“A Cup of Culture แก้วนี้เอ่อล้นด้วยเรื่องราวของวัฒนธรรมองค์กร เพราะเป้าหมายของเราคือ การบอกเล่าเรื่องราวและเทคนิคดี ๆ อีกทั้งเป็นพื้นที่แบ่งปันเครื่องมือ ให้คุณเลือกหยิบไปใช้ได้ทันทีด้วยตนเอง" ติดตามรับฟังได้ทุกวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ของทุกสัปดาห์
ในโลกของการเป็นผู้นำที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Self-reflection หรือ การสะท้อนคิดกับตัวเอง กลายเป็นหนึ่งในทักษะที่ทรงพลังที่สุดที่ผู้นำยุคใหม่จำเป็นต้องมี เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของการมองย้อนอดีตเท่านั้น แต่ยังเป็นกระบวนการที่ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง มองเห็นจุดแข็ง จุดอ่อน รวมถึง "สิ่งที่เราอาจยังไม่รู้ว่าเราไม่รู้" พอดแคสต์ตอนนี้จะพาไปสำรวจว่า Self-reflection คืออะไร ทำไมจึงเป็น "กระจกเงา" ที่สำคัญสำหรับผู้นำ และจะช่วยให้เรา เรียนรู้ — ลืมสิ่งที่ควรลืม (Unlearn) — และเรียนรู้ใหม่ (Relearn) อย่างไร รวมถึงช่วยลดอคติ (Bias) ที่อาจแฝงอยู่ในการตัดสินใจในแต่ละวัน ✦ Key Learnings 1. Self-reflection คือกระบวนการทบทวนความคิด ความรู้สึก และการกระทำของตัวเอง เพื่อสร้างความตระหนักรู้ (Self-awareness) และนำไปสู่การพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำอย่างยั่งยืน 2. Self-reflection ช่วยเพิ่มทักษะการเรียนรู้แบบ Unlearn และ Relearn ผู้นำที่มีทักษะการสะท้อนคิดจะสามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งใดที่ควร "ปล่อยวาง" หรือ "เรียนรู้ใหม่" 3. การสะท้อนคิดช่วยให้ผู้นำตระหนักถึงอคติส่วนตัว และกรอบความคิดที่อาจบิดเบือนมุมมอง ช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างเป็นกลาง รอบคอบ และมีเหตุผลมากขึ้น ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจจากทีม
Culture Crush ตอนนี้จะพาคุณไปพบกับแรงบันดาลใจจากเวที Thailand Culture Circle ที่รวมผู้นำสายวัฒนธรรมจากทั่วไทยไว้ในงานเดียว พร้อมถอดบทเรียน “7 Culture Moves ที่ใช้ได้จริง” จากคุณสุรัตน์ โพธิปราสาท CEO บริษัท Brightside people ที่ได้กลั่นความรู้จากประสบการณ์จริงขององค์กรหลากหลายรูปแบบ เพื่อเปลี่ยนวัฒนธรรมให้เป็นเรื่องที่ "สัมผัสได้" ✦ Key Takeaways: •วัฒนธรรมเปลี่ยนได้ ต้องเริ่มจากผู้นำที่อินจริง เชื่อจริง และลงมือทำเองทุกวัน •วัฒนธรรมคือเรื่องของทุกคนในองค์กร •ฝังค่านิยมในระบบจริง เช่น การสรรหา การเติบโต และการประเมินผล ไม่ใช่แค่พูดสวย ๆ •สร้าง Growth Mindset ไม่ใช่คาดหวังความ perfect แต่สร้างพื้นที่ให้คนเรียนรู้และกล้าทำผิด •การวัดวัฒนธรรมที่ดีต้องถามให้ลึก และนำผลลัพธ์มาปรับจริง ไม่ใช่แค่รายงาน •วัฒนธรรมไม่ใช่โปรเจกต์ 3 เดือน แต่คือการบ่มเพาะระยะยาวที่ต้องรดน้ำทุกวัน •Soft Power ที่แท้จริง คือความผูกพันจากภายใน ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ภายนอก Podcaster: รัมภา - พรรัมภา อรุณทิพย์ไพฑูรย์ ที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
ไม่ว่าองค์กรจะเล็กหรือใหญ่—ไม่ว่าจะเป็นบริษัทสตาร์ทอัพหรือบริษัทระดับโลก Silo คือปัญหาใหญ่ที่กำลังขัดขวางความร่วมมือระหว่างทีมต่างๆ ในองค์กร วันนี้เราจะมาชี้เป้า 3 ประเภทของ Silo ที่องค์กรต้องจับตามองเป็นพิเศษ พร้อมวิธีสังเกตและป้องกันเพื่อให้องค์กรเติบโต และรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน ✦ Key Takeaways: • Silo เชิงระบบ เกิดจากเป้าหมายของแต่ละฝ่ายไม่สอดคล้องกัน สามารถแก้ไขได้ด้วยการวางแผนร่วมกัน เช่นกระบวนการ S&OP เพื่อสร้างเป้าหมายร่วมกัน • Silo เชิงชนชั้น เกิดจากความไม่ไว้วางใจหรือความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ตึงเครียดระหว่างทีม ทำให้ไม่กล้าขอความช่วยเหลือหรือพูดคุยตรง ๆ แนวทางแก้ไขคือการออกแบบพื้นที่หรือกิจกรรมที่เสริมสร้างความไว้ใจและความสัมพันธ์ • Silo เชิงปกป้อง เกิดจากความกลัวว่าจะสูญเสียอำนาจ บทบาท หรือความมั่นคง นำไปสู่การปิดบังข้อมูล และสื่อสารไม่ตรงประเด็น ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการสร้างความปลอดภัยทางจิตใจ และส่งเสริมความโปร่งใส Podcaster: หยก - เจตน์ เพชรกนกพราว ที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
"Responsible AI" หรือ "AI ที่มีความรับผิดชอบ (ต่อมนุษย์และสังคม)" เป็นแนวทางและหลักการในการออกแบบ พัฒนา และประยุกต์ใช้ระบบ AI โดยคำนึงถึง ผลกระทบทางจริยธรรม สังคม และกฎหมาย เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับมนุษย์และสังคม ดังนั้นการเข้าใจและใส่ใจในการใช้ AI จึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับองค์กรในยุคปัจจุบัน ✦ Key Takeaways: เพราะ AI เรียนรู้จากข้อมูล หากข้อมูลที่ใช้สอนมีอคติแฝงอยู่ AI ก็อาจตัดสินใจอย่างไม่เป็นธรรม (มี BIAS) หรือเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มคนบางกลุ่มได้ นำไปสู่การขาดความโปร่งใสของระบบ AI บางประเภท มีกระบวนการทำงานที่ซับซ้อน ทำให้การตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดเป็นไปได้ยาก สืบเนื่องมาจากปัญหาความเป็นส่วนตัวที่ระบบ AI มักต้องการข้อมูลจำนวนมากในการเรียนรู้และทำงาน ดังนั้น การรวบรวม จัดเก็บ และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไม่ระมัดระวังอาจ นำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัวได้ ดังนั้นการใช้ AI จึงควรมีความรับผิดชอบด้วยหลักการตามนี้ 1. ความเป็นธรรม: ออกแบบและประเมิน AI เพื่อหลีกเลี่ยงอคติที่ไม่พึงประสงค์ และ ปฏิบัติต่อผู้คนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน 2. ความโปร่งใสและอธิบายได้: ทำให้สามารถเข้าใจและอธิบายกระบวนการตัดสินใจ ของ AI ได้ เพื่อให้สามารถตรวจสอบ ทำความเข้าใจ และไว้วางใจในระบบ 3. ความรับผิดชอบ: กำหนดให้มีผู้รับผิดชอบในการออกแบบ พัฒนา และผลลัพธ์ที่ เกิดจากการทำงานของ AI อย่างชัดเจน รวมถึงมีกลไกในการตรวจสอบและแก้ไข เมื่อเกิดข้อผิดพลาด 4. ความเป็นส่วนตัว: เคารพและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ตลอดวงจรชีวิตของ ระบบ AI ตั้งแต่การเก็บรวบรวมไปจนถึงการทำลายข้อมูล 5. ความปลอดภัยและความมั่นคง: ออกแบบระบบ AI ให้มีความทนทานต่อการถูก โจมตีทางไซเบอร์ และมีกลไกป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อ ผู้ใช้หรือสาธารณะ 6. ความน่าเชื่อถือและความทนทาน: พัฒนา AI ให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ สม่ำเสมอ และสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ 7. การมีมนุษย์เป็นศูนย์กลางและเป็นประโยชน์ต่อสังคม: ออกแบบระบบ AI โดย คำนึงถึงคุณค่า สิทธิ และความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์เป็นหลัก และมุ่งเน้นให้ AI สร้างประโยชน์ให้กับสังคมโดยรวม จะเห็นได้ว่าความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อ AI นั้นทำงานผิดพลาดและก่อให้เกิดความเสียหายจะเกิดคำถามว่าใครคือผู้รับผิดชอบ ซึ่งอาจเป็นเรื่องซับซ้อนในการระบุตัวตน ดังนั้นจึงควรมีการออกแบบตั้งแต่ต้นด้วยความใส่ใจ เพราะ AI ไม่ใช่เรื่องเฉพาะบุคคลแต่เป็นเรื่องของทุกคน
Culture Crush ตอนนี้จะพาคุณย้อนดูบทเรียนจากหลายองค์กรที่แม้จะมี Core Value แล้ว แต่กลับรู้สึกว่า “ยังไม่เกิดผลจริงในชีวิตประจำวัน” เพราะหลงโฟกัสที่การสื่อสาร มากกว่าการออกแบบให้สามารถ ลงมือทำได้จริง หลายองค์กรหยุดอยู่แค่ทำให้คน “รับรู้” (Aware) แต่ไม่ได้ออกแบบให้คน “อยากมีส่วนร่วม” (Desire) หรือ “นำไปใช้” (Adopt) มาร่วมเปิดมุมคิดใหม่ว่า ถ้าอยากให้ค่านิยมองค์กรเปลี่ยนพฤติกรรมของคนทั้งองค์กรได้จริง ต้องเริ่มตั้งแต่ “วันแรกที่ออกแบบ” และคิดให้สุดทางตั้งแต่ต้น Key Takeaways •Core Value ที่ดีไม่ควรหยุดแค่ “สื่อสารได้” แต่ต้อง “ใช้ได้” •การสื่อสารคือแค่จุดเริ่มต้น •“Adopt” เกิดขึ้นจริงเมื่อ Core Value ฝังอยู่ในระบบและการทำงานประจำวัน •การออกแบบ Core Value ต้องคิดถึงวิธีใช้ ตั้งแต่วันแรก Podcaster: บอล - สุรัตน์ โพธิปราสาท ผู้ก่อตั้งเพจ A Cup of Culture A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
การจัดการกับการควบคุมมีเส้นแบ่งที่บางมาก และหลายครั้งผู้จัดการเองก็ไม่รู้ตัวว่ากำลังทำให้ทีมเดือดร้อน Micromanagement ไม่ใช่แค่เรื่องของ "หัวหน้าใจร้าย" แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ซับซ้อนกว่าที่เราคิด ส่งผลกระทบต่อทั้งความคิดสร้างสรรค์ของพนักงาน ประสิทธิภาพของทีม และการเติบโตขององค์กรโดยรวม ปัญหานี้มักเกิดจากความกลัวการสูญเสียการควบคุม การขาดความเชื่อมั่นในทีม หรือนิสัย perfectionist ของผู้จัดการ บางครั้งก็เกิดจากแรงกดดันจากผู้บริหารระดับสูง หรือวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการควบคุมจากบนลงล่าง ✦ Key Takeaways: 1. การจัดการที่ดีมุ่งเน้นผลลัพธ์ ส่วน Micromanagement มุ่งเน้นที่การควบคุมกระบวนการ - เปลี่ยนจากการบอกว่า "ทำอย่างนี้" มาเป็น "ผลลัพธ์ที่ต้องการ” แทน 2. Micromanagement เกิดจากความกลัว - ความกลัวสูญเสียการควบคุม ขาดความเชื่อมั่นในทีม หรือแรงกดดันจากระบบ 3. Trust but Verify คือกุญแจสำคัญ - เชื่อใจทีมแต่มีระบบตรวจสอบที่เหมาะสม เน้นผลลัพธ์มากกว่ากระบวนการ 4. การสร้างความไว้วางใจต้องเป็นขั้นเป็นตอน - เริ่มจากงานเล็กๆ ที่มีความเสี่ยงต่ำ แล้วค่อยๆ ขยายไปยังงานที่สำคัญมากขึ้น 5. พนักงานสามารถช่วยลด Micromanagement ได้ - ด้วยการสื่อสารเชิงรุก แสดงผลงาน และสร้างความเข้าใจกับเหตุผลเบื้องหลัง 6. การเปลี่ยนแปลงต้องมีการวัดผลอย่างต่อเนื่อง - ติดตามระดับความไว้วางใจ ประสิทธิภาพ และ psychological safety ในทีม Podcaster: อิฐ - กันตินันท์ เดชจินดา ที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
เสียงในหัวที่เราพูดกับตัวเองทุกวัน อาจเป็นตัวการเงียบ ๆ ที่ฉุดเราไว้ไม่ให้กล้า ไม่ให้โต ตัวอย่างเช่น ถ้าเคยพูดว่า... “ฉันมันก็แค่นี้แหละ” “โชคดีแหละ ไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอก” อยากให้ลองฟัง Podcast นี้ดูค่ะ แอมอยากชวนคุณฟังเสียงตัวเองให้ชัด แล้วเลือกคำที่ “ให้พลัง” มากกว่าฉุดรั้ง ✦ Key Learnings - คำพูดที่เราพูดกับตัวเอง สั่งสมจนกลายเป็นความเชื่อ - สมองเชื่อสิ่งที่เราพูดซ้ำ แม้จะไม่ใช่เรื่องจริง - เสียงในหัว ควรเป็นเพื่อนที่ดี ไม่ใช่ศัตรูที่ซ่อนอยู่ ---- ✦ Solution ง่าย ๆ 1. สังเกต คำที่พูดกับตัวเอง 2. เปลี่ยน คำลบให้กลายเป็นคำสร้าง 3. ฝึก พูดกับตัวเองเหมือนกำลังให้กำลังใจเพื่อนที่เรารัก ----
Culture Crush ตอนนี้จะพาคุณเปลี่ยนมุมมองต่อวันจันทร์ จากวันที่ใคร ๆ ก็ถอนใจ ให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่มีพลังอีกครั้ง ผ่านเหตุผลที่ว่าทำไม “Happy Monday” ถึงอาจไม่เวิร์ก และองค์กรจะสร้าง Monday ที่คนอยากกลับมาทำงาน ได้อย่างไร ฟังแล้วคุณอาจอยากออกแบบการเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ทั้งหมดเลยก็ได้ ✦ Key Takeaways: 1. แค่พูดว่า "Happy Monday" ไม่พอ องค์กรควรกล้ายอมรับความรู้สึกที่แท้จริงของพนักงาน และออกแบบวันจันทร์ให้ค่อย ๆ พาเข้าสู่สัปดาห์ใหม่อย่างมีพลังใจ 2. สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการพูดคุย (Emotional Check-in) 3. แก้ปัญหาที่ต้นตอ เช่น งานล้น ประชุมถี่ หรือความไม่สมดุลของชีวิตการทำงาน ไม่ใช่แค่สร้างภาพบรรยากาศ 4. ความห่วงใยต้องเป็นของจริง มีระบบสนับสนุนที่จับต้องได้ ไม่ใช่แค่คำพูด หรือแคมเปญบนโปสเตอร์ Podcaster: บอล - สุรัตน์ โพธิปราสาท ผู้ก่อตั้งเพจ A Cup of Culture A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
การทำงานร่วมกันไม่ได้เริ่มต้นที่เป้าหมาย แต่เริ่มที่ "ความเข้าใจ" และ "การสื่อสาร" อย่างเปิดใจ ในเอพิโสดนี้ เราชวนคุณมาทบทวนพื้นฐานสำคัญของการทำงานเป็นทีม ตั้งแต่การแบ่งปันข้อมูล ความกล้าในการพูดและฟัง ไปจนถึงบทบาทของผู้นำในการสร้างพื้นที่ปลอดภัย ที่ทำให้ทีมกล้าคิด กล้าลอง และกล้าเติบโตไปด้วยกัน ✦ Key Takeaways: 1. การแบ่งปันข้อมูลคือรากฐานของความร่วมมือ – ทีมจะเดินหน้าได้ ต้องมีภาพเดียวกัน และเข้าใจกันแบบไม่ปิดบัง 2.การสื่อสารแบบเปิด = วัฒนธรรมที่แข็งแรง – องค์กรที่เติบโต ไม่ใช่แค่เพราะคนเก่ง แต่เพราะ “คนกล้าเล่า และกล้าฟัง” 3.ผู้นำต้องเป็นคนเริ่ม – การเปิดใจของหัวหน้า คือใบเบิกทางให้ทีมกล้าแสดงความคิดเห็นและแบ่งปัน 4.ข้อมูลที่ควรแชร์มีมากกว่าที่เราคิด – ทั้งความคืบหน้างาน, เทคนิคเฉพาะ, ความรู้สึก, หรือแม้แต่ “สิ่งที่ยังไม่รู้” 5.พื้นที่ปลอดภัย = ทีมกล้าคิด กล้าเสนอ และกล้าโตไปด้วยกัน – ไม่มีใครอยากแชร์ ถ้ากลัวถูกตัดสิน 6.ทีมที่สื่อสารกันดี = ทีมที่เข้าใจกันทั้งในงานและความเป็นคน – งานสำเร็จไม่พอ ความสัมพันธ์ในทีมต้องแข็งแรงด้วย Podcaster: วิชชี่ - วิชญา กำจรกิตติ ที่ปรึกษาอิสระ ด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร และผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลงขององค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
ความมุ่งมั่นคือเชื้อเพลิงของคนทำงานที่มีเป้าหมายชัดเจน เป็นพลังขับเคลื่อนให้เราลุกขึ้นมาลงมือทำแม้ในวันที่ท้อแท้ เป็นแรงผลักดันให้เราไม่ยอมแพ้แม้ต้องเผชิญกับความท้าทาย และเป็นเหตุผลเบื้องหลังของคำว่า “สำเร็จ” ในหลาย ๆ เรื่อง แต่ในขณะเดียวกัน ความมุ่งมั่นที่มากเกินพอดี หรือขาดการปรับตามสถานการณ์ อาจกลายเป็นดาบสองคมที่ทำร้ายความสัมพันธ์ในที่ทำงานได้อย่างไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเมื่อเราเผลอใช้ความคาดหวังต่อตัวเอง ไปกดดันคนรอบข้างแบบไม่ตั้งใจ หรือทำให้พลังบวกกลายเป็นพลังตึงที่คนอื่นรับไม่ไหว ✦ Key Learnings สัญญาณเตือนความมุ่งมั่นที่มากเกินไป 1. คุณเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเพื่อนร่วมงาน “ไม่อิน” กับเป้าหมายเท่าคุณ 2. คุณคาดหวังให้คนอื่นทุ่มเทในระดับเดียวกับคุณ ทั้งที่บริบทของแต่ละคนต่างกัน 3. คุณเร่งผลลัพธ์โดยไม่เว้นจังหวะให้ทีมได้เรียนรู้หรือพักหายใจ 4. คุณกลายเป็นคนที่พูดถึงแต่เรื่องงาน ไม่เปิดพื้นที่ให้เรื่องเบา ๆ หรือความสัมพันธ์ในทีม
คำถามสำคัญ “เราจะทำให้วัฒนธรรมองค์กรยั่งยืนได้อย่างไร?” โดยเฉพาะในยุคที่คนรุ่นใหม่ไม่ได้มองการทำงานเป็นเส้นทางระยะยาวเสมอไป และองค์กรก็มีการเปลี่ยนผ่านผู้คนอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้จึงชวนมาคิดต่อว่า...ถ้าวัฒนธรรมไม่ควรฝากไว้แค่กับ “คน” แล้วควรฝากไว้ที่ “ระบบ” อย่างไร ทั้งระบบที่เกี่ยวกับคน เช่น HR process และระบบการทำงาน เช่น โครงสร้าง กระบวนการ และนโยบาย เพื่อให้วัฒนธรรมกลายเป็นสิ่งที่ “อยู่ในองค์กร” จริง ๆ ไม่ว่าคนจะหมุนเวียนแค่ไหน ✦ Key Takeaways: 1.คนรุ่นใหม่เปลี่ยนเร็ว องค์กรต้องปรับมุมมอง 2.วัฒนธรรมที่ดีไม่ควรผูกติดกับบุคคล 3.ควรออกแบบระบบเพื่อให้พฤติกรรมที่เราปรารถนาเกิดขึ้นจริง 4.วัฒนธรรมองค์กรจะยั่งยืนได้ ต้องฝังอยู่ในระบบงาน โครงสร้างคน และนโยบายองค์กร Podcaster: บอล - สุรัตน์ โพธิปราสาท ผู้ก่อตั้งเพจ A Cup of Culture A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
ทำงานดี ไม่เคยพลาด ส่งงานตรงเวลา ไม่มีดราม่า ไม่ต้องให้ใครตามงาน แต่สุดท้ายก็ไม่เคยถูกเสนอชื่อให้เลื่อนตำแหน่ง หรือแทบไม่ได้รับโอกาสใหม่ ๆ แบบที่คนอื่นได้เลย คุณรู้สึกว่าตัวเองเหมือนกำลัง “พายเรืออยู่ในน้ำนิ่งๆ” โดยแทบไม่มีใครมองเห็น นี่อาจเป็นสัญญาณเตือน “The Reliable Trap” หรือ วงจรของพนักงานที่ไว้ใจได้ คำว่า The Reliable Trap หมายถึง ภาวะของคนที่ทำงานดีต่อเนื่อง มีวินัย ไม่สร้างปัญหา จนถูกมองว่า “ไม่ต้องดูแลมาก” และเพราะแบบนี้...จึงถูกมองข้ามเวลาองค์กรมองหา “คนที่จะผลักดันไปข้างหน้า” ✦ Key Takeaways: 7 เหตุผลที่คนเก่งบางคน “ไม่ถูกโปรโมต” ตัวอย่างเช่น 1. คุณอาจเป็น “ภัยเงียบ” ต่อหัวหน้าของคุณเอง —ถ้าหัวหน้ารู้สึกว่า “คุณอาจแทนที่เขาได้” เขาอาจจะเริ่มระวังตัว และบางครั้งก็แอบเช็กบิลแบบเงียบ ๆ 2. คุณอาจ “ไม่ใช่ภาพลักษณ์” ที่องค์กรอยากโปรโมต —หลายองค์กรมีภาพในใจว่า “พนักงานแบบไหน” คือคนที่เหมาะสมกับภาพลักษณ์ที่พวกเขาอยากสร้าง 3. คุณไม่ใช่ “คนโปรด” —มีสิ่งที่หัวหน้าบางคนต้องการมากกว่าความสามารถ นั่นคือ ความภักดี Podcaster: อาร์ม - สุขพิชัย คณะช่าง ที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนพูดแล้วคนเข้าใจทันที ขณะที่บางคนพูดแล้วคนฟังกลับงง? ความต่างไม่ได้อยู่ที่พรสวรรค์ แต่อยู่ที่ "Soft Skills" ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการสื่อสาร เพราะการสื่อสารที่ดีไม่ใช่แค่พูดเก่ง แต่คือการส่งสารให้ “เข้าใจตรงกัน” ในตอนนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทักษะสำคัญที่ช่วยให้คุณสื่อสารได้ชัดเจน มีพลัง และเข้าใจง่ายขึ้น: ✦ Key Learnings ตัวอย่างทักษะที่สามารถฝึกฝนเพิ่มเติมได้ 1. Critical Thinking — คิดอย่างมีระบบก่อนพูด ทำให้สารสื่อชัดเจนและน่าเชื่อถือ 2. Verbal Structuring — จัดเรียงลำดับคำพูดให้จับใจความง่าย ไม่วกวน 3. Active Listening — ฟังอย่างตั้งใจเพื่อเข้าใจและตอบสนองได้อย่างเหมาะสม
งาน Thailand Culture Circle ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา ถือเป็นงาน Community ครั้งแรกของ Brightside People ที่รวมผู้นำจากหลายองค์กรมาแชร์ประสบการณ์สร้างวัฒนธรรมที่ “ไม่ใช่แค่เรื่องในสไลด์” แต่คือสิ่งที่ลงมือทำจริง และเวิร์กจริงในแต่ละองค์กร เราสรุป 3 sessions สำคัญ ทั้งแนวทาง 7 Culture Moves ที่เห็นผลจริง การฝังวัฒนธรรมลงในระบบ HR และแนวคิด Day 1 ของ Amazon ที่ช่วยให้วัฒนธรรมยังคงสดใหม่แม้วันที่ธุรกิจเติบโต ✦ Key Takeaways: 1.วัฒนธรรมที่เวิร์กต้องฝังอยู่ในระบบ 2.สิ่งที่ไม่วัด ไม่มีทางพัฒนาได้ 3.ระบบ HR ควรสะท้อนและขับเคลื่อน Core Values อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ Employer Branding, การคัดเลือกคน ไปจนถึง Performance Management และการเติบโตของพนักงาน 4.แนวคิด Day 1 ของ Amazon: รักษาความสดใหม่ไว้เสมอ เพราะวัฒนธรรมที่หยุดนิ่ง = วัฒนธรรมที่ตาย การรักษาความกระตือรือร้นของ “วันแรก” จึงเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร Podcaster: รัมภา - พรรัมภา อรุณทิพย์ไพฑูรย์ ที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
คำว่า “งานยุ่ง” กลายเป็นคำตอบอัตโนมัติของคนทำงานยุคนี้ แต่งานที่ยุ่งไม่ได้หมายถึง “งานที่มีประสิทธิภาพ” เสมอไป เมื่อความเหนื่อยล้า ความเครียด และภาวะหมดไฟ (Burnout) กำลังกลายเป็นราคาที่พนักงานต้องจ่ายให้กับวัฒนธรรมแห่งความเร่งรีบ หรือที่เรียกว่า Culture of Busyness ปรากฏการณ์นี้ส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพคนทำงาน และประสิทธิภาพในระยะยาวขององค์กร แล้วองค์กรจะปรับตัวและดูแลพนักงานอย่างไรในยุคที่ "ยุ่ง" กลายเป็นมาตรวัดคุณค่า? ✦ Key Takeaways 1. Culture of Busyness ไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จ: ความยุ่งไม่ได้สะท้อนถึงผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป และอาจเป็นสัญญาณของระบบการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ 2. ภาวะ Burnout คือความเสี่ยงขององค์กร: พนักงานที่เหนื่อยล้าเรื้อรังมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะ "quiet quitting" ส่งผลให้ประสิทธิภาพและแรงจูงใจลดลง 3. องค์กรที่ดีต้องกล้าตั้งคำถามกับความยุ่ง: การส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่ยั่งยืน เน้นสมดุลชีวิตและการทำงาน จะสร้างทีมที่มีพลัง และพร้อมเติบโตไปกับองค์กรในระยะยาว Podcaster: หยก - เจตน์ เพชรกนกพราว ที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
สงสัยกันไหมว่าทำไมบางคนถึงมีไอเดียใหม่ๆ ตลอดเวลา ในขณะที่บางคนรู้สึกเหมือนติดอยู่ในความคิดเดิมๆ? เลโอนาร์โด ดา วินชี และสตีฟ จอบส์ ไม่ได้รอให้แรงบันดาลใจมาหา แต่พวกเขาฝึกมองโลกในมุมที่แตกต่าง คำตอบสำคัญคือ "คนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูงมักมองเห็นความพิเศษในความธรรมดา" โดยใน EP นี้ เราจะเผยเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณฝึกมองโลกแบบใหม่ เปลี่ยนสิ่งรอบตัวให้กลายเป็นต้นทุนความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าคุณจะเป็นมนุษย์เงินเดือน เจ้าของธุรกิจ หรือนักเรียนนักศึกษา ทักษะนี้จะทำให้คุณโดดเด่นและแก้ปัญหาได้แตกต่างจากคนอื่น ✦ Key Learnings: 1. การสังเกตอย่างละเอียด - ใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมด สังเกตรายละเอียดที่คนมองข้าม 2. ตั้งคำถามกับสิ่งธรรมดา - ท้าทายสมมติฐานเดิมๆ ด้วยคำถาม "เพราะอะไร" และ "เป็นไปได้ไหมที่..." 3. มองหาความเชื่อมโยงที่ไม่เคยคิดถึง - นำสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันมาผสมผสานในรูปแบบใหม่ 4. แยกส่วนและประกอบใหม่ - มองสิ่งต่างๆ เป็นองค์ประกอบย่อยๆ แล้วลองจัดเรียงใหม่ 5. เรียนรู้จากธรรมชาติ - ศึกษาวิธีที่ธรรมชาติแก้ปัญหา เพื่อสร้างนวัตกรรม 6. เปลี่ยนข้อจำกัดเป็นโอกาส - ใช้ข้อจำกัดเป็นตัวกระตุ้นให้คิดนอกกรอบ 7. นำความคิดไปปฏิบัติ - สร้างต้นแบบง่ายๆ และการจดบันทึกความคิด
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรไม่ใช่แค่งานเสริม แต่เป็นงาน "หลัก" ที่มีน้ำหนักเทียบเท่ากับการวางกลยุทธ์องค์กร เพราะวัฒนธรรมคือรากฐานที่หล่อเลี้ยงพฤติกรรม และขับเคลื่อนผลลัพธ์อย่างยั่งยืน แต่หลายองค์กรกลับมองข้าม หรือให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมเพียงผิวเผิน จนทำให้การเดินทางนี้ไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ✦ Key Takeaways: ก่อนเริ่มต้นสร้างวัฒนธรรมองค์กร ลองตั้งคำถามกับตัวเองให้ดี: 1) เราเน้น "แก่น" ของวัฒนธรรมมากกว่า "เปลือก" หรือยัง? 2) เราเปิดโอกาสให้พนักงานได้ "ร่วมสร้าง" หรือยัง? 3) เราเชื่อว่าวัฒนธรรมเป็น "เรื่องของทุกคน" หรือยัง? 4) และที่สำคัญที่สุด...ผู้นำของเรา "เอาจริง" แค่ไหน? เพราะวัฒนธรรมองค์กรที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากแคมเปญสวยหรู แต่เกิดจากการกระทำจริงร่วมกันในทุกๆ วัน Podcaster: บอล - สุรัตน์ โพธิปราสาท ผู้ก่อตั้งเพจ A Cup of Culture A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
ความสัมพันธ์ในที่ทำงานมีผลต่อชีวิตเรามากกว่าที่คิด เราใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตในที่ทำงาน บางครั้งมากกว่าเวลาที่อยู่กับครอบครัวด้วยซ้ำ ความสัมพันธ์จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดคุณภาพชีวิต ความสุข และความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่รูปแบบความสัมพันธ์ในที่ทำงานนั้นมีความหลากหลายและซับซ้อนมากกว่าที่หลายคนคิด ใน EP นี้ เราจะพาคุณไปสำรวจรูปแบบความสัมพันธ์ในโลกการทำงานแบบเจาะลึก พร้อมเรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงในบริษัทไทยและบริษัทข้ามชาติ และเคล็ดลับที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที ✦ Key Takeaways: 1. ความสัมพันธ์แบบแลกเปลี่ยน VS ความสัมพันธ์แบบผูกพัน - ความสัมพันธ์มีทั้งแบบตรงไปตรงมาและแบบที่มีความผูกพันส่วนตัว ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน 2. เพื่อนร่วมงาน VS เพื่อนแท้ - มีวิธีสังเกตความแตกต่างที่ชัดเจน และจำเป็นต้องรู้จักวางขอบเขตความสัมพันธ์ให้เหมาะสมกับแต่ละคน 3. การสร้างความสัมพันธ์ในยุค Remote Work - เทคนิคการเชื่อมต่อทีมที่ต้องทำงานจากระยะไกลให้ยังรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร 4. ความสัมพันธ์หัวหน้า-ลูกน้อง - ความแตกต่างของวัฒนธรรมความสัมพันธ์แนวดิ่งในบริบทไทยและตะวันตก และวิธีสร้างความสัมพันธ์ที่สมดุล 5. Mentor, Sponsor และ Ally - บทบาทสำคัญทั้งสามที่จะช่วยขับเคลื่อนความก้าวหน้าในอาชีพของคุณ และวิธีการหาคนเหล่านี้ในองค์กร "ไม่ว่าเราจะเก่ง มีความรู้ หรือมีทักษะมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงานได้ ความสำเร็จก็อาจจะอยู่ไกลเกินเอื้อม" Podcaster: อิฐ - กันตินันท์ เดชจินดา ที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
เมื่อเทคโนโลยีล้ำหน้า แต่หัวใจและความคิดของมนุษย์ยังคงไม่มีใครแทนที่ได้” ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรม หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า… แล้วบทบาทของมนุษย์ล่ะ ยังสำคัญอยู่ไหม? คำตอบคือ “สำคัญมาก” เพราะยังมีทักษะบางอย่างที่ AI ไม่สามารถเรียนรู้หรือเลียนแบบได้ แม้จะเก่งแค่ไหนก็ตาม พบกับ 5 ทักษะสำคัญที่ยังคงต้องใช้ ‘หัวใจ' และ ‘สำนึกมนุษย์' ในการขับเคลื่อน ตั้งแต่ความเข้าใจในอารมณ์ลึกซึ้ง ความคิดสร้างสรรค์ที่จุดประกายแรงบันดาลใจ ไปจนถึงการตัดสินใจเชิงจริยธรรมที่ AI ยังไม่มีทางเข้าใจ ✦ Key Takeaways: 1. ความเข้าใจเชิงลึกในอารมณ์เชิงลึกของมนุษย์ 2. ความคิดสร้างสรรค์และการสร้างแรงบันดาลใจด้วยตัวเอง 3. การตัดสินใจเชิงจริยธรรมที่ซับซ้อน
วัฒนธรรมองค์กรไม่ใช่แค่ “ออฟชั่นเสริม” แต่คือรากฐานที่หล่อหลอมให้องค์กรมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืน จากประสบการณ์ตรงของผมในฐานะที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ทั้งการได้ร่วมงานกับองค์กรระดับโลกที่ยึดมั่นใน Basic Beliefs เพียง 3 ข้อ และการทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับ Volvo บริษัทที่ตัดสินใจไม่จดสิทธิบัตรเข็มขัดนิรภัย 3 จุด เพื่อปกป้องชีวิตผู้คนทั่วโลก —สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า Core Values ไม่ใช่เพียงข้อความสวยหรูในคู่มือพนักงาน แต่คือ “หลักคิด” ที่องค์กรต้องเชื่อมั่น ยึดถือ และไม่ประนีประนอม เพราะเมื่อค่านิยมหลักชัดเจน ทุกการตัดสินใจย่อมมีทิศทางที่มั่นคง ไม่ว่าจะเผชิญกับวิกฤตหรือความเปลี่ยนแปลงใด ✦ Key Takeaways: 1. Core Values คือหัวใจขององค์กร ไม่ใช่แค่เครื่องประดับ 2. ถ้าผู้นำยังไม่อิน วัฒนธรรมองค์กรจะไม่เกิด 3. ความไม่ประนีประนอม คือบทพิสูจน์ของความเชื่อ 4. หากต้องการให้ Core Values มีพลัง ต้องออกแบบด้วยความตั้งใจและลงมือจริงจัง Podcaster: บอล - สุรัตน์ โพธิปราสาท ผู้ก่อตั้งเพจ A Cup of Culture A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
ในโลกการทำงานปัจจุบัน "ความสามารถ" กลายเป็นทั้งพรและคำสาปโดยไม่รู้ตัว หลายองค์กรเฝ้าตามหาคนเก่งมาร่วมทีม แต่เมื่อได้มาแล้วกลับไม่สามารถดูแลหรือจัดการศักยภาพเหล่านั้นอย่างเหมาะสม ส่งผลให้คนเก่งต้องแบกรับภาระมากเกินไป จนกลายเป็นแรงกดดันที่ค่อย ๆ บั่นทอนความตั้งใจและไฟในการทำงานโดยไม่รู้ตัว EP นี้จะพาไปสำรวจปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "คำสาปของความสามารถ" ซึ่งไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการบริหารจัดการภายในองค์กรที่ผิดพลาด แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนถึงวัฒนธรรมการทำงานที่อาจกำลังบ่มเพาะความไม่ยั่งยืนอยู่ในเงามืด ✦ Key Takeaways: 1. ปรากฏการณ์ "คำสาปของความสามารถ" - คนที่ทำงานได้ดีมักถูกมอบหมายงานมากเกินไป ขณะที่คนที่ทำงานได้น้อยกว่ากลับมีภาระน้อยลง สร้างความไม่สมดุลในองค์กร 2. ผลกระทบต่อวัฒนธรรมองค์กร: → เกิดความไม่เป็นธรรมที่ชัดเจน โดยค่าตอบแทนไม่ได้เพิ่มตามภาระงาน → สร้างแรงจูงใจที่ผิดทิศทาง นำไปสู่วัฒนธรรม "ทำแค่พอผ่าน" → องค์กรพึ่งพา "ซูเปอร์สตาร์" มากเกินไป สร้างจุดเสี่ยงในระบบ → คนเก่งเผชิญกับภาวะหมดไฟ (burnout) นำไปสู่การลาออกในที่สุด ✦ แนวทางแก้ไข: → สำหรับองค์กร: สร้างระบบการมอบหมายงานที่เป็นธรรม พัฒนาระบบประเมินผลที่ให้คุณค่ากับการสอนคนอื่น จัดสรรเวลาสำหรับการพัฒนาทักษะ สร้างวัฒนธรรม "ปลอดภัยที่จะล้มเหลว" → สำหรับพนักงาน: เรียนรู้ที่จะปฏิเสธอย่างสร้างสรรค์ เสนอตัวเป็นพี่เลี้ยงแทนการทำเอง สื่อสารเมื่อรู้สึกว่างานล้นมือ Podcaster: วิชชี่ - วิชญา กำจรกิตติ ที่ปรึกษาอิสระ ด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร และผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลงขององค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
ในตอนนี้ Culture Crush จะพาคุณไปสำรวจหัวใจของการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แท้จริง ผ่านแนวคิด “Experience Design” หรือการออกแบบประสบการณ์อย่างตั้งใจ เพราะวัฒนธรรมองค์กรจะไม่เกิดขึ้นจากแค่การสื่อสาร แต่ต้อง ถูกสัมผัส รับรู้ และรู้สึกได้จริง ผ่านทุกจุดแตะของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารแรกเริ่ม การแสดงออกของผู้นำ หรือระบบที่สนับสนุนพฤติกรรมที่พึงประสงค์ — ทุกอย่างคือส่วนหนึ่งของการสร้างชุด “ประสบการณ์” ที่หล่อหลอมให้วัฒนธรรมองค์กรกลายเป็นเรื่องที่จับต้องได้ และอยู่ในใจคนทำงานอย่างแท้จริง ✦ Key Takeaways: 1.ประสบการณ์ = วัฒนธรรมที่จับต้องได้ 2.AWARE – DESIRE – ADOPT: สามขั้นของการฝังวัฒนธรรม → Aware: สื่อสารให้ชัดเจน มีอารมณ์ร่วม สร้างการรับรู้ผ่านประสบการณ์บวก → Desire: ผู้นำต้องอินและแสดงออกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้พนักงานอยากมีส่วนร่วม → Adopt: สนับสนุนให้เกิดพฤติกรรม ผ่านการ feedback, coaching, การฝึกอบรม และระบบ HR ที่สอดคล้อง 3.ประสบการณ์เชิงบวกหล่อหลอมพฤติกรรม 4.การเป็นผู้นำด้วยการกระทำ ไม่ใช่แค่คำพูด 5.ระบบและนโยบายต้องเสริมประสบการณ์ ไม่ขัดแย้ง Podcaster: บอล - สุรัตน์ โพธิปราสาท ผู้ก่อตั้งเพจ A Cup of Culture A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
Zappos ไม่ใช่แค่บริษัทขายรองเท้าออนไลน์ แต่คือองค์กรที่กล้าลงทุนใน “วัฒนธรรม” อย่างแท้จริง EP นี้จะพาคุณสำรวจเบื้องหลังแนวคิดของ Tony Hsieh ที่เชื่อว่า “Your culture is your brand.” เราจะเจาะลึกโมเดลการบริหารคนแบบ Human First ที่ Zappos ใช้จริง ผ่าน Core Values, การคัดเลือกคนที่เหมาะกับวัฒนธรรม และแนวทางการสร้างทีมที่เปี่ยมด้วยพลังบวก หากคุณกำลังมองหาวิธีสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ใช่แค่ในเอกสาร แต่ “มีชีวิต” อยู่ในทุกวัน ✦ Key Takeaways: 1.Culture is the Brand – Zappos ใช้วัฒนธรรมเป็นรากฐานของแบรนด์ ไม่ใช่แค่คำโปรยสวยหรู 2.Core Values ต้องถูก “ใช้จริง” – ค่านิยมองค์กรต้องปรากฏในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การรับคน สื่อสาร จนถึงการตัดสินใจ 3.Hire for Culture Fit, not just Skillset – Zappos ให้ความสำคัญกับการจ้างคนที่ “อิน” กับวัฒนธรรมมากกว่าคนที่เก่งที่สุด 4.Leadership Drives Culture – วัฒนธรรมองค์กรจะไม่เกิดขึ้นจริง ถ้าผู้นำยังไม่เชื่อ ไม่อิน และไม่แสดงออกให้เห็น ผู้นำต้องเป็นตัวอย่างก่อน 5.สร้างสภาพแวดล้อมที่คนกล้าเป็นตัวเอง – ความสนุก ความแปลก และความหลากหลาย ไม่ใช่ของเล่น แต่คือพลังสร้างสรรค์ 6.จากองค์กรสู่สังคม – วัฒนธรรมที่ดีไม่หยุดแค่ภายใน แต่ส่งต่อพลังบวกออกไปยังชุมชน Podcaster: รัมภา - พรรัมภา อรุณทิพย์ไพฑูรย์ ที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร A Cup of Culture ──── #shorts #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
"ผู้นำ" ต้องมีมากกว่าความอาวุโสหรือประสบการณ์ พวกเขาต้องรับมือกับความไม่แน่นอนและการตัดสินใจที่ซับซ้อนด้วยทักษะการคิดที่หลากหลาย เช่นในวิกฤตแผ่นดินไหวที่ผ่านมา คำถามคือผู้นำควรใช้ “วิธีคิดแบบไหน” ในการนำทาง? วันนี้ A Cup of Culture พาผู้ฟังมารู้จัก 4 ทักษะการคิดที่ผู้นำไม่ใช่แค่ต้องมี แต่ต้องมาสเตอร์และส่งต่อสู่ทีมงานในองค์กรให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น การคิดแบบผู้เชี่ยวชาญ เชิงวิพากษ์ เชิงกลยุทธ์ และเชิงระบบ. ✦ Key Takeaways: • Expert Thinking - การคิดแบบผู้เชี่ยวชาญ: ใช้ความรู้และประสบการณ์ในการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว แต่เสี่ยงต่อการพลาดโอกาสสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ • Critical Thinking - การคิดเชิงวิพากษ์: ท้าทายสมมติฐานเดิมและเปิดมุมมองใหม่ เช่น การแก้ปัญหาลิฟต์ช้าโดยเปลี่ยนการรับรู้เวลารอแทนการอัพเกรดลิฟต์เพื่อเพิ่มความเร็ว • Strategic Thinking - การคิดเชิงกลยุทธ์: มองข้ามสถานการณ์ปัจจุบัน ตั้งคำถามว่า “อะไรที่เป็นไปได้?” เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจระยะยาว • System Thinking - การคิดเชิงระบบ: เข้าใจความเชื่อมโยงของปัจจัยต่างๆ เช่น การเพิ่มชั่วโมงทำงานอาจส่งผลต่อภาวะหมดไฟในองค์กร Podcaster: หยก - เจตน์ เพชรกนกพราว ที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
เราทุกคนล้วนเคยโดนวิจารณ์... บางคำแม้จะไม่ได้ตั้งใจทำร้าย แต่กลับทิ้งรอยไว้ในใจโดยไม่รู้ตัว แล้วเราจะรับมือกับมันยังไง ไม่ให้ความรู้สึกพังไปก่อนที่เราจะเข้าใจ? วันนี้แอมป์อยากชวนคุณมาฝึก “ใจที่แกร่งขึ้น” ด้วย 3 วิธีง่าย ๆ แต่ทรงพลัง ที่จะช่วยให้คุณเปลี่ยน "คำบั่นทอน" ให้กลายเป็น "พลังพัฒนา" ✦ Key Takeaways: 1. หยุด – ฟังให้จบก่อนใจจะตีความ 2. แปลใหม่ – เปลี่ยนคำพูดให้เป็นคำพัฒนา 3. เลือกคำ – เก็บเฉพาะสิ่งที่ทำให้เราเติบโต เพราะ… There is no failure, only feedback. สิ่งที่เขาพูด ไม่ใช่จุดจบ แต่มันคือ “จุดต่อ” ของการเติบโตของเรา
เมื่อพูดถึง “วัฒนธรรมองค์กร” ภาพภูเขาน้ำแข็งมักถูกยกมาเป็นสัญลักษณ์แทนอยู่เสมอ หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างง่าย — เป้าหมายของวัฒนธรรมองค์กรคือ ผลลัพธ์ทางธุรกิจ ที่เห็นได้ชัดเจนบนผิวน้ำ ถัดลงมาคือ พฤติกรรมของคนในองค์กร ที่สะท้อนและส่งเสริมเป้าหมายเหล่านั้น แต่สิ่งที่ลึกกว่านั้น…คือ Mindset เป็นสิ่งที่เราต้องใส่ใจให้มากที่สุด ✦ Key Takeaways: 1. Mindset คือรากฐานสำคัญซึ่งอยู่ใต้น้ำ เรามองไม่เห็นแต่ทรงพลังส่งผลต่อพฤติกรรมมากที่สุด 2. การเปลี่ยน Mindset ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร คือจุดเริ่มของพฤติกรรมที่ยั่งยืน 3. การสร้างประสบการณ์ซ้ำอย่างต่อเนื่อง คือวิธีที่ดีที่สุดในการเปลี่ยนกรอบความคิด Podcaster: บอล - สุรัตน์ โพธิปราสาท ผู้ก่อตั้งเพจ A Cup of Culture A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
ในองค์กรหลายแห่ง เราอาจเคยพบเจอปัญหา "Direction Dilemma" - สถานการณ์ที่พนักงานต้องทำงานโดยไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ราวกับการนั่งแท็กซี่โดยไม่บอกคนขับว่าจะไปไหน แล้วบ่นว่าทำไมเราไม่ถึงจุดหมาย พนักงานต้องคลำทางในความมืด ด้วยคำสั่งคลุมเครือ เป้าหมายที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ และฟีดแบคที่ขัดแย้ง ผลลัพธ์คือการทำงานซ้ำซ้อน ความเครียดสะสม และสุดท้ายคือการสูญเสียทั้งเวลา ทรัพยากร และโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ ✦ Key Takeaways: 1. Direction Dilemma มักเกิดจากกลยุทธ์องค์กรที่คลุมเครือ เป้าหมายที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการสื่อสารที่ชัดเจน 2. ตัวชี้วัดที่ไม่ชัดเจนหรือไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง การบรีฟงานไม่ครบถ้วน และการให้ฟีดแบคที่ขัดแย้งกันเองเป็นรูปแบบที่พบบ่อย 3. ผลกระทบที่ตามมาคือความเครียดและความเหนื่อยล้าของพนักงาน ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ 4. สาเหตุหลักมาจากวัฒนธรรมเกรงใจและหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ผู้บริหารขาดทักษะการสื่อสาร โครงสร้างองค์กรที่ซับซ้อน และการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ 5. การแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งสองฝ่าย ทั้งการพัฒนาทักษะการสื่อสารของผู้บริหาร และการฝึกฝนการถามคำถามอย่างชาญฉลาดของพนักงาน พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้เปิดกว้างมากขึ้น A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
เมื่องานด่วน งานใหม่ งานยาก กองมารวมกันอยู่ตรงนี้! พอกันทีกับคำว่า “จบที่เรา เบาที่สุด” มอบหมายงานหรือขอความช่วยเหลือตามแบบฉบับคนเก่ง เพื่อผลงานที่ดีในระยะยาว และพัฒนาทีมไปพร้อม ๆ กัน ✦ Key Learnings 1. คนเก่งรับจบ ไม่ได้หมายถึงการเป็นคนเก่งกว่า แต่เป็นสัญญาณว่าเรากำลังใช้ทรัพยากรได้ไม่มีประสิทธิภาพมากพอ 2. การมอบหมายงาน หรือการขอความช่วยเหลือ ไม่ใช่การผลักภาระ แต่คือกลไกของการทำงานร่วมกันเป็นทีม 3. การแบ่งงานแบบมุ่งผลลัพธ์ ไม่เพียงช่วยให้ผลงานออกมาดีขึ้น แต่ยังช่วยสร้างการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เติบโตไปด้วยกัน
AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในองค์กร ไม่ใช่แค่ในด้านประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังมีผลต่อวัฒนธรรมและค่านิยมขององค์กรที่เอื้อต่อการเติบโต นำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✦ Key Takeaways: AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อค่านิยมขององค์กรอีกด้วย โดยเฉพาะในเรื่องสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน และความรับผิดชอบต่อสังคม 1. ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม - กระตุ้นให้พนักงานทดลองใช้ AI และนำเสนอแนวทางใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันได้ เช่น จัดเวิร์กช็อปหรือ Hackathon 2. ลงทุนในการฝึกอบรมพนักงาน - พัฒนาโปรแกรมอบรมที่ช่วยให้พนักงานเข้าใจและสามารถใช้งาน AI ได้อย่างมั่นใจ ลดความกังวลและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน 3. รักษาการสื่อสารที่เปิดกว้าง - อธิบายเหตุผลในการนำ AI มาใช้ พร้อมทั้งข้อดีและข้อจำกัด เพื่อสร้างความไว้วางใจและลดความกังวลของพนักงาน 4. ประเมินค่านิยมองค์กรใหม่ - บริษัทสามารถปรับกรอบลำดับความสำคัญทางวัฒนธรรมให้สอดคล้องกับการใช้ AI โดยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การทำงานเป็นทีม และมอง AI เป็นเครื่องมือเสริมแทนที่จะเป็นสิ่งที่มาแทนที่มนุษย์ ด้วย AI ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน ธุรกิจสามารถให้ความสำคัญกับผู้คนมากขึ้น 5. นำ AI มาใช้ในงานเชิงกลยุทธ์ - AI สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและสนับสนุนการตัดสินใจที่แม่นยำขึ้น โดยองค์กรควรใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยประเมินแนวโน้มตลาด ความต้องการของลูกค้า และโอกาสในการพัฒนาธุรกิจ 6. เสริมสร้าง AI ให้มีความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์ - AI ไม่ได้ใช้แค่การวิเคราะห์ข้อมูล แต่สามารถช่วยคิดไอเดียใหม่ ๆ เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ ครีเอทีฟแคมเปญ หรือการสร้างคอนเทนต์ 7. ผสาน AI เข้ากับระบบงาน - AI สามารถช่วยลดภาระงานที่ซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทางธุรกิจ เช่น การใช้ AI ในระบบ HR เพื่อคัดกรองใบสมัคร การใช้ chatbot ในการตอบคำถามลูกค้า หรือการวิเคราะห์ข้อมูลด้านต่าง ๆ ล่วงหน้า ในยุคที่ AI (ปัญญาประดิษฐ์) มีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล องค์กรสามารถใช้ AI เพื่อดึงดูด รักษา และเพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงาน ลดกระบวนการที่ซับซ้อน และทำให้สามารถมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ได้มากขึ้น การปรับใช้ AI อย่างเหมาะสมจะช่วยให้องค์กรแข่งขันในตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ใน EP นี้ เราจะพาคุณเจาะลึกกลยุทธ์การบริหารจัดการคนของดิสนีย์ ที่ทำให้ "พนักงาน" รู้สึกเป็น "ส่วนหนึ่งของเวทมนตร์" ตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน ดิสนีย์ไม่ได้บริหารด้วยระบบเพียงอย่างเดียว แต่ขับเคลื่อนด้วยหัวใจ และออกแบบประสบการณ์ของคนทำงานให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กรอย่างแท้จริง พร้อมชวนคุณคิดต่อว่า เราจะดึงบทเรียนเหล่านี้ไปปรับใช้กับทีมและองค์กรของเราอย่างไรให้ยั่งยืน ✦ Key Takeaways: 1.Culture Starts with Meaning – Disney ยกระดับทุกบทบาทให้มีความหมาย 2.Culture Embedded in Onboarding - การฝังวัฒนธรรมองค์กรเริ่มตั้งแต่วันแรกผ่านระบบการเรียนรู้แบบเป็นระบบ 3.Servant Leadership in Action – ผู้นำทำหน้าที่ "ดูแลความฝัน" ไม่ใช่แค่สั่งงาน 4.Culture = Repetition – การทำซ้ำพฤติกรรมเล็กๆ อย่างมีเจตนา คือหัวใจของการสร้างวัฒนธรรม 5.Shared Purpose Drives Collaboration – เป้าหมายกลางร่วมกันคือแรงขับเคลื่อนสำคัญของทีมที่หลากหลาย Podcaster: รัมภา - พรรัมภา อรุณทิพย์ไพฑูรย์ ที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
"งานนี้มันไม่ใช่หน้าที่ของฉัน" หรือ “นี่ไม่ใช่งานของฉัน ทำไมฉันต้องทำด้วย?” ประโยคสั้นๆ นี้ขัดแย้งโดยตรงกับคำว่า teamwork และ flexibility โดยเฉพาะในยุคที่องค์กรต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนอยู่ตลอดเวลา คนที่มีความยืดหยุ่น พร้อมจะช่วยเหลือทีม และเปิดรับภารกิจใหม่ๆ คือ สินทรัพย์หรือทรัพยากรที่มีมูลค่าขององค์กร อะไรคือสาเหตุเบื้องหลังพฤติกรรม "ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน" ที่เราอาจได้ยินในที่ทำงาน และการสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เอื้อต่อความร่วมมือมากขึ้นจะทำอย่างไรได้บ้าง ✦ Key Takeaways: 1. ความรู้สึกไม่ได้รับการเห็นคุณค่า เมื่อพนักงานรู้สึกว่าความทุ่มเทของตนไม่มีค่า หรือไม่ได้รับการยอมรับ พวกเขาเริ่มตั้งคำถามว่า "จะพยายามไปทำไม?" 2. สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำคือ การเข้าใจต้นตอของพฤติกรรมให้ลึกซึ้ง แทนที่จะมองว่านี่เป็นเพียงการไม่ให้ความร่วมมือ การเปิดพื้นที่สนทนาอย่างจริงใจอาจเผยให้เห็นความรู้สึกของพนักงาน และจุดที่องค์กรควรปรับปรุง Podcaster: อาร์ม - สุขพิชัย คณะช่าง ที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร A Cup of Culture ──── #shorts #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
เป้าหมายสูงสุดของการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร คือ การเปลี่ยนจากแค่ "ตัวหนังสือบนกระดาษ" ให้กลายเป็น "พฤติกรรมที่จับต้องได้ในชีวิตประจำวันของพนักงาน" และ 4 ขั้นตอนสำคัญนี้ จะช่วยให้วัฒนธรรมองค์กรไปได้ไกลกว่าแค่การสื่อสาร แต่ต้องขับเคลื่อนผ่านระบบ การเป็นแบบอย่าง และการฝังในกระบวนการทำงาน ถ้าคุณอยากสร้างการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในองค์กร ห้ามพลาด! ✦ Key Takeaways: 1.กำหนดให้ชัดเจน – วัฒนธรรมองค์กรต้องเชื่อมโยงกับเป้าหมาย วัฒนธรรมองค์กร (Core Values) ต้องสอดคล้องกับ Vision, Mission และ Purpose ขององค์กร 2.แปลง Core Values ให้เป็นพฤติกรรมที่ชัดเจน พฤติกรรมที่องค์กรต้องการต้อง สังเกตได้, วัดผลได้ และมีคสามเป็นสากล 3.สื่อสารอย่างสม่ำเสมอ – ให้พนักงานเห็นคุณค่า ไม่ใช่แค่รับรู้ 4.ขับเคลื่อนผ่านระบบและการเป็นแบบอย่าง Podcaster: บอล - สุรัตน์ โพธิปราสาท ผู้ก่อตั้งเพจ A Cup of Culture A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
ในยุคที่การสื่อสารคือกุญแจสู่ความสำเร็จ การพูดในที่สาธารณะ (Public Speaking) ไม่ใช่แค่ทักษะพื้นฐานอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือที่สามารถยกระดับอาชีพและธุรกิจได้อย่างก้าวกระโดด ใน EP.96: Next Level Public Speaking เราจะพาคุณไปรู้จัก 9 เทรนด์ใหม่แห่งการสื่อสาร ที่จะช่วยให้คุณพูดได้อย่างทรงพลัง น่าจดจำ และเข้าถึงใจผู้ฟังได้มากขึ้น ✦ Key Learnings ตัวอย่างเช่น 1. Virtual Presentation การนำเสนอเสมือนจริง 2. Storytelling ศิลปะแห่งการเล่าเรื่อง 3. Authenticity Speaking การพูดอย่างจริงใจและน่าเชื่อถือ
สวัสดิการพนักงานเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความผูกพันและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรในองค์กร อย่างไรก็ตาม การออกแบบสวัสดิการที่มีประสิทธิภาพนั้นไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้พนักงานเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับบริบทองค์กร แนวโน้มตลาดแรงงาน และความต้องการที่แท้จริงของพนักงาน ✦ Key Takeaways: 1. สิทธิ vs สวัสดิการ - สิทธิคือสิ่งที่กฎหมายบังคับให้นายจ้างต้องจัดให้ ส่วนสวัสดิการคือสิ่งที่นายจ้างจัดให้เพิ่มเติมเพื่อจูงใจและสร้างความผูกพัน สวัสดิการที่ดีไม่ได้เป็นเพียงค่าใช้จ่าย แต่เป็นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนในรูปแบบความผูกพันและผลิตภาพของพนักงาน 2. สวัสดิการที่ครอบคลุม 4 มิติ - สวัสดิการที่มีประสิทธิภาพต้องครอบคลุม 4 ด้านหลัก: สวัสดิการในที่ทำงาน สวัสดิการสำหรับสุขภาพ สวัสดิการเพื่อความมั่นคงทางการเงิน และสวัสดิการด้านไลฟ์สไตล์ 3. ความยืดหยุ่นคือกุญแจสำคัญ - รูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นและสมดุลชีวิตกำลังเป็นสวัสดิการที่พนักงานต้องการมากที่สุด 4. การปรับให้เข้ากับบริบท - ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับสวัสดิการที่เหมาะกับทุกองค์กร การออกแบบสวัสดิการต้องพิจารณาลักษณะของธุรกิจ ข้อจำกัดด้านงบประมาณ และความต้องการเฉพาะของพนักงาน 5. การสื่อสารคือหัวใจของความสำเร็จ - สวัสดิการที่ดีแต่ไม่มีการสื่อสารที่ดีจะไม่เกิดประโยชน์เต็มที่ องค์กรควรสื่อสารเกี่ยวกับสวัสดิการอย่างสม่ำเสมอผ่านหลากหลายช่องทาง ไม่ใช่เพียงช่วงปฐมนิเทศเท่านั้น 6. การวัดผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง - สวัสดิการควรได้รับการประเมินและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของพนักงานและแนวโน้มตลาดแรงงาน Podcaster: วิชชี่ - วิชญา กำจรกิตติ ที่ปรึกษาอิสระ ด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร และผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลงขององค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
หลายคนรับพนักงานใหม่มาด้วยความคาดหวัง แต่กลับพบว่าผลงานผิดพลาดเพียบ จนสุดท้ายต้องแก้งานกันวุ่นวาย ท้ายที่สุดพนักงานก็ลาออกภายใน 2-3 เดือน สาเหตุหลักไม่ใช่เพราะพนักงานไม่เก่ง แต่เป็นเพราะ "การสอนงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ" ✦ Key Learnings: 1. ใช้หลัก "ดู-ฟัง-ทำ-ทวน" ทำให้เห็นก่อน อธิบาย ให้ลองลงมือทำเอง และทบทวนร่วมกัน 2. สังเกตว่าพนักงานเรียนรู้แบบไหน แล้วปรับการสอนให้เหมาะกับแต่ละคน 3. แบ่งงานเป็นส่วนย่อยๆ สอนทีละส่วน ไม่ทำให้พนักงานรู้สึกท่วมท้น 4. มีเครื่องมือช่วย เช่น คู่มือแบบ One-page, Checklist, วิดีโอสั้นๆ 5. สร้างบรรยากาศปลอดภัย ให้กล้าถาม กล้าผิดพลาด และเรียนรู้ร่วมกัน
ในตอนนี้ของ Culture Crush เราจะมาทำความเข้าใจว่าทำไมการสร้างวัฒนธรรมองค์กรไม่ใช่แค่ "โครงการ" แต่เป็น "การเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด" เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 3 ขั้นตอนสำคัญ (Aware – Desire – Adopt) ที่ช่วยเปลี่ยนค่านิยมองค์กรให้เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจริง พร้อมแนวทางการทำให้วัฒนธรรมองค์กรกลายเป็น "New Norm" ที่ฝังรากลึกในชีวิตประจำวันของพนักงาน ✦ Key Takeaways: 1. วัฒนธรรมองค์กรไม่ใช่แค่ "โครงการ" แต่เป็น "การเดินทาง" การสื่อสารวัฒนธรรมองค์กรเพียงครั้งเดียวไม่เพียงพอ มันต้องถูกปรับเปลี่ยนและพัฒนาไปตลอด 2. การเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรต้องผ่าน 3 ขั้นตอนหลัก Aware – สื่อสารให้พนักงานเข้าใจว่าองค์กรให้คุณค่าอะไร Desire – สร้างแรงจูงใจให้พนักงานอยากนำไปใช้จริง Adopt – ฝังพฤติกรรมใหม่ให้เป็น "New Norm" ในองค์กร 3. วัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งต้องมาพร้อมกับระบบที่สนับสนุน 4. การเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรต้องใช้เวลาและความตั้งใจจริง 5. เมื่อองค์กรเติบโต เผชิญการแข่งขัน หรือเกิด Disruption วัฒนธรรมองค์กรต้องถูกพัฒนาให้สอดคล้องกับเป้าหมายใหม่เสมอ Podcaster: บอล - สุรัตน์ โพธิปราสาท ผู้ก่อตั้งเพจ A Cup of Culture A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
เมื่อพนักงานรู้สึกมีค่าองค์กรก็เติบโต 'The Power of Mattering ❘ A Cup of Culture Ep652 by A Cup of Culture
อยากเติบโตแบบก้าวกระโดดทั้งในชีวิตส่วนตัวและเส้นทางอาชีพหรือไม่? การพัฒนาตัวเองไม่ใช่แค่เรื่องของพรสวรรค์ แต่เป็นเรื่องของแนวทางและความตั้งใจที่ถูกต้อง ลองใช้ 10 แนวทางสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง พัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ และสร้างความก้าวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่กำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ อยากเลื่อนตำแหน่ง หรือแค่ต้องการพัฒนาให้ตัวเองเก่งขึ้นทุกวัน การมีเป้าหมายที่ชัดเจนและแนวทางที่ใช่ จะช่วยให้คุณไปถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น ✦ Key Takeaways: 1️⃣ ตั้งเป้าหมายอาชีพให้ชัดเจน – รู้ว่าตัวเองต้องการไปที่ไหน แล้ววางแผนให้ตรงจุด 2️⃣ มีแผนการเรียนรู้ที่เป็นระบบ – สร้าง Action Plan ที่ช่วยให้คุณพัฒนาทักษะได้จริง 3️⃣ ลงมือทำและนำไปใช้จริง – อย่าหยุดแค่เรียนรู้ แต่ต้องนำไปปรับใช้ในชีวิตจริง
ดิสนีย์ไม่ได้เป็นแค่บริษัทบันเทิง แต่เป็นโรงเรียนแห่ง "เวทมนตร์" ที่หล่อหลอมพนักงานทุกคนให้กลายเป็น Cast Member ผู้มอบประสบการณ์เหนือความคาดหมาย ตั้งแต่แนวคิด Onstage & Backstage, มาตรฐาน The Disney Look, ไปจนถึง Four Keys of Disney—ทั้งหมดนี้คือรากฐานที่ทำให้ดิสนีย์ครองใจคนทั่วโลกไม่ใช่แค่วันหรือปี แต่เป็นตลอดไป
ถ้าคุณเป็นชนเผ่าเอาต์ดอร์ที่หลงใหลการใช้ชีวิตกลางแจ้ง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่รู้จัก "Fjällräven" แบรนด์เครื่องแต่งกายและอุปกรณ์เอาต์ดอร์ชั้นนำจากสวีเดน วันนี้ A Cup of Culture ชวนมาทำความรู้จักองค์กรที่มีภารกิจมุ่งมั่นทำให้การใช้ชีวิตในธรรมชาติเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน องค์กรที่จัดประชุมประจำปีกลางผืนป่า และผู้ริเริ่มกิจกรรมเดินป่าที่ปลูกฝังให้ผู้คนรักและหวงแหนธรรมชาติ ร่วมดื่มด่ำไปกับแนวคิดและเบื้องหลังการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง พร้อมบทเรียนล้ำค่าที่ทุกองค์กรสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง ✦ Key Takeaways: • กำหนดและยึดมั่นในค่านิยมหลัก - องค์กรควรมีการกำหนดค่านิยมให้ชัดเจน และทำให้ทุกการตัดสินใจและพฤติกรรมของพนักงานสอดคล้องกับสิ่งเหล่านั้น เช่นที่ Fjällräven มี "The Fjällräven Way" เป็นเข็มทิศนำทางทุกการตัดสินใจ • ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในวัฒนธรรมและความเชื่อขององค์กร - ขยายวัฒนธรรมขององค์กรไปสู่กลุ่มลูกค้าผ่านกิจกรรมและประสบการณ์ที่สร้างความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งกับแบรนด์ เช่นที่ Fjällräven จัดกิจกรรม 'Fjällräven Classic” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนมีส่วนร่วมกับธรรมชาติตามปรัชญาของแบรนด์ • ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและคุณภาพ - มุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ไม่เพียงมีคุณภาพสูง แต่ยังรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่นที่ Fjällräven เน้นการผลิตสินค้าที่ทนทาน ใช้งานได้จริง และอยู่เหนือกาลเวลา ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสแฟชั่น ซึ่งสิ่งนี้ไม่เพียงดึงดูดผู้บริโภคที่มีจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างความไว้วางใจในระยะยาวอีกด้วย Podcaster: หยก - เจตน์ เพชรกนกพราว ที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
การผสานวัฒนธรรมองค์กร (Culture) เข้ากับการฝึกอบรมและพัฒนา (Training & Development) เพื่อเชื่อมโยงกับค่านิยมหลัก (Core Value) ไม่ใช่เพียงแนวคิดเชิงทฤษฎี แต่เป็นการสร้างพฤติกรรมที่พนักงานสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในการทำงาน ทั้งนี้ เราจะวิเคราะห์ 4 แนวทางสำคัญ ตั้งแต่การกำหนดทักษะที่จำเป็น ไปจนถึงการติดตามผลและให้รางวัล เพื่อให้การฝึกอบรมไม่เป็นเพียงการเรียนรู้ แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ✦ Key Takeaways: 1) เชื่อมโยงค่านิยมหลักกับทักษะที่จำเป็น - พัฒนาหลักสูตรที่มุ่งเน้นทักษะที่สอดคล้องกับค่านิยมขององค์กร เพื่อให้พนักงานเข้าใจความสำคัญและนำไปปฏิบัติได้จริง 2) ประยุกต์ใช้การเรียนรู้เชิงประสบการณ์ - สร้างกิจกรรมที่ให้พนักงานได้ลงมือปฏิบัติจริง เพื่อปลูกฝังพฤติกรรมที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร 3) จัดเตรียมเครื่องมือและแพลตฟอร์มสนับสนุน - มอบทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อช่วยให้พนักงานแสดงพฤติกรรมที่พึงประสงค์ได้อย่างต่อเนื่อง 4) พัฒนาระบบติดตามผลและให้รางวัล - สร้างกลไกการประเมินและให้รางวัลที่ส่งเสริมให้พนักงานยึดมั่นในค่านิยมขององค์กรอย่างสม่ำเสมอ Podcaster: บอล - สุรัตน์ โพธิปราสาท ผู้ก่อตั้งเพจ A Cup of Culture A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
ในองค์กรหลายแห่ง เราอาจเคยพบเจอผู้นำที่มีลักษณะแบบ "ME ME ME" - ผู้นำที่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามความต้องการของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการประชุมที่ต้องเป็นผู้พูดมากที่สุด งานสังสรรค์ที่ต้องเป็นจุดสนใจ หรือการตัดสินใจทุกเรื่องที่ต้องผ่านตนเอง แม้จะไม่ใช่ความเชี่ยวชาญ ส่งผลให้วัฒนธรรมองค์กรค่อยๆ เปลี่ยนไป พนักงานไม่กล้าแสดงความคิดเห็น บรรยากาศการทำงานตึงเครียด และองค์กรพัฒนาช้าลงเพราะทุกอย่างต้องรอการตัดสินใจจากคนคนเดียว ✦ Key Takeaways: 1. ผู้นำแบบ ME ME ME มักแสดงออกผ่านการต้องการเป็นจุดสนใจ ควบคุมทุกการตัดสินใจ และไม่เปิดรับความคิดเห็นที่แตกต่าง 2. วัฒนธรรมองค์กรจะเปลี่ยนไป พนักงานไม่กล้าแสดงความคิดเห็น และบรรยากาศการทำงานตึงเครียด 3. องค์กรจะสูญเสียคนเก่ง นวัตกรรมเกิดยาก และการพัฒนาองค์กรช้าลงเพราะทุกอย่างต้องรอการตัดสินใจจากคนเดียว 4. การทำงานกับผู้นำแบบนี้ต้องเข้าใจจิตวิทยา รู้จักนำเสนองานอย่างชาญฉลาด และรักษาสมดุลระหว่างการปรับตัวกับการรักษาหลักการ 5. สิ่งสำคัญคือการดูแลตัวเองและทีม ทั้งในเรื่องการจัดการความเครียด การพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง และการรักษาจริยธรรมในการทำงาน Podcaster: อิฐ - กันตินันท์ เดชจินดา ที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
ในตอนนี้ของ Culture Crush เราจะมาสำรวจ 5 เทรนด์การทำงานของคนรุ่นใหม่ ที่กำลังเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรทั่วโลก ตั้งแต่ "Lying Flat" ที่ปฏิเสธความทะเยอทะยานแบบเดิม ไปจนถึง "Work to Rule" ที่ทำงานตามหน้าที่เป๊ะ ๆ ไม่มากไม่น้อย พร้อมแนะแนวทางที่องค์กรสามารถปรับตัวเพื่อดึงดูดและรักษาคนรุ่นใหม่ได้ มาร่วมทำความเข้าใจและเตรียมองค์กรให้พร้อมสำหรับอนาคตของการทำงาน ✦ Key Takeaways: 1. Lying Flat – คนรุ่นใหม่ในจีนเลือก ลดความทะเยอทะยาน ใช้ชีวิตเรียบง่าย หลีกเลี่ยง Burn out และไม่ไล่ตามมาตรฐานความสำเร็จเดิม ๆ 2. Let It Rot – คนบางกลุ่มตัดสินใจ ถอยออกจากระบบ ไม่สนใจการเติบโตในอาชีพ และเลือกใช้ชีวิตแบบไม่แข่งขัน 3. YOLO Economy – คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับ ความสุขและอิสรภาพ มากกว่างานประจำ มุ่งหางานที่สอดคล้องกับ passion 4. Silent Resignation – คนที่ยังทำงานแต่ หมดใจไปแล้ว ใช้เวลาเตรียมตัวหางานใหม่ แทนที่จะทุ่มเทให้กับงานปัจจุบัน 5. Work to Rule – คนทำงานตามหน้าที่เท่านั้น ไม่มีความคิดจะทำงานเกินที่กำหนด โดยเฉพาะหากองค์กรไม่ให้คุณค่าหรือดูแลพนักงานอย่างเหมาะสม ✦ องค์กรควรปรับตัวอย่างไร? • สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ มีความหมายและเชื่อมโยงกับ Purpose ของพนักงาน • ออกแบบ Work-Life Balance และรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น • ปรับ Career Path ให้เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ไม่จำเป็นต้องเติบโตแค่เป็นผู้บริหาร • เข้าใจว่า แรงจูงใจของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป และต้องออกแบบ Employee Experience ให้ตอบโจทย์ Podcaster: บอล - สุรัตน์ โพธิปราสาท ผู้ก่อตั้งเพจ A Cup of Culture A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
เคยไหม? เวลาที่เราสับสน ไม่แน่ใจ หรืออยากหาคำตอบบางอย่าง แต่เมื่อใช้คำถามว่า “ทำไม?” กลับพบว่าคำตอบที่ได้กลับยิ่งซับซ้อน หรือเต็มไปด้วยอารมณ์มากกว่าทางออกที่ชัดเจน คำถาม “ทำไม?” (Why) อาจช่วยให้เราเข้าใจเหตุผลเชิงลึก แต่ในหลายสถานการณ์ คำถามนี้กลับทำให้เราติดอยู่ในวังวนของความคิด มากกว่าที่จะพาเราไปสู่ทางออกที่จับต้องได้ ✦ Key Learnings
ปัจจุบัน การแข่งขันด้าน AI เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทุกแพลตฟอร์มต่างพยายามพัฒนาให้ AI ฉลาด ตอบได้ถูกใจ และรวดเร็วที่สุด แต่บางครั้งสิ่งเหล่านี้อาจนำไปสู่ BIAS หรือความลำเอียงของข้อมูล ก่อนหน้านี้ เราเคยแนะนำ 10 ทักษะสำคัญ ที่ช่วยให้คุณก้าวไกลในยุค AI แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เพียงแค่ 10 ทักษะอาจไม่เพียงพออีกต่อไป เราจึงขอแนะนำเพิ่มเติมอีก 4 ทักษะสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งหมดเป็น AIC: 14 ทักษะที่ควรมีในยุค AI เพื่อให้คุณพร้อมรับมือกับอนาคตอย่างมั่นใจ ✦ Key Learnings: 4 ทักษะที่จะแนะนำในวันนี้จึงจะช่วยยกระดับการใช้และทำงานร่วมกับ AI ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 1. ทักษะแรก Critical Thinking หรือ การคิดเชิงวิพากษ์ ที่ถูกยกให้เป็นอันดับ 1 ของทักษะจำเป็นแห่งศตวรรษที่ 21 โดย World Economic Forum ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพยกระดับให้ Analytic Thinking นอกจากนี้ยังสามารถสื่อสาร (Communication) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ทักษะที่สอง Communication การสื่อสารคือหัวใจ นำไปสู่ความไว้วางใจและความเคารพซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ต้องมี Ingenuity ในการสื่อสารอีกด้วย ควบคู่ไปกับ Collaboration 3. ทักษะที่สาม Collaboration จะเป็นตัวเชื่อมโยงการทำงานของ Inter-disciplinary knowledge ที่มีความแตกต่างในด้านองค์ความรู้ได้อย่างดี 4. ทักษะที่สี่ Creativity ที่จะช่วยมาส่งเสริมให้ Initiative ให้ริเริ่มมีมุมมองที่น่าสนใจ และ Imagination จินตนาการอย่างสร้างสรรค์
เคยสังเกตไหมว่าทำไมบางองค์กรถึงมีวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งและพนักงานมีความผูกพันกับองค์กรสูง? หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับค่านิยมองค์กร ก็คือ "พิธีกรรมในที่ทำงาน" (Corporate Rituals) ไม่ว่าจะเป็นการประชุมเช้าวันจันทร์ การเฉลิมฉลองความสำเร็จ หรือแม้แต่กิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยสร้างความหมาย และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร ✦ Key Takeaways: การสร้างพิธีกรรม (Rituals) เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร ประเด็นสำคัญที่องค์กรควรดำเนินการ มีดังนี้ 1.สำรวจ Rituals ที่มีอยู่ในองค์กร พร้อมทั้งนำกลับมาทบทวนถึงความสอดคล้องและความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นกับวัฒนธรรมที่องค์กรต้องการจะขับเคลื่อน 2.ปัดฝุ่น Rituals หมั่นกลับมาทบทวนและปรับปรุง Rituals ให้ยังคงสร้างความหมายให้กับการสร้างวัฒนธรรม 3.จริงจังกับการทำ Rituals โดยพิจารณาความสอดคล้องของกิจกรรมย่อยภายใต้ Rituals นั้นๆ เพื่อให้สามารถสะท้อนเรื่องราวของวัฒนธรรมผ่านพิธีกรรมที่จัดทำขึ้น Podcaster: วิชชี่ - วิชญา กำจรกิตติ ที่ปรึกษาอิสระ ด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร และผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลงขององค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
การรับมือกับคำถามคือทักษะสำคัญที่จะทำให้การนำเสนอของคุณประสบความสำเร็จ พอดแคสต์นี้จะพาคุณเรียนรู้วิธีจัดการกับคำถามทุกระดับความยาก ด้วยการเตรียมความพร้อมทั้งข้อมูลและจิตใจ เพื่อให้คุณสามารถตอบคำถามได้อย่างมั่นใจ ทั้งในแง่เนื้อหาและการสื่อสารเชิงอารมณ์ ✦ Key Learnings 1. คำถามไม่ใช่อุปสรรค แต่เป็นโอกาสในการพัฒนางานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น 2. ประเภทของคำถามทั้ง 3 แบบ และกระบวนการรับมือกับคำถามอย่างมืออาชีพตั้งแต่ก่อน ระหว่าง และหลังการตอบคำถาม
ในตอนนี้ของ Culture Crush เราจะพาไปถอดรหัส 8 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร ที่อาจทำให้การสร้างวัฒนธรรมผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น วัฒนธรรมองค์กรไม่ใช่แค่สวัสดิการดี ๆ หรือออฟฟิศสวย ๆ แต่คือ ค่านิยมและพฤติกรรมร่วมกันที่ขับเคลื่อนองค์กร นอกจากนี้ ยังสามารถเปลี่ยนแปลงและวัดผลได้ ไม่ใช่แค่เรื่องของผู้บริหารเพียงฝ่ายเดียว มาร่วมทำความเข้าใจและออกแบบวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งไปด้วยกัน ✦ Key Takeaways: 1. วัฒนธรรมองค์กรไม่ใช่แค่สิ่งที่องค์กรจัดหาให้ แต่คือสิ่งที่คนในองค์กร ให้คุณค่าและปฏิบัติร่วมกัน 2. วัฒนธรรมองค์กรไม่ใช่แค่เรื่องของผู้บริหาร 3. วัฒนธรรมองค์กรสามารถเปลี่ยนแปลงได้ 4. วัฒนธรรมองค์กรไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ 5. การสร้างวัฒนธรรมองค์กรไม่ใช่แค่ "สื่อสาร" 6. ไม่มี "สูตรสำเร็จ" ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร 7. วัฒนธรรมองค์กรไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาอันสั้น 8. วัฒนธรรมองค์กรสามารถวัดผลได้ Podcaster: บอล - สุรัตน์ โพธิปราสาท ผู้ก่อตั้งเพจ A Cup of Culture A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
เคยรู้สึกไหมว่ามีคนบางคนกำลังพยายามควบคุมหรือบงการตัวคุณอยู่ ? ซึ่งเขาอาจเป็นได้เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือแม้แต่คนใกล้ตัว เราเรียกคนกลุ่มนี้ว่า "Manipulator"หรือคนที่ชอบปลุกปั่น ควบคุม หรือบงการ คนประเภทนี้จะพยายามใช้เทคนิคบางอย่างในการปั้นแต่งคำพูดหรือสร้างสถานการณ์ เพื่อบงการคนอื่นให้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ✦ Key Takeaways: 1. บางครั้ง "พลัง" ไม่ได้มาจากการพูด แต่เป็นการเลือกที่จะไม่ตอบโต้ 2. การควบคุมตัวเองให้มั่นคง ไม่แสดงอารมณ์เกินไป และยืนหยัดในจุดยืนของตัวเอง ก็สามารถทำให้คนที่พยายามควบคุมเราต้องถอยออกไปได้เอง 3. ในที่ทำงานที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี จะช่วยให้พนักงานรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น ทำให้ทุกคนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปราศจากพฤติกรรมที่เป็นพิษ Podcaster: อาร์ม - สุขพิชัย คณะช่าง ที่ปรึกษาด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางเรื่องถึงทรงพลังจนเราจำได้แม่นยำ แต่บางเรื่องกลับเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว? การเล่าเรื่องที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เนื้อหา แต่ขึ้นอยู่กับ "วิธีการเล่า" และหนึ่งในเทคนิคที่ทรงพลังที่สุดก็คือ Contrast Technique หรือเทคนิคการเล่าเรื่องที่ใช้ "ความแตกต่าง" ระหว่าง Data (ข้อมูล) และ Emotion (อารมณ์) เพื่อดึงดูดความสนใจและทำให้เรื่องราวน่าจดจำมากขึ้น ✦ Key Learnings 1. การเริ่มด้วยข้อมูลที่หนักแน่นและเสริมด้วยอารมณ์ เพื่อทำให้ข้อมูลมีความหมายมากขึ้น 2. การใช้เรื่องราวที่มีอารมณ์ก่อน แล้วเสริมด้วยข้อมูลเพื่อให้ความน่าเชื่อถือ 3. การสร้างความขัดแย้งระหว่างข้อมูลและอารมณ์เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้ฟัง
เมื่อพูดถึงความท้าทายของ “ผู้นำมือใหม่” ที่แม้จะทำตามหลักการและ KPI อย่างถูกต้อง แต่ทำไมผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่คาด? เราจะถอดบทเรียนจากผู้นำที่เติบโตอย่างรวดเร็วในองค์กรขนาดใหญ่ และค้นหาคำตอบว่า “การไม่ทำผิด” อาจยังไม่เพียงพอสำหรับการเป็นผู้นำที่แท้จริง ✦ Key Takeaways: 1. ไม่ได้ผิด ≠ ถูกต้องเสมอ – การบริหารคนต้องมองมากกว่าแค่ KPI และกฎระเบียบ 2. ผู้นำต้องมี Self-awareness – การตระหนักรู้และรับฟีดแบ็กจากรอบข้างช่วยให้พัฒนาตัวเอง 3. งานคือคน – อย่ามองแค่ผลลัพธ์ แต่ต้องเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของทีม 4. Balance Culture & Performance – การใช้ Core Value ขององค์กรช่วยสร้างสมดุลระหว่างเป้าหมายและความสัมพันธ์ในทีม Podcaster: บอล - สุรัตน์ โพธิปราสาท ผู้ก่อตั้งเพจ A Cup of Culture A Cup of Culture ──── #วัฒนธรรมองค์กร #companyculture #corporateculture #organizationalculture ================== ติดต่อสอบถามและพูดคุยกับที่ปรึกษาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร