห้ามแต่แรก . แต่การที่เราบอกตัวเองว่าทำได้นะ แต่ค่อยทำในอีก 10 นาทีมันเป็นการฝึก Delayed Gratification ซึ่งบอกกับตัวเองว่าเราสามารถควบคุมความอยากของตัวเองได้นะ เราเลือกได้ แค่เลือกที่จะไม่ทำตอนนี้ . **แบ่งเวลาไว้เพื่อเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง** . หลังจากจดโน๊ตไว้แล้ว ใช้เทคนิค 10 นาทีไปแล้ว เราก็กำหนดเลยครับว่าเราจะมาดูโน๊ตของเราอีกทีเมื่อไหร่ เมื่อทำแบบนั้นแล้วสมองเราจะไม่มัวแต่คิดเรื่องความรู้สึกนั้นตลอด ถ้าเปรียบเทียบกับการที่เราไม่จดไม่แบ่งเวลาไว้สมองเราจะมัวแต่คิดเรื่องนั้นเพราะมันมองว่ามันเป็นปัญหาที่ยังไม่ถูกแก้ครับ . แถมหลายทีปัญหาหลายๆเรื่องมันแก้ได้ด้วยตัวมันเองครับ ย้อนกลับมาดูอีกทีมันก็คลายแล้ว ส่วนปัญหาที่ยังเหลืออยู่เราก็สามารถใช้เวลากับมันได้อย่างเต็มที่ครับ . Source: Unbelievable Secret To Break ANY Habit In Just 10 Minutes! Nir Eyal https://www.youtube.com/watch?v=bz_G56XXu9s

    Mr.Habit Diary 2023 EP23 Mark Manson อยากบอกอะไรกับคนช่วงอายุ 20s

    Play Episode Listen Later May 16, 2023 16:40


    Mark Manson อยากบอกอะไรกับคนช่วงอายุ 20s Mark Manson ผู้เขียนหนังสือเรื่อง The Subtle Art of Not Giving a F*ck เขาได้ทำวิดิโอที่เล่า 6 สิ่งที่เขาอยากบอกกับคนช่วงอายุ 20 พวกเราจะได้ไม่พลาดเหมือนเขา . 1) The willingness to be disliked is a superpower . เราโตมากับการที่ต้องเป็นอย่างคนอื่นรึเปล่า สังคมบางที่ยังบอกเลยว่าคุณควรทำแบบคนอื่น คิดแบบคนอื่น อย่าทำตัวแตกต่างและทุกคนจะชอบคุณ แต่ลองมาคิดดูถ้าทำแบบนั้นเราก็เหมือนคนทั่วไปเลยนะสิ เราก็ไม่มีลักษณะโดดเด่น ไม่มีตัวตนที่ชัดเจน ถ้าผมเปรียบเสมือนเกมก็คงเป็นตัวละคร NPC ตัวนึงที่ไม่ได้มีส่วนสำคัญของเนื้อเรื่องหลักเลย คงถูกมองข้ามไปด้วยซ้ำ ซึ่งทุกอย่างมันเกิดจากการที่เราอยากให้ทุกคนชอบเรา แต่การที่เราจะรักษาตัวตนของเราไว้มันก็ต้องเจอกับคนที่ไม่ชอบเราบ้างเป็นเรื่องธรรมดา นี้ไม่ได้แปลว่าเราต้องทำตัวขวางโลกทำตัวแตกต่างเพื่อที่จะแตกต่างนะครับ เราแค่ต้องเรียนรู้ที่จะคิดและทำในสิ่งที่ถูกในวันที่คนรอบตัวเราไม่ทำ ยอมรับคำติจากคนอื่นเพื่อพัฒนาตัวเองถึงแม้ว่ามันอาจรุนแรง กล้าที่จะถูกเกลียดเพราะเมื่อคุณสามารถรับคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้อื่นได้ จะไม่มีใครหยุดคุณได้ . 2) You can't fundamentally change yourself or others . ไม่ใช่ทุกการเปลี่ยนแปลงจะเป็นเรื่องง่ายและเห็นได้ในพริบตา เราไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงความคิดของคนอื่นได้และไม่สามารถไปบังคับเขาได้ ยิ่งเราโตขึ้นเรายิ่งเรียนรู้ว่าสุดท้ายเราแค่ต้องรู้จักยอมรับในสิ่งที่เราเป็นและคนรอบข้างของเรา ผมฟังช่วงนี้แล้วตีความได้ว่า อย่าฝืน บางการเปลี่ยนแปลงนั้นสามารถทำได้ แต่มันมีสิ่งที่เราเปลี่ยนไม่ได้เช่นกันหรือเป็นสิ่งที่เปลี่ยนยาก พอนึกแล้วก็นึกถึงการที่เราควรเน้นไปที่การพัฒนาจุดแข็งของเรามากกว่าการมาเปลี่ยนจุดอ่อนของเรา อาจไม่ได้ Perfect สมบูรณ์แบบนะครับแต่คำว่า Perfect มันมีจริงหรอ? อย่างน้อยเราได้เข้าใกล้คำนั้นเรื่อยๆ ผมว่าก็เป็นความก้าวหน้านะ . 3) If you're not embarrassing yourself regularly, you're not trying hard enough . ช่วงอายุนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิต ถ้าเราพลาดถ้าไม่ได้พลาดไปอย่างน้อยเราก็กลับมาตั้งตัวใหม่ได้ด้วยแรงและเวลาที่เรามี ลองทำอะไรใหม่ๆ กล้าออกไปเสี่ยง ยอมรับว่าเรายังเรียนรู้อยู่จะให้เก่งเลยคงไม่ได้ อยากเสริมว่าเรายังไม่จำเป็นต้องรู้ว่าตัวเองชอบอะไรก็ได้นะช่วงนี้เพราะฉะนั้นใช้ช่วงนี้แหละในการค้นหาตัวเอง อย่างมากก็เลิกซึ่งเราก็สามารถเปลี่ยนได้เสมอ อ่อนโยนกับตัวเองค่อยๆหาทางของตัวเองแต่สำคัญสุดคือต้องเริ่มออกไปเจออะไรใหม่ๆลองทำอะไรที่ Challenge ตัวเองบ้าง . 4) Most relationships are supposed to end, and that's okay . ความสัมพันธ์ส่วนใหญ่มักจะจบไปและนั้นเป็นเรื่องปกติ คุณไม่ต้องฝืนรักษาความสัมพันธ์เพราะเมื่อคุณฝืนความสัมพันธ์ที่จะจบอยู่แล้วมันอาจจะยิ่งจบไม่ดีเข้าไปใหญ่ พอโตขึ้นก็เริ่มมีหน้าที่ มีภาระ มีความรับผิดชอบที่อาจทำให้ความสัมพันธ์ดีๆนั้นจางหายไปบ้าง แต่อย่าให้ความสัมพันธ์มาหยุดคุณกับการที่คุณจะได้โฟกัสกับตัวเอง . 5) Your dreams are overrated . ความฝันใหญ่ เป้าหมายในชีวิตเราอาจไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขนาดนั้นก็ได้ ถ้าเราไปได้ถึงฝันเราก็คงมีความสุขแต่ความสุขนั้นคงมีแค่ระยะนึง เพราะสุดท้ายชีวิตคุณก็ต้องไปต่อ คงมีฝันใหม่และเป้าหมายใหม่ตามเข้ามา แต่ถ้าคุณไปไม่ถึงฝันละแล้วชีวิตคุณจะล้มเหลวเลยรึเปล่า ฟังแล้วผมนึกถึงเรื่องการมีเป้าหมายเพื่อเป็นตัวกำหนดเส้นทางของเราแต่เราก็ต้องหาความสุขจากการได้เดินตามเส้นทางนั้นด้วยเช่นกันซึ่งพาไปสู่ข้อถัดไป . 6) The only way to feel better about yourself is to do things worth feeling good about . การที่มีสิ่งของมาครอบครอง ได้รางวัลที่ยิ่งใหญ่ ได้ชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก สิ่งเรานี้ถ้าเราได้มาก็จะสร้างความสุขให้เราได้แต่คงสร้างได้แค่ชั่วขณะ ลองเลิกมองความสุขจากสิ่งที่มี (สิ่งของภายนอก) และเริ่มมองหาความสุขจากการได้ทำ ซึ่งคือความสุขจากการได้ทำในสิ่งที่มีความหมายสำหรับเรา . Credit: 20 icons20 icons created by LAFS - Flaticon https://www.flaticon.com/free-icons/20 . Source: The Life-Changing Advice I Wish I Knew in My 20s https://www.youtube.com/watch?v=pIX_FwIoFPo

    Mr.Habit Diary 2023 EP22 เฉลิมฉลองการเปลี่ยนแปลง

    Play Episode Listen Later May 15, 2023 7:16


    วันนี้เป็นวันที่ผมว่ามันคือสัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย เป็นวันที่เราได้ออกไปใช้เสียงและเสียงของพวกเราก็ได้ถูกส่งออกไป ซึ่งผมอยากชวนทุกคนมาใช้โอกาสนี้ Ride the wave of change นั้นคือการขี่คลื่นลูกนี้ไปด้วยกัน . จังหวะชีวิตกับการเปลี่ยนแปลง . ในหนังสือเรื่อง How to change เขากล่าวไว้ว่าคนเรามักจะเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงในจังหวะชีวิตเช่นช่วงปีใหม่ ช่วงวันเกิด ช่วงได้งานใหม่ ช่วงย้ายที่อยู่ จังหวะชีวิตเหล่านี้เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะเริ่มสร้างความเปลี่ยนแปลง ขอเน้นคำว่าเริ่มนะครับ แล้วเราจะเริ่มได้ยังไงละ? . ตั้งเป้าหมายตามตัวตนที่เราอยากเป็น . เริ่มจากการตั้งเป้าหมายกันครับ เราอยากเป็นคนแบบไหน แล้วคนแบบนี้เขาทำอะไรกันละ? เช่นอยากเริ่มเป็นคนที่อ่านหนังสือเป็นนิสัย แล้วคนที่อ่านหนังสือเป็นนิสัยเขาทำอะไรกันเป็นเรื่องปกติของเขาละครับ . หลังจากนั้นลองมาแบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นเป้าหมายเล็กๆครับ ลองดึงตัวอย่างด้านบนมาต่อนะครับ คนที่เริ่มอ่านหนังสือเขาคงหยิบหนังสือมาอ่านบ่อยๆ เขาน่าจะมีหนังสือติดตัวอยู่เสมอ ถ้าเรามีหนังสืออยู่กับเราตลอดที่เหลือแค่เปิดหนังสือมาอ่านครับ . จุดสำคัญคือขอแค่ได้ทำ . ช่วงแรกไม่ต้องเน้นทำเยอะครับ เน้นทำทีละนิด ค่อยๆทำแต่ทำอย่างต่อเนื่องดีกว่า การอ่านหนังสือเริ่มจากอ่านวันละหน้าหรือตั้งเป้าว่าได้หยิบหนังสือมาเปิดอ่านวันละครั้งก็ดีแล้ว สิ่งเหล่านี้เขาเรียก Starter Step นั้นคือก้าวแรกครับ เราเน้นไปที่การได้เริ่มก้าวเพราะเมื่อเรามีก้าวแรก ก้าวสอง ก้าวสามก็มา อันนี้ยังไม่ได้ก้าวไกลนะ เป็นก้าวเล็กๆแต่เมื่อมันสะสมมันจะไกลเองครับ . Credit: Mentoring icons created by Uniconlabs - Flaticon https://www.flaticon.com/free-icons/mentoring

    Mr.Habit Diary 2023 EP21 ความจริงอันเจ็บปวดของการสร้างนิสัย

    Play Episode Listen Later May 5, 2023 6:07


    ถ้าคุณลองค้นหาว่าจะสร้างนิสัยต้องใช้เวลากี่วันคุณจะเจอหลายศาสตร์มากเช่น 21 วันบ้าง 30 วันบ้าง 60 วันบ้าง ซึ่งถ้าผมตอบจริงๆมันไม่มีวันที่เราสามารถสร้างนิสัยได้ถ้าเราหยุดทำ แปลว่าอะไร แปลว่าถ้าเราหยุดทำนิสัยนั้นเร็วแค่ไหนโอกาสที่นิสัยเก่าๆของเราจะเริ่มกลับมาและนิสัยใหม่ที่คุณพึ่งทำได้ _____ วันนั้นก็จะถูกกลืนไป การสร้างนิสัยนั้นขึ้นอยู่กับความต่อเนื่อง ถ้าเจอสถานการณ์นี้คุณจะทำ________ ซ้ำๆไปเรื่อยๆ นั้นคือนิสัย แต่ถ้าคุณเริ่มหยุดแล้วปล่อยให้เราพลาดอย่างต่อเนื่องหลายๆวัน นิสัยใหม่ที่คุณพยายามสร้างก็จะค่อยๆหายไป นิสัยเก่าๆก็จะคืบคลานเข้ามาเหมือนดั่งเงาที่เกาะติดคุณไม่มีวันหาย ลองนึกภาพตามนะครับ เงานั้นจะเห็นได้ชัดต่อเมื่อมันสว่าง การสร้างนิสัยนั้นเหมือนเป็นการดับไฟให้พฤติกรรมนั้นค่อยๆหายไปแต่จริงๆมันหายไปรึเปล่า เงานั้นไม่เคยหายไปครับ มันจะกลับมาเสมอเมื่อเราเริ่มหยุดและไฟของนิสัยเก่านั้นสว่างขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้มันมีทั้งมุมดีและแย่เพราะนิสัยเก่าๆที่ดีของคุณมันก็ยังซ่อนอยู่ เราแค่ต้องหาไฟสว่างให้มันได้แสดงตัวตนของมันออกมา   Source: How to Change - Book by Katy Milkman   Credit รูปภาพ: Calendar icons created by Freepik - Flaticon https://www.flaticon.com/free-icons/calendar

    habit diary change book
    Mr.Habit Diary 2023 EP20 สภาพแวดล้อมดีไม่ต้องพึ่งความอดทน James Clear Atomic Habits

    Play Episode Listen Later May 4, 2023 8:04


    ถ้าใครติดตาม James Clear จาก Atomic Habits น่าจะพอคุ้นชินกับความสำคัญของสภาพแวดล้อมกับนิสัยที่เราอยากสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการงดซื้อขนมขบเคี้ยวมาในบ้านหรือการนำตัวเองไปสู่สังคมที่มีนิสัยที่เราอยากสร้าง สภาพแวดล้อมนั้นมีผลต่อการสร้างนิสัยของเราอย่างมาก ซึ่งผมอยากเน้นไปที่ตัวอย่างแรกที่ว่าถ้าเราอยากสร้างนิสัยอะไรก็ควรออกแบบสภาพแวดล้อมของเราให้เตือนเราให้ทำสิ่งนั้นและทำให้เราไม่ออกนอกลู่นอกทาง “The people who exhibits the highest self-control are often the people who attempted the least.” - James Clear ในบทสัมภาษณ์ Master These Habits So You DON'T WASTE Another Year Of Your Life AWAY! | James Clear & Lewis Howes คนที่มีพลังในการควบคุมตัวเองมากที่สุดมักจะเป็นกลุ่มคนที่ต้องทำน้อยที่สุด ซึ่งแปลว่าอะไร แปลว่าคนกลุ่มนี้ที่ดูเหมือนว่าเขามีพลังในการควบคุมตัวเองไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางนั้นเขาแค่ไม่ค่อยมีสิ่งรบกวนที่มาทำให้เขาไขว้เขว เพราะฉะนั้นถ้าอยากไดเอทเราก็ไม่ควรมีขนมขบเคี้ยวมาอยู่ในบ้านแต่แรก เราไม่ต้องฝืนห้ามใจตัวเอง พอเราไม่มีสิ่งรบกวนเราก็สามารถอยู่ในเส้นทางการสร้างนิสัยได้ Stay the course! หลังจากนั้นเราก็พยายามนำสิ่งที่อยากทำมาทดแทนเช่นเปิดตู้เย็นไปมีแต่อาหารเพื่อสุขภาพที่เราเตรียมไว้แล้ว สั่งมาแล้ว ประเด็นหลักคือทำให้มันง่าย ยิ่งเปิดมาอยู่ในระดับสายตาเลยยิ่งดี ตัวอย่างที่ผมขอให้แทนคงเป็นเรื่องการทดแทนการใช้โทรศัพท์กับการอ่านหนังสือ สิ่งที่ผมเริ่มทำทุกครั้งที่ออกจากบ้านคือผมต้องมีกระเป๋าครับ แต่ก่อนโทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์ผมจะใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงเสมอ เดินไปไหนยังไงก็รู้สึกครับโทรศัพท์อยู่แนบขาเราเลย หยิบก็หยิบง่าย แค่มีกระเป๋าใบนึงจะใบเล็กๆก็ได้ที่ทำให้เรารู้สึกยากขึ้นนั้นถือเป็นตัวเปลี่ยนเกมเลยครับ นอกจากนั้นเวลาคันไม้คันมือเวลานั่งรถไฟฟ้าไปทำงานผมก็หาอะไรมาทดแทนนั้นคือหนังสือที่ต้องมีติดตัวเสมอ ถ้าได้นั่งนี้สบายเลยครับอ่านไปยาวๆระหว่างทำงานเลย เพราะฉะนั้นมาสังเกตุดูนะครับ เราเลือกที่จะทำให้ตัว CUE (ตัวกระตุ้น) ในการเล่นโทรศัพท์นั้นยากขึ้นโดยการเอาโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าจากที่แต่ก่อนนั้นอยู่แนบขาตัวเองในกระเป๋ากางเกง เราหาสิ่งอื่นมาทดแทนความอยากของเรานั้นคือหนังสือที่พกติดตัวมาตลอด (แนะนำให้เริ่มจากหนังสือเล็กๆครับ ไม่ต้องหนักมากถ้าถืออ่านมือเดียวได้ยิ่งดีโดยเฉพาะถ้าคุณนั่งรถไฟที่ต้องใช้อีกมือจับราวเสมอ) Exercise สำหรับวันนี้ครับสำหรับนิสัยที่คุณอยากสร้าง คุณจะเลือกตัด CUE ไหนออกไปและทดแทนด้วยอะไรแทน Source: Master These Habits So You DON'T WASTE Another Year Of Your Life AWAY! | James Clear & Lewis Howes https://youtu.be/kD2IQWP25Yc?t=4284

    Mr.Habit Diary 2023 EP19 ข้อคิดจากการ์ตูน Teen Titans เส้นทางสู่ยอดเขา

    Play Episode Listen Later May 3, 2023 8:13


    ข้อคิดจากการ์ตูน Teen Titans เส้นทางสู่ยอดเขา . วันนี้จากการที่เล่นโซเชียลมีเดียก็ได้เห็น Reels (วิดิโอสั้น ใน IG) เรื่อง Teen Titans หนึ่งในการ์ตูนไวเด็กที่ผมชอบมาก ตอนเด็กๆเราดูเราดูเอาสนุกครับไม่ได้จับใจความอะไรเน้นมันส์ เน้นแอคชั่น แต่พอมาเห็น Reels นี้เราก็ได้เห็นข้อคิดที่ถูกใส่ไว้ . ใน Episode The Quest คือช่วงที่โรบิน..หนึ่งในตัวละครเอก ต้องผ่าฟันไปบนเขาเพื่อเข้าไปฝึกฝนกับปรมอาจารย์ด้านศิลปะป้องกันตัวเพราะเขาได้พ่ายแพ้กับศัตรูตนนึงนามว่าคิทาโร่ซึ่งระหว่างทางเขาก็ได้พบกับคุณยายแปลกหน้าที่เหมือนจะร่วมเดินทางขึ้นเขาไปกับเขา ระหว่างทางโรบินต้องต่อสู้กับอุปสรรคไม่ว่าจะเป็นหมี งู ลิง ซึ่งหารู้ไม่เลยว่าคิทาโร่นั้นแอบติดตามโรบินอยู่ เพียงรอให้โรบินจัดการอุปสรรคข้างหน้าคิทาโร่ก็จะสามารถขึ้นเขาอย่างสบาย ซึ่งพอโรบินอยู่ใกล้ยอดเขาแล้วคิทาโร่ก็ปรากฏตัวขึ้นและล้มโรบินได้ ในช่วงเวลาที่โรบินล้มลงนั้นเขานึกถึงการยอมแพ้จนกระทั่งยายแปลกหน้าก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง . ยายแปลกหน้า: ตอนที่คุณเริ่มเดินทางคุณยังมีความตั้งใจว่าไม่มีอะไรหรอกที่สามารถหยุดคุณได้ และในตอนนี้ที่คุณใกล้ถึงเป้าหมายแล้ว คุณจะยอมแพ้ง่ายๆเลยหรอ . โรบิน: ก็มันง่ายกว่าเมื่อตอนเริ่มหนิ ยายแปลกหน้า: ช่วงแรกๆมักจะง่ายเสมอ แต่ลองคิดถึงสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ระหว่างทางสิ . โรบิน: เราจะทุกข์ทรมานกับการต่อสู้ขึ้นเขาทำไมถ้ามีคนที่สามารถเดินขึ้นมาในทางที่ง่ายกว่า . ยายแปลกหน้า: มันมีคนที่เลือกทางที่ง่ายกว่าอยู่แล้ว แต่มันไม่ควรหยุดคุณในการเลือกทางที่ถูกต้อง . หลังจากนั้นโรบินได้ใช้ประสบการณ์ที่ได้จากการผ่านอุปสรรคต่างๆมาใช้เพื่อล้มคิทาโร่ ซึ่งคิทาโร่ผู้ไม่ได้ต่อสู้กับหมี งู และลิงก็ไม่สามารถเอาชนะโรบินที่มีทักษะใหม่ขึ้นมาได้ ซึ่งหลังจากเอาชนะคิทาโร่ได้ ในที่สุดปรมอาจารย์ที่แท้จริงก็ปรากฏตัว คิทาโร่นั้นอยากที่จะฝึกกับปรมอาจารย์เช่นกันแต่เขาไม่ได้ใช้เส้นทางที่ถูกต้อง เขาเลือกเส้นทางที่ง่ายกว่าแต่โรบินนั้นได้เลือกเส้นทางที่ถูกต้อง สุดท้ายปรมอาจารย์ก็เลือกรับโรบินเข้ามาฝึกฝนร่วมกัน . เราลองมาสรุปบทเรียนกันนะครับ . ในชีวิตมันมีเส้นทางที่ง่ายกว่าเสมอแต่เส้นทางที่ไร้อุปสรรคอาจไม่ใช่เส้นทางที่ถูกต้อง . การเริ่มต้นอาจเป็นสิ่งที่ง่ายเพราะเราไม่รู้ว่าข้างหน้าเราจะเจออะไรบ้าง แต่อย่าลืมนึกถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้และความคืบหน้าระหว่างทาง . Source: Teen Titans EP. The Quest

    Mr.Habit Diary 2023 EP18 อ่านหนังสือวันเดียวจบด้วยเทคนิค POMODORO

    Play Episode Listen Later May 2, 2023 10:52


    ช่วงนี้อ่านหนังสือติดกันบ่อยขึ้นครับ อยากให้มันเป็นนิสัยติดตัวไปมาทดแทนการใช้มือถือของเราเอง ซึ่งตอนช่วงแรกๆเราเริ่มจากการอ่านวันละบท (ประมาณวันละ 10-20 หน้าแล้วแต่หนังสือแล้วแต่บท) ส่วนใหญ่จะอ่านเกิน 1 บทด้วยซ้ำ . หลังๆเริ่มนำเทคนิค Pomodoro มาใช้มากขึ้นนั้นคือการจดจ่อไปกับสิ่งใดสิ่งนึง ตัดสิ่งรบกวนออกในช่วงเวลา 25 นาที อุปกรณ์ที่ใช้มีแค่ดินสอ นาฬิกา และหนังสือที่เราอยากอ่านครับ แล้วอย่าลืมนำสิ่งรบกวนอย่างมือถือเราไว้ห่างๆตัวนะครับ . หนังสือที่เลือกอ่านวันนี้คือเล่ม “แค่นี้ก็ดีมากแล้ว”โดยอาจารย์นภดล ร่มโพธิ์ครับ มีอยู่ 45 บทสั้นๆรวมแล้ว 200 หน้าซึ่งผมว่าการอ่านจบภายใน 1 วันเป็นเรื่องที่เราทำได้แน่นอนก็เลยลองทำช่วงวันหยุดดูครับเป็นการ Challenge ตัวเองเล่นๆ  (ลองสังเกตุนะครับ เราไม่ได้ซีเรียสว่าจะทำได้จริงรึเปล่า แค่อยากลองนะครับ เป็นการตั้งเป้าหมายไว้ แต่ถ้าทำไม่สำเร็จเราก็ไม่ได้กดดันอะไรตัวเอง เพราะสุดท้ายความสุขของผมมันอยู่ที่การอ่านไม่ได้อยู่ที่อ่านจบ) . การใช้เทคนิค Pomodoro นั้นผมว่าดีต่อการอ่านเพราะว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เราจดจ่อไม่นานเกินไปแถมหลัง 25 นาทีเราได้พักซัก 5 นาทีให้สมองเรียบเรียงข้อมูล ให้ดีลองใช้เวลาจดโน๊ตทบทวนพูดคุยกับหนังสือไปด้วย ทำซ้ำแบบนี้ 4 ครั้งอ่านจบเลยครับ ซึ่งบทเรียนที่ผมได้เรียนรู้จากการนำเทคนิคนี้มาปรับใช้คือ . คนที่อ่านหนังสืออเยอะ เขาอาจไม่ได้อ่านเร็วนะครับ เขาแค่มีเวลาจดจ่อกับมัน อยากจดจ่อกับอะไรลองใช้แค่ 25 นาทีครับ เอาสิ่งรบกวนออกไปเลย ทำทีละอย่าง พวกโทรศัพท์เอาไว้ห่างๆได้ดีเลยครับเพราะถ้ามันอยู่ใกล้มือเรามองเห็นได้มันห้ามใจตัวเองค่อนข้างยากครับ หลัง 25 นาทีอย่าลืมพักนะครับ ลองลุกขยับตัวไปดื่มน้ำหน่อย พักอย่างน้อยซัก 5 นาทีครับ . เทคนิคเสริมเวลาอ่านหนังสือ . ใช้ปากกา ดินสอ หรือ Highlight ในการอ่านครับ . นอกจากจะใช้ขีดเขียนข้อความสำคัญจดโน้ตไว้เราลองใช้ปากกา ดินสอ หรือ Highlight ของเราในการเป็นตัวช่วยด้านการอ่านครับหรือนั้นคือ Visual Pacer นึกภาพตอนเด็กที่เราอ่านเราใช้นิ้วชี้ตามตัวอักษรครับ ผมว่าเทคนิคนี้ถือว่าช่วยมากยิ่งเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อาจมีสิ่งรบกวนเสมอ การที่เรามีอะไรช่วยชี้ทำให้สมาธิเราไปจดจ่อกับจุดๆนั้น . เลือกหนังสือที่อ่านแล้วชอบ ไม่ใช่หนังสือที่เราควรอ่าน . มีข้อแตกต่างนะครับ หนังสือที่เราควรอ่านอาจเป็นหนังสือที่ท่านอื่นแนะนำแต่ด้วยสถานการณ์ของเรา อาจยังไม่ถึงเวลาของหนังสือเล่มนั้นๆบ้าง เราอาจยังไม่สนใจหนังสือเล่มนั้นบ้าง อย่าฝืนครับ เอาเวลามาจดจ่อกับสิ่งที่เราชอบดีกว่า . คิดตามเสมอ ว่าเราสามารถนำข้อคิด/บทเรียนมาปรับใช้ในชีวิตเราได้อย่างไร . สุดท้ายการอ่านเร็ว อ่านให้จบผมว่ามันจะเป็นแค่ข้อมูลที่เราใส่เข้าไปในสมองครับ แต่การที่เราจะสามารถจำและดึงสิ่งนั้นมาใช้ได้ในชีวิตประจำวันคือการคิดตามครับ คิดว่าเราจะนำสิ่งนี้มาปรับใช้กับชีวิตเราอย่างไร หรือ… ลองหาวิธีเล่าเรื่องนี้ให้ท่านอื่นฟังในแบบฉบับความเข้าใจของตัวเองครับ เป็นการฝึกที่ดีเลยทีเดียวเพราะเมื่อเราได้เล่าต่อ เราได้เรียนรู้และทบทวนสิ่งนั้นอีกครั้ง Credit รูปภาพ: Pomodoro icons created by Flat Icons - Flaticon www.flaticon.com/free-icons/pomodoro

    Mr.Habit Diary 2023 EP17 10 บทเรียนด้านนิสัยและความสุขจากหนังสือ แค่นี้ก็ดีมากแล้ว นภดลร่มโพธิ์

    Play Episode Listen Later May 1, 2023 14:44


    ทุกปัญหามีหนังสืออย่างน้อย 1 เล่มช่วยเราได้เสมอ - นภดลร่มโพธิ์ สำหรับผมแล้ว หนึ่งในหนังสือเล่มนั้นผมขอยกให้ “แค่นี้ก็ดีมากแล้ว” เป็นเล่มที่อ่านได้เรื่อยๆ เพลินและสบายมาก แต่ที่สำคัญผมอยากหยิบบทเรียนที่ผมอ่านแล้วมันเข้ากับจังหวะชีวิตผมมาแชร์ให้ทุกท่านได้ฟังครับ ผมจะแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ คือบทเรียนทางด้านการสร้างนิสัยและบทเรียนด้านความสุขครับ บทเรียนทางด้านการสร้างนิสัย ทุกอย่างเริ่มต้นจากก้าวเล็กๆก้าวแรก ถ้าเราไม่เริ่มก้าวแรกก็ไม่มีก้าวสอง สาม สี่ บางทีสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับผมคือการได้เริ่มทำครับ แต่เมื่อได้เริ่มทำเมื่อไหร่เดี๋ยวมันก้าวต่อไปได้เอง พอเห็นความก้าวหน้าเดี๋ยวแรงจูงใจจะมาเอง ต่อจากข้อแรกเลย ถ้าเราได้เริ่มก้าวแรกแล้วมันได้ก้าวต่อไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ทำให้เราไปต่อคือการเห็นความคืบหน้าครับ ตัวอย่างในหนังสือจะไปด้านการอ่านการเขียนบ้างซึ่งสำหรับผมแล้วมันตรงมากเลย ยิ่งถ้าเรามีการวัดผลให้เห็นการก้าวหน้าที่ชัดเจนได้นี้เรายิ่งมีแรงจูงใจในการทำครับเช่นถ้าวิ่งแล้ววิ่งได้ไกลขึ้นเร็วขึ้นในเวลาเท่าเดิม อ่านหนังสือก็เห็นครับว่าแต่ละทีเราอ่านแล้วเรามาไกลแค่ไหน เพิ่มโอกาสการเห็นช่วงเวลามหัศจรรย์ได้แค่ทำให้เยอะทำให้บ่อย อันนี้ผมมองถึงมุมมองที่เป็น Content Creator ด้วยเพราะการทำเพจให้โตทำ Podcast ให้โตเราต้องมี Content ที่ปังใช้ไหมครับ แต่ทำไปบางทีสิ่งที่เราคิดว่าดีไม่มียอดเข้าชมบ้างไม่เห็นมีคนมาอ่านบ้างเลย จนวันนึงลองโพสท์อะไรไปอยู่ดีๆก็เริ่มมีคนเห็นคนแชร์ถือเป็นช่วงเวลามหัศจรรย์เลยครับ แต่มันก็ไม่ได้มาบ่อยๆ ทั้งนี้ที่ผมอัด Podcast ถี่ขึ้น เขียนโพสท์เยอะขึ้นก็จะได้สร้างโอกาสให้เวลามหัศจรรย์นั้นมีมากขึ้นครับ การทำอะไรให้เป็นนิสัยแล้วยังไม่ได้แปลว่าเราจะเห็นผลลัพท์ แนวทางนึงที่อาจารย์นภดลกล่าวไว้ในหนังสือคือการทำอะไรให้ต่อเนื่องซัก 6 เดือนซึ่งผมว่าเป็นแนวทางที่ดีเลย เพราะมันจริงครับ ทำอะไรให้เป็นนิสัยแล้วไม่ได้แปลว่าเราจะเห็นผลลัพท์มันทันที อย่างน้อยเวลา 6 เดือนนี้ถ้าเราเปรียบเทียบกับตอนที่เราเริ่มเราน่าจะเห็นความก้าวหน้าที่ชัดเจนระดับนึงเลย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับนิสัยที่เราเลือกครับ บางอย่างยิ่งช่วงแรกๆเราเน้นไปที่การทำก่อน ทำให้มันต่อเนื่องเพราะถ้าเราทำแล้วคาดหวังผลที่เร็วไปมันจะท้อเอาครับ ทำเพราะมีความสุขกับการได้ทำด้วยยิ่งดีเลยครับ บางทีแค่ยังไม่ถึงเวลา เรื่องบางเรื่องถึงแม้เราตั้งใจ เรามองว่าเป็นไอเดียที่ดีแต่ใช่ว่ามันจะสำเร็จเสมอไป ซึ่งบางทีมันแค่ยังไม่ถึงเวลาของมันครับ สำหรับผมแล้วบางเล่มที่อ่าน อ่านไม่นานเราวางลงไปแล้วหยิบเล่มอื่นมาแทน แต่พอเวลาผ่านไปเราลองย้อนกลับไปอ่านเล่มที่เราวางลงใหม่แล้วรู้สึกว่ามันตอบโจทย์ปัญหาที่เราเจออยู่ช่วงนั้น ก็ทำให้รู้ว่าทุกอย่างมันมีเวลาของมันครับ บทเรียนด้านความสุข รู้จักมีความสุขให้ง่ายขึ้น มีความสุขที่เห็นคนอื่นสำเร็จ อันนี้ชอบมากเพราะส่วนตัวชอบ Concept การฉลองชัยชนะเล็กกับการทำอะไรเล็กๆอยู่แล้ว เราไม่ต้องรอความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างการได้รับการโปรโมทหรือขึ้นเงินเดือนหรอกครับ หาความสุขเล็กๆในแต่ละวันมาเติมเต็มใจได้ผมว่ามันยั่งยืนกว่า แล้วก็ฝึกมีความสุขเมื่อเห็นคนอื่นสำเร็จด้วยก็ดีครับ ยิ่งในโซเชียลมีเดียเห็นคนอื่นสำเร็จถ้าเราไปอิจฉาเขาคงมีแต่ทุกข์นะ ฉลองความสำเร็จของคนอื่น เอาเป็นแรงบันดาลใจแล้วเติมเต็มความสุขในแต่ละวันของตัวเองดีกว่าครับ ใช้เวลาให้คุ้มค่า เราจะได้ไม่เสียดายภายหลัง ข้อนี้ผมหยิบเรื่องการใช้เวลากับการบริหารเงินมาครับ ผมชอบช่วงที่อาจารย์เขาเล่าว่าถ้าเรามีสิ่งที่อยากทำแต่มันต้องใช้เงินลองคิดดูว่าถ้าเราแก่ไปแล้วมีเงินเราจะมาทำสิ่งนี้ไหวไหม อ่านแล้วก็ตกผลึกได้ครับว่าถ้าในอนาคตเราไม่มีโอกาสได้ทำสิ่งนั้นแล้วถึงแม้ว่าเรามีเงิน เราเลือกที่จะทำสิ่งนั้นวันนี้เลยดีกว่าซึ่งอย่างนึงที่เราให้ความสำคัญมากขึ้นคือความสัมพันธ์ครับ ความสัมพันธ์ของครอบครัว เพื่อน สัตว์เลี้ยง จงใช้เวลาให้เต็มที่เราจะได้ไม่เสียดายภายหลัง อย่าไปฝากความสุขไว้กับใคร เรื่องนี้มีตั้งแต่ความคาดหวังกับการพึ่งพาตัวเองครับ เราไปคาดหวังกับคนอื่นไม่ได้แปลว่าเขาจะทำตามเราเสมอนะ สุดท้ายผลเป็นยังไงความเจ็บมันขึ้นอยู่กับเราเนี้ยแหละที่คาดหวังแค่ไหน ส่วนเรื่องการพึ่งพาตัวเอง ถ้าเรามัวแต่ยึดติดว่าความสุขเราอยู่กับการกระทำของคนอื่นเราจะควบคุมความสุขของเราเองไม่ได้เลย รู้จักที่จะมีความสุขได้ด้วยตัวเอง อย่ามองข้ามความเป็นธรรมดาที่เราเจออยู่ทุกวัน เราอยู่ในสังคมที่มองบนเสมอครับ…นั้นคือเราเปรียบเทียบกับคนด้านบนเสมอ ถ้ามนุษย์เรามีความสามารถพิเศษในการขยับรายจ่ายตามรายได้ในฉบับพี่หนุ่ม The Money Coach ผมว่ามนุษย์เราก็มีความสามารถพิเศษในการเปรียบเทียบตัวเองกับคนข้างบนเสมอเช่นกัน ซึ่งการที่เราจะมีความสุขได้มันเริ่มจากคำว่าพอ เราขอบคุณสิ่งที่เรามีไว้เพราะถ้าวันนึงสิ่งที่เราเห็นอยู่ทุกๆวันที่เรามองว่ามันธรรมดานั้นหายไปสิ่งที่เราอยากขอมากที่สุดก็เพียงแค่อยากได้สิ่งธรรมดาๆนี้กลับมา เมื่อประตูบานหนึ่งปิดลง ประตูอีกบานจะเปิดขึ้นเสมอ ถ้าประตูบานหนึ่งปิดลงจริงๆ มันก็จะมีประบานใหม่เปิดขึ้นแต่เรามัวแต่ไปมองประตูบานเก่ารึเปล่า ถ้าโอกาสนึงปิดเราลองเรียนรู้จากความผิดพลาดและมองหาโอกาสใหม่ๆครับ Source: แค่นี้ก็ดีมากแล้ว - นพดล ร่มโพธิ์

    Mr.Habit Diary 2023 EP16 เมื่อเรามั่นใจเราจะเปลี่ยนแปลง Book Lesson จากหนังสือเรื่อง How to Change

    Play Episode Listen Later Apr 30, 2023 11:17


    ความมั่นใจเป็นตัวแปลสำคัญในการเปลี่ยนแปลง ถ้าเราไม่ใช่ว่าเราสามารถเปลี่ยนได้ เราก็จะไม่เปลี่ยน การเปลี่ยนแปลงจึงเริ่มต้นจากการเชื่อมั่นในตัวเอง เราต้องมีความมั่นใจ จะสร้างความมั่นใจยังไง? ลองนึกย้อนไปช่วงที่ๆอยู่ๆก็มีคนมาแนะนำอะไรคุณ ด้วยความหวังดีเขาอยากจะสอนอะไรเราบางอย่าง แต่เรากลับรู้สึกไม่ชอบใจเลย ทำไมอยู่ๆต้องมาสอนด้วย เราไม่ได้ขอซักหน่อย เผลอๆความหวังดีนี้ยิ่งทำให้เสียความมั่นใจในตัวเองซะอีกเพราะมันแอบส่งข้อความให้เราว่าเราทำเองไม่ได้ แต่ถ้าเรามองในมุมกลับกันละ ลองนึกถึงช่วงที่อยู่ๆคนมาขอคำแนะนำจากเรา ถึงแม้ว่าเราเองอาจไม่ได้เก่งเรื่องนั้นมากนักในชีวิตจริงแต่เราก็สามารถให้คำแนะนำที่ถือว่าดีเลย เราเพียงแค่ไม่ได้นำคำแนะนำนั้นไปใช้เองรึเปล่า แต่ถ้าลองสังเกตุ เมื่อมีคนมาขอคำแนะนำจากคุณ คุณจะรู้สึกมั่นใจขึ้นเพราะมันแอบส่งข้อความว่าคนๆนั้นเชื่อคุณ เขานึกถึงคุณว่าคุณเป็นคนเก่ง ที่สำคัญไปกว่านั้นเมื่อคุณได้ให้คำแนะนำกับใครส่วนใหญ่แล้วมันเป็นคำแนะนำที่เหมาะสมกับคุณเองเพราะมันมาจากประสบการณ์ของคุณ มันมาจากการที่คุณคิดว่า “ถ้าเป็นเรา เราจะทำอย่างไร” แต่พูดแล้วก็ต้องทำด้วย ใช้ Cognitive Dissonance ให้เป็นประโยชน์นั้นคือความรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเราพูดอย่างทำอย่าง ใช้โอกาสที่คนเขาอุตส่าห์เชื่อในตัวคุณสร้างคุณให้เป็นคนที่เก่งตามที่พวกเขาเชื่อ เพราะฉะนั้นถ้าอยากสร้างความมั่นใจให้คนอื่นอย่าไปสอนเขาครับ ลองขอคำแนะนำจากเขาแล้วเขาจะเริ่มคิดถึงไอเดียดีๆที่เผลอๆเหมาะกับเขาเองที่สุด ส่วนถ้าเราอยากเสริมความมั่นใจให้ตัวเองโดยที่ไม่มีคนอื่นมาขอความช่วยเหลือ ลองนึกภาพว่าถ้ามีคนมาขอความช่วยเหลือด้านนี้แล้วคุณจะแนะนำเขาอย่างไร นอกจากนั้นเวลาการเปลี่ยนแปลงเราต้องคำนึงถึงความผิดพลาดที่มาเป็นช่วงๆ เราต้องเป้าว่าจะทำสิ่งนึงทุกวันแต่ก็จะมีบางวันที่พลาดไปบ้าง กับดักนึงที่ต้องระวังคือ “What the hell effect” ไหนๆก็พลาดแล้ว งั้นช่างมันเลยละกัน เช่นพลาดเรื่องไดเอทไปงั้นเรากินให้เละไปเลยละกัน สิ่งนี้ถือเป็นศัตรูอย่างนึงที่เรียกว่าอีโก้เพราะเราเชื่อว่าถ้าพลาดครั้งเดียวเราพังยับ วิธีแก้คือให้โอกาสตัวเองในการผิดพลาด เช่นเราควรออกกำลังกายทุกวันนะ แต่ในอาทิตย์นึงเรายอมพลาดได้ 2 วัน นี้เป็นการที่เราให้โอกาสตัวเองเด้งกลับมาจากการผิดพลาดเพราะเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความแน่นอน ถ้าลองนึกดูแล้วเราจะสังเกตุเห็นโปรแกรมพัฒนาตัวเองด้านการกินและออกกำลังกาย ทำไมเขาถึงมี Cheat Meal ทำไมถึงมี 2 Days Rule เพราะบางวันเราอาจจะพลาดไปบ้าง แต่การที่เราให้โอกาสตัวเองก็จะกันไม่ให้เราติดกับดัก “What the hell effect” นอกจากนั้นเราต้องรู้จักให้กำลังใจตัวเองบ้าง ใช้ให้บ่อยขึ้นครับพวกคำว่า “ไม่เป็นไร แล้วมันก็จะผ่านไป เดี๋ยวเอาใหม่” พยายามสร้าง Growth Mindset ที่คอยย้ำเตือนว่าเรากำลังพัฒนาอยู่ เราแค่ต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ โดยสรุป เราต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองก่อนที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง เราสามารถเสริมความมั่นใจโดยการได้เป็นคนแนะนำคนอื่นเพราะคำแนะนำนั้นมันมาจากประสบการตัวเองและคุณรู้จักตัวเองดีที่สุด เหลือแค่คุณต้องนำมันไปปรับใช้จริง อ่อนโยนกับตัวเองโดยการให้โอกาสเราในการลองใหม่อีกครั้งถ้าเราผิดพลาดเพราะว่าไม่ใช่ทุกวันจะเป็นวันของเรา รับรู้ว่าเราเป็น Work-in-process Source: How to Change book by Katy Milkman

    Mr.Habit Diary 2023 EP15 ตั้งค่าชีวิตเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ

    Play Episode Listen Later Apr 29, 2023 14:16


    มนุษย์เรามักเลือกทำสิ่งที่ใช้กำลังน้อยที่สุดเสมอตาม Concept “Path of least resistance” มันเป็นวิธีที่ฉลาด จะฝืนให้เปลืองแรงไปทำไม แล้วเราจะใช้ประโยชน์จาก “Path of least resistance” อย่างไรมาดูกันครับ สร้างค่าเริ่มต้น (Default) ที่นำไปสู่ความสำเร็จ คุณเคยโหลดโปรแกรมแล้วมันมีการตั้งค่า (Setting) ให้เลือกไหมครับ ส่วนใหญ่คนก็จะเลือกการตั้งค่าแรกสุดเพราะเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่ผู้สร้างระบบเขาแนะนำมาให้แล้ว แถมการตั้งค่าอื่นๆดูต้องศึกษา ดูวุ่นวายถึงแม้จะมีตัวเลือกให้เราเล่นมากกว่า เราก็จะเลือกการตั้งค่าแรกเพราะมันคือ Path of least resistance Default ในมนุษย์คือนิสัย (Habit) ที่สามารถพัฒนาได้ ลองมาดูนิสัยของพวกเราครับ มันเป็นพฤติกรรมที่แทบจะไม่ต้องใช้ความคิดเลยและที่สำคัญมันสามารถพัฒนาได้ ถ้าคุณอยากมีนิสัยอ่านหนังสือ ฟัง Podcast แต่คุณพึ่งเริ่ม ช่วงแรกๆอาจต้องใช้ความพยายามเยอะหน่อยแต่เมื่อเราทำซ้ำๆไป ความพยายามที่ต้องใช้ก็ลดลง สูตรสำเร็จในการสร้างนิสัยขึ้นอยู่กับความต่อเนื่อง ยิ่งทำบ่อยในสถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่คุ้นชินมันก็จะเป็นนิสัยครับ พฤติกรรมที่เป็นนิสัยนั้นมี 3 ปัจจัยหลักๆนั้นคือ CUE-ROUTINE-REWARD ซึ่งผมอยากเจาะลึกไปในส่วนของ CUE CUE นั้นคือสิ่งที่บอกว่าได้เวลาทำพฤติกรรมนี้แล้ว มันสามารถเป็นทั้ง สถานที่ เวลา หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมก่อนหน้า เช่นตื่นเช้าแล้วต้องไปล้างหน้า CUE ของการล้างหน้าคือการที่เราพึ่งตื่น พอล้างหน้าเสร็จเราแปรงฟัง CUE ของการแปรงฟันคือการที่เราพึ่งล้างหน้าเสร็จ แล้วจะสร้างนิสัยยิ่งมี CUE ที่เป๊ะหรือมีความยืดหยุ่นจะดีกว่ากัน? หลายทีผมเจอคำแนะนำที่ว่าถ้าอยากทำให้พฤติกรรม______เป็นนิสัย เราต้องทำสถานที่เดิมเวลาเดิม แต่ปัญหาคือคำแนะนำนี้มันเหมาะสมเฉพาะโลกที่เหมือนเดิมทุกวัน แต่เราอยู่ในโลกที่มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การยึดติดมากไปสำหรับการสร้างพฤติกรรมนั้นทำให้เราสามารถทำสิ่งนั้นเป็นนิสัยได้ต่อเมื่อทุกอย่างมันเป๊ะ เช่นนั่งสมาธิตอนเช้า 7 โมงในเก้าอี้ประจำหลังอาบน้ำเสร็จ ถ้าคุณตื่นสายละ ถ้าวันไหนคุณไม่ได้อยู่บ้านแล้วไม่มีเก้าอี้ประจำคุณละ ถ้าคุณไม่ได้อาบน้ำละ คุณจะนั่งสมาธิอยู่ไหม? เราเลยต้องพยายามฝึกตัวเองให้สามารถทำพฤติกรรมที่เราต้องการให้เป็นนิสัยให้ได้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไหนก็ตาม เพราะฉะนั้นความเป๊ะในการสร้างนิสัยนั้นไม่จำเป็น ถ้าอยากสร้างนิสัยต้องคอยติดตาม การที่เราคอยติดตามนิสัยของเรามันเป็นการที่เราได้คอยเตือนตัวเองให้ทำนิสัยนั้น ได้ฉลองความสำเร็จเล็กๆและได้รับรู้ถึงส่วนที่พลาดไป ยิ่งได้เห็นความคืบหน้าในแต่ละวันของเรามันยิ่งเป็นกำลังใจให้เราได้ทำต่อ เพราะฉะนั้นถ้าได้เห็นความคืบหน้าแล้วให้ตั้งเป้าหมายเป็นความต่อเนื่อง Photo by Frida Aguilar Estrada on Unsplash https://unsplash.com/photos/rYWKAgO7jQg Source: How to Change book by Katy Milkman

    Mr.Habit Diary 2023 EP14 ปีศาจที่เรียกว่าความคาดหวัง

    Play Episode Listen Later Apr 28, 2023 5:10


    ปีศาจตนนี้เป็นปีศาจที่ชอบวนมาหาเราบ่อยๆ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบการคาดหวังที่เกิดขึ้นจากตัวเราเอง หรือการคาดหวังที่มาจากคนอื่น ในหนังสือเรื่อง “แค่นี้ก็ดีมากแล้ว” เขียนโดยอาจารย์นภดล ร่มโพธิ์ เขาก็ได้กล่าวถึงความคาดหวังเช่นกันซึ่งเป็นความคาดหวังที่เรามีให้กับคนอื่น สุดท้ายไม่ว่าจะคาดหวังเยอะหรือน้อยก็ไม่ได้กระทบเลยว่าคนอื่นจะทำตามสิ่งที่เราต้องการรึเปล่า แต่คาดเจ็บปวดมันต่างกัน ยิ่งคาดหวังเยอะยิ่งเจ็บเยอะ ยิ่งคาดหวังน้อยยิ่งเจ็บน้อย ผมมองว่าความคาดหวังเปรียบเสมือนการแบกหินก้อนใหญ่ที่ไม่จำเป็น จะเดินไปไหนก็ไม่สะดวกไม่ว่าจะเป็นหินของเราเองหรือหินของคนอื่น ถ้าเราเอาหินเราไปให้คนอื่นแบกก็เหมือนตั้งความคาดหวังกับคนอื่นให้แบกหินนี้ไปสู่เป้าหมายของเราแต่ถ้าเขาไม่ทำละ ความเจ็บปวดก็อยู่ที่เราแต่เราจำเป็นต้องแบกหินก้อนนั้นไว้ไหม แล้วถ้าความคาดหวังมาจากคนอื่นละ เป็นหินที่คนอื่นอยากให้เราแบก ถ้าไปไม่ถึงเป้าก็รู้สึกเจ็บที่ทำให้เขาผิดหวังเปรียบเสมือนโดนหินเหล่านั้นทับเราลงไป เราตอบตกลงเพียงเพราะเราไม่อยากทำให้เขาผิดหวังแต่หารู้ไม่เลยว่าคำตกลงนั้นคือการปฏิเสธหลายๆสิ่งที่มาจากเราเอง สุดท้ายการกระทำนั้นเหมือนกันแต่ความคาดหวังต่างกัน ถ้าคาดหวังเยอะก็เจ็บเยอะ ถ้าคาดหวังน้อยก็เจ็บน้อย แต่ไม่ใช่ว่าเราจะทำอะไรโดยไม่มีเป้าหมาย เหมือนนักกีฬาไปแข่งก็คงไม่ลงสนามโดยที่ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อชนะ แต่เขาคงเล่นได้สบายขึ้นเยอะถ้าเขาไม่ต้องแบกหินที่ไม่จำเป็นที่เรียกว่าความคาดหวัง ซึ่งหินนั้นมันไม่ได้มีอยู่จริง มันเป็นปีศาจในหัวเราที่เข้ามา Photo by petr sidorov on Unsplash https://unsplash.com/photos/tQNoMWOvhXs

    Mr.Habit Diary 2023 EP13 Champion's Mentality มันไม่มีหรอกคำว่า ล้มเหลว

    Play Episode Listen Later Apr 27, 2023 5:22


    วันที่ผมเขียนบทความนี้เป็นวันที่ซีซั่นของทีมมิลวอกี้ บัคส์ได้จบลงในการแข่งขันเพลย์ออฟรอบแรกให้กับทีมไมอามี่ ฮีตในเกมที่ 5 หลังจากจบเกมมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ยานนิส อันเททูคุมโปอดีตแชมป์และผู้เล่นระดับ MVP (Most Valuable Player) ว่าเขามองซีซั่นนี้เป็นซีซั่นที่ล้มเหลวรึเปล่า ถึงแม้ว่าพาทีมเป็นอันดับ 1 ในฝั่งตะวันออกแต่กลับตกรอบแรกให้กับทีมที่แข่งเพลย์อินมา หลังได้ฟังคำถามยานนิสก็ได้ถอนหายใจและตั้งคำถามกลับว่า “ทุกปีคุณได้เลื่อนขั้นรึเปล่า ไม่ แล้วแบบนี้คุณคิดว่าทุกปีที่คุณไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นปีที่ล้มเหลวหรือไม่?” หลังจากนั้นเขาได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทุกปีที่คุณทำงาน คุณทำงานด้วยเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการได้เลื่อนขั้นหรือเลี้ยงดูครอบครัว มีบ้านให้พวกเขาดูแลพ่อแม่ ทุกคนทำเพื่อเป้าหมายอะไรซักอย่าง มันเป็นขั้นตอนสู่ความสำเร็จ … ไม่เคิลจอร์แดนเล่นบาสมา 15 ปี เขาได้แชมป์ 6 ครั้งแล้ว 9 ปีที่เหลือนับเป็นความล้มเหลวหรอ” นักข่าวก็ตอบไม่ซึ่งสุดท้ายยานนิสเลยปิดด้วยคำกล่าวว่า “นั้นนะสิ ก็มันเป็นคำถามที่ผิด ในกีฬามันไม่มีคำว่าล้มเหลว มันมีวันที่ดีวันที่แย่ บางวันคุณประสบความสำเร็จบางวันไม่ตาของคุณบางวันไม่ใช่ และนั้นคือกีฬาเราไม่ได้ชนะเสมอ กลุ่มอื่นก็คงชนะบ้างและปีนี้ก็คงมีใครที่ได้ชัยชนะไป ซึ่งไม่ต่างกันปีหน้าพวกเราก็จะกลับมา พัฒนาขึ้น มีนิสัยที่ดีขึ้น เล่นดีขึ้น ไม่มี 10 วันจากการเล่นที่แย่ ซึ่งหวังว่าเราคงได้แชมป์ 50 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 71-21 ที่เราไม่ได้แชมป์เลยมันเป็น 50 ปีของความล้มเหลวหรอ ไม่! มันไม่ใช่ มันมีขั้นตอนเพื่อจะไปคว้าแชมป์ซึ่งเราก็สามารถได้แชมป์มาครั้งนึงหวังว่าเราทำได้อีกครั้ง” สำหรับผมมุมมองของยานนิสไม่ได้นำมาปรับใช้ได้แค่ในกีฬาแต่ก็สามารถปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ทุกคนมีเป้าหมาย เราอยากประสบความสำเร็จซึ่งความสำเร็จไม่ได้เห็นได้ทุกวัน บางทีเราต้องใช้เวลาพัฒนากว่าจะเริ่มเห็นแม้กระทั่งเงาของความสำเร็จ บางวันก็เป็นวันของคุณ บางวันก็ไม่ใช่ แต่คุณจะรอให้มีคำว่าแชมป์ มีคำว่าถึงเป้า มีคำว่าชนะหรอ ทุกอย่างมีขั้นตอนของมันอยู่ คำว่าล้มเหลวมันไม่มีหรอก ขอเสริมจากบทเรียนในหนังสือแค่นี้ก็ดีมากแล้วจากอาจารย์นภดล ร่มโพธิ์นะครับเรื่องความล้มเหลว เราจะล้มเหลวได้ต่อเมื่อเราไม่มีการเรียนรู้จากมัน ใช้โอกาสนี้หาบทเรียนและพัฒนาตัวเองต่อ ส่วนประกอบสำคัญถ้าคุณเราแยกออกมาดูทีละจุดนะครับ ความสำเร็จไม่ได้เห็นได้ทุกวัน ทุกอย่างใช้เวลาและมันมีขั้นตอนของมัน ไม่มีหรอกคำว่าล้มเหลว   Photo by Chris Greenhow on Unsplash https://unsplash.com/photos/3FjIywswHSk Source: https://youtu.be/jVPQDcAvPW4

    Mr.Habit Diary 2023 EP12 ข้อคิดจากหนังสือเด็กวัดดอน

    Play Episode Listen Later Apr 26, 2023 15:16


    เรื่องเด็กวัดดอนเป็นเรื่องราวของดร.นิเวศน์ที่เคยมีฐานะยากจนมาก่อนแต่ด้วยความขยัน การเอาตัวเองออกจากกรอบ การใฝ่รู้เล่าเรียน และการวางแผนเขาได้ไต่จากเด็กสลัมขึ้นไปเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีของประเทศไทย ที่อยากโตเพราะโดนเหยียดมาก่อน พ่อแม่ของดร.นิเวศน์เป็นผู้อพยพจากจีนมาเป็นคนงานก่อสร้าง คนจีนที่อพยพมาใช่ว่าทุกคนจะได้รับการปฏิบัติที่ดี จริงๆส่วนใหญ่โดนเหยียดด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีฐานะดีมาก่อนจะโตได้โอกาสแทบจะไม่มีเลย แต่ก่อนดร.นิเวศน์ไม่ได้มีชื่อนี้เขามีชื่อว่า เหงียน แซ่หว่อง ที่เปลี่ยนนามสกุลเพราะอยากมีนามสกุลไทย เขาอยากเป็นคนไทย แต่ด้วยนามสกุลใหม่ เหมวชิรวรากร ที่ยาวเฟื้อยก็โดนล้อเหมือนกันเพราะไม่มีคนไทยที่มีนามสกุลยาวอย่างนี้ ด้วยความที่ถูกเหยียดก็เป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เขาอยากโตขึ้น อยากเปลี่ยนสถานะ ซึ่งวิธีที่เขาเลือก เขาเลือกทำผ่านการศึกษา ไต่เต้าขึ้นมาได้เพราะการศึกษา ดร.นิเวศน์ถือเป็นคนที่เรียนดีส่วนใหญ่จะได้ที่ 1 ที่ 2 ตลอด พอเรียนดีเขาก็เริ่มได้รับโอกาสไปเรียนกับคนที่มีฐานะสูงกว่า (อีลีท) ได้เรียนที่เตรียมอุดม เรียนต่อที่มหาลัยจุฬาคณะวิศวะ การศึกษาทำให้เขาได้อยู่กับสังคมอีลีท วิธีคิดของเขาก็ได้รับอิทธิพลจากกลุ่มสังคมที่เข้าได้มาอยู่ด้วย ส่วนนึงของความสำเร็จด้านการศึกษาเป็นผลพลอยจากความขยันที่ได้รับมาจากพ่อแม่ แต่ดร.นิเวศน์เองก็เป็นคนที่ใฝ่รู้ คอยหาความรู้ให้ตัวเองเสมอซึ่งแน่นอนว่าไม่พ้นการอ่านหนังสือและความขยันเรียน ด้วยการเรียนดีนำพาเขามาสู้สังคมที่ดีโอกาสทางด้านการงานและรายได้ก็เลยตามมาด้วยเช่นกัน แต่จุดที่เปิดโลกและให้โอกาสเขามากที่สุดคือช่วงที่เขาได้ไปศึกษาต่อที่อเมริกา ทั้งเจอคู่ชีวิต เจอโลกภายนอก และพบแนวคิดเรื่อง Value Investing (VI) สมัยที่ประเทศไทยยังไม่รู้จำคำว่าวีไอเลย สิ่งนี้เขาเรียกมันว่าเมล็ดพันธุ์ทางปัญญา จุดด้อยกว่าก็มีเยอะแต่ถ้าได้เตรียมตัวเมื่อไหร่เราชนะแน่ ในชีวิตของดร.นิเวศน์เขามักเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเสมอ เขายอมรับว่าเขาเป็นคนที่พูดไม่เก่ง จะให้ไปโต้วาทีกับคนอื่นถือเป็นสนามที่เขายอมรับว่าด้อยกว่าคนอื่น แต่สิ่งที่เขาบอกเสมอคือถ้าเขาเลือกสนามแล้วและเขามีโอกาสได้เตรียมตัวเขาชนะแน่ๆ การที่ดร.นิเวศน์ลงทุนในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งนอกจากความจำเป็นที่ต้องหาวิธีอยู่ให้ได้เพราะถูกเชิญออก เขาก็เตรียมตัวมาอย่างดี วิเคราะห์เกมจนรู้ว่ายังไงเกมนี้เราชนะเป็นแน่ ไม่ว่ายังไงก็เตรียมตัวเองให้ดี อ่านเกมให้ออก เลือกเข้าเกมที่เราไม่มีวันแพ้ มุมมองแก้ว 3 ประการของการลงทุน แก้ว 3 ประการของการลงทุนประกอบไปด้วย เงินต้น ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน และระยะเวลา เงินต้นเราสามารถได้รับจากพ่อแม่ซึ่งสำหรับตัวดร.นิเวศน์เองก็ถือว่าแสงนี้ค่อนข้างลิบหลี่แต่อย่างน้อยเขาก็ทำงานหารายได้และเก็มออมเพื่อสะสมเงินต้นมาเรื่อยๆ ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนสำหรับดร.นิเวศน์ที่เป็นสาย Value Investing (VI) นั้นเขาเลือกที่จะลงทุนในหุ้นที่ดีในราคาที่เหมาะสม ยิ่งเป็นช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งเขายิ่งค้นพบหุ้นดีราคาถูกเต็มไปหมด ในระหว่างที่คนโลภเราต้องกลัว แต่ขณะที่คนกลัวเราต้องโลภ (ทั้งนี้ควรศึกษาก่อนการลงทุนเสมอนะ) ระยะเวลา ยิ่งมีเวลาเยอะยิ่งมีโอกาสที่เราจะได้เห็นผลตอบแทนของการลงทุนของเรา ถ้าเราเริ่มเร็วยิ่งดีแต่ก็ควรศึกษาว่าเราจะลงทุนอย่างไร สำหรับดร.นิเวศน์เองก็ถือว่าเขาเริ่มต้นช้าในอายุช่วงสี่สิบ แต่ทุกวันนี้ดร.นิเวศน์ก็ยังคงลงทุนอยู่ แถมยังรักษาสุขภาพเพื่อยืดเวลาในแก้วประการที่ 3 ของเขา แน่นอนว่าจะทำให้แก้วทั้ง 3 นี้ส่องแสงสว่างได้นั้นต้องมีทั้ง “โชค” และความ “พยายาม” เป็นเศรษฐีแต่ใช้ชีวิตแบบงกๆ เพราะความสุขไม่ได้อยู่ที่การใช้เงิน ถ้าลองมองชีวิตของมหาเศรษฐีคนนี้เราจะเห็นว่าเขาไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเลย บ้านก็ไม่ได้อยู่บ้านที่ใหญ่โตอะไร รถก็ไม่ได้ขับรถหรูๆ เขาเล่าว่าที่เขาใช้ชีวิตแบบงกๆนี้เป็นเพราะมันไม่มีความจำเป็น เขาไม่ได้ผูกความสุขไว้กับการใช้เงิน เขารู้ว่าความสุขของเขาอยู่ที่ไหน แถมนิสัยการเก็บออมก้เป็นนิสัยที่เขาได้มาแต่เด็กๆจากที่เป็นเด็กวัดดอนที่ยากจนมาก่อน แล้วทำไมเขาถึงยังลงทุนต่อละ? การลงทุนสำหรับเขาก็คือความสุข เขามีความสุขที่จะได้ทำ การได้เห็นพอร์ตของตัวเองโตก็สร้างความสุขเล็กๆให้เขาแล้ว เราทำสิ่งที่มันมีความหมาย มันสร้างความสุขให้เราแล้วการทำงานจะไม่เหมือนการทำงาน ความคิดจะเปลี่ยนได้เราต้องใฝ่รู้ (แถม เป็น extra) มุมมองต่างๆของดร.นิเวศน์นั้นได้มาจากการอ่านหนังสืออย่างเช่นเรื่องการเมืองที่แต่ก่อนเขาเป็นอนุรักษ์นิยมและเปลี่ยนเป็นเสรีนิยมซึ่งมันไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันแต่เป็นการเก็บความรู้เรื่อยๆจากการอ่าน การศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการเมือง ซึ่งนอกจากการอ่านแล้วเขาก็สะท้อนความคิดตัวเองเสมอซึ่งสามารถเห็นได้จากบทความต่างๆที่เขาเขียน นอกจากนั้นเขายังเริ่มศึกษาเรื่องยีนและพฤติกรรมมนุษย์ ซึ่งเขาสามารถนำมาปรับใช้เป็นมุมมองการลงทุนและอธิบายพฤติกรรมของเขาได้เช่นกัน ยีนของมนุษย์ต้องการที่จะ “อยู่รอด” และ “สืบพันธุ์” เพราะฉะนั้นธุรกิจที่ตอบสนอง 2 สิ่งนี้ได้ก็จะมีโอกาสเติบโต เช่นธุรกิจความงามที่ไม่มีวันตาย การแต่งตัวดี ดูแลตัวเองให้ดีเพราะต้องการดึงดูดเพศตรงข้าม Photo by Mathieu Stern on Unsplash https://unsplash.com/photos/1zO4O3Z0UJA Source: เด็กวัดดอน เล่าโดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เขียนโดย ชัชวนันท์ สันธิเดช #เด็กวัดดอน #ดร.นิเวศน์ #ลงทุนแบบวีไอ

    Mr.Habit Diary 2023 EP11 อยากสร้างแบรนด์ต้องฟัง ข้อคิดจากหนังสือ START WITH WHY

    Play Episode Listen Later Apr 25, 2023 9:50


    ข้อคิดจากหนังสือเรื่อง Start With Why ส่วนตัวรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่สนใจเรื่องการเป็นผู้นำและการตลาด การที่จะเราจะนำคนได้และสร้างฐานลูกค้าที่สนับสนุนเรา เราต้องมีเจตุจำนงที่ชัดเจนซึ่งมันเริ่มจากการตั้งคำถามว่า “ทำไม” 1) ธุรกิจที่มองแต่เป้าหมายจนลืมเจตุจำนงของตัวเอง การตั้งเป้าหมายสำคัญแน่นอนซึ่งถ้ามาดูเป้าหมายทางธุรกิจอย่างยอดขายและผลกำไร แทบธุรกิจนั้นก็ต้องนึกถึงตัวเลขเหล่านี้อยู่แล้ว แต่วิธีการที่จะไปสู่เป้าหมายนั้นก็ต่างกัน แต่ก่อนที่เราจะไปถึงวิธีการได้เราต้องเริ่มจากเจตุจำนง (Why) ของตัวผู้นำและธุรกิจก่อน เขายกตัวอย่างของผู้ผลิตรถยนต์ของอเมริกันและญี่ปุ่นที่แน่นอนว่าตัวสินค้า Final Product คือรถยนต์ (What) แต่พอผู้ผลิตชาวอเมริกันไปเยี่ยมชมการทำงานของคนญี่ปุ่นพบว่าวิธีการ (How) เขาช่างต่างกัน สำหรับชาวอเมริกันเขาต้องจ้างคนมาทุบประตูให้เข้าที่แต่ผู้ผลิตชาวญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องจ้างคนหรือซื้ออุปกรณ์มาทุบประตูนี้เลยเพราะมันถูกออกแบบมาแต่แรกแล้ว นี้คือตัวอย่างครับ ผลลัพท์หรือ Final Product (What) ที่เป็นรถยนต์นั้นเหมือนกันแต่วิธีการ (How) ผลิตนั้นต่างกันเพียงเพราะการตั้งโจทย์ (Why) คนญี่ปุ่นออกแบบการผลิตมาให้ประตูมันเข้าที่แต่แรก 2) ธุรกิจที่เจตุจำนงไม่ชัดย่อมขาดตัวตน Branding ลองนึกภาพคนที่ตัวตนไม่ชัดครับ เขาทำทุกอย่างแต่ไม่เด่นซักอย่าง พอพูดถึงเขาแล้วเราไม่สามารถโยงชื่อเขากับสิ่งใดสิ่งนึงได้เลย สิ่งนี้มันเริ่มจากการที่เจตุจำนงของเขาไม่ชัดเจน ซึ่งพอพูดถึงธุรกิจแล้วมันก็เปรียบเสมือนแบรนด์ดิ้ง ในปัจจุบันก็มีศัพท์อย่าง Personal แบรนด์ดิ้งเช่นกัน นึกภาพอย่าง Apple ที่เขาต้องการท้าทายสิ่งเก่าๆ ต้องการเปลี่ยนโลกด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ พอพูดถึง Apply ก็จะนึกถึง Innovation บ้าง Creativity บ้าง และ Branding ของคุณละคืออะไร เจตุจำนงของคุณคืออะไร? 3) สิ่งที่ธุรกิจทำทุกอย่างเป็นตัวบ่งบอกตัวตน Branding เมื่อเจตุจำนงของเราชัดเราก็จะสามารถเลือกได้ว่าสิ่งที่เราจะทำมันตรงต่อเจตุจำนงของเรารึเปล่า เพราะทุกสิ่งที่เราทำและพูด ลูกค้าเห็นหมด พนักงานในบริษัทก็เห็นหมด เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะทำและคำพูดที่เราจะเลือกต้องสอดคล้องไปกับเจตุจำนงและแบรนด์ดิ้งที่เราจะสร้างขึ้นมา 4) หาคนที่จะสร้างภาพในหัวเราให้เป็นจริง พอธุรกิจยิ่งโต ผู้นำก็จะเริ่มห่างจากลูกค้ามากขึ้น จากที่เป็นคนที่คอยคิดเองลุยเอง เขาต้องเริ่มขยับมาเป็นคนที่คอยคิด คอยตั้งคำถามและส่งต่อความคิดนี้ลงไปสู่ทีมที่จะช่วยลงมือให้ภาพนั้นเป็นจริง สิ่งที่องค์กรมักจะพลาดไปคือความคิดของผู้บริหารนั้นไม่ถูกส่งลงไปสู่ผู้ลงมือทำ ไม่ก็ผู้ลงมือทำไม่สามารถสร้างสิ่งที่ผู้บริหารต้องการได้ พอเป็นเช่นนั้นแบรนด์ดิ้งจะเริ่มถูกกระทบเพราะภาพที่ถูกส่งออกไปให้ลูกค้านั้นมันเริ่มไม่ชัดเจน 5) พอ Branding มันชัดผู้ติดตามก็จะมา ถ้าเจตุจำนงเราชัด แบรนด์ดิ้งเราชัดเราก็จะเริ่มสร้างผู้ติดตามที่เป็นอีกกระบอกเสียงให้เรา ในตลาดที่เราอยู่อาจมีผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการเดียวกับเราแต่ลูกค้าเลือกซื้อเราเพราะเขาเชื่อในเจตุจำนงของเรา เขาตามเราเพราะแบรนด์ดิ้งที่เราสร้าง แน่นอนว่ามีทั้งคนที่เห็นด้วยและคนที่ไม่เห็นด้วย สรุปแล้วการที่เราจะนำคนได้ เราต้องสร้างเจตุจำนงของเราโดยการตั้งโจทย์ให้ชัดว่าเราทำสิ่งนี้เพื่ออะไร เมื่อเจตุจำนง (Why) เราชัดมันจะเปรียบเสมือนเข็มทิศที่กำหนดเส้นทางที่เราเลือก (How) ผลลัพท์ (What) ผลลัพท์ที่ออกมา   Photo by Tim Bogdanov on Unsplash   https://unsplash.com/photos/4uojMEdcwI8   Source: Start with Why book by Simon Sinek https://youtu.be/u4ZoJKF_VuA

    Mr.Habit Diary 2023 EP10 7 สุดยอดนิสัยที่ทำให้ทุกวันดีขึ้นได้

    Play Episode Listen Later Apr 24, 2023 13:10


    7 สุดยอดนิสัยที่ทำให้ทุกวันดีขึ้นได้ ผมเริ่มพยายามสังเกตุตัวเองในวันที่ดีเราทำอะไร วันที่แย่เราขาดอะไรจนเริ่มเห็นธีมของการใช้ชีวิตที่ทำให้วันนึงกลายเป็นวันที่ดีได้ ธีมนั้นคือการดูแลตัวเอง สำหรับท่านที่อ่านอยู่ธีมของท่านอาจต่างกันไปขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละคน การนอน การดูแลตัวเองของผมเริ่มจากการที่เราได้พักผ่อนเต็มที่จากคืนก่อน ถ้าตื่นมาแล้วรู้สึกว่านอนเต็มที่เราจะสดชื่นมาก ถ้าวันไหนนอนไม่พอมันเป็นตัวแปลสำคัญอย่างนึงเลยที่ทำให้วันข้างหน้าเรา้ไม่ได้ทำสิ่งที่ต้องการ โดยเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ที่มีเพียง 48 ชม. เคยรู้สึกไหมครับว่าทำไมวันเสาร์อาทิตย์เราผ่านไปเร็วมากกยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย เพราะพอเรานอนไม่พอเมื่อคืนก่อนร่างกายก็จะบอกเองว่าเราควรพักซึ่งก็จะกินเวลาของเราไปจนเราไม่ได้ทำในสิ่งที่เราต้องการ การนอนให้เพียงพอสำหรับผมจึงเป็นการเตรียมตัวตัวเองที่ดีที่สุดเพื่อให้เราได้ทำสิ่งที่เราต้องการในแต่ละวัน การดูแลผิวกาย หลังจากนั้นคือการดูแลผิวตัวเอง บางวันตื่นมาถ้าไม่ได้อาบน้ำล้างหน้าจะรู้สึกไม่อยากทำอะไร อยากเปื่อยอยู่ในห้องนอน การลุกจากเตียงไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาและดูแลผิวของเราทำให้ผมรู้สึกกล้าที่จะไปเจอคนข้างนอก มันเหมือนบอกสมองว่าเราเป็นคนที่รักความสะอาด การใช้พวกสกินแคร์บำรุงผิวก็บอกว่าเราเป็นคนที่ชอบดูแลตัวเองสร้างวงจรสะท้อนที่ดีให้ตัวเองอย่างต่อเนื่องนั้นคือ เราอยากดูแลตัวเอง > เราอาบน้ำใช้สกินแคร์ > เรารู้สึกสะอาดมีความมั่นใจขึ้น > เราเลยอยากดูแลตัวเองไปเรื่อยๆ การออกกำลังกาย นอกจากนั้นคือการออกกำลังกาย ผมเลือกที่จะออกกำลังกายหลังจากได้ตื่นเช้าเพราะถือเป็นกิจกรรมที่ใช้ความตั้งใจและวินัยที่สูง จะลากตัวเองไปออกกำลังกายได้ก็ถือว่าภูมิใจในตัวเองมากแล้วเพราะมันเป็นจุดที่ยากที่สุดสำหรับผม อย่างน้อยถ้าเราได้ Show Up เราได้ออกกำลังกายแน่ๆ ประเด็นคือจะทำอย่างไรให้ Show Up ละ หลังจากได้สังเกตุตัวเองว่าถ้าปล่อยให้ตัวเองไปออกกำลังกายช่วงเย็นข้ออ้างจากความขี้เกียจมันจะเริ่มดึงเราออกนอกทาง ทำงานเยอะเหนื่อยแล้ว ผมเลยเลือกออกกำลังกายตอนเช้า แน่นอนว่าถ้าเราได้ออกกำลังกาย กิจกรรมนี้มันส่งสัญญาณไปบอกสมองว่าเราเป็นคนที่ชอบดูแลตัวเองนะ ถือว่าเป็นการพัฒนาวงจรเสริมตัวตนที่เราอยากดูแลตัวเองไปอีกขั้น การอ่านหนังสือ (โดยเฉพาะในหัวข้อที่ชอบ) การอ่านหนังสือแน่นอนว่าเป็นการเสริมความรู้ให้ตัวเอง แต่จุดที่หลายคนพลาดคือเลือก “หนังสือที่เราควรอ่าน” แทน “หนังสือที่เราชอบอ่าน” ง่ายๆคืออย่าฝืนครับ ถ้าจะอ่านหนังสือแล้วไม่จำเป็นต้องไปตามคนอื่น เลือกหัวข้อที่เราอยากได้ความรู้ดีกว่า วิธีที่จะทำให้เราไม่ล้มเลิกที่ดีที่สุดอย่างนึงคือเลือกทำสิ่งที่ตัวเองชอบ ถ้าให้เลือกสิ่งที่มีประโยชน์กับสิ่งที่ชอบยังไงเราก็เอียงไปทางสิ่งที่เราชอบอยู่แล้ว ถ้าสิ่งที่เราชอบมันมีประโยชน์ต่อเราด้วยการอ่านหนังสือของเราก็จะยิ่งสนุกน่าทำไปอย่างต่อเนื่อง อย่าลืมนะว่าถ้าคุณอ่านหนังสือเล่มไหนแล้วไม่ถูกใจ เราไม่ต้องฝืนอ่านให้จบก็ได้ เราเอาเวลาไปเลือกอ่านหัวข้ออื่นที่เราสนใจอย่างแท้จริงดีกว่า ถ้าไม่ชอบอ่านหนังสือเราหาวิธีอื่นที่จะเรียนรู้อย่างฟัง Podcast ดู Video ก็ได้นะ ได้อยู่กับคนที่เรารัก (รวมถึงสัตว์เลี้ยง) การได้อยู่กับครอบครัว กับเพื่อน กับคนรัก หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยงก็สามารถเติมเต็มหัวใจของเราได้ การที่เราได้เล่าเรื่องราวโดยที่มีคนรับฟังแลกเปลี่ยนก็ได้ฟื้นฟูจิตใจจากวันๆนึงที่ช่างเหนื่อยล้า แต่เราก็ต้องเลือกว่าเราจะให้เวลากับใคร ถือเป็นข้อเตือนใจว่าถึงแม้เราให้เวลากับตัวเองแล้ว อย่าลืมให้เวลากับคนที่เรารักด้วย ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ หลายทีเราตื่นมาโดยที่เราไม่ได้เลือกทำสิ่งที่เราอยากทำเลยเพราะมีสิ่งที่คนอื่นต้องการให้เราทำรอคิวอยู่ ไม่ว่าจะมาจากเรื่องงานหรือภารกิจจากที่บ้าน ถ้าเราจมไปกับความต้องการของคนอื่นจนไม่ได้ทำอะไรให้ตัวเองเลยเราก็จะเสียกำลังใจ เราเลือกแบ่งเวลาในแต่ละวันทำสิ่งที่ตัวเองชอบบ้างก็ได้ ให้รางวัลตัวเองที่ทำวันนี้เพื่อตัวเอง แต่ละวันเราเจออะไรมาบ้าง เราก็ควรอ่อนโยนให้กำลังใจตัวเองให้เป็นเสมอ แต่ละคนก็จะมีวิธีให้รางวัลตัวเองต่างกันไป สำหรับผมได้กินอาหารจานอร่อยก็ถือเป็นการที่เราเติมเต็มพลัง (แต่ก็ให้รางวัลตัวเองเกือบทุกมื้อเลยนะ) แล้วคุณละวันนี้เราได้ให้รางวัลตัวเองบ้างรึยัง หลังอ่านบทความนี้เพื่อนๆลองสังเกตุตัวเองดูนะครับว่าอะไรที่เราทำในแต่ละวันแล้วทำให้เรารู้สึกดีบ้าง ถ้าวันนี้ยังรู้สึกว่ามันไม่ดีพอเราลองสังเกตุตัวเองดูไหมว่าเราขาดอะไรไป แต่ก็อย่าลืมว่าอย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ทำอะไรก็ต้องรู้จักอ่อนโยนกับตัวเองนะครับ Photo by Priscilla Du Preez on Unsplash https://unsplash.com/photos/vOeB66Yoriw #MrHabit #MrHabitDiary #สร้างนิสัย

    Mr Habit Diary 2023 EP9 ข้อคิดจาก Ego is the Enemy โดยคุณ Ryan Holiday

    Play Episode Listen Later Apr 23, 2023 9:02


    Ego is the enemy ข้อคิดจากหนังสือเรื่อง Ego is the Enemy ถ้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้เร็วกว่านี้คงดี อีโก้เป็นศัตรูที่ทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมายและมันอยู่ใน 3 ช่วงในชีวิตของเรา ช่วงที่เรากำลังไต่ต้าวขึ้นไปสู่ความสำเร็จ ช่วงที่ได้ลิ้มรสความสำเร็จ ช่วงแห่งความผิดหวัง ช่วงแรกคือช่วงก่อนที่เราจะได้รับความสำเร็จ ถ้าเรามีอีโก้เราจะคิดว่าตัวเองพิเศษ เราเจ๋ง แต่นั้นคือภาพในหัวของเรา มันมีคำพูดที่มีเสียง คำพูดที่ไม่มีน้ำหนักเพราะขาดการกระทำ ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต้องสังเกตุตัวเองว่าเราอยู่แต่ในหัวตัวเองรึเปล่า เราได้เริ่มลงมือทำรึยังและที่สำคัญอย่าเป็นน้ำเต็มแก้ว เราต้องรู้จักเรียนรู้จากการเดินตามเส้นทางของเรา แต่พอเดินไปเรื่อยๆอีโก้ก็จะวางกับดักเพื่อระหว่างเส้นทางของเรา มันพยายามพาเราออกจากเส้นทางด้วยสิ่งที่เรียกว่าชื่อเสียงเงินตรา สิ่งที่จับต้องได้และมัน Instantly Gratifying พอได้รับก็รู้สึกพอใจทันที เราจึงต้องมองภาพใหญ่เสมอว่าเป้าหมายเราคืออะไร เรากำลังเดินตามเส้นทางของเราหรือไม่ หรือว่าเรากำลังถูกดึงให้ออกนอกเส้นทาง ช่วงที่สองคือช่วงที่เราได้พบความสำเร็จแต่หารู้ไหมว่าเราก็ต้องเดินต่อไป เราจะหยุดอยู่ที่เดิมหรือเราจะเดินต่อไป พอเราเริ่มประสบความสำเร็จอีโก้ก็จะกลับมา มาย้ำว่าเรานั้นเก่งแค่ไหน เริ่มสร้างเรื่องราวในหัวที่ดูเลิศเลอ แต่เราต้องมีสติและนอบน้อมถ่อมตนอย่าให้อีโก้ดึงเราลงไป หลายทีที่พอเราสำเร็จแล้วเราคึกติดกับอีโก้ทำให้เรามั่นใจในตัวเองมากไปพาเราจบดิ่งลงไปสู่ความล้มเหลว ความสำเร็จวันนี้ไม่ได้แปลว่าเราจะสามารถใช้สูตรเดียวกันเพื่อสร้างความสำเร็จในวันข้างหน้าได้ เพราะฉะนั้นเราต้องเรียนรู้ใหม่เสมอ อย่ายึดติดกับความสำเร็จในอดีต ช่วงที่สามคือช่วงของความผิดหวังเมื่อเราไม่ประสบความสำเร็จตามที่เราต้องการ อีโก้ก็เข้ามากระซิบบอกว่าไม่ใช่ความผิดเรา โลกมันไม่แฟร์ มันทำให้เราไม่ยอมรับความจริง ปิดการเรียนรู้ที่เราจะได้พัฒนาตัวเอง เราต้องเริ่มจากการยอมรับผลลัพท์ที่เกิดขึ้นและหาทางก้าวต่อไป ที่ต้องระวังอย่างมากคือการฝืนไปต่อไม่รู้จักหยุด เราต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ที่เราต้องหยุดแล้วเปลี่ยนเส้นทางของเราและเมื่อไหร่ที่ต้องเดินต่อ การที่เรายึดติดกับความคิดและตัวตนของเรามากไปเป็นหนึ่งในกับดักที่อีโก้จะดึงเราจมดิ่งตามเรือที่เราอยู่เพียงเพราะเราไม่รู้ว่าตอนไหนต้องสละเรือเพื่อไปต่อ นอกจากนั้นเราต้องมีระบบการวัดผลที่เป็นตัวชี้นำของเราเอง สร้างมาตราฐานที่สูงจะได้ไม่ต้องคอยเดินตามมาตราฐานที่คนอื่นตั้งไว้ เพราะแน่นอนว่าอีโก้ชอบการเปรียบเทียบ ชอบชื่อเสียงเงินตราที่จับต้องได้ Photo by Milan Popovic on Unsplash https://unsplash.com/photos/Zf0-90SpDD0 Source: Ego is the enemy book by Ryan Holiday #EgoIsTheEnemy #RyanHoliday #สรุปหนังสือ #ข้อคิด #อีโก้

    Mr Habit Diary 2023 EP8 ข้อคิดจากหนังสือ เมื่อแมวที่บ้านคุณผันตัวมาเป็นไลฟ์โค้ช

    Play Episode Listen Later Apr 22, 2023 9:21


    อยากนำเรื่องนี้มาแชร์ซักพักหลังจากได้อ่านจบ เป็นหนังสือที่คนเลี้ยงแมวอยู่แล้วต้องนึกตามได้เป็นแน่ สำหรับใครที่ไม่ได้เลี้ยงแมวอยากให้ลองสังเกตุแมวใกล้ตัวคุณว่าพฤติกรรมของมันนั้นเป็นอย่างไร เราสามารถเรียนรู้การใช้ชีวิตโดยการวิเคราะห์เจ้าเหมียวได้ไหม   Authentic แมวเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างซื่อตรงกับตัวเอง มีความเป็นตัวเองสูง ไม่ชอบอะไรก็แสดงออกชัดเจน ชอบอะไรก็เข้าหาโดยไม่ยอมแพ้ ลองสังเกตุเจ้าเหมียวของคุณสิครับ เวลาเปลี่ยนอาหารให้มันถ้ามันไม่ชอบมันจะไม่กินเลย ส่วนเวลาจะลูปมันถ้าไม่ใช่จังหวะที่มันต้องการมันก็จะโชว์กรงเล็บเตรียมตัวเราทันที ถ้ามันรู้สึกไม่สบายใจมันก็จะหนีไปอยู่ในจุดซ่อนตัวที่มันรู้สึกสงบและปลอดภัย ส่วนตัวนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องแบกรับสิ่งที่ไม่ชอบก็ได้ ถ้าชอบก็เข้าหา ถ้าไม่ชอบก็ปฎิเสธ รู้จักคำว่าไม่ เป็นตัวของตัวเอง ง่ายๆ “อย่าฝืน!”   ความ Authentic นี้นำพามาสู่ความมีสเน่ห์แมวรู้ว่ามันเป็นอะไรและรู้ว่ามันไม่ใช่อะไร ถึงแม้แมวไม่ใช่เจ้าป่าอย่างสิงโตแต่มันก็เดินอย่างสง่า อยากเอาตัวไปโดนขาใครก็ทำ (สำหรับเคสนี้ถ้าไปรบกวนคนอื่นก็ไม่ควรนะ) แต่ คนที่รักแมวรักมันเพราะความที่มันเป็นตัวของมันเองไม่จำเป็นต้องเสแสร้งทำตัวเป็นคนอื่น   การที่เราซื่อตรงกับตัวเองทำให้เราไม่ต้องมากังวลว่าเราเป็นคนจอมปลอมรึเปล่า ซึ่งสิ่งนี้ผมขอดึงเรื่อง Cognitive Dissonance เข้ามาด้วยนั้นคือการที่เราไม่สบายใจเวลาเราพูดอย่างนึงแต่ทำอีกอย่าง การที่เราซื่อตรงกับตัวเอง เราไม่โกหกตัวเองและคนอื่นทำให้เราไม่ต้องมาแบกรับภาระว่าเราได้ทำในสิ่งที่เราโม้หรือโกหกไปรึเปล่า   การจะใช้ชีวิตอย่างซื่อตรงกับตัวเองอย่างเจ้าเหมียวได้เราลองสังเกตุครับว่าแมวมันไม่แคร์ว่าคนอื่นหรือแมวตัวอื่นคิดยังไงกับมัน ผมรู้สึกว่าพวกเรา(โดยเฉพาะตัวผมเอง)คิดเยอะ แคร์คนอื่นเยอะ กลัวเราจะดูไม่ดี พยายามทำให้ทุกคนชอบเรา แต่ไม่มีทางเลยครับที่เราจะเป็นที่รักของทุกคน ความคิดแต่ละคนก็ต่างกันแล้ว แมวเราไม่มานั่งส่องกระจกแคร์หน้าตาการแต่งกายของมันหรอก มันเอาตัวไปคลุกดินคลุกฝุ่นใช้ชีวิตของมันกลับมามันก็มาเลียขนทำความสะอาดและกลับไปใช้ชีวิตอย่างเดิมวนไป   อีกอย่างคือมันไม่เก็บเรื่องในอดีตมาคิด ชอบที่ผู้แปลเขาใช้คำนี้ “แล้วทุกอย่างจะผ่านไป” มนุษย์เราชอบเก็บเรื่องที่ผ่านไปแล้วมาคิดกังวลทำให้วันดีๆข้างหน้าผ่านไป พอนึกไปบางทีเราก็มานั่งระบายให้แมวฟังเหมือนผู้เขียนโดยที่แมวเราก็จ้องเราพร้อมที่จะรับฟัง ในสายตามันคงบอกให้เราพักบ้างอย่าเก็บเรื่องราวในอดีตมาคิดเลย มาพักอย่างสงบและอยู่กับปัจจุบันดีกว่า   #MrHabit #ใช้ชีวิตแบบแมว #แมว #ไลฟ์โค้ช #WeLearn #วีเลิร์น

    Mr.Habit Diary 2023 EP5 เล่าประสบการณ์สร้างนิสัยการอ่านหนังสือ

    Play Episode Listen Later Mar 12, 2023 6:07


    Mr.Habit Diary 2023 EP5 เล่าประสบการณ์สร้างนิสัยการอ่านหนังสือ วันนี้อยากมาเล่าประสบการณ์การกลับมาสร้างนิสัยการอ่านหนังสือของตัวเองครับ ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ ทุกครั้งที่อ่านรู้สึกว่าเราสงบ เราได้อยู่กับตัวเองแต่เราก็กลับห่างหายจากการอ่านไปนาน การกลับมาครั้งนี้เริ่มจากการที่เราได้ใช้วันลาไปเที่ยวต่างประเทศและพกหนังสือติดตัวที่ได้เริ่มอ่านระหว่างเดินทาง มันทำให้เราได้กลับมา Connect กับการอ่านใหม่อีกครั้งและอยากทำให้เป็นนิสัยครับ วิธีที่ผมตั้งคือการตั้งเป้าหมายอ่านวันละบท ฟังดูแล้วความยากง่ายก็ขึ้นอยู่กับตัวหนังสือด้วยว่าเราอ่านเล่มไหน แต่ผมตั้งเป้าหมายนี้เพราะอยากให้มันทำง่าย ทำได้ทุกวัน หนังสือที่ผมอ่านอยู่ชื่อ Ego is the enemy โดยคุณ Ryan Holiday ที่มีหลายบท แต่ละบทมีความยาว 5-10 หน้าถือว่าใช้เวลาวันละ 5-10 นาทีก็ทำได้ ผมเลยเริ่มพกหนังสือเล่มนี้ติดตัวหลังจากกลับมาทำงานโดยจะอ่านเน้นไปช่วงที่เดินทางบนรถไฟฟ้า BTS ครับ อีกข้อที่ผมทำคือ 2 Days Rules นั้นคือการที่เราพลาดได้ แต่อย่าพลาดติดต่อกัน 2 วันนะ ข้อนี้มีไว้เพื่อให้เราไม่กดดันตัวเองมากไปและเน้นไปที่คุณภาพ ผมไม่อยากบีบบังคับตัวเองให้ทำบางอย่างแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ปกติเราชอบทำครับ เพราะถ้าเราไปกดดันตัวเองตลอดเดี๋ยวเราจะเกลียดสิ่งนั้นเอา ผมอยากให้การอ่านของผมเป็นสิ่งที่ทำให้ผมสงบเสมอไม่ใช่อ่านเพราะเรากังวลใจไม่ได้อ่าน สุดท้ายการอ่านหนังสือก็ช่วยให้ผมมีข้อคิดมาแชร์ให้ผู้ฟัง Podcast กับผู้ที่ตาม Blog ของผม มันเลยเป็นแรงบันดาลใจอีกแรงที่ช่วยให้ผมได้อ่านต่อไปเรื่อยๆ อ่านเสร็จ 1 บทก็จะพยายามสรุปให้ออกมาเป็นคำพูดความเข้าใจของตัวเอง พร้อมกับโยงประสบการณ์เก่าๆมาชวนคุยทำให้ได้เรียนรู้แบบ Active Learning นะครับ และการที่เรามาแชร์กับผู้ฟังกับผู้ติดตามต่อก็เป็นการที่ผมได้เรียนรู้สิ่งนี้อีกรอบด้วย ก็ต้องขอบคุณทางผู้ฟังและผู้ติดตาม Page Mr.Habit Diary ต่อเรื่อยๆเช่นกันครับ   Photo by Thought Catalog on Unsplash https://unsplash.com/photos/mmWqrsjZ4Lw   #สร้างนิสัย #อ่านหนังสือ #Mr.Habit #Mr.HabitDiary

    Mr.Habit Diary 2023 EP4 สร้างระบบพิชิตนิสัย

    Play Episode Listen Later Jan 13, 2023 3:51


    ในวันที่ที่เราท้อเรามักย้อนกลับไปเลือกสิ่งที่มัน Instantly Gratifying นั้นก็คือสิ่งที่มันทำแล้วรู้สึกดีและเห็นผลทันที สิ่งเหล่านั้นอาจให้ความรู้สึกที่ดีได้ชั่วคราวแต่หลังจากนั้นหละ หลายๆทีพฤติกรรมที่เราอยากสร้างมันไม่เห็นผลทันทีและเราจะมามัวแต่คาดหวังต่อแรงบันดาลใจไม่ได้ เราเลยต้องสร้างระบบเพื่อที่มาพิชิตนิสัยของเรา   ระบบพิชิตนิสัยนั้นมี 3 องค์ประกอบนั้นคือ 1) สถานการณ์ที่เราเจอ CUE 2) พฤติกรรมที่เราจะทำ ROUTINE 3) ตัวตนที่เราอยากจะสร้าง IDENTITY   เราต้องสร้างระบบที่บอกสมองว่าเราอยากจะทำอะไรเมื่อเจอสถานการณ์ไหนและพฤติกรรมที่เราเลือกมันตรงกับตัวตนที่เราอยากสร้างหรือไม่   วิธีนี้ต้องใช้เวลาสังเกตุตัวเองมากๆว่าเราเจอสถานการณ์อะไรบ้าง สถานการณ์นั้นกระตุ้นให้เราทำอะไร เราสามารถเลือกพฤติกรรมของตัวเองได้ไหม   Source: Atomic Habits book by James Clear Credit: Photo by Thom Milkovic https://unsplash.com/photos/Q8yB-29GNTs   #สร้างนิสัย #JamesClear #AtomicHabits #MrHabitDiary #Productivity

    Mr.Habit Diary 2023 EP3 ความเชื่อผิดๆในการสร้างนิสัย

    Play Episode Listen Later Jan 7, 2023 5:38


    หลายคนน่าจะเคยได้ยินว่าสร้างนิสัยมันใช้เวลา 21 วัน แต่มันจริงหรอ? บางที่บอก 30 วัน บางที่บอก 90 วัน   คำตอบว่าจะกี่วันนิสัยถึงจะเกิดมันขึ้นอยู่กับตัวคนและตัวนิสัยที่จะสร้างครับ เพราะฉะนั้นมันไม่มีหรอก Magic Number ว่าต้องทำกี่วันนิสัยถึงจะเกิด แถมนิสัยมันต้องทำตลอดนะ ถ้าวันนึงคุณเลิกทำไปนิสัยใหม่ๆก็จะมาทดแทนนิสัยเก่าๆ เราต้องสร้าง Progress เรื่อยๆ   ถ้าคุณยังเชื่ออยู่ว่านิสัยต้องใช้กี่วันถึงจะทำสำเร็จคุณอาจจะตกอยู่ใน Myth of vertical progress ซึ่งเปรียบเสมือนการสร้างตึกสูงในเกม Jenga วันนึงที่เราทำสำเร็จเรามองว่าเราได้ขยับขึ้นไปชั้นนึงแต่ในเกม Jenga ตึกยิ่งสูงมันก็ยิ่ง Unstable ทำให้ยิ่งล้มง่าย นี้เป็นการเปรียบเทียบว่าถ้าคุณพลาดเมื่อไหร่ตึกมันจะถล่มทันทีทำให้การมองนิสัยว่าต้องทำกี่วันนิสัยถึงจะเกิดเป็นการกดดันตัวเองเลย ถ้าไปถึงแล้วนิสัยไม่เกิดหละ ถ้าไปไม่ถึงหละ?   เราลองเปลี่ยนมามองนิสัยเป็นเหมือนการสร้างเส้นทางของเราแทนไหม จุดหมายปลาดทางสามารถไปได้หลายเส้นทาง บางวันคุณจะเริ่มสังเกตุว่าเส้นทางที่คุณเดินอยู่มันเริ่มไม่เหมาะกับคุณแล้ว คุณต้องเริ่มสร้างเส้นทางใหม่ ต้องตัดหญ้าตัดไม้ปูพื้นวางอิฐ ยิ่งคุณทำไปเรื่อยๆเส้นทางมันยิ่งเดินสะดวกสบายมากขึ้น วันไหนคุณไม่ทำหญ้ากับไม้ก็อาจโตแต่เส้นทางที่คุณสร้างมันก็ยังอยู่แค่ต้องตัดหญ้าตัดไม้นิดหน่อยคุณก็จะเจอทางเดินที่คุณได้สร้างมันไว้แล้ว   Source: The biggest habit building mistake https://youtu.be/B-d79DtMTiE Credit: Photo by Michał Parzuchowski https://unsplash.com/photos/geNNFqfvw48   #MrHabit #MrHabitDiary #ข้อคิด #ปีใหม่ #สร้างนิสัย  

    Mr.Habit Diary 2023 EP2 4 คำถาม ที่จะทำให้ปีใหม่ของคุณเปลี่ยนไป

    Play Episode Listen Later Jan 6, 2023 5:22


    สำหรับใครที่ยังไม่ได้ตั้ง New Year Resolution ผมอยากให้ลองถามคำถาม 4 ข้อนี้กับตัวเองครับ   #1 มีอะไรที่เราอยากทำมากบ้าง   สิ่งที่คุณทำอยู่แล้ว คุณแค่อยากทำมันมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการทำมันถี่ขึ้น นานขึ้น หรือ Intense ขึ้น อยากออกกำลังกาย อยากอ่านหนังสือ อยากนอนพักผ่อน   #2 มีอะไรที่เราอยากทำน้อยลงบ้าง   สิ่งที่คุณทำอยู่แล้วแต่คุณอยากจะลดมันลงไป มันเป็นสิ่งที่คุณยังตัดขาดไม่ได้แต่ถ้าอย่างน้อยลดได้บ้างก็ดี อย่างเช่นการเล่นโทรศัพท์ ใช้ Social Media ก็เราไม่ได้อยากตัดขาดจาก Social นี้แต่เราไม่อยากใช้เวลากับมันมากไป   #3 มีอะไรที่เราอยากเริ่มทำบ้าง   สิ่งที่คุณไม่เคยทำมาก่อนหรือไม่ได้ทำมานานมากแล้วแล้วคุณอยากจะเริ่มต้นทำมัน   #4 มีอะไรที่เราอยากเลิกทำบ้าง   สิ่งที่คุณทำอยู่แล้วคุณอยากตัดมันทิ้งไปเลย การสูบบุหรี่ นิสัยแย่ๆทั้งหลายที่อยากเลิก   Bonus: บางทีเราไม่ต้องเพิ่มหรือลดก็ได้ แค่ทำเหมือนเดิมจากที่เคยทำก็ถือเป็นตัวเลือกเหมือนกัน   Source: 4 Ways To Change Your Life in 2023 | Jim Kwik https://www.youtube.com/watch?v=w5yspRqB2w8 Credit: Photo by Towfiqu barbhuiya https://unsplash.com/photos/oZuBNC-6E2s   #MrHabit #MrHabitDiary #ข้อคิด #ปีใหม่ #สร้างนิสัย

    Mr.Habit Diary 2023 EP1 กฎ 5 ข้อที่ทำให้ New Year Resolution ของคุณสำเร็จ

    Play Episode Listen Later Jan 1, 2023 15:16


    ช่วงปีใหม่แน่นอนว่ามาคู่กับ New Year Resolution ครับ แต่ผมขอถามถึงปีที่แล้วว่า New Year Resolution 2022 ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง คุณได้ทำมันสำเร็จรึเปล่า ปีนี้เราจะทำให้มันดีกว่าเดิมได้ไหม?   นี้คือ กฎ 5 ข้อที่ทำให้ New Year Resolution ของคุณสำเร็จในปีนี้ครับ   #1 คอยสังเกตุความเครียดของตัวเอง   ส่วนใหญ่ที่เราไปทำสิ่งที่เราไม่ควรทำมันเพราะเราเครียด พอเราเครียดเราเริ่มถามหาสิ่งที่สร้างความสุขให้เราทันทีแต่ความสุขนั้นอาจไม่ได้สร้างประโยชน์ให้เราในระยะยาว เราสามารถจัดการความเครียดของเราได้ดีแค่ไหน เรานอนพอไหม ได้ออกกำลังกายรึเปล่า เราได้ใช้เวลากับตัวเองเพื่อทำความเข้าใจกับตัวเองแค่ไหน   #2 รู้จักสังเกตุ CUE ของตัวเอง   ใน Habit Loop ประกอบไปด้วย CUE - ROUTINE - REWARD Cue คือจุดที่บอกเราให้เริ่มทำ Routine เพื่อที่จะได้รับ Reward แปลว่าถ้าเราสามารถรู้ว่า Cue ของเราคืออะไรเราสามารถทำสิ่งที่เราอยากทำได้มากขึ้นโดยการเพิ่ม Cue ของเราหรือทำสิ่งที่เราอยากเลี่ยงให้น้อยลงโดยการตัด Cue นั้นๆ เช่นถ้าอยากออกกำลังกายมากขึ้นลองเอารองเท้ากีฬามาไว้ข้างเตียงให้เราได้เห็นตอนตื่น จัดเสื้อผ้าออกกำลังกายตั้งแต่ก่อนนอน ถ้าเราอยากเลิกกินขนมก็อย่าซื้อขนมมาไว้ในบ้านแต่แรก   #3 เลิกโฟกัสกับการเลิกทำนิสัย ให้ไปโฟกัสกับการทำนิสัยที่จะมาทดแทนนิสัยเก่า   เวลาเราบอกตัวเองให้เลิกทำอะไร สุดท้ายสมองเรายังรับรู้ถึงสิ่งนั้นเสมอ เช่นเลิกสูบบุหรี่ สมองเรายังรับรู้ถึงการสูบุหรี่อยู่ มันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่นิสัยไม่สามารถเลิกได้แบบ 100% แต่เราสามารถหานิสัยใหม่ๆมาทดแทนนิสัยเก่าได้ สมองเรามัน Action-oriented แทนที่เราจะโฟกัสว่าเลิกทำอะไร เราหา Action ใหม่ให้มันทำดีกว่า ทุกครั้งที่เรารู้สึกอยากสูบบุหรี่ ให้บอกตัวเองว่าเราจะทำ_____    #4 คุณต้องมีเหตุผลที่ดีกว่านี้ในการเปลี่ยนแปลง   การทดแทนนิสัยจากกฎข้อ 3 อย่างเดียวไม่พอเพราะ Reward ของนิสัยเก่าอาจดีกว่า Reward ที่นิสัยใหม่ให้ เราต้องหาเหตุผลที่สำคัญพอที่จะทำให้เราเลือกทำนิสัยใหม่ของเรา การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้เมื่อความเจ็บปวดในการอยู่ที่เดิมมันมากกว่าการเจ็บปวดในการเปลี่ยนแปลง ตัวเราไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงแต่ถ้าเราให้เหตุผลที่มากพอเราจะเริ่มรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเรามัวแต่อยู่ที่เดิม   #5 Will power อย่างเดียวไม่พอ   Will power เหมือนกล้ามเนื้อ ถ้าเราใช้มันมากๆมันก็จะอ่อนล้า เราต้องจัดการตัวเองโดยการกลับมาถามว่า เป้าหมายของเรา Goal ของเรามันทำได้จริงไหม มันยั่งยืนไหม และเราตั้ง Goal เยอะไปรึเปล่า เราลองตั้ง Goal ที่อาจไม่ใหญ่มากแต่ทำได้ต่อเนื่อง ไม่ยากเกินไปจนทำไม่ได้ แต่ไม่ง่ายเกินไปที่มันน่าเบื่อ เริ่มจากอะไรเล็กๆที่ยั่งยืนดีกว่า   แถม Technique เตือนใจ   Technique นี้คือการถามตัวเองว่าจะทำ _____ หรือไม่ทำ คำตอบมีแค่นั้นเลยครับ "ทำ" กับ "ไม่ทำ" ที่เราถามตัวเองแบบนี้เพราะเราพยายามปิดโอกาสที่เราจะให้ข้ออ้างที่มักจะมพร้อมกับคำถามปลายเปิด เรายังใช้คำถามนี้เป็นการเตือนใจตัวเองว่าเราอยากเป็นคำแบบไหนกันแน่   สำหรับปีใหม่นี้ Goal ของคุณคืออะไร? คุณจะทำมันไหม?   Source: SPECIAL: 5 Scientific Rules for Making & Breaking Habits in 2023! | E208 https://www.youtube.com/watch?v=v9VtjcRaRWc&t=2128s Credit: Photo by Aakash Dhage https://unsplash.com/photos/jaacHOkToDA   #MrHabit #MrHabitDiary #ข้อคิด #ปีใหม่ #สร้างนิสัย

    Mr.Habit Diary 2022 EP9 จัดการเวลายังไงเพื่อใช้ชีวิตให้สุด

    Play Episode Listen Later Dec 2, 2022 5:40


    ถ้าพูดถึงเรื่องเวลาคุณเคยสังเกตุไหมว่ามีทั้งช่วงที่เวลาผ่านไปเร็วและช่วงที่เวลาผ่านไปช้า   *Episode นี้ขอให้เครดิตหนังสือ"พลังพลิกชีวิตของกิจวัตรยามเย็น"เต็มๆนะครับ*   ช่วงที่เวลาผ่านไปช้าเป็นช่วงที่เราจดจ่อกับมันเช่นตอนออกกำลังกายอย่างท่า Plank หรือเวลาต้มมาม่า เวลาจะค่อยๆผ่านไป แต่ก็มีช่วงเวลาที่ผ่านไปเร็วมากจนเรามาถามตัวเองอีกทีว่านี้ผ่านมาขนาดนี้แล้วหรอ ยังไม่ทันทำอะไรเลย   ใน Episode นี้ผมอยากพูดถึงปัญหาที่ว่าเวลาผ่านไปจนเรารู้สึกเสียดายครับ   การที่เราจะจัดการเวลาตัวเองได้เราต้องรู้ก่อนว่าในแต่หละวัน เราทำอะไรบ้าง เราใช้เวลากับมันมากน้อยแค่ไหน ฟังดูแล้วอาจละเอียดไปแต่ถ้าเราได้เห็นภาพว่าวันนึงเราใช้เวลาไปกับอะไร เราก็สามารถมองหา Slot เวลาที่ว่างและ Slot เวลาที่เราอาจใช้ทำสิ่งที่ไม่จำเป็นได้   เมื่อเราเริ่มมองเห็นถึงโอกาส  (slot เวลาที่ว่าง) และปัญหา (slot เวลาที่ใช้ไปกับสิ่งไม่จำเป็น) เราก็สามารถเริ่มใส่กิจกรรมที่เราอยากทำเข้าไปได้ ขอแค่กิจกรรมนั้นมีประโยชน์ ทำแล้วมีความสุข หรือการทำแล้วรู้สึกได้พักผ่อนก็ถือเป็นการใช้เวลาอย่างคุ้มค่า   แล้วการใช้เวลาแบบไม่คุ้มค่ามันคืออะไรหละ?   การใช้เวลาแบบปล่อยให้มันผ่านไป การพักผ่อนก็ไม่ใช่ ไม่ได้ทำอะไร แค่ปล่อยไหลไปเรื่อยๆ เทียบกับได้ทำสิ่งที่ชอบหรือได้ไปนอนพักซักงีบยังดีกว่า   สุดท้าย  Episode นี้ก็อยากเตือนใจผู้ฟังว่าเรื่องการใช้เวลาของเรา เราได้ทำในสิ่งที่เราชอบรึเปล่า เราได้ใช้เวลาในการพักผ่อนรึเปล่า   Source: พลักพลิกชีวิตของกิจวัตรยามเย็น   #MrHabit #MrHabitDiary #ข้อคิด #การจัดการเวลา #สร้างนิสัย

    Mr.Habit Diary 2022 EP8 ใช้เวลาหลังเลิกงานเติมเต็มชีวิต

    Play Episode Listen Later Nov 25, 2022 7:54


    ใช้เวลาหลังเลิกงานเติมเต็มชีวิต   หลังเลิกงานแล้วเราดิ่งตรงกลับบ้านเพื่อไปนอนเพื่อที่จะตื่นกลับมาทำงาน ใช้ชีวิตวนลูปไปเรื่อยๆรึเปล่า มีโปรเจคอะไรที่เราอยากทำแต่ยังไม่ได้ทำไหม บางทีสิ่งที่เราชอบอาจเป็นสิ่งที่เราเริ่มทำได้เลยก็ได้   เราสามารถเริ่มใช้ช่วงเวลาหลังเลิกงานทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำเพื่อให้ใจเราฟู บางทีมันยิ่งเติมเต็มชีวิตเราเหมือนกันนะ   Source: พลังพลิกชีวิตของกิจวัตรยามเย็น - รยูฮันบิน Photo by bruce mars https://unsplash.com/photos/FWVMhUa_wbY   #MrHabit #สร้างนิสัย #เวิร์คไลฟ์บาลานซ์ #เวิร์คไร้บาลานซ์

    Mr.Habit Diary 2022 EP7 ชีวิต Productiveที่ไม่พึ่งนาฬิกาปลุก

    Play Episode Listen Later Nov 18, 2022 3:03


    ทุกวันนี้เราตื่นเช้ามาด้วยเสียงนาฬิกาปลุกรึเปล่า คุณรู้สึกยังไงบ้าง   หลายครั้งที่เราฟังเสียงนาฬิกาปลุกแต่เราไม่ฟังเสียงร่างกายตัวเองที่กำลังบอกว่าฉันขอพักเถอะ   ถ้าเราตื่นเช้ามาเพื่อทำอะไร Productive การอดนอนก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ Unproductive ที่สุดที่คุณสามารถทำได้   Source: I stopped using an alarm clock for a year - Matt D'Avella https://youtu.be/unSlnMWUzr4 #นอน #นาฬิกาปลุก #Productive #สร้างนิสัย #นิสัย

    Mr.Habit Diary 2022 EP6 การเริ่มต้นสร้างนิสัยเมื่อเรามองช่วงเวลาชีวิตเป็น Episode

    Play Episode Listen Later Nov 6, 2022 7:35


    เมื่อคุณนึกถึงปีใหม่ หลายคนน่าจะนึกถึงการตั้งเป้าหมายของปีว่าเราอยากเป็นคนยังไง ปีนี้ฉันจะทำอะไร ใน Episode นี้ผมอยากพูดถึงการที่เราได้เริ่มต้นใหม่จากศูนย์และการมองช่วงเวลาชีวิตเป็น Episode ที่ทำให้เราได้เปลี่ยนแปลง   คุณ Katy Milkman ผู้เขียนหนังสือ How to Change ได้พบว่าการที่เราเริ่มต้นจากศูนย์ทำให้เราสร้างตัวตนใหม่ได้เร็วเพราะว่าเราไม่มีนิสัยและความเชื่อเก่ามาฉุดรั้งเราไว้ ซึ่งมันจะมีช่วงเวลาที่ทำให้คนรู้สึกแบบนั้นเช่นช่วงปีใหม่หรือการที่มีการเปลี่ยนแปลง (Episode) สำคัญของชีวิต การเข้ามหาลัย การเรียนจบ การย้ายบ้าน การเป็นโสดอีกครั้ง หรือวันเกิด Episode สำคัญในชีวิตเหล่านี้เป็นตัวช่วยกระตุ้นให้เราได้เริ่มต้นใหม่ ตั้งเป้าหมาย และพัฒนาตัวเอง    สำหรับผมมันคือการให้โอกาสตัวเองที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นจากแต่ก่อน ลืมตัวตนและนิสัยแย่ๆของเราเพื่อก้าวไปข้างหน้า   Source: How to change - Book by Katy Milkman #นิสัย #สร้างนิสัย

    Mr.Habit Diary 2022 EP5 ให้ชีวิตก้าวหน้าด้วยกฎ5วิ

    Play Episode Listen Later Oct 31, 2022 3:08


    Mr.Habit Diary 2022 EP5 ให้ชีวิตก้าวหน้าด้วยกฎ5วิ   เวลาเราจะทำอะไรใหม่ๆหรืออะไรที่เราไม่คุ้นชินสมองเราจะชอบคิดมาก สร้างความกังวล ทำอย่างนี้ดีหรอ เอาตัวเองไปอยู่ในจุดนั้นทำไม เราสามารถก้าวข้ามความคิดมากของเราและเริ่มทำสิ่งที่เราอยากทำด้วยกฎ5วิของคุณ Mel Robbins ครับ   วิธีใช้ง่ายๆคือเรามีเวลาแค่ 5 วินาทีในการเริ่มลงมือทำก่อนที่สมองเราจะหาข้ออ้างมาหยุดเรา เรารู้ว่าสมองเราคิดมากคิดเยอะก็ให้สมองเราโฟกัสกับอย่างอื่นสินั้นคือการนับถอยหลัง 5-4-3-2-1 ลุย! หลังจากนั้นลองลงมือทำได้เลยครับ   สำหรับผม ผมใช้ 5-4-3-2-1 บ่อยตอนจะอาบน้ำเย็นกับตอนจะลุกออกจากเตียงครับ ใครที่อาบน้ำเย็นจะพอรู้ว่ามันก็ทรมานอยู่ระดับนึงนะโดยเฉพาะช่วงแรกๆแต่พอเข้าไปซักพักแล้วร่างกายเราก็ปรับตัวได้ครับ กฎ 5 วิเนี้ยเลยไปช่วยให้เราได้เริ่มครับ   Source: 5 Seconds Rules - Mel Robbins #5วิ #กฎ5วิ #นิสัย #สร้างนิสัย

    Mr.Habit Diary 2022 EP4 ใช้นาฬิกาปลุกช่วยสร้างนิสัย

    Play Episode Listen Later Oct 23, 2022 3:59


    Mr.Habit Diary 2022 EP4 ใช้นาฬิกาปลุกช่วยสร้างนิสัย   ถ้าเราเคยอ่านหนังสือ Atomic Habits ของคุณ James Clear จะคุ้นเรื่อง Identity Based Habits กันบ้างนั้นคือการกำหนดตัวตนของเรา พอเรารู้แล้วว่าเราอยากเป็นคนแบบไหนที่เหลือเราแค่มาคิดว่าแล้วคนแบบนี้เขาทำอะไรเป็นเรื่องปกติบ้างหละ ซึ่งการที่เราทำสิ่งนั้นบ่อยขึ้นมันก็จะไปช่วยสร้างตัวตนของเราจากที่แต่ก่อนเป็นภาพในหัว ตอนนี้เราก็เริ่มเห็นตัวเราเป็นตัวตนตามภาพนั้นมากขึ้น   เทคนิคการตั้งนาฬิกาปลุกนี้ต้องใช้โทรศัพท์นะครับ ไปที่นาฬิกาปลุกของเราแล้วตั้งชื่อเวลานั้นตามตัวตนที่เราอยากเป็นแทนที่จะตั้งว่าต้องทำอะไรนะครับ เทคนิคนี้จึงช่วยเตือนเราว่านี้เป็นเวลาที่เราต้องเป็นคนที่______   Source: The Three Alarms - Eric Partaker Sunday Snippets Ali Abdaal #สร้างนิสัย #นิสัย #AtomicHabit

    Mr.Habit Diary 2022 EP3 กับดักของแรงจูงใจที่ทำให้การสร้างนิสัยเราไม่ยั่งยืน

    Play Episode Listen Later Jul 4, 2022 3:08


    กับดักของแรงจูงใจที่ทำให้การสร้างนิสัยเราไม่ยั่งยืน . ช่วงที่เรารู้ว่าเราอยากสร้างนิสัยเราจะตั้งเป้าหมายยังไงกันครับ? เรากำลังจะตกกับดักของแรงจูงใจรึเปล่า? . กับดักของแรกจูงใจที่ว่าคือการตั้งเป้าหมายที่สมบูรณ์แบบเกินไป   ฉันจะอ่านหนังสือวันหละ 100 หน้า ฉันจะวิ่งวันหละ 10 โล ฉันจะเขียนบันทึกวันหละ 1 หน้า   เป้าหมายเหล่านี้มันสมบูรณ์เกินที่จะทำได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าวันไหนเราทำไม่ได้เราจะท้อและล้มเลิกไป . เราลองตั้งเป้าหมายเป็น   ขอแค่เปิดหนังสือมา อาจไม่ต้องเปิดก็ได้ ขอแค่ออกไปข้างนอก อาจไม่ต้องวิ่งก็ได้ ขอแค่หยิบปากกา อาจไม่ต้องจดบันทึกก็ได้   เราต้องการที่จะทำให้การเริ่มทำเป็นส่วนนึงของกิจวัตรประจำวันก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มที่หละก้าวไม่จำเป็นต้องเพิ่มอยากก้าวกระโดด   เราค่อยๆ เริ่มจากการทำสิ่งที่ใครๆ ก็ทำได้แต่ทำอย่างต่อเนื่องที่น้อยคนจะทำได้   Credit: #เทคนิคหลอกสมองให้เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ #มาซาชิโยชิอิ #howto   #MrHabitDiary #MrHabit #นิสัย #สร้างนิสัย

    Mr.Habit Diary 2022 EP2 ชีวิตเราจะเป็นยังไงถ้าเรายังใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ

    Play Episode Listen Later Jul 3, 2022 2:21


    ชีวิตเราจะเป็นยังไงถ้าเรายังใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ . คำถามนี้เป็นคำถามเตือนใจว่าเรากำลังเดินไปทางไหน . ให้นึกภาพว่าวันนึงคุณได้เดิน 1 ก้าว ถ้าเรามองแต่หละก้าวด้วยตัวของมันเองจะไม่รู้สึกว่ามันมีผลอะไรมากนัก แต่ถ้าเราลองมองหลายๆก้าวรวมกันเราจะเห็นเป็นเส้นทางชีวิต . มองแบบนั้นแล้วตอนนี้เราไปถูกทางแล้วรึยัง แล้วก้าวต่อไปของเราควรจะไปในทิศทางไหน? . เราไม่สามารถย้อนกลับไปในอดีตได้ แต่เราสามารถเส้นทางในอนาคตของเราได้ #MrHabitDiary #MrHabit

    Mr.Habit Diary 2022 EP1 ใช้วันอาทิตย์ให้เต็มที่แค่จดบันทึกประจำวัน

    Play Episode Listen Later Jul 2, 2022 4:14


    Mr.Habit Diary 2022 EP1 ใช้วันอาทิตย์ให้เต็มที่แค่จดบันทึกประจำวัน   วันอาทิตย์มักเป็นวันที่เรามัวแต่อยู่กับอนาคต เรามักจะนึกถึงสิ่งที่ต้องทำในวันพรุ่งนี้จนลืมอยู่กับปัจจุบัน   เพื่อที่จะแบ่งพื้นที่ให้สมองเราได้อยู่กับปัจจุบันบ้างเราสามารถใช้วิธีการจดบันทึก   1) จดเรื่องที่ค้างคาใจลงไป 2) จดว่าเราจะแก้ปัญหามันยังไง   หลังจากเรารู้แล้วว่าเรามัวแต่คิดเรื่องอะไร แล้วเราได้เตรียมพร้อมวิธีการรับมือเรื่องนั้นๆ เราก็มีพื้นที่สมองที่จะได้อยู่กับปัจจุบัน   3) เขียนว่าวันนี้คุณอยากทำอะไร   เรื่องที่คุณอยากทำสำหรับวันนี้ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ ขอแค่มันเป็นเรื่องที่คุณทำแล้วรู้สึกดี รู้สึกภูมิใจในตัวเอง รู้สึกว่าวันนี้สำเร็จเมื่อได้ทำสิ่งนั้น   #MrHabitDiary #MrHabit #สร้างนิสัย #นิสัย #Productivity #Mindfulness

    แค่จัดเตียงก็ทำให้วันนี้ดีได้

    Play Episode Listen Later Oct 7, 2021 2:16


    แค่ตื่นมาจัดเตียงวันนี้ก็ดีได้ . ทำไม ACTION เล็กๆที่ดูธรรมดาถึงสร้าง IMPACT ให้กับวันของเราได้ . การตื่นมาจัดเตียงถือเป็น SMALL WIN แรกของวัน ความสำเร็จเล็กๆนี้มันสร้างแรงผลักดันที่ทำให้เราสร้างความสำเร็จใหม่ๆได้ . แต่ไม่ว่าวันนี้จะดีจะแย่แค่ไหน ถ้าคุณกลับมาเจอเตียงที่คุณจัดเอง เป็นเตียงที่น่านอนพักผ่อน อย่างน้อยมันเป็นข้อเตือนใจว่าวันนี้คุณได้ทำอะไรสำเร็จ . LESSON นี้ถือเป็นข้อเตือนใจให้เราภูมิใจกับ SMALL WIN ของเรา SUCCESS ที่ใหญ่ราวกับการก้าวกระโดดเริ่มต้นจากก้าวเล็กๆหลายๆก้าวต่อๆกัน . Source: Make Your Bed Book by William H. McRaven https://www.youtube.com/watch?v=pxBQLFLei70 . ติดตาม Mr.Habit Diary Podcast ได้ที่ Apple Podcast https://bit.ly/MrHabitApplePodcast Spotify https://bit.ly/MrHabitSpotify Podbean https://bit.ly/MrHabitPodbean

    william h mcraven pxbqlflei70
    สร้าง Bliss Station ให้สภาพจิตใจเราดีขึ้น

    Play Episode Listen Later Oct 5, 2021 2:45


    Disconnect from the world to connect with yourself . เพื่อสภาพจิตใจที่ดีของตัวเอง บางทีเราต้องตัดตัวเองออกมาเพื่อที่จะได้กลับมาอยู่กับตัวเอง . ในหนังสือ Keep Going จากคุณ Austin Kleon เขาพูดถึง Bliss station "สถานีแห่งความสุข" ซึ่งเข้าใช้คำว่า Sacred Space หรือ Sacred Time ที่เราจองไว้ให้ตัวเอง . ง่ายๆคือเราควรที่จะแบ่งพื้นที่หรือเวลาที่เราสามารถเข้ามาอยู่กับตัวเองได้ ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ ได้ดู"สภาพแวดล้อม"และที่สำคัญ"สภาพจิตใจ" . Source: Keep Going Book By Austin Kleon ติดตาม Mr.Habit Diary Podcast ได้ที่ Apple Podcast https://bit.ly/MrHabitApplePodcast Spotify https://bit.ly/MrHabitSpotify Podbean https://bit.ly/MrHabitPodbean

    ทำไมตื่นเช้าถึงไม่ WORK

    Play Episode Listen Later Oct 3, 2021 3:48


    เคยไหมที่เราอ่านเรื่องการตื่นเช้าเหมือนเป็นเคล็ดลับการใช้ชีวิตของ CEO แล้วพอเราลองทำบ้างกลับไม่ WORK . เราตื่นมาแล้วรู้สึกเหนื่อย อาจเป็นเพราะร่างกายเรานอนไม่พอ ยังปรับตัวไม่ได้ . แต่จุดที่ทำให้การตื่นเช้าไม่ WORK สำหรับผมแล้วคือเราตื่นเช้ามาเพื่ออะไร เรามี ACTIVITY อะไรที่เราอยากทำเป็นพิเศษไหม Activity นี้มันสำคัญมากจนคุณต้องแหกตาตื่นมาเพื่อ ACTIVITY นี้เลยไหม . ผมลองตั้งข้อสังเกตุ ทำไมบางวันผมตื่นเช้าได้ขนาดไม่ตั้งนาฬิกาปลุกยังตื่นเช้าขึ้นมาเองเลย อย่างเช่น . มีสอบ มีสัมภาษณ์งาน มี Flight บิน . ตัวอย่างที่ผมยกมาหลายคนคงบอก"ก็แน่นอนอยู่แล้วมันสำคัญมากหนิ จะพลาดได้ยังไง" แล้วถ้าเป็น . ตื่นเช้ามาวิ่ง/ออกกำลังกาย ตื่นเช้ามาอ่านหนังสือ . ACTIVITIES เหล่านี้ถือเป็นตัวอย่าง HOBBIES ที่เราชอบแต่ถ้าเราไม่ทำก็ไม่ได้มีบทลงโทษอะไร แต่สิ่งที่ทำให้เราตื่นเช้ามาทำ ACTIVITIES เหล่านี้เพราะความตื่นเต้น "แค่คิดก็อยากทำแล้ว" . จุดหลักที่ผมอยากจะสื่อคือ . ถ้าเราจะตื่นเช้า อย่าตื่นเช้ามาแล้วไม่มีอะไรทำ ตื่นเช้ามาเราควรรู้ว่าเราตื่นมาเพื่อทำอะไร ค่อยๆสร้าง Morning Routine ที่เหมาะกับคุณ . สุดท้ายการตื่นเช้าหรือตื่นสายขึ้นอยู่กับ Lifestyle ของคุณ ถ้าการตื่นเช้าไม่ WORK ก็ไม่เป็นไร อย่าโทษตัวเอง ใช้ชีวิตให้เหมาะกับสถานะและสภาพแวดล้อมของเราให้ WORK ดีกว่า . "The world's most successful people aren't worried about what time others wake up. They wake and work on the schedule that works for them" - Adam Grant . ติดตาม Mr.Habit Diary Podcast ได้ที่ Apple Podcast https://bit.ly/MrHabitApplePodcast Spotify https://bit.ly/MrHabitSpotify Podbean https://bit.ly/MrHabitPodbean

    สุดยอด Morning Routine ที่ไม่มีใครพูดถึง

    Play Episode Listen Later Sep 30, 2021 2:16


    การเริ่มวันของคุณให้ดีไม่จำเป็นต้องทำตอนคุณพึ่งตื่นเสมอไป   คุณสามารถเริ่มวันให้ดีได้ตั้งแต่วันก่อน ทำให้ตัวเองพร้อมด้วยการกินและการพักผ่อน Credit: Mark Manson

    เจาะเทคนิคสร้างนิสัยแบบ Barney Stinson

    Play Episode Listen Later Sep 28, 2021 2:45


    This is going to be LEGENDARY! I'm AWESOME.   นี้คือคำพูดติดปากของ Barney Stinson ในเรื่อง How I met your mother เขาพูดคำนี้แทบทุกครั้งที่เขาวางแผนจะทำกิจกรรมอะไรและแน่นอนว่าเขาพูดแทบทุกครั้งหลังเขาทำกิจกรรมนั้นเสร็จ   นี้คือตัวอย่างที่ดีของ Celebration ที่ไม่ได้ทำแค่ตอนที่เราทำพฤติกรรมนั้นจบ เราสามารถ Celebrate ได้ 1) ตอนที่เรานึกได้ว่าเราต้องทำพฤติกรรม 2) ระหว่างที่เราทำพฤติกรรม 3) ทันทีที่เราทำพฤติกรรมเสร็จ   พฤติกรรมจะเป็นนิสัยถ้าเรารู้สึกดี Source: Tiny Habits BJ Fogg PhD

    เทคนิค Hack สมองเพื่อสร้างนิสัย

    Play Episode Listen Later Sep 26, 2021 4:30


    Emotion create Habits อารมณ์ความรู้สึกคือจุดกำหนดนิสัยของเรา   Dopamine สารความสุขที่ถูกหลั่งออกมาเมื่อกำลังจะทำ/หลังจากทำพฤติกรรม ซึ่งสมองของเราจะคอยวิเคราะห์และคาดการณ์ผลลัพท์ของพฤติกรรมต่างๆ Dopamine จึงเป็นสารที่ช่วยสร้างนิสัยชั้นเลิศ   การ Hack สมองเพื่อสร้างนิสัยเลยต้องเกิด Dopamine ทันทีด้วยเทคนิค Celebration หลังจากเราทำพฤติกรรมนั้นให้ฉลองด้วยความตื่นเต้นดีใจทันที บางคนอาจพูดว่า "ในที่สุด" "ฉันชนะแล้ว" "ฉันสุดยอด" บ้างก็เขินอายหน่อยก็เป็นการอมยิ้ม บ้างก็ใส่อารมณ์ให้สุดกำหมดทั้งสองมือ   จุดสำคัญคือเรากำลังสร้าง reward โดยไม่พึ่ง incentive Reward คือสิ่งที่ถูกผูกกับพฤติกรรม Incentive คือรางวัลที่ให้ตัวเองแต่มันอยู่ในอนาคต ช่วงเวลาระหว่างการทำพฤติกรรมเสร็จกับความสุขที่ได้รับจาก Incentive มันนานเกินไปที่จะผูกความสุขกับพฤติกรรมนั้น นิสัยจึงไม่เกิด   Credit: Tiny Habits by BJ Fogg

    Languishing เนือย อ่อนล้าแต่ไม่ได้หมดไฟ ไม่ได้ซึมเศร้า

    Play Episode Listen Later Sep 24, 2021 3:58


    Languishing ไม่ได้แปลว่าซึมเศร้าหรือหมดไฟ มันเป็นภาวะที่คุณรู้สึกเนือยๆ รู้สึกเฉยๆ เพราะคุณไม่เห็นอนาคตข้างหน้า คุณไม่มีความสุข   การแก้ปัญหา Languishing ไม่ใช่การมองโลกในแง่ดี และไม่จำเป็นต้อง Productive การแก้ปัญหา Languishing อย่างนึงคือการเข้าสู่ State of Flow   Mario Kart theory of Peak Flow 1) Mastery: เราได้พัฒนาเห็นความคืบหน้าที่ทำให้เรารู้สึกประสบความสำเร็จ 2) Mindfulness: เราได้ให้โฟกัส ความตั้งใจไปกับกิจกรรมนั้นๆ 3) Mattering: การที่เรารู้ว่ากิจกรรมนั้นมีความหมาย ไม่ได้แค่สำหรับตัวเราแต่สำหรับคนใกล้ชิดของเราด้วย   Credit: How to stop languishing and start finding flow? https://www.ted.com/talks/adam_grant_how_to_stop_languishing_and_start_finding_flow?language=en#t-60697 There's a Name for the Blah You're Feeling: It's Called Languishing https://www.nytimes.com/2021/04/19/well/mind/covid-mental-health-languishing.html  

    เลือกนิสัยที่ ควรทำ vs อยากทำ

    Play Episode Listen Later Sep 22, 2021 3:12


    การไปสู่เป้าหมายเรามีทางเดินให้เลือกหลายเส้นทาง   หลายทีที่เราต้องเลือกพฤติกรรมซึ่งพอเราไปดูคนอื่นเขาจะแนะนำพฤติกรรมที่เราควรทำ แต่มันก็มีพฤติกรรมอื่นที่พาเราไปถึงเป้าหมายได้   พฤติกรรมที่ดีในการสร้างนิสัยควรจะมี 3 อย่าง   1) พาคุณไปถึงเป้าหมาย 2) เป็นพฤติกรรมที่คุณอยากทำอยู่แล้ว 3) เป็นพฤติกรรมที่ทำง่าย   Source: Tiny Habits - BJ Fogg PhD https://tinyhabits.com/

    ลดความเครียดด้วยเทคนิค 3M

    Play Episode Listen Later Sep 20, 2021 3:15


    ทำความรู้จักกับ Macro, Meso, Micro Break   Macro: พัก ครึ่ง-1 วันเต็มต่อเดือน Meso: พัก 1-2 ชม. ต่ออาทิตย์ Micro: พักไม่กี่นาที แต่หลายรอบต่อวัน การพักที่ดีคือการที่เราอนุญาติให้ตัวเราได้เลิกคิดถึงเรื่องงาน ได้กลับเข้ามาอยู่กับตัวเอง ให้เวลากับตัวเองบ้างโดยที่ไม่ต้องรู้สึกหวาดระแวง พักผ่อนก็พักผ่อนให้เต็มที่ Source: Headspace

    สร้างนิสัยฉบับ Stanford แค่ ABC

    Play Episode Listen Later Sep 18, 2021 2:39


    Recipe ในการสร้างนิสัยจากคุณ BJ Fogg ผู้เชี่ยวชาญด้าน Behavior Design จาก Stanford ประกอบด้วย 3 ส่วน   A: Anchor Moment - อะไรที่เราทำเป็นประจำอยู่แล้ว B: Tiny Behavior - พฤติกรรมที่เราอยากสร้างเป็นนิสัย แต่เป็น version ที่เล็กและทำง่ายที่สุด C: Celebration - การฉลองหลังจากทำพฤติกรรมเพื่อทำให้เรารู้สึกประสบความสำเร็จ   Source: Tiny Habits - BJ Fogg PhD https://tinyhabits.com/

    Simplicity สร้างนิสัย ยิ่งง่าย ยิ่งทำ

    Play Episode Listen Later Sep 16, 2021 3:17


    วิธีการเริ่มทำพฤติกรรมโดยที่เราไม่ต้องรอแรงบันดาลใจอย่างนึงคือการทำให้มันง่าย   เพราะยิ่งง่าย ยิ่งทำ   แล้วเราจะยังไงให้พฤติกรรมมันง่ายหละ?   1) Skill Up พัฒนาฝีมือทำให้การทำพฤติกรรมง่ายขึ้น 2) Resources & Tools Up หาเครื่องมือหรือบุคคลที่ช่วยให้เราทำพฤติกรรมนั้นง่ายขึ้น 3) Scale Down เริ่มต้นด้วย version ที่เล็กที่สุดที่จะทำได้   Credit: BJ Foggs

    simplicity scale down
    ยกระดับการสร้างนิสัยยังไงไม่ให้เบื่อ

    Play Episode Listen Later Sep 14, 2021 5:03


    พอเราทำอะไรจนชินมันเป็นเรื่องปกติครับที่เราจะรู้สึกเบื่อบ้างเพราะผลลัพท์เริ่มจะเหมือนเดิม ไม่มีอะไรแปลกใหม่ที่สร้างความตื่นเต้นเหมือนตอนเริ่มแรก . แต่เราก็ยังไม่ควรที่จะรีบไปสร้างนิสัยใหม่จนเกินไปเพราะถ้าเราทิ้งนิสัยเดิมที่เราพึ่งสร้างมันก็ไม่ได้เรียนว่านิสัยเราแล้วสิ . เพื่อที่จะสร้างความสนุกตื่นเต้นให้กับพฤติกรรมของเรา เราต้องทำให้มันยากพอที่รู้สึกว่ามัน Challenging แต่ง่ายพอที่ทำให้เรารู้สึก Successful   Credit: https://jamesclear.com/30-days

    บทบาทของสังคมในการสร้างนิสัย

    Play Episode Listen Later Sep 12, 2021 2:55


    อยากอยู่ในสังคมแบบไหน ก็ทำตัวให้กลมกลืนกับสังคมนั้นๆ   เมื่อทุกวันเราเห็นความก้าวหน้าของคนอื่น มันก็เป็นแรงกระตุ้นนึงที่ทำให้เราอยากพัฒนา เราเห็นว่าเส้นทางที่เราเดินวันนี้ เราไม่ได้เดินคนเดียวอีกต่อไป แต่ก็ยังมีคนที่เดินไปเคียงข้างคุณ   Credit: https://jamesclear.com/30-days

    Claim Mr.Habit Diary

    In order to claim this podcast we'll send an email to with a verification link. Simply click the link and you will be able to edit tags, request a refresh, and other features to take control of your podcast page!

    Claim Cancel